"Owlet Lounge" จากผู้อยู่เบื้องหลังค่ายกามิกาเซ่! สู่ศิลปินอินดี้ไฟแรง
การเข้ามาของยุคโซเชี่ยลมีเดียนั้น ทำให้ในปัจจุบันนี้ศิลปินอินดี้หลายๆวงนั้นสามารถออกผลงานที่แสดงความเป็นตัวเองได้มากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งค่ายเพลงใหญ่เหมือนแต่ก่อน และวันนี้ทีม Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับวง Owlet Lounge ศิลปินอินดี้เจ้าของเพลงใหม่มาแรง ฟ้าสีจาง ถึงจุดเริ่มต้นและผลงานแรกในชีวิตพวกเขาครับ
สมาชิกวง Owlet Lounge มารวมตัวได้อย่างไร
นิ้ง Owlet Lounge : พี่มาร์ชกับพี่ชล เป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลงมาก่อนหลายปี ช่วงหลังอยากทำเพลงของตัวเอง เลยรวมตัวเป็นวง แล้วหาศิลปินมาร่วมงานด้วย พี่มาร์ชเลยลองหาใน YouTube ก็มาเจอนิ้ง พี่เขาก็ติดต่อมาชวนค่ะ
ทำไมสมาชิก ถึงตั้งชื่อวงว่า Owlet Lounge
นิ้ง Owlet Lounge : Owlet แปลว่านกฮูกตัวเล็กๆ และพวกเราเองก็ทำงานกลางคืน ส่วน Lounge ก็เป็นที่ให้เราเอก เหมือนโซฟา อยากให้ทุกคนพักผ่อนไปกับเพลงของเรา
มาร์ช Owlet Lounge : มันเป็นสัญลักษณ์ความโชคดีของญี่ปุ่นนะครับ นักฮูกตัวเล็กๆ พวกเราเองก็เป็นคนทำเพลงตัวเล็กๆด้วย
แนวเพลงของวงจะเป็นสไตล์ Acoustic House อะไรคือเหตุผลที่เลือกทำเพลงในสไตล์นี้
มาร์ช Owlet Lounge : ตัวเราชอบแนว House อยู่แล้ว แบบ Electronic เลยคุยกันว่าจะทำแนวนี้ แต่ให้ซอฟท์ลงมาหน่อย ให้ฟังง่ายฟังสบายขึ้น
ชล Owlet Lounge : แนวนี้จะมีวงญี่ปุ่นทำอยู่แล้ว ศิลปิน ในโซนเอเชียตะวันออก ผมเองก็ชอบแนวนี้ด้วย
สมาชิก Owlet Lounge จากซ้ายไปขวา ชล นิ้ง และ มาร์ช
สมาชิกวง Owlet Lounge มีศิลปินคนไหน เป็นไอดอลบ้าง
นิ้ง Owlet Lounge : นิ้งจะชอบพี่แสตมป์ค่ะ เป็นแนวสบายๆ เล่นกีต้าร์ร้องเพลงเอง
มาร์ช Owlet Lounge : ทีเจ และก็ซิงกูล่าร์ครับ เคยร่วมงานเล่น Back up ให้ ก็ประทับใจครับ
ชล Owlet Lounge : ตอนเด็กๆชอบ หินเหล็ก ไฟ ฟังเทปม้วนแรกก็วงนี้ ก็เล่นกีต้าร์เพราะวงนี้ครับผม
ซิงเกิ้ลเพลง ฟ้าสีจาง มีเนื้อหาพูดถึงอะไร
นิ้ง Owlet Lounge : เพลงก็จะตามเอ็มวีเลยค่ะ คือเรานั่งและฟังเพลงแล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆ ใครบางคน และมาบวกกับอารมณ์ตอนเย็นๆ ที่ฟ้าเป็นฟ้าสีจาง ค่ะ
เพลงนี้ สมาชิกแต่ละคนมีส่วนร่วมอะไรกันบ้าง
มาร์ช Owlet Lounge : ผมเองจะเขียน Melody ขึ้นมาก่อนครับ คิดได้ตอนไปต่างจังหวัด พอมีเมโลดี้ ก็ให้ชล มาช่วยเขียนเนื้อ ส่วนนิ้งก็จะมาร้องไกด์และคอรัสเอง ส่วนทีเจ ก็มาเขียนท่อนแร็พให้ ก็เขียนเร็วมากครับ มาทำงานกับน้องครั้งนี้ เขาก็โตขึ้น ทำงานเข้าขามากขึ้นครับ
ล่าสุดทางวงก็ปล่อย Lyrics video ออกมาแล้ว กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
มาร์ช Owlet Lounge : ดีมากครับ ตอนแรกคิดว่าสองหมื่นก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนี้ขึ้นมาเป็นแสนแล้ว
ชล Owlet Lounge : ตอนแรกไม่ได้โปรโมทเลย เพจ Facebook ก็ยังไม่ได้บูสต์ ตอนนี้คือเพลงมันทำหน้าที่ตัวมันเองเลยครับ
คุณมาร์ชกับคุณชล เป็นโปรดิวเซอร์เบื้องหลังมาก่อน เคยทำงานกับใครมาบ้าง
มาร์ช-ชล Owlet Lounge : เราเคยทำงานทีมเดียวกัน อยู่ในค่าย RS กับศิลปินกามิกาเซ่ จากรุ่นที่สองที่มี 321, แคทแพท, Kiss me five จนมาถึงรุ่นมินทร์ ธามไทครับ ก็เป็นยุคนั้น
การทำงานของวงเปลี่ยนไปมากไหม จากศิลปินค่ายใหญ่ มาเป็นค่ายเพลงของเราเอง
ชล Owlet Lounge : ความ Strict มันน้อยลง จะทำอะไรก็ทำ อยากถ่ายอะไรก็ถ่าย Lyric วีดีโอ ก็คิดเอง คือความอิสระ ความคิดสร้างสรรค์มันใช้ได้มากกว่า จริงๆผมเองก็เบื่อกับระบบการทำงานของค่ายใหญ่เหมือนกัน
มาร์ช Owlet Lounge : ในการทำเพลงก็อิสระมากขึ้น ถ้าเอาเพลงแบบนี้ไปส่งค่ายใหญ่ก็อาจจะไม่ผ่าน
จากที่เราเป็นคนเบื้องหลังมาก่อน ตอนนี้กลายมาเป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว รู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนี้
มาร์ช Owlet Lounge : ก็ตื่นเต้นครับ ปกติอยู่หลังเวที เป็น Music director มาตลอดตอนทำคอนเสิร์ต RS พอมาอยู่ตรงหน้าก็รู้สึกแปลกๆครับ
ในฐานะที่ทำงานในวงการเพลงมานาน คุณมาร์ชและคุณชล รู้สึกอย่างไรกับการทำเพลงในยุคดิจิตอล
ชล Owlet Lounge : ผมว่ามันดี ที่ทำให้ศิลปินไม่ต้องผูกขาดกับค่ายใหญ่ เด็กอยู่บ้านก็ทำเพลงให้ดังได้ อย่าง URBOYTJ ทำเพลงส่งค่ายอาจไม่ผ่าน แต่ทำเพลงก็ดังได้ ผมว่ามันก็ดีครับ แต่ข้อเสียคือเด็กเดี๋ยวนี้จะไม่รู้ว่าเพลงมันมีมูลค่า อย่างผมเป็นครู สำหรับเด็กๆเพลงอยู่ใน YouTube เด็กก็ดูดใส่มือถือเลย คือผมรู้สึกว่าสิ่งนี้ทำให้เด็กไม่เห็นค่าเรื่องเพลง
มาร์ช Owlet Lounge : คนมาเสพเพลงทางสื่อออนไลน์มากขึ้น เดี๋ยวนี้เพลงสามร้อยล้านวิวก็มาง่ายๆเลย แต่ยอดขายเพลงก็น้อยลง เพราะมันดูดมาฟังได้ง่าย ฟังฟรีได้ง่ายขึ้น เพลงมันอาจจะไปไกลขึ้น แบบไม่ต้องโปรโมตมาก
นอกจากงานเพลงแล้ว ทั้งสองคนก็เป็นครูด้านดนตรีด้วย การเรียนด้านดนตรี มันมีข้อดีอะไรบ้าง สำหรับเด็กๆ
มาร์ช Owlet Lounge : มันช่วยให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น คือบางคนดื้อมาก ไม่สนใจ แต่หลังๆจะโฟกัสสิ่งที่เราสอนมากขึ้น
ชล Owlet Lounge : การเรียนดนตรีมันเปิดโลกให้เด็กๆด้วย คือเด็กไม่ฟังเพลงเลย คือตอนแรกถามก็ไม่รู้จักเพลงเลย มีแต่เพลงชาติ พอเรียนตรงนี้ก็เหมือนเปิดโลกและจินตนาการให้กับพวกเขา
การเป็นศิลปินสำหรับ พวกคุณ ถือว่าเป็นอาชีพหลัก หรือ อาชีพเสริม
มาร์ช Owlet Lounge : อาชีพหลักของผมจริงๆคือการเป็นโปรดิวเซอร์ครับ ส่วนศิลปินก็พยายามดันเป็นอาชีพหลัก ต้องแบ่งพาร์ทให้ ดีเพราะถ้าเป็นศิลปิน แต่ไม่ทำเพลงเลย ก็ไม่มีเพลงออกครับ
ประสบการณ์ในอดีตในฐานะคนเบื้องหลัง มันสามารถช่วยเราในการทำงานเป็นศิลปินบ้างไหม
มาร์ช Owlet Lounge : เราก็จะรู้ว่าคนฟังชอบเพลงแบบไหน คืออาจไม่ทั้งหมด แต่ก็อาจสอดแทรกเข้าไป พวกเรารู้ว่าทำอะไรจะติดหู
ชล Owlet Lounge : การทำงานในอดีตมันทำให้พวกเรารู้ทริคกับขั้นตอนต่างๆ อย่างการอัดเสียง มิกซ์เสียง การทำงานของค่ายใหญ่ กับการโปรโมต รวมถึงการเลือกศิลปินมาร่วมงานด้วย
เปรียบเทียบระหว่างสมัยก่อน กับยุคนี้ การทำเพลงให้ประสบความสำเร็จนั้น ยากขึ้น หรือ ง่ายกว่าเดิม
ชล Owlet Lounge : ผมว่าการทำงานมันง่ายขึ้น แต่ถ้าจะทำให้เพลงฮิตมันยากเพราะเดี๋ยวนี้ตัวเลือกเยอะ และคนสมัยนี้มันสมาธิสั้น คืออยู่กับอะไรได้ไม่นาน แบบเพลงฮิตออกมาแป๊ปเดียวแล้วก็ไป แบบเรื่องดราม่าที่มาสามสี่วันก็ไป มันยากมากในการทำเพลงอยู่ให้นาน
ในมุมมองของสมาชิกวง Owlet Lounge คิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ที่ทำให้วงของเราไม่เหมือนใคร
มาร์ช Owlet Lounge : เราพยายามสร้างความต่างจากศิลปินในตอนนี้ อย่างซิงเกิ้ลแรกก็เอาความ Contrast ของนิ๊งค์และทีเจ และแนวดนตรีที่เป็น Acoustic House ที่ไม่มีใครทำแล้วเราก็ชอบ
ชล Owlet Lounge : เสียงของนิ้งเองก็เป็นเอกลักษณ์คือมีความเป็นผู้ชายและผู้หญิงผสมอยู่ด้วยกัน ผมมันมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครครับ
คลิกฟังเพลง ฟ้าสีจาง - Owlet Lounge FEAT URBOYTJ ได้ที่นี่
เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ แต่ประสบการณ์ในฐานะยูทูปไอดอลของคุณนิ้ง และความสามารถด้านดนตรีของคุณมาร์ชและคุณชล นั้นก็ทำให้พวกเขาเป็นอีกกลุ่มคนดนตรีที่น่าจับตามองจริงๆ ซึ่งใครที่ชื่นชอบผลงานของพวกเขานั้น ก็สามารถฟังเพลงของพวกเขาได้ที่ JOOX MUSIC APPLICATION รวมถึงติดตามข่าวคราวที่เฟสบุ๊คของวง Owlet Lounge และเว็บไซต์ Sanook! Music ได้เช่นกันครับ
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