"BTS" ศิลปินแห่งคาบสมุทรเกาหลี! กับผลตอบรับที่มาไกลเกินคาด
“ศิลปินเกาหลีก็หน้าตาเหมือนๆกันหมด”
คำพูดนี้มีนัยหลายอย่าง แต่นัยยะหนึ่งที่เป็นเสมือนการส่งเสริมประโยคข้างต้นนั้น มาจากที่ปริมาณศิลปินและไอดอลในเกาหลีแต่ละปี มีจำนวนที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ บางปีมีไอดอลเปิดตัวเกือบๆ ร้อยวง บางปีอาจน้อยกว่านั้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นปริมาณที่มากอยู่ดี และท่ามกลางวงต่างๆหลายร้อยวง แนวเพลง หน้าตา รูปลักษณ์ของบางวงก็อาจซ้ำทางกันจนหลายคนแยกไม่ออก
แม้ไอดอลจากค่ายใหญ่หลายค่าย อาจมีช่วงเวลาที่สาหัสก่อนที่จะถูกเลือกให้มาเป็นไอดอล แต่หลักประกันเมื่อเปิดตัว ค่อนข้างจะมีภาษีที่ดีกว่าไอดอลจากค่ายกลางๆ จนถึงค่ายเล็ก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ไอดอลจากค่ายกลางๆ จนถึงเล็ก จะฝ่าด่านวงอีกหลายร้อยวงขึ้นมาอยู่แถวหน้าและได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงและสื่อมวลชนในแง่ดี
และหนึ่งในวงที่มาจากค่ายระดับกลาง ที่สร้างคาแรกเตอร์ในเพลงต่างๆ ของพวกเขาจนเป็นที่ยอมรับจากแฟนเพลงจำนวนมาก ก็คือ วง BTS
เส้นทางแรกที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
Bangtan Boys หรือ BTS มีชื่อวงเต็มๆคือ Bangtan Sonyeondan ประกอบด้วยสมาชิก 7 คนได้แก่ แรปมอนสเตอร์ , จิน , ชูก้า , เจโฮป, จีมิน, วี และ จองกุก พวกเขาเหล่านี้อยู่ภายใต้ต้นสังกัด Big Hit Entertainment. ซึ่งเป็นเพียงค่ายเล็กๆ ในเกาหลี เดิมทีทางต้นสังกัดมีแผนเปิดตัวศิลปินกลุ่มฮิพฮอพในแนวเดียวกับวง 1TYM โดยยึดคอนเซ็ปต์เป็นวงฮิพฮอพที่ไม่เน้นการเต้นแบบเป็นกิจลักษณะ แต่เน้นที่การแรพอย่างมีสไตล์ แต่ในระหว่างที่กำลังเตรียมความพร้อมของวง สมาชิกที่ถูกวางตัวเอาไว้ ต่างทยอยกันออกจากค่าย จนเหลือแค่แรปมอนสเตอร์เพียงคนเดียวที่ยังอยู่ ทำให้ทางต้นสังกัดต้องพยายามออดิชั่นเด็กเพิ่มเข้ามา พร้อมกับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ที่วางเอาไว้ทั้งหมด
สุดท้าย จากเดิมที่กำหนดเปิดตัวคือปี 2010 กลายมาเป็นปี 2013 แทน ในช่วงเวลาก่อนเปิดตัวหลังจากได้สมาชิกในวงครบอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ต้นสังกัดได้วางแผนในการสร้างฐานแฟนคลับ โดยการให้สมาชิกของวง ไปรับเชิญในเอ็มวีของศิลปินรุ่นพี่ร่วมค่าย และยังได้ทำโปรเจกต์ก่อนเปิดตัว อย่างการทำเพลง A Typical Trainee's Christmas เพื่อสร้างฐานแฟนคลับก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และแผนการของต้นสังกัดยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ค่ายของพวกเขายังปล่อยคลิปแนะนำตัวของสมาชิกแต่ละคน โดยใช้ชื่อว่า Let's Introduce BANGTAN ROOM เพื่อสร้างภาพจำให้กับสมาชิกในวง และแสดงออกถึงคาแรกเตอร์ที่หลากหลายของสมาชิกวง BTS นั่นเอง
ทางเดินที่ค่อยๆ ก้าวไป
ท่ามกลางการแข่งขันของวงไอดอลในเกาหลีที่มีอยู่มากมาย การสร้างความจดจำและการสร้างเอกลักษณ์ให้กับวง ดูจะเป็นการทำงานที่ค่อนข้างหนักของค่ายเพลงต่างๆ ต้นสังกัดของหนุ่ม BTS เองก็เช่นเดียวกัน จากการค่อยๆ เปิดตัวผ่านโปรเจกค์ต่างๆ ทางต้นสังกัดก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ก่อนการเปิดตัวเพียงสามเดือน อยู่ดีๆ โปรเจกต์แนะนำวงที่ชื่อว่า BTS's log ก็เกิดขึ้น โดยโปรเจกต์นี้ ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความสามารถที่หลากหลายของสมาชิกวงที่นอกเหนือจากการแรพ ทำให้แฟนๆ ต่างได้เห็นหนุ่มๆ มาซ้อมเต้นให้ดู หรือมาโชว์เสียงร้องในแนวเพลงที่แตกต่างออกไปจากเพลงสไตล์ฮิพฮอพ
จนสุดท้ายในเดือนมิถุนายน 2013 หลังจากการรอคอยอย่างยาวนานของทั้งตัวสมาชิกและแฟนคลับ มินิอัลบั้มเปิดตัวก็มาถึงอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเพลงเดบิวท์ที่ชื่อว่า No More Dream
ขณะนั้นวงไอดอลของเกาหลีใต้มีปริมาณที่มากมายมหาศาล วง BTS เองก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มเปิดตัว แต่เพราะความสามารถที่น่าจับตามองเวลาอยู่บนเวที การเต้นที่ทรงพลังและมีความพร้อมเพรียงกันอย่างมาก บวกกับเพลงแนวฮิพฮอพที่ถูกหูวัยรุ่น ทำให้พวกเขาเริ่มได้รับการจับตามองจากสื่อต่างๆ และจากการเปิดตัวในตอนเดือนมิถุนายน ผ่านไปเพียง 1 เดือน ทางต้นสังกัดก็ประกาศชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ Army
คลิกฟังเพลง No More Dream – BTS (สำหรับผู้ฟัง JOOX VIP)
วงไอดอลที่ขยันที่สุดในเกาหลี
วง BTS ขึ้นชื่อว่าเป็นวงไอดอลที่ขยันมากที่สุดในช่วงเวลานั้น เพราะหลังจากอัลบั้มเปิดตัวเพียงสามเดือน พวกเขาก็ประกาศคัมแบคอีกครั้งในเดือนกันยายน 2013 โดยมีเพลงไตเติ้ลที่ชื่อ N.O ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของวงเอาไว้ เพลงแนวฮิพฮอพผสมป๊อบที่ดุดันและการแสดงสดบนเวทีที่ทรงพลัง
หลังจากหมดช่วงเวลาโปรโมทไม่นาน วง BTS ก็มีชื่อเข้าชิงรางวัล New Artist Of the Year ของเวทีประกาศรางวัล Melon Music Award และพวกเขาก็คว้ารางวัลนี้มาได้ จากรางวัลแรกที่ทำให้ทางวงและต้นสังกัดรับรู้ถึงกระแสที่เพิ่มขึ้น ผ่านต้นปี 2014 ไปไม่กี่สัปดาห์ ทางวงก็ประกาศการกลับมาอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีเพลงไตเติ้ลที่ชื่อว่า Boy In Luv ซึ่งในมินิอัลบั้มนี้ แม้จะยังคงความเป็นฮิพฮอพและป๊อบอย่างที่ผ่านมา พวกเขายังได้เพิ่มลูกเล่นในแนวเพลง R&B เข้าไปด้วย โดยนอกเหนือจากเพลงไตเติ้ลหลัก พวกเขาก็ปล่อยเอ็มวีและขึ้นโชว์ในเดือนเมษายน กับเพลงในอัลบั้มที่ชื่อว่า Just One Day เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การต้อนรับอย่างดี ซึ่งการที่พวกเขาทั้ง 7 คน แทบจะไม่เคยหายหน้าจากจอทีวีและในสังคมออนไลน์ ทำให้ทางต้นสังกัดมองเห็นฐานแฟนคลับที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
เมื่อตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อนทางค่ายจึงประกาศเปิดตัวพวกเขาในญี่ปุ่นในเดือนเมษายนผ่านเพลงที่นำเพลงเวอร์ชั่นเกาหลีของวงมาทำใหม่ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น หลังจากที่หมดโปรโมตในเกาหลีเพียงไม่ถึง 1 เดือน แทบจะเรียกได้ว่าในขณะนั้น ชื่อวง BTS เป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหูหรือคุ้นตาไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
คลิกฟังเพลง Boy In Luv – BTS (สำหรับผู้ฟัง JOOX VIP)
อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกที่ทำให้สื่อหลายสำนักต้องจับตามอง
หลังจากการพักโปรโมตได้ไม่นาน อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของพวกเขาก็ถูกประกาศออกมาในเดือนสิงหาคม 2014 โดยใช้ชื่อว่า Dark&Wild ที่มีเพลงไตเติ้ลหลักคือ Danger ซึ่งยังคงคาแรกเตอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวของวง ทำให้อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของพวกเขา ทำยอดขายไปได้กว่าหนึ่งแสนแผ่น เป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองจากวงที่เพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงปีกว่าๆ และจากเพลงไตเติ้ลหลัก พวกเขาก็ทำการตอบแทนแฟนๆที่ทำให้ยอดขายอัลบั้มแรกทะลุเกินความคาดหมายด้วยการขึ้นแสดงสดอีกครั้งตามรายการเพลงด้วยเพลงในอัลบั้ม ที่ชื่อว่า War of Hormone โดยในช่วงเวลาที่พวกเขาทำงานที่เกาหลีอย่างหนัก การสร้างฐานแฟนต่างประเทศควบคู่กันไป ก็เป็นสิ่งที่ทางต้นสังกัดไม่ได้ละเลย เพราะในเดือนธันวาคม 2014 สตูดิโออัลบั้มแรกของวงในประเทศญี่ปุ่นก็ถูกประกาศออกมาโดยเป็นเพลงที่แต่งใหม่ทั้งหมดสำหรับแฟนเพลงชาวญี่ปุ่น
ถือได้ว่า ต้นสังกัดวางแผนในการสร้างฐานแฟนคลับทั้งในประเทศบ้านเกิดและนอกประเทศอย่างเป็นระบบและทำให้วง BTS เป็นวงที่สร้างความสมดุลในแง่ของจำนวนแฟนทั้งในและนอกประเทศที่ดีวงนึงในเกาหลี
2015 ปีแห่งการยอมรับ
The Most Beautiful Moment in Life,Part 1 เป็นชื่อมินิอัลบั้มในการคัมแบคแรกของวง BTS ในปี 2015 โดยมีเพลงไตเติ้ลที่ชื่อ I Need You ซึ่งถูกปล่อยออกมาในวันที่ 29 เมษายน 2015 และหลังจากนั่นเพียง 1 สัปดาห์ พวกเขาก็ได้รางวัลที่ 1 จากรายการ SBS MTV's The Show และยอดขายของอัลบั้มนี้ก็มียอดจำหน่ายที่สูงถึง 180,000 แผ่น แถมยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน27 อัลบั้มที่ดีที่สุดของปี 2015 จาก Fuse TV ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมนักวิจารณ์เพลงที่ได้รับการยอมรับจากคอเพลงฝั่งตะวันตก
หลังจากความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด เดือนมิถุนายน ทางต้นสังกัดก็ปล่อยเอ็มวีเพลงในอัลบั้มอีก 1 เพลง นั่นก็คือเพลง Dope ซึ่งสามารถขึ้นอันดับ 3 ของ Billboard's World Digital Chart ได้ และหลังจากขยายฐานแฟนคลับแถบประเทศเอเชียอย่างต่อเนื่อง ปี 2015 พวกเขาก็เริ่มขยายฐานแฟนๆโดยการจัดเวิล์ดทัวร์ในประเทศแถบละตินอเมริกา ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ
เมื่อถึงปลายปี พวกเขาก็ยังไม่หยุดสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการเพลงเกาหลี เมื่อทางต้นสังกัดได้ประกาศคัมแบคอีกรอบ กับอัลบั้มภาคต่อที่มีชื่อว่า The Most Beautiful Moment in Life,Part 2 โดยมีเพลงไตเติ้ลที่ชื่อ Run ซึ่งเมื่อเริ่มทำการโปรโมต ก็สามารถคว้ารางวัลในรายการเพลงต่างๆของเกาหลีได้ รวมทั้งยอดวิวในยูทูปที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว บ่งบอกถึงการยอมรับจากแฟนเพลงทั้งในและนอกประเทศได้เป็นอย่างดี และพอถึงงานประกาศรางวัลปลายปี วง BTS ก็เดินสายรับรางวัลในเวทีต่างๆมากมาย เช่น รางวัล Best Dance Male จากงานประกาศรางวัล Melon Music Award และรางวัล World Performance จากเวทีประกาศรางวัล Mnet Asian Music Award ซึ่งทำให้เป็นการปิดปี 2015 ได้อย่างสวยงาม
คลิกฟังเพลง I Need You – BTS (สำหรับผู้ฟัง JOOX VIP)
และแล้วพวกเขาก็เดินขึ้นมาถึงจุดสูงสุด
ในปี 2016 ชื่อของวง BTS แทบจะเรียกได้ว่าไม่เคยหายไปจากกระแสของสื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันถึงกระแสที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว วันที่ 2 พฤษภาคม 2016 อัลบั้มใหม่ของพวกเขาก็ถูกปล่อยออกมา นั่นก็คืออัลบั้มที่เป็นเสมือนภาคจบของไตรภาค The Most Beautiful Moment in Life โดยในครั้งนี้ พวกเขาตั้งชื่ออัลบั้มว่า The Most Beautiful Moment in Life : Young Forever ที่มีนัยของการพูดถึงเสน่ห์เฉพาะตัวที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาและการเติบโตของวงในแบบที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น ผ่านเพลงไตเติ้ลอย่าง Fire
เมื่อถึงจุดหนึ่ง สมาชิกของวงก็ได้เริ่มมีโอกาสแสดงศักยภาพที่ตัวเองมี ผ่านการทำงานที่แตกต่างจากงานในอัลบั้ม โดยเฉพาะชูก้า สมาชิกของวงที่ครั้งหนึ่งเคยเติบโตในแวดวงฮิพฮอพใต้ดิน ก็ได้มีโอกาสปล่อยมิกซ์เทปภายใต้ชื่อ AGUST D เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดที่ทางค่ายวางแผนได้อย่างน่าสนใจ และก่อนจะปิดปี 2016 กับอัลบั้มชุดที่ 2 ซึ่งถูกเปิดเผยออกมาในช่วงเดือนตุลาคม 2016
WING เป็นชื่ออัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของวงBTS และมีเพลงไตเติ้ลที่ชื่อว่า Blood Sweat&Tears ซึ่งสร้างปรากฏการณ์อย่างถล่มทลาย ทั้งยอดสั่งจองแผ่นที่สูงถึง 500,000 แผ่น เพลงที่พาเหรดขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในชาร์ตต่างๆทั่วเกาหลีและต่างประเทศ ยอดเข้าชมมิวสิควีดีโอที่ทะลุ 10 ล้านวิวในเวลาเพียง 41 ชั่วโมง และอย่างที่สื่อหลายสำนักคาดการณ์กันเอาไว้ เมื่องานประกาศรางวัลปลายปีเดินทางมาถึง วง BTS ก็เดินสายคว้ารางวัลใหญ่ของงานอย่างมากมาย เช่น รางวัล Artist of the Year จากงานประกาศรางวัล Mnet Asian Music Award และรางวัล Album of the Year จากเวทีรางวัล Melon Music Award ซึ่งเป็นหนึ่งในสามรางวัลใหญ่ของวงการเพลงเกาหลีเลยทีเดียว
องค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในความสำเร็จของวง BTS อยู่ที่การสร้างคาแรกเตอร์ในเพลงและของวงให้เป็นที่จดจำ ท่ามกลางศิลปินมากมายในเกาหลี การใช้พลังของโซเชียลมีเดียในการสะสมฐานแฟนคลับที่สมดุลระหว่างในและนอกประเทศ และที่สำคัญ คือการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความพยายามที่จะทำลายสถิติของตนเองไปเรื่อยๆ ผ่านการคัมแบคแต่ละครั้ง จนได้รับการยอมรับจากทั้งแฟนเพลง สื่อมวลชน และคนทั่วไป เอ้า! ปรบมือออออ
ขอบคุณภาพจาก Facebook BTS
STORY : TOY SIRISHAT