วง Playground กับความสุขในการทำงาน ที่พร้อมปรับตัวสู่ยุคปัจจุบันของวงการเพลง!
ถ้าพูดถึงวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟที่ประสบความสำเร็จในไทยนั้น หลายๆคนต้องนึกถึงวง Playground กันแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเพลงกระแสหลัก แต่เพลงของพวกเขาอย่าง Soulmate, มุม และ ปล่อยวาง ก็กลายเป็นซิงเกิ้ลที่ประสบความสำเร็จมาก และหลังจากที่พวกเขาได้ออกเพลงใหม่ สมาชิกของวง Playground อย่าง ติ๊ก ตุลย์ และ ตุ้ย ก็ได้แวะมาพูดคุยกับทีมงาน Sanook! Music ถึงผลงานใหม่ และเล่าถึงประสบการณ์ในวงการเพลงของพวกเขาด้วย
วงเพลย์กราวด์ มาร่วมงานกับค่าย Merecords ได้อย่างไร
ติ๊ก Playground : ผมกับพี่ฟองเบียร์มา 10 ปีแล้ว พี่เขาเป็นคนชวนเราไปอยู่แกรมมี่ด้วย ตอนเป็นอินดี้ แต่ตอนนั้นพี่เขาไม่มีค่าย พวกเราก็ไปทำงานกับค่ายย่อยอื่นๆ แต่ไม่ได้ร่วมงานสักที พอหมดสัญญา พี่เบียร์ก็ชวนอีกครั้งให้มาร่วมงานกัน เราก็ตอบตกลงเพราะอยากทำงานด้วยกัน
ก่อนหน้าที่จะทำเพลงใหม่ วงเพลย์กราวด์ หายไปจากสื่อหลายปี ช่วงนั้นสมาชิกไปทำอะไรกันบ้าง
ติ๊ก Playground : พวกเราก็ยังเล่นดนตรี เล่นคอนเสิร์ตทุกอาทิตย์ แต่แค่ไม่เจอแฟนๆผ่านเพลงใหม่ และผมก็มีทำเพลงให้คุณ บอย Peacemaker ชื่อเพลง พื้นที่ทับซ้อน ด้วย ก็ไม่ได้หายไปไหนเลยครับ
คุณติ๊กไปร่วมงานกับคุณบอย ในเพลง พื้นที่ทับซ้อน ได้อย่างไร
ติ๊ก Playground : คุณบอยก็เป็นเพื่อนกันครับ เข้าวงการมาพร้อมกัน เคยเล่นร้านเดียวกันด้วยครับ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ก็เขียนให้มาหลายอัลบั้มแล้ว เพลงนี้ก็เลยกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เป็นเพลงที่ยอดวิวสูงที่สุดในชีวิตผมเลย (หัวเราะ) ต้องขอบคุณบอยมากๆเลยครับ
ติ๊ก Playground
ตอนที่เขียนเพลง "พื้นที่ทับซ้อน" คุณบอยให้โจทย์มา หรือคุณติ๊กเป็นคนแต่งขึ้นมาเองทั้งหมด
ติ๊ก Playground : ตอนแรกทำงานร่วมกัน บอยก็ชวนแต่งเพลง ผมก็เขียนเพลงนี้ส่งไปให้ ก็มีการปรับ บอยก็คิดคำว่า พื้นที่ทับซ้อน ขึ้นมาเป็นกิมมิก ก็ปรับเนื้อร้องและใส่กิมมิกนี้เข้าไป ก็เป็นการทำงานด้วยกัน เวลาทำงานพวกเราจะเหมือนเพื่อน มีพูดคุยกัน ชอบไม่ชอบอะไรก็จะพูด ไม่ต้องเร่งหรือรีบร้อนครับ
นอกจากคุณบอยแล้ว คุณติ๊กเคยเขียนเพลงให้ศิลปินคนไหนอีกบ้าง
ติ๊ก Playground : ก็มีคุณลุลาครับ คุณป๊อป ปองกูล และคุณเอ็ม อรรถพล หรือแม้แต่วง ZEAL และวง Ebola ก็หลายๆวงเลยครับ ทำทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังเลย ตั้งแต่ลุลายันวง EBOLA เลย เป็นได้ทั้งสาวหวานๆและแบบร็อกๆก็ได้ครับ(หัวเราะ)
