กอล์ฟ-พิชญะ ในวันที่ได้พิสูจน์ความสามารถที่มีมากกว่าหน้าตา
วัยทำงานอย่างเราๆ ต้องเคยผ่านช่วงที่เป็นวัยรุ่น ตามกริ๊ดตามชอบนักร้องในดวงใจกันมาบ้าง และเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักคู่ดูโอพี่น้องสุดฮอตอย่าง กอล์ฟ-ไมค์ แน่นอน ทั้งรูปร่างหน้าตา และเพลงที่โดนใจวัยรุ่น ร้องตามกันได้หมดทั้งเพลงเร็วเพลงช้า จึงทำให้กอล์ฟ-ไมค์มีชื่อเสียงไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่ดังไปไกลถึงต่างประเทศ
เวลาผ่านไป เราได้เห็นผลงานของพี่ร้องคู่นี้ในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่นักร้อง แต่เป็นทั้งนักแสดง นายแบบ ดีไซเนอร์ ผู้จัดละคร ไปจนถึงนักธุรกิจที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง อาจจะทำให้เราห่างหาย และไม่คุ้นชินกับภาพที่พวกเขาทั้งคู่จับไมค์ร้องเพลง
กอล์ฟ-พิชญะ ในวันที่ผ่านประสบการณ์ในวงการบันเทิงมากอย่างยาวนาน และทุกรูปแบบ ยังคงไม่เคยลืมความรักในการร้องเพลง เขาก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินจากการเข้าร่วมโครงการ G-Junior เพื่อเป็นศิลปินฝึกหัดในค่าย GMM Grammy เมื่อปี 2545 มีโอกาสได้ขึ้นเวทีร่วมกับศิลปินจากประเทศญี่ปุ่นมากมายหลายท่าน หลายเวที และได้เป็นศิลปินเปิดร่วมกับน้องชาย ไมค์-พิริชต์ ให้กับพี่เบิร์ด-ธงไชย ในคอนเสิร์ต ฟ. แฟน Fun Fair ในปี 2547 และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ถูกเชิญให้ร่วมร้องเพลงกับศิลปินญี่ปุ่นค่ายยักษ์ใหญ่อย่างจอห์นนีส์ และได้ร้องเพลงดัง “Epilogue” ของ ทักกี้ & ซึบาสะ จนสื่อมวลชนญี่ปุ่นเรียกพวกเขาว่า “ไทยจูเนียร์”
คลิกเพื่อฟังเพลงของ กอล์ฟ ไมค์
กว่า 4 ปีที่ กอล์ฟ-ไมค์ จะได้มีผลงานเป็นของตัวเองครั้งแรก กับซิงเกิลป็อปแดนซ์ “Bounce” ทำเอาวัยรุ่นไทยกริ๊ดกร๊าด และชื่นชอบในความสามารถทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งความสามารถทางด้านกีฬาบาสเก็ตบอลที่พวกเขานำมาใช้ประกอบมิวสิควิดีโอ นอกจากนี้เพลงของกอล์ฟ-ไมค์ ก็เป็นที่ถูกใจแฟนเพลงเป็นอย่างมาก ทั้ง “เรื่องเล็กของเธอ" "ตลกดี" "อย่าเล่นแบบนี้" และ "Epilogue" โดย จอห์นนี่ คิตะกาว่ามอบเพลง "Epilogue" เป็นของขวัญในอัลบั้มแรกของกอล์ฟ-ไมค์ ได้ร้องเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย
หลังจากนั้น กอล์ฟ-ไมค์ ก็แทบจะเป็นทูตเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นกลายๆ เพราะหลังจากเดบิวต์ ก็ยังได้ร่วมงานกับศิลปินจากญี่ปุ่นเรื่อยๆ และได้ออกอัลบั้มเป็นภาษาญี่ปุ่นในปี 2550 ด้วย
แม้ว่ากอล์ฟ-ไมค์จะมีผลงานเพลงออกมากมาย และได้ร่วมงานกับศิลปินญี่ปุ่น จากค่ายยักษ์ใหญ่ก็หลายครั้ง แต่สำหรับกอล์ฟ แล้ว (หรืออาจจะไมค์ด้วย) ยังมี “ความกลัว” ที่เขายังอยากจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ผ่านคำวิพากษ์จารณ์ของใครหลายๆ คนที่มองว่าเขาเป็นศิลปินได้เพียงเพราะ “หน้าตา” เขาจึงกลับมาเผชิญกับสิ่งที่เขากลัว และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เขาเป็นศิลปินตัวจริง เสียงจริง ที่มีความสามารถในการร้องเพลง และยังไม่เคยลืมว่าเคยรักการร้องเพลงมากแค่ไหน
คลิกเพื่อฟังเพลงของ กอล์ฟ พิชญะ
กอล์ฟ เลือก “แมงมุม” เป็นสัญลักษณ์ของความกลัว ที่เขาเคยเจอแมงมุมยักษ์มีพิษสมัยเด็กตกใส่หัว จนทำให้เขากลัวแมงมุมมากนับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงเลือกที่จะสวมบทบาทเป็นหน้ากากแมงมุม เพื่อเผชิญกับความกลัวในจิตใจว่าเขาจะยังทำได้ไหม ยังร้องเพลงให้ทุกคนชื่นชอบได้อยู่อีกหรือไม่ และสามารถพิสูจน์ความสามารถในการร้องเพลงให้ทุกคนได้เห็นได้หรือเปล่า
แม้ในวันนี้เขาจะไม่ได้เป็นผู้ชนะ แต่บอกได้เลยว่าเขาก็ไม่ใช่ผู้แพ้
เพราะ กอล์ฟ-พิชญะ พิสูจน์ให้เราทุกคนได้เห็นความสามารถที่แท้จริง มองข้ามหน้าตา และภาพลักษณ์ของเขาไปได้อย่างแท้จริง กอล์ฟยังคงเป็นศิลปินที่ไม่ว่าจะจับไมค์ร้องเพลงเมื่อไร เขาก็ยังคงเป็นนักร้องขวัญใจชาวไทยทุกคนอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม