"เต้น นรารักษ์" จากเด็กที่โลกลืม สู่ชีวิตที่เกินฝัน!
หลังจากที่คว้าแชมป์และชนะใจแฟนรายการ Mic idol เมื่อปี 2551 นักร้องสาวเสียงทรงพลังอย่าง เต้น นรารักษ์ ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินหญิงที่มีผลงานเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเพลง นอนไม่หลับ, เสี่ยงเหลือเกิน, ของหายอยากได้คืน และอีกหลายๆบทเพลง และล่าสุดเธอก็ได้แวะมาเยี่ยมทีมงาน Sanook! Music เพื่อเล่าถึงผลงานเพลงใหม่ ด้านได้อายอด และ เสื่อม รวมถึงประสบการณ์ในวงการที่ผ่านมาให้ทีมงานฟังด้วย
เพลง ด้านได้อายอด กับเพลง เสื่อม มีจุดเริ่มต้นอย่างไร
เต้น นรารักษ์ : ทั้งสองเพลงจะมาจากโปรเจ็ค The Ladies รู้ทันผู้ชาย รู้ใจผู้หญิง ซึ่งจะพูดถึงมุมมองผู้หญิงหลายๆรูปแบบ เพลง ด้านได้อายอด จะพูดถึงมือที่สาม ที่เข้ามาแย่ง ก็จะถูกใจคนที่มาทีหลัง หลายๆคน ส่วนเอ็มวีก็จะดุเดือดพอสมควร และรอเพลงต่อไป ส่วนเพลงส่วนก็เป็นฝ่ายคนโดนแย่ง ที่ด่าทั้งเพลง ตั้งแต่ต้น เป็นเพลงที่เตือนสติคนที่ทำผิดศีลธรรม เรื่องราวก็จะต่อกัน
กลับมาครั้งนี้รู้สึกประหม่าบ้างไหม
เต้น นรารักษ์ : ไม่ประหม่านะคะ ตื่นเต้นมากกว่า คืออยากทำงาน อยากร้องเพลง ดีใจที่ได้ทำงาน ได้เจอสื่อเจอวิทยุ คือชอบค่ะ รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าค่ะ
เต้นมีส่วนร่วมอย่างไรกับเพลงนี้บ้าง
เต้น นรารักษ์ : ในเพลงพี่ตุ๊ก นนธวรรณ และพี่เหวินทีมเพลง ก็ทำมาถูกใจแล้ว และได้คุยว่าชีวิตเต้นเป็นอย่างไร ก็คิดว่าเราไม่เคยทำเพลงเกี่ยวกับคนที่มาแย่งเลย ก็เลยเป็นเพลง ด้านได้อายอด คนก็ตกใจว่าทำไมเต้นมาร้องเพลงแนวนี้
ในเอ็มวีนี้ก็ได้ ท็อป จรณ, จั๊กจั่น และ โยเกิร์ต มาร่วมแสดงบทนำด้วย ทำงานกับนักแสดงทั้งสามเป็นอย่างไรบ้าง
เต้น นรารักษ์ : พี่มะเดี่ยวผู้กำกับเอ็มวีเป็นคนเลือกมา ก็ถูกใจ เพราะพี่จักจั่นก็เห็นมานาน ส่วนท็อปก็หล่อ (หัวเราะ) เล่นเก่ง โยเกิร์ตก็เก่ง
มิวสิควีดีโอตัวนี้ ทางทีมงานก็เลือกหยิบเรื่องราวในโรงพยาบาล มาทำเอ็มวี เต้นรู้สึกกังวลไหมว่าจะมีกระแสวิจารณ์ในจุดนี้
เต้น นรารักษ์ : ตอนแรกไม่คิดนะคะ เพราะมันเป็นความบันเทิง เรามองเป็นแบบนั้น แต่พอดูยูทูป ดูกระแสต่างๆ ก็เริ่มมีคนพูดถึงจรรยาบรรณ พยาบาล พอมาคิดอีกมันก็คือความบันเทิงอะคะ เราต้องใช้วิจารณญาณ
กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้างกับสองซิงเกิ้ลนี้
เต้น นรารักษ์ : ดีมากค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่ากระแสส่วนใหญ่ไม่วิจารณ์แง่ลบ จะมองว่ามันเป็นความบันเทิง ซึ่งเราก็ดีใจมาก ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ดูเอ็มวี และรอดูภาคต่อ คือเพลง เสื่อม ก็ 1 วัน 1 ล้าน คือดีมากเลย
ทั้งสองเพลงนี้ก็เป็นเรื่องจริงของผู้หญิงหลายๆคน มีอะไรอยากฝากถึงคนที่เจอเรื่องราวแบบในเพลงบ้างไหม
เต้น นรารักษ์ : ถ้าคนที่เป็นมือที่สาม คือคิดว่าเขาน่าจะรู้ว่าอะไรไม่ดี แต่ในความคิดตอนนั้นคงเป็นอะไรชั่ววูบ แบบ “ฉันจะเอา!” แต่จริงๆ คุณจะรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นมันไม่มีความสุขเลย หลายคนที่สงสัยว่า เต้น ออกเพลงสนับสนุนมือที่สามเหรอ จริงๆคือไม่ใช่ ออกแนวประชดว่าคนเป็นมือที่สามต้องมีความด้านระดับหนึ่ง อยากสื่อแบบนั้น ส่วนฝ่ายที่ถูกโดนกระทำ ก็อยากขอบคุณเมียหลวงทุกคนที่ชอบเพลงเรา (หัวเราะ) คือคนที่โดนแย่งไม่ต้องทำอะไร อยู่สวยๆไว้ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆค่อยก้าวออกมา
ผลงานเพลงของเต้น ก็มักจะเป็นซิงเกิ้ลที่สะท้อนความรักในยุคปัจจุบัน คุณเต้นมีทัศนคติอย่างไรกับความรักคนในยุคนี้
เต้น นรารักษ์ : สมัยนี้หารักที่อยู่นานๆ ยากมาก บางคน 1 อาทิตย์ก็เปลี่ยนคนแล้ว บางคนเปลี่ยนเดือนก็มากับคนใหม่แล้ว เต้นว่าความรักแบบนานๆ หรือคนใจเย็นมันน้อย ถ้าคบใครเราต้องใจเย็นมาก ถึงจะอยู่ด้วยนาน
ปกติเราจะเห็นต้นมากับเพลงรัก เนื้อหาเข้มข้น มีเพลงแนวไหนที่เราอยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำบ้าง
เต้น นรารักษ์ : จริงๆชอบเพลงแง่บวก เพลงให้กำลังใจ เพลงเพื่อชีวิตชอบมาก เพลงสนุกก็อยากทำ เคยมีเพลงสนุกอยู่เพลงเดียว และไม่ดังด้วย (หัวเราะ) ก็อยากลองทำอีก
ในปัจจุบันนี้การประกวดร้องเพลงก็มีแนวใหม่ๆมาเยอะมาก ทั้งเปลี่ยนวิธีการให้คะแนน หรือการให้คนที่ดังอยู่แล้วมาประกวด เต้นคิดอย่างไรกับรายการใหม่ๆในยุคนี้
เต้น นรารักษ์ : อยากไปบ้าง (หัวเราะ) คืออย่างดาราศิลปินก็อยากไป มันน่าตื่นเต้นและมันเจ๋ง บางคนหายไปแล้วก็กลับมาได้ เราก็อยากไปเผื่ออยากดังขึ้นอีก ล่าสุดมีศิลปินคนนึงร้องเพลงใน The Mask Singer ไปร้องเพลง หลายคนก็มาถามว่าเป็นเราหรือเปล่า ส่วนรายการอื่นๆก็ดีค่ะ เป็นการเปิดโอกาส เพราะตอนเด็กๆเราไม่มีอะไรแบบนี้ คือถ้าเราอยู่สมัยนี้ ก็คงไปหลายเวที คงได้ค่าตัวเยอะ คือได้ค่าโชว์ตัวนะ ไม่ใช่รางวัล (หัวเราะ)
ย้อนไปในอดีต คุณเต้นเองก็เจอวิกฤตชีวิตหลายๆอย่าง คุณมีแนวคิดในการเอาชนะอุปสรรคอย่างไร
เต้น นรารักษ์ : ปัญหามันมาได้ก็ไปได้ แต่เราต้องทำให้ดีที่สุดต้องเชื่อมั่นในตัวเอง อย่างเราจะไปจุดไหน แบบไปสุทธิสาร แต่มีฝนตก ถ้าเราเดินไปเรื่อยๆ มันอาจจะเปียก แต่ก็ถึงแน่นอน
จากวันนั้นที่ประกวด ไมค์ไอดอล จนมาถึงวันนี้ที่คุณอยู่วงการมา 10 ปี ตอนนั้นคุณคิดไหมว่าเราจะมาได้ถึงจุดนี้
เต้น นรารักษ์ : ไม่คิดเลยค่ะ คือถ้ามาได้ไกล หรือไปได้ไกลกว่านี้จะดีมาก คือไม่คิดว่าจะได้ทำอัลบั้ม แค่ได้ประกวดร้องเพลงของแกรมมี่ก็ดีแล้ว แต่ประกวดเสร็จมีเพลงเลย ก็เซอร์ไพรส์ค่ะ
ยุคนี้นอกจากเวทีประกวดแล้ว ศิลปินก็สามารถเข้าวงการผ่านการเป็นเน็ตไอดอล หรือทำเพลงเองลงยูทูปด้วย คิดอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนี้
เต้น นรารักษ์ : มันเป็นการเปิดโอกาส เพราะบางคนออดิชั่นประกวดไม่ได้ แต่ก็มีที่ให้แสดงผลงาน เราเองก็ชอบดูและติดตามหลายๆคลิป
การเข้ามาของยุคดิจิตอล ก็มีข้อเสียคือทำให้คนซื้อผลงานเพลงน้อยลง คุณเต้นมีวิธีการรับมืออย่างไร
เต้น นรารักษ์ : ในยุคนี้เราต้องขายงานขายโชว์ เพราะการขายเพลงมันยาก ต้องปั่นยอดวิว ทำเพลงและเอ็มวีให้ดีให้คนมาดู คือยอดวิวสูงกระแสก็ดี งานก็จะเยอะ แต่ถ้าจะให้ดี โหลดของแท้จะดีมากค่ะ(หัวเราะ)
ตลอดเวลา 9 ปี ในวงการ คุณเต้นคิดว่าอะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดของวงการเพลงไทย
เต้น นรารักษ์ : ความเป็นส่วนตัวน้อยลงมากค่ะ แต่ชอบนะคะ(หัวเราะ) ชอบให้คนมายุ่งกับชีวิต มีคนมาทักทาย เพราะใครที่เห็นประวัติเต้นจะรู้ว่า เราเป็นเด็กที่โลกลืม คนมองไม่เห็นเลย แต่เดี๋ยวนี้ไปเดินเซเว่นไปห้างก็มีคนทักทาย มีคนถ่ายรูป คือเราชื่นใจมาก เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ที่ผ่านมาวงการเพลง ให้อะไรกับคุณบ้าง
เต้น นรารักษ์ : ให้เงินและอาชีพที่เลี้ยงได้ทั้งครอบครัว ปลดหนี้ให้แม่ ส่งน้องและหลานเรียน ทุกวันนี้ก็ส่งอยู่ คือให้ประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี แต่รวมแล้วมันก็ดีมาก ให้เราเป็นคนเข้มแข็ง มีปัญหาอะไรก็ผ่านไปได้ง่าย
สุดท้ายนี้ อะไรคือเป้าหมายสูงสุดในการเป็นศิลปินของคุณเต้น
เต้น นรารักษ์ : การได้ร้องเพลงเรื่อยๆทุกวันนี้ คือเป้าหมายสูงสุดแลัวค่ะ คือก็อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่และอยากดังกว่านี้ แต่จริงๆที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้ว คือการเป็นนักร้องแบบนี้ แต่ถ้าไปได้มากกว่านี้ก็ดีค่ะ แต่ตอนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
เรียกได้ว่าถึงแม้จะอยู่ในวงการมาหลายปี แต่สาวเสียงทรงพลังอย่าง เต้น นรารักษ์ ก็มีพัฒนาการและการเติบโตที่ไม่หยุด ไม่ว่าจะผลงานเพลงและตัวตนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งแฟนๆสามารถติดตามเพลงของเต้นได้ที่ JOOX และ Sanook! Music รวมถึงติดตามเรื่องราวชีวิตและผลงานโปรเจ็คใหม่ๆได้ที่ Instagram Tennararak ได้เช่นกันครับ
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