การคิดและแต่งเพลง เรามีหลักการอย่างไร
ติ๊ก Playground : ถ้าเป็นเพลงของพวกเรา ก็จะมาจากตัวตนพวกเราเลย แต่ถ้าทำให้เพลงให้คนอื่น เราก็ต้องเเปลงร่างให้เหมือนนักแสดง ก็ต้องว่าอย่างลุลาว่าแฟนๆเขาเป็นใคร ภาษาที่เขาใช้เป็นแบบไหนครับ จะไม่เหมือนเขียนเพลงของตัวเอง
สมาชิกรู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับคุณฟองเบียร์
ติ๊ก Playground : ดีครับ เพราะพี่เบียร์เขียนเพลงเก่งมาก อย่างผมเองเป็นคนทำเพลง ก็เหมือนได้เรียนวิชาจากอาจารย์ก็ได้มุมการทำงานมากขึ้น ล่าสุดก็ได้พี่เขามาเขียนเพลง เนย และ คนที่ไม่มีความหมาย ก็รู้สึกทึ่งมากที่พี่เขาสามารถทำเพลงที่ตรงกับตัวตนพวกเราได้มาก
ทำไมทางวงถึงเลือกเพลง เนย เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวกับค่าย Merecords
ติ๊ก Playground : มันเป็นเพลงที่ใช่ที่สุดครับ มันพูดถึงความสุขในปัจจุบัน พวกเราทำเพลงมา 10 ปีแล้ว ก็อยากมีความสุขอย่างเรียบง่าย อยากเล่นดนตรีไปเรื่อยๆ เราไม่อยากไขว่คว้าอะไรให้มันยุ่งยากอีกแล้ว
กระแสตอบรับของเพลง เนย เป็นอย่างไรบ้าง
ตุ้ย Playground : ก็ดีครับ มีฟีดแบ็กที่ดีเลย
ติ๊ก Playground : มี Comment ในยูทูปบอกว่า นักร้องนำหน้าเหมือนพี่ พิง ลำพระเพลิง เลย (หัวเราะ) เป็นเรื่องฮาๆดี แฟนๆก็บอกว่าคิดถึงซาวด์แบบนี้ของพวกเรา
ตุลย์ Playground
ซิงเกิ้ลล่าสุดเพลง คนไม่มีความหมาย ทำไมทางวงถึงเลือกทำเพลงช้าครับ
ตุลย์ Playground : คนส่วนใหญ่จะรู้จัก Playground จากเพลงแอบรัก เพลงเศร้าอกหัก ก็เลยนำเสนอเพลงนี้ ที่พูดถึงคนที่ภายนอกไม่สวยงาม แต่ภายในจิตใจมีความรักซ่อนอยู่
ในเอ็มวีเพลงนี้ ตัวละครหลักจะเป็นเด็กด้อยโอกาส ทำไมทางวงถึงเล่าเรื่องผ่านตัวละครนี้
ติ๊ก Playground : คือฟังจากตัวเพลง มันเป็นความรักหนุ่มสาว แต่เราอยากเซอร์ไพรส์คนดู เลยเล่าเรื่องเด็กเร่ร่อน ที่เราเจอตามถนนหรือสี่แยก คืออาจจะดูไม่สวยงาม แต่เขาอาจจะมีความรักที่สวยงาม อย่างในเอ็มวีที่พี่ชายมีความรักให้น้องสาว ก็อยากทำเพื่อสะท้อนสังคมว่า ภายใต้ความไม่สวยงาม ก็อาจจะมีความสวยงามซ่อนอยู่
สมาชิกแต่ละคน มีส่วนร่วมกับเพลงนี้ในจุดไหนบ้าง
ติ๊ก Playground : พวกเราก็จะเรียบเรียงกันเองครับ หลังจากพี่ฟองเบียร์เเต่งเพลงออกมาให้ฟัง พวกเราเองก็มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน
ตุ้ย Playground
กระแสตอบรับของเพลงนี้ เป็นอย่างไร
ติ๊ก Playground : ดีเลยครับ มีคนถามกันใหญ่ว่าพี่ชายหายไปไหน ก็อยากให้ชมเอ็มวีและจินตนาการกันว่าเกิดอะไรขึ้นครับ
วง Playground ทำเพลงตั้งแต่สมัยเป็นซีดีเลย รู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอล
ตุ้ย Playground : จริงๆพวกเราทันเทปด้วยนะครับ(หัวเราะ) เป็นเทปรุ่นสุดท้ายครับ
ติ๊ก Playground : ก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะ แต่เทคโนโลยีเอาจากเราไปไม่ได้คือ ความสุขในการเล่นดนตรีเเละเจอเพื่อน ก็มีรายได้ที่หายไปบ้าง อย่างการละเมิดลิขสิทธิ์ มันก็เก็บรายได้น้อยลง แต่ความสุขพวกเราก็ยังเหมือนเดิม คนที่ฟังก็ยังให้คุณค่าอยู่
ทางวงเอง พอมีปัญหาเรื่องรายได้ ศิลปินก็ต้องเน้นงานจ้าง สำหรับเรามองว่างานเพลงเป็นงานเสริมหรือเปล่า
ติ๊ก Playground : พวกเราก็มีการเตรียมการรับมือไว้แล้ว เมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ก็มีตบหลังและคุยกันว่า เออโลกมันเปลี่ยนแล้วนะ (หัวเราะ) พวกเราเองก็มีอาชีพเสริมกันทุกคน สมัยก่อนพวกเราเล่นดนตรีอย่างเดียว ในยุคนี้ก็เลยทำอาชีพเสริม และพยายามให้เป็นงานหลัก และก็ยังเล่นดนตรีต่อ เพราะมันเป้นความสุขของเรา คือคนอาจจะขโมยรายได้ แต่ก็ไม่สามารถความสุขในการเล่นดนตรีหรือเวลาคนชมงานของเราไม่ได้ ก็รู้สึกว่างานอื่นก็ทำเงินได้เยอะเหมือนกันนะ (หัวเราะ)
สมาชิกแต่ละคนตอนนี้ ทำอาชีพเสริมอะไรกันบ้าง
ตุลย์ Playground : ตอนนี้ผมปลูกผักไฮโดรอยู่ครับ เป็นผักสลัด ชื่อ "สลัดผลักดัน" สโลแกนก็มีนะครับ "สุขภาพดีต้องลงมือทำ เหมือนที่เราผลักดันจนได้ผักดี"(หัวเราะ) คือไม่ได้ทำเล่นๆนะครับ
ตุ้ย Playground : ผมก็ทำร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขนครับ เป็นร้าน สเต็กป๋าตุ้ย ครับ
ติ๊ก Playground : ผมก็ทำเสื้อผ้าส่งออกครับ คือเราทำอาชีพอื่นๆ การเล่นดนตรีก็ไม่ได้หยุดไป เราทำอาชีพอื่นเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดมากกว่าครับ
ทางวงเคยอยู่ค่ายใหญ่ แต่พอมาอยู่กับค่ายคุณฟองเบียร์ มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานบ้างไหม
ติ๊ก Playground : สำหรับผมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพราะเราเคยเป็นอินดี้มาก่อน พออยู่ค่ายเล็กขั้นตอนมันจะน้อย แต่ทีมงานที่เก่งก็ทำให้งานออกมาดีมาก เสียเวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ด้วย
โซเชี่ยลมีเดีย มีผลกับการทำงานของวงบ้างหรือไม่
