Phoenix Live in Bangkok 2017 เจอกัน 17 ส.ค. นี้ | Sanook Music

Phoenix Live in Bangkok 2017 เจอกัน 17 ส.ค. นี้

Phoenix Live in Bangkok 2017 เจอกัน 17 ส.ค. นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าจะได้เห็นวงนี้มา Live in Bangkok กับเขาด้วย แต่มันก็เป็นไปแล้ว ด้วยฝีมือของผู้จัด Have You Heard? ที่เพิ่งพา Mew กับ Cigarettes After Sex มาให้ชาวอินดี้ได้สนุกกันไปหมาดๆ  หลังจากประกาศวันเล่นคอนเสิร์ตให้สาวกเริ่มเก็บเงินกันได้สักพัก สถานที่ พร้อมราคาบัตรก็ประกาศตามมาทีหลัง คราวนี้แฟนๆ คนไหนพร้อมแล้วก็เตรียมลุยเลย!

ปล. วันคอนเสิร์ตเดียวกันกับ Ariana Grande Live in Bangkok 2017 เลยนะ แฟนฝั่งดิว่าก็ไปทางโน้น แฟนฝั่งอินดี้ร็อคก็มาทางนี้ละกัน

 

18700838_1362098600540129_164

SINGHA LIGHT Live Series Vol 2.4 - Phoenix

วันที่ : 17 ส.ค. 2017

สถานที่ : Moonstar Studio

ราคาบัตร : Phase I 2,500 / Phrase II 2,700 / Phrase III 3,000 บาท

วันจำหน่ายบัตร : 30 พ.ค. 17 เวลา 10.00 น.

 

 

Phoenix วงร็อคจากฝรั่งเศสตั้งแต่ยุค 90s’ ที่ร้องเพลงภาษาอังกฤษด้วยสำเนียง น้ำเสียง และดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบไปด้วย Thomas Mars (ร้องนำ), Deck d'Arcy (เบส/คีย์บอร์ด), Christian Mazzalai (กีต้าร์) และ Laurent Brancowitz (กีต้าร์/คีย์บอร์ด) (สังเกตเห็นอะไรไหม วงนี้ไม่มีมือกลองนะ เวลาทัวร์ก็จะมี Thomas Hedlund มาเป็นมือกลองที่มาเฉพาะช่วงทัวร์อย่างเดียว)

Phoenix เริ่มต้นเล่นดนตรีด้วยกันเหมือนกับหลายๆ วง คือเล่นกันที่โรงรถของบ้าน Thomas Mars ที่ปารีสกัน 3 คน คือ Thomas, Deck และ Christian จนราวๆ ปี 1995 Laurent ก็มาร่วมวงด้วยอีกคนหลังจากที่วง Darlin’ ของเขาแยกตัวกันไป (ซึ่งสมาชิกอีก 2 คนที่อยู่วงนี้ด้วยกัน คือ Thomas Bangalter และ Guy-Manuel de Homem-Christo ที่ออกไปทำวง Daft Punk ปรมาจารย์เพลงอิเล็กโทรแดนซ์นั่นเอง เริ่มเห็นถึงความเก๋ของวงนี้บ้างหรือยังล่ะ)

ในปี 1997 สมาชิกของวงได้ตั้งชื่อวงว่า Phoenix แล้วจำหน่ายแผ่นเพลงของตัวเองมากกว่า 500 แผ่นภายใต้ค่ายเพลงของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า Ghettoblaster จนกระทั่งภายหลังมีโอกาสได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินภายใต้ค่ายเพลงของฝรั่งเศสชื่อว่า Source Records และหลังจากนั้น Phoenix กับวงดนตรีร่วมค่าย Air ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากได้แสดงเป็นวงดนตรีแบ็คอัพในหลายๆ รายการทีวีของอังกฤษ

หลังจากนั้นเพลงของ Phoenix ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนเพลง alternative มากขึ้น ทั้ง Too Young ที่นำไปใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Lost In Translation (กำกับโดย Sofia Coppola ภรรยาในอนาคตของ Thomas Mars นักร้องนำ) และเรื่อง Shallow Hal หรือเพลง Everything Is Everything และ Run Run Run สามารถขึ้นไปสู่อันดับสูงๆ ในหลายๆ ชาร์ตเพลงอัลเทอร์เนทีฟทั่วยุโรป หรือว่าจะเป็นเพลง Victim of the Crime เพลงมิกซ์พิเศษที่ถูกหยิบไปใช้ประกอบแฟชั่นรันเวย์ของ Dior Homme ด้วย

 

คลิกเพื่อฟัง Phoenix อัลบั้ม Wolfgang Amadeus Phoenix

wolfgangamadeus

 

หนึ่งในอัลบั้มที่แฟนเพลง Phoenix ชื่นชอบ และเริ่มทำให้ Phoenix เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น คืออัลบั้ม Wolfgang Amadeus Phoenix กับค่ายเพลง Glassnote Records ที่มีเพลงดังอย่าง Lisztomania” “Lasso” “1901” และ Girlfriend”  โดยเพลง 1901ถูกเปิดระหว่างการแข่งขัน Super Bowl XLV ที่อเมริกา และขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot Alternative Songs ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้อัลบั้มนี้ของ Phoenix ได้รับรางวัล Best Alternative Music Album จากเวที Grammy Awards 2009 ไปครอง

Phoenix กลับมาอีกครั้งในปี 2011 กับอัลบั้ม Bankrupt! โดยมีซิงเกิลเปิดตัวแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อค/ซินธ์ป็อบเก่าๆ อย่าง Entertainment ให้อารมณ์ออกแนวเอเชียนิดๆ เหมือนตัวมิวสิควิดีโอ โดยสมาชิกบอกว่าเป็นแนวดนตรีแบบใหม่ที่พวกเขาอยากลองทำกัน มีเพลงเจ๋งๆ อย่าง Trying To Be Cool” “S.O.S. in Bel Air” “Drakkar Noir” และ Chlorofrom รวมอยู่ด้วย

ปี 2017 พวกเขากลับมากับอัลบั้มใหม่ Ti Amo ที่กำลังจะวางขายในวันที่ 9 มิ.ย. 17 นี้ โดยปล่อยซิงเกิลแรกออกมาให้เราฟังกันแล้วอย่าง J-Boy ต่อด้วยซิงเกิลที่ 2 “Ti Amo” ชื่อเดียวกับอัลบั้ม ถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบของ Phoenix ในรอบ 4 ปี พร้อมทัวร์คอนเสิร์ตเอเชียที่มีบ้านเราด้วย กว่า 18 ปีในวงการดนตรี คงบอกได้ว่า Phoenix เป็นวงคุณภาพขนาดไหน อย่าลืมไปดูกันนะ

 

คลิกเพื่อฟัง Phoenix – J-Boy

j-boy

 

คลิกเพื่อฟัง Phoenix – Ti Amo

tiamo

 

____________________

Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook