“MELODY OF LIFE ครั้งที่่ 10” ที่สุดของความมันส์! ตามแบบของ “ฟิวเจอร์ริสต้า”

ผ่านพ้นไปแล้วกับ เทศกาลดนตรีฟรีคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุด “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ ครั้งที่ 10 ฟิวเจอร์ริสต้า” (MELODY OF LIFE 10 #FUTURISTA) ที่สร้างความสนุกสนานให้เหล่าคอเพลงได้มันส์เต็มอิ่มกันถึงสองวันเต็มๆ!!!!! ซึ่งล่าสุดได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 4-5 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ มาพร้อมคอนเซ็ปต์เจ๋งๆ อย่าง “FUTURISTA” (ฟิวเจอร์ริสต้า) เทศกาลดนตรีสร้างสรรค์ เพิ่มประสบการณ์ชีวิต สู่การเป็นคนที่ล้ำทางความคิด โดยใช้พื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้ สร้างอิสระให้คนรุ่นใหม่ได้มาปลดล็อคความคิด ปลุกปั้นพัฒนา ดนตรี ศิลปะ แฟชั่นและ สิ่งแวดล้อม จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจไปพัฒนาสังคมต่อไป

โดยได้รับเกียรติจาก คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ (SPICY DISC) ในฐานะผู้จัดงาน “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ ครั้งที่ 10 ฟิวเจอร์ริสต้า” เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย คุณธรณินทร์ เกียรติชัย ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มตราช้าง บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, คุณเบญจพร กำเพ็ชร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส, คุณ จิรัฎร์ พรพนิตพันธุ์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร ชีส Cheeze และบรรณาธิการบริหารหนังสือ ลุกเกอร์ (Looker) , คุณ วิภว์ บูรพาเดชะ บรรณาธิการนิตยสาร แฮปเพนนิ่ง (Happening), คุณพงศ์สิริ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ นิตยสาร Nylon (ไนล่อน) ไทยแลนด์, คุณพงศ์พัฒ สุวรรณดำรง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) และ คุณอภิชาติ พูนตระกูลเกียรติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด ร่วมเปิดงานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560 ณ เวที เอไอเอส อินเดอร์ สเตจ (AIS INDOOR STAGE) ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน EDEN 1

ในปีนี้ “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์” ได้เดินทางมาถึงปีที่ 10 ความมันส์ของงานก็คูณสิบไปตามเวลา ภายในงานวันแรก มาเริ่มต้นความสนุกกันที่ การประกวด แบนด์ ฮัท (Band Hut) ที่คัดเลือกวงดนตรีมาประชันกัน ทุกวงใส่กันอย่างไม่ยั้ง จนได้ผู้ชนะ 3 วงมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็คือวง อะพอลโล เทอร์ทีน (Apollo 13 th), ออมสิน แอน เดอะ บอยส์    (Aomsin and The Boys) และ ยูซ (Yooze) ที่ได้โอกาสเป็นการทำเพลงร่วมกับศิลปิน และมาสเตอร์ริ่ง (Mastering) ออกมาเป็นซิงเกิลเท่ๆ อีกทั้งยังได้ถ่ายแฟชั่นเซ็ตโปรโมทลงเว็บไซต์ไนล่อน (NYLON) อีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นคอนเสิร์ตในแต่ละเวทีก็ได้เริ่มขึ้น ประชันความมันส์กันไปตามแนวเพลง โดยเวที “เซ็นทรัล คอร์ด สเตจ” เป็นเวทีแรกที่่มีศิลปินขึ้นโชว์ เริ่มต้นโดย  ทู พิล อาฟเตอร์ มีล (Two Pills After Meal) และศิลปินคุณภาพอีกมากมาย อาทิ  จิม แอนด์ สวิม, เทลเล็กซ์ เทลเล็กซ์ (TELEx TELEXs), มาย ไลฟ์ แอซ อลิ โทมัส (My Life As Ali Thomas) และ ปลานิลเต็มบ้าน

และนอกจากกิจกรรมดนตรี ในงานก็มีกิจกรรม แชท สเปซ (Chat Space) จากบุคคลต้นแบบสุดล้ำ มากระตุกต่อมให้คุณมีไอเดียพุ่งกระฉูด ในหัวข้อล้ำๆ อย่าง ไลฟ์, เอิร์ธ, ฟิวเจอร์ และ อินโนเวชั่น ในส่วนของเวที “เอไอเอส อินเดอร์ สเตจ” (AIS INDOOR STAGE) ได้เริ่มขึ้นในเวลาบ่ายสองโมงกับวง เท็น ทู ทเวลฟ์ (Ten to Twelve) ตามด้วย ศิลปินชั้นนำหลากหลายแนวเพลง อาทิ มัสเก็ตเทียร์, อพาร์ทเม้นท์ คุณป้า, ซิกตี้ ไมล์, ศรีราชา ร็อคเกอร์, ชนุดม, เดอ ฟลามิงโก้, สมเกียรติ, โต๋ ศักดิ์สิทธิ์,  และ แนป อะ ลีน ยาวไปจนถึงสองทุ่มเลยทีเดียว

