"โดม จารุวัฒน์" กับบทบาทใหม่ในวงการ ที่มาพร้อมความท้าทาย!

หลังจากที่แจ้งเกิดในฐานะศิลปินเสียงไพเราะจากเวทีเดอะสตาร์ 8 แล้ว เเชมป์เวทีเดอะสตาร์อย่าง โดม จารุวัฒน์ ก็ได้แสดงให้แฟนคลับได้เห็นว่า นอกจากการทำเพลงช้ากินใจแล้ว เขาก็มีความสามารถด้านงานแสดง การเป็นพิธีกร รวมถึงความสามารถในการถ่ายทอดบทเพลงสนุกๆด้วย และวันนี้ทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณโดม ถึงการทำงานในบทบาทใหม่ๆ ที่เขาไม่ลอง รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อการประกวดร้องเพลงในยุคนี้ด้วย 

 

ซิงเกิ้ลล่าสุดของ โดม เพลง เพราะเราคู่กัน  มีเนื้อหาพูดถึงอะไร 

โดม : มันเป็นโปรเจ็คเพลงจากซิทคอมเรื่อง รักแท้แม่ไม่ปลื้ม ที่พูดถึงเรื่องราว แม่สามีและลูกสะใภ้ คือทั้งสองคนไม่ลงรอยกัน  ก็ต้องดูกันไปว่าเมื่อเรื่องราวผ่านไปความสัมพันธ์จะดีขึ้นไหม และก็ยังพูดถึง คู่สามีภรรยา ที่แต่งงานกัน และต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน เพลงนี้มันก็จะเน้นในจุดนี้  คือชีวิตมันมีอุปสรรค แต่ถ้าจับมือกันก็จะผ่านไปได้ครับ

 

ปกติแล้ว โดมจะถนัดถ่ายทอดเพลงช้า พอเรามาทำเพลงเร็ว ต้องปรับตัวเยอะมากไหม

โดม : มันก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ดี  คือมันเป็นเพลงเร็ว แต่ก็จะมีเมโลดี้การเอื้อนที่เหมือนเพลงช้า ที่เราต้องใส่ใจ  อีกสิ่งหนึ่งที่เพลงนี้ต่างจากซิงเกิ้ลก่อนๆ ก็คือสมัยก่อนเวลาผมทำเพลงคู่ โปรดิวเซอร์ก็จะใช้วิธีอัดของแต่ละคนก่อน แต่เพลงนี้ต้องเอาไมค์สองตัวเข้าไปในห้องอัดเลย เพราะเพลงมันเร็ว เวลาร้องต้องส่งอารมณ์กันอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องครับ 

 

คุณโดม มีส่วนร่วมกับเพลงนี้อย่างไรบ้าง

โดม : ก็ต้องดีไซน์การร้องให้เข้ากับดนตรี และเข้ากับเรื่องราวซิทคอมครับ เพลงนี้จะใช้โน้ตครึ่งเสียงเยอะ และมีเทคนิคลูกเล่นเยอะมาก ปกติไม่ค่อยได้ทำแนวนี้เท่าไหร่

 

กระแสตอบรับเพลง เพราะเราคู่กัน เป็นอย่างไร

โดม : ดีครับ มีคนเข้าไปฟังเยอะในเว็บไซต์ฟังเพลง  แฟนๆเวลาฟังก็ส่งมาให้ดู  เวลาซิทคอมออนแอร์ ก็มีคนฟังและก็แท็กมาบอกว่าฟังแล้วครับ

คลิกฟังเพลง เพราะเราคู่กัน ได้ที่นี่

 

เมื่อปีที่ผ่านมา โดมก็เจอกระแสคู่จิ้นกับน้องพรีน ที่ร่วมร้องเพลง "เพราะเราคู่กัน" ด้วย รู้สึกอย่างไรกับกระแสนี้

โดม : ก็เป็นกระแสที่มากับรายการ เป็นบ้านคู่ ก็เป็นกำลังใจ  เพราะชีวิตนี้เราไม่เคยมีคู่จิ้น คือเราก็มองคนอื่นมีคู่จิ้น แล้วรู้สึกแบบเหี่ยวๆ  จัดว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของพวกเราครับ

 

ก่อนหน้าจะมีเพลง เพราะเราคู่กัน โดมก็ได้คัฟเวอร์เพลง เช้าไม่กลัว ในซีรี่ย์ โสด Story ด้วย  กระแสตอบรับเป็นอย่างไร

โดม : เพลงนี้เป็นเพลงเก่า ของพี่ลีโอ พุฒ ก็เอาใช้ในซีรี่ย์ โสด STORY เนื้อหาเพลงนี้จะเหมือนกับในซีรี่ย์มาก และทีมงานก็บอกว่าไม่เคยเห็นมุมนี้ของผม ก็เลยชวนมาทำเพลงนี้

 

มันยากไหมสำหรับ โดม ในการร้องคัฟเวอร์เพลงนี้ ให้เป็นตัวเองที่สุด  

โดม : จริงๆแล้ว ผมเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา บ้าบอคอแตก แต่ภาพก่อนหน้านี้ คนเราจะเห็นในโหมดเศร้าๆเป็นส่วนใหญ่ เวลาทำเพลงสมัยก่อน แต่จริงๆแล้วเวลาอยู่กับเพื่อนเป็นคนสนุกสนาน  ผมว่าเพลงนี้มันเป็นการเปิดให้คนรู้ว่าผมก็มีมุมนี้เหมือนกัน  

อีกอย่างเวลาผมจะคัฟเวอร์เพลง  ผมจะสร้างสรรค์มันมาจากตัวเรา ร้องเป็นตัวเรา คือเราร้องเพลงตัวเองสไตล์นี้  เราก็จะเอาตัวเองไปจับกับเพลงคนอื่น  ให้เป็นตัวเองได้เช่นกัน คือเราจะเอาตัวเองไปใส่ในเพลงของคนอื่น จนมันสามารถแสดงความเป็นตัวเราที่สุด  ผมเองก็เชื่อว่า นักร้องทุกคนเวลาร้องเพลง คัฟเวอร์  ผลงานที่เขาทำก็จะแสดงตัวตนของศิลปินคนนั้น ออกมาเช่นกันครับ 

 

 

แฟนคลับคุณโดม รู้สึกอย่างไร เมื่อเห็นผลงานเพลงเร็วที่ทำออกมา

โดม : เขาก็มองว่ามันแปลกใหม่  ถึงแม้จริงๆแล้วเวลาไปคอนเสิร์ตข้างนอกก็จัดเต็มเหมือนกัน  แต่ผลงานที่เราทำมันมีแต่เพลงช้า คนเลยติดภาพเราแบบสมัยก่อน การทำเพลงแนวนี้ก็อาจจะทำให้หลายคนเห็นภาพของเราในมุมอื่น

 

ปีที่ผ่านมานอกจากงานเพลง แล้ว โดมก็มีผลงานการแสดงในละคร เงาอโศก และ บทบาทพิธีกร สองบทบาทนี้ยากไหม ถ้าเทียบกับการเป็นศิลปินนักร้อง

โดม : มันยากกว่า เพราะเราโตมากับการร้องเพลง แต่การเป็นพิธีกรและนักแสดง เป็นโลกใหม่และสิ่งที่เราไม่เคยทำ มันก็เลยไม่คุ้นชิน แต่มันเป็นสิ่งที่สนุกมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก คือเราไม่คิดว่าจะได้เล่นเป็นหมอ แต่ในละครต้องเป็นหมอ ต้องเรียนรู้ถึงการฉีดยา การใส่ถุงมือ  เพราะเราไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน ส่วนการเป็นพิธีกร มันเป็นการเปิดโลก ให้เราได้พูดคุยกับคนที่มาเยี่ยมบ้านเรา การเป็นพิธีกรเหมือนการเป็นโฮสต์ที่เปิดบ้านรับแขกและได้พูดคุยเจอคน  ได้มุมมองความคิดจากคนอื่น  เป็นงานที่ยากแต่มีความสุขมาก  

 

ในฐานะที่โดมเป็นศิลปินอีกคนที่มาจากเวที ประกวด เรารู้สึกอย่างไร กับการประกวดร้องเพลงในยุคนี้ครับ

โดม : มันก็เป็นการประกวดเหมือนเดิม เป็นเวทีที่ให้โอกาสคน  คือถ้าไม่มีเวทีเหล่านี้  ทุกวันนี้อาจไม่มีศิลปินที่อยู่ในวงการแบบนี้ หลายๆคน ที่เป็นรุ่นพี่เราก็มาจากเวทีประกวด  ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี มันเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี เราเองก็โตมากับเวทีเดอะสตาร์  เราก็จะศรัทธากับคนที่ประกวด มันรู้สึกอินเวลาที่เราเข้ามาแข่งเอง การประกวดก็เป็นขุมทรัพย์สำหรับคนที่มีฝันเสมอ ถึงแม้ในปีนี้จะไม่มีเดอะสตาร์ แต่ผมรู้สึกว่าคนก็ยังคิดและศรัทธาในเวทีนี้เหมือนเดิม  

 

 

เรียกได้ถึงแม้จะเป็นการทำงานใหม่ๆ ที่เขาไม่คุ้นเคย แต่ โดม นั้นก็มีความสุขและตั้งใจทำทุกบทบาทออกมาดีจริงๆ และในปี 2560 คุณโดมและเพื่อนสี่โพดำ ก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ สี่โพดำ อีกด้วย ซึ่งทาง Sanook! Music จะนำข่าวคราวเกี่ยวกับงานดังกล่าวมาอัพเดทให้ทุกคนได้ชมแน่นอนครับ