Kiseki บทเพลงแห่งปาฏิหาริย์ของวงดนตรีที่ไม่เผยหน้าตากว่า 10 ปี
วันที่ 15 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ภาพยนตร์เรื่อง KISEKI : Sobito of that day หรือในชื่อไทยคือ 4 ทันตะ หัวใจดนตรี จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของวงดนตรีวงหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยหน้าตามาเป็นเวลากว่า 10 ปี!!!
และวงดนตรีที่ว่านี้ก็คือ วง Greeeen (กรีน)
โลโก้ของวง ของแท้ต้องมี e เรียงกัน 4 ตัว แทนสมาชิกทั้ง 4 ของวง และคำว่า Greeeen เรียงกันเป็นรูปรอยยิ้มแบบยิงฟัน สื่อถึงอาชีพของสมาชิกวง คือ หมอฟันนั่นเอง
สมาชิกวง GReeeeN ทั้งสี่คนมีชื่อในวงการคือ HIDE (ฮิเดะ-หัวหน้าวง) NAVI (นาวิ) 92 (คุนิ) SOH (โซ) และมีโปรดิวเซอร์ชื่อ JIN ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆของฮิเดะหัวหน้าวงนั่นเอง โดยสมาชิกทั้งสี่คน เกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นหมอหมดทุกคนเลย ทุกคนจึงตัดสินใจที่จะเรียนเป็นทันตแพทย์ ซึ่งทั้งสี่คนพบกันในคณะทันตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัด ฟุคิชิม่า และหลังจากนั้นก็มาฟอร์มวงร่วมกัน
ภาพสมาชิกวงจากในภาพยนตร์ (จากซ้ายไปขวา : 92(คุนิ) HIDE (ฮิเดะ-หัวหน้าวง) NAVI (นาวิ) และ SOH(โซ)
ทั้ง 4 คน และ Jin โปรดิวเซอร์ร่วมกันทำเพลงเองทั้งหมดทุกขั้นตอน และได้มีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตตามไลฟ์เฮ้าส์ และคอนเสิร์ตท้องถื่น จนในที่สุดทางวงจึงตัดสินใจส่งเดโมไปให้ค่ายเพลงเล็ก ใหญ่มากมาย จนได้รับการตอบกลับมา แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้การเป็นนักร้อง มากระทบการทำงานเป็นทันตแพทย์ในอนาคต ทางวงจึงเสนอเงื่อนไขไปว่า จะขอปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้ ไม่ไปออกรายการทีวี ไม่สัมภาษณ์นิตยสารอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะเรียนจบ บรรดาค่ายเพลงต่างๆที่ติดต่อมา พอได้ยินเรื่องเงื่อนไขนี้ ต่างก็เหวอกับข้อเสนอนี้กันทั้งนั้น แต่มีค่ายเพลงเดียวเท่านั้น ที่ยอมรับเงื่อนไขนี้ นั่นก็คือ Universal Music Japan (ซึ