ติ๊ก Playground : เป็นผลกระทบที่ดีนะครับ เพราะเราอยากทำอะไรก็ง่าย อย่างเช่นการบอกต่อ เพราะมันทำให้ข่าวถึงแฟนๆ สมัยก่อนต้องแถลงข่าว ทุกอย่างต้องพร้อม เดี๋ยวนี้อยากร้องเพลงให้เพื่อนๆ ฟังก็ live เลย เอ็มวีใหม่ก็คุยกันเลย แฟนๆก็โต้ตอบเราได้
ในฐานะศิลปินสายอัลเทอร์เนทีฟรุ่นพี่ สมาชิกรู้สึกอย่างไรกับวงการเพลงอินดี้ในยุคนี้
ติ๊ก Playground : ก็มีวงดีๆเกิดขึ้นมากเลยครับ คนที่รักดนตรีก็ยังมี คนที่รักในสิ่งเหล่านี้ จะถ่ายทอดความรู้สึกได้ดี ตอนนี้ก็เห็นวงน้องใหม่มากมาย ที่มาจากเทคโนโลยี ที่ใช้โซเชี่ยลมีเดียโปรโมท เป็นเพลงจากหลืบเล็กๆแต่ได้ร้อยล้านวิว พวกเราก็เคยเป็นแบบนั้น ในเพลงแรกๆอย่าง Soulmate ก็ขออวยพรให้ทุกคนครับ พวกเราเป็นกำลังใจให้
ตอนนี้ค่าย Merecords มีศิลปินแถวหน้าอยู่ในค่ายหลายคนมาก ทางวงอยากร่วมงานกับใครบ้างไหม
ติ๊ก Playground : เยอะเลยครับ เป็นรุ่นพี่เก่งๆทั้งนั้นอย่าง Pause, พี่แด๊ก, Silly fools, Season Five และน้องฟิล์ม หลายๆคนน่าร่วมหมด ผมเคยร่วมงานกับวง Pause ก็แบบดีใจมาก ได้ร้องเพลงกับพี่นอ พี่บอส พี่เอ ได้ร้องเพลง ความลับ ข้างล่างก็เป็นพี่บอยตรัย ที่แต่งเพลง ความลับ ก็ฟินมาก โอกาสหน้าก็อยากทำงานกับคนอื่น
ตุลย์ Playground : ผมอยากใส่หน้ากากกับ Silly fools ครับ เป็นตัวอะไรก็ได้ครับ หน้ากากเท่มาก
ตุ้ย Playground : เราโตมากับวง Pause กับเบเกอรี่ ก็อยากทำงานกับวงพอสครับ
เมื่อปีที่ผ่าน คนไทยได้สูญเสียอัครศิลปินอย่าง ในหลวง ร.9 ในฐานะที่เป็นศิลปิน สมาชิกวง Playground ได้น้อมนำคำสอน หรือมีท่านเป็นแบบอย่างด้านใดบ้าง
Playground : ทุกเรื่องเลยครับ ผมซาบซึ้งทุกเรื่องที่ท่านสอน อย่างในเรื่องการเป็นศิลปิน พวกเราก็ไปเล่นงาน "ดอกไม้ของย่า บทเพลงของพ่อ" ก็ได้เล่นเพลงพระราชนิพนธ์เลย เราก็ได้รับรู้เลยว่าพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของท่านนั้นสูงมาก เพราะเพลงพระราชนิพนธ์เป็นเพลงที่เล่นยากมาก แต่เราภูมิใจที่ได้เล่น เพราะรู้สึกได้ได้ใกล้ชิดท่าน วันนั้นเป็นวันที่ซาบซึ้งมาก คำสอนของท่านก็เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถนำคำสอนท่านไปใช้ได้ครับ
คลิกฟังเพลง คนที่ไม่มีความหมาย - Playground
ถึงแม้ว่าจะมีภาพลักษณ์ที่ดูเฮฮา แต่ผลงานของวง Playground ก็แฝงไว้ด้วยแง่คิดที่ดีมาก ซึ่งแฟนๆสามารถนำเพลงของพวกเขาไว้ฟังเพื่อเป็นซาวด์แทร็กของชีวิตได้เลย และสามารถติดตามผลงานพวกเขาได้ที่ Sanook! Music และ Facebook Playground band ครับ
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