How to be a DIVA: วิมานดิน ของ นันทิดา แก้วบัวสาย
เมื่อ 1 เมษาที่ผ่านมามีคอนเสิร์ตครอบรอบ 40 ปีของ diva แถวหน้าวงการเพลงไทย นันทิดา แก้วบัวสาย หรือ (หม่า)มี้ตู่ คุณแม่ในดวงใจของใครหลายคน คอนเสิร์ตนี้มาพร้อมกับ album ใหม่ “นันทิดา’17”
แม้ว่ามี้ตู่จะมีเพลงใหม่ แต่เชื่อว่าคนไทยแทบทุกคน(ที่เกิดทันหรือรู้จัก)จะจำมี้ตู่ได้จากเพลงวิมานดิน (ความดังของเพลงอยู่ในระดับเดียวกับขอใจเธอแลกเบอร์โทร) เรียกว่ารออีกไม่กี่ปีเพลงนี้ก็น่าจะได้ขึ้นแท่นเป็นเพลงอมตะเทียบเท่ากับเพลงของสุนทราภรณ์แล้ว อย่างไรก็ดี ถ้าเราจะร้องเพลงนี้ เราต้องสร้างวิมานจากดินขึ้นมาจริง ๆ ประหนึ่งสร้างบ้านดินหรือไม่ มาดูกัน
คลิกฟังเพลง วิมานดิน - นันทิดา แก้วบัวสาย
ทำความรู้จักเพลง:
วิมานดิน เพลงจาก album “ขอเป็นคนหนึ่ง” ปี พ.ศ. 2535 เพลงบัลลาดไพเราะคลอเสียงเครื่องสาย (จากคีย์บอร์ด) และเป็นเพลงที่ผู้ใหญ่มักจะเลือกร้องกันในงานเลี้ยงมากที่สุดเพลงหนึ่ง (สูสีกับ แพ้ใจ ของ ใหม่ เจริญปุระ กับ ครึ่งหนึ่งของชีวิต ของ แอม เสาวลักษณ์) อาจเป็นเพราะเพลงนี้ดูง่าย ร้องสบาย ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ บางคนถึงขั้นว่าเป็นเพลงสิ้นคิดประหนึ่งกะเพราไข่ดาว คือคิดเพลงร้องไม่ออกก็จะจบด้วยเพลงนี้เป็นส่วนใหญ่
เพลงนี้มีคำร้องงดงาม เนื้อหากินใจ กล่าวถึงความรักความปรารถนาดีของใครสักคนที่จะมอบให้กับอีกคน เป็นความรักที่ทะนุถนอม โอบกล่อมไว้ในอ้อมแขน ละมุน อบอุ่น เป็นความรักที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ ถ้าตีความบริบทว่าเป็นแม่ร้องเพลงนี้ให้ลูกจะเห็นภาพชัดมากขึ้น
จะร้องเพลงนี้อย่างไร:
เพลงนี้ดูเหมือนง่าย ไม่มีอะไร แต่ความดูเหมือนไม่มีอะไรนี่สิที่จะวัดกันว่าใครร้องเพราะหรือไม่เพราะ สิ่งสำคัญในเพลงนี้ ต้องร้องละมุน อบอุ่น โลกสวย (แต่ไม่ละมุนถึงขั้นเสียงลมแบบลุลา) ร้องให้ตรงจังหวะและคำชัด ไม่ต้องเล่นคำเล่นเสียงอะไรทั้งนั้น เพราะคนแต่งเขาออกแบบมาดีแล้ว อาจเป็นด้วยความไปเรื่อย ๆ ของเพลงนี่เองที่ทำให้คนรู้สึกว่าเพลงนี้ก็ชิลดี
แต่ในความชิลมีความท้าทายซ่อนอยู่ เช่น เปิดขึ้นมาประโยคแรก “ฝากรักเอาไว้” ถ้าไม่ปัง คือ เพี้ยน คำไม่ชัด และอารมณ์ไม่ได้ ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าอีก 4 นาทีกว่าต่อจากนี้มีสิทธิ์วิมานจะพังได้
อันที่จริงเสียงของมี้ตู่เป็นเสียงร้องที่มีความเศร้าอยู่ในตัว คือเสียงไม่ได้สว่างมาก ด้วยวิธีการร้องแบบลงแรงที่เส้นเสียงแลกมากับลูกคอแบบฉบับของมี้ตู่ และด้วยวิธีการร้องแบบนี้ น้ำเสียงของมี้ตู่จึงมีพลังบีบอัดซ่อนอยู่ข้างใน
ถึงได้บอกว่า ต่อให้เพลงนี้จะละมุนแค่ไหน แต่น้ำหนักของเสียงร้องก็จะไม่เบาบาง แปลว่า ความยากของเพลงนี้ คือ ร้องเต็มเสียงยังไงให้ฟังดูรื่นหูและไม่หนักเกินไป อันนี้ก็ต้องพึ่งวรยุทธและแต้มบุญที่สั่งสมของแต่ละคนแล้วล่ะ
โดยสรุป:
จะร้องเพลงนี้ให้ดู diva ก็นึกเอาไว้ว่าถ้าวันหนึ่งมีลูก จะร้องเพลงนี้ให้ลูกฟัง ว่าความรักความห่วงใยจากใจของคนเป็นแม่คนหนึ่งมันงดงามแค่ไหน แล้วทุกอย่างจะออกมาดีเอง
แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่าความรู้สึกของการมีลูกเป็นอย่างไร ลองคิดกลับกันว่าถ้าเราจะร้องเพลงนี้ให้คนที่เรารักและปรารถนาดีมาก ๆ เช่น พ่อแม่หรือคนรัก ก็น่าจะได้อยู่ ไม่ใช่ว่านึกไม่ออกว่าความรู้สึกของการมีลูกเป็นอย่างไร ก็เลยจะไปหาใครสักคนมาช่วย...แบบว่า...ทำให้มีลูก...นะ บอกก่อน
STORY : หนึ่งเดียว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก FB GMM Grammy Official