สำหรับเวทีสุดท้าย “ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น เอ้าท์ดอร์ สเตจ” (CHANG MUSIC CONNECTION OUTDOOR STAGE) เวทีที่รวบรวมศิลปินแนวหน้า จากทั่วฟ้าเมืองไทย มาพร้อมเพรียงแสดงโชว์กันอย่างเต็มสปิริต อาทิ แทททู คัลเลอร์, มายด์, สครับบ์, เดอะ โกส แคท, กริซซี่ คาเฟ่, โลโมโซนิค, เดอะ เยอร์ส (The Yers), เฮลเมทเฮดส์, ว่าน ธนกฤต, เดอะ พาร์คินสัน ฟีทเจอริ่ง มาเรียม, แสตมป์ จนทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปีนี้ไลน์อัพโหดมาก!” 

และที่เรียกได้ว่าไฮไลท์สำหรับปีนี้ก็อย่าง น้อย วงพรู และ เราระบาย ที่เวลาเล่นติดกันและเดือดไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะทั้งคู่ก็ล้วนเป็นศิลปินที่หาตัวจับยาก แต่ครั้งนี้ “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์” ได้พาพวกเขามาปลุกอารมณ์ร็อคกันอีกครั้ง ทำเอาแฟนๆ เรียกร้องไม่อยากให้ลงจากเวทีกันยกใหญ่ มากไปกว่านั้น เบน ชลาทิศ ก็มาร่วมโชว์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี แค่นี้ก็พิเศษสุดๆ แล้วยิ่งบวกกับพลังเสียงอันทรงพลังของเบนแล้ว ทำเอาผู้คนที่เดินผ่านไปมาถึงกับหยุดฟังกันแทบทุกคนเลยทีเดียว

ปิดท้ายเวที เอไอเอสอินดอร์ ด้วย ศรีราชา ร็อคเกอร์ ทำเอาชาวเรกเก้ โยกกันเพลิน ร้องเพลงกันลั่นศูนย์การค้า เล่นมันส์ ถูกใจกันไปหลายช็อตเลยทีเดียว และถ้าให้พูดถึงความมันส์แบบสุดๆ แล้วจะไม่พูดถึงวงนี้ไม่ได้เลย กับ โลโมโซนิค ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังจัดโชว์แบบเต็มสูบจนทำเอาเวทีลุคเป็นไฟ ส่วน ว่าน ธนกฤต ก็ไม่ยอมน้อยหน้าขนเอาเพลงฮิตของตนเองมาขับกล่อมซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดไปอย่างล้มหลาม และอีกหนึ่งวงที่เรียกเสียงกรึ๊ดจากแฟนเพลงที่มารอชมกันอย่างเนืองแน่นนั่นก็คือ แทททู คัลเลอร์ ที่มีแฟนเพลงเข้ามารอชมกันแน่นทำเอาลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์แคบไปถนัดตา และ ปิดท้ายกันด้วยวง มายด์ ที่ทำเอาแฟนๆ  ส่งสเต็ปปะทะกันไม่ยั้งเลย เรียกได้ว่า มันส์ดุเดือดไม่แพ้ใครเลยจริงๆ

นอกจาก ฟรีคอนเสิร์ตที่จัดว่าพีคมากแล้ว สายช้อปเสื้อผ้าแนวๆ ก็กระเป๋าฉีกกันไปข้าง เพราะปีนี้บรรดาร้านค้าจาก ชีส มาร์เก็ต (Cheeze Market) ขนไอเท็มโดนใจมาปล่อยให้ลึ่ม ทำเอาขาช้อปเดินกลับบ้านฟินๆ แบบตัวเบา กันไปถ้วนหน้า ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้มีผู้ร่วมงานคับคั่ง ทำให้เกิดกระแสตอบรับดีมากสำหรับกิจกรรมใหม่อย่างบูธของ เวิร์คช็อปงานศิลปะ รวมถึง การจัดขายของที่ระลึกของ กลุ่ม เฮลป์ คลับ (Help Club) ‘มูลนิธิเตียง จิราธิวัฒน์’ และ เซ็นทรัล กรุ๊ป (Central Group) เพื่อนำเงินไปพัฒนาโรงเรียนในชนบท ช่วยเหลือเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ และยกขบวนศิลปินจาก ค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ ไปทำกิจกรรมมอบของขวัญสร้างรอยยิ้มให้กับเยาวชนในต่างจังหวัดต่อไป นับได้ว่า “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์” เป็นพื้นที่หลอมรวมของเหล่าคนรักเสียงเพลง ซึ่งพ่วงไปด้วยศิลปะ แฟชั่นและ สิ่งแวดล้อม จนสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน ไปเติมเต็มสังคมกันต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุดเลยทีเดียว

“เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์” เทศกาลดนตรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ดนตรี... ใครไม่อยากพลาดงานดีๆ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เสพดนตรีฟรี ทั้งยังทวีความสนุกแบบไม่มียั้ง ซึ่งจัดขึ้นเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น! สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและอัพเดทกิจกรรมต่างๆของ “เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์” ในปีต่อๆ ไปได้ทาง เฟสบุ๊คของทาง Melody of life และ Spicy disc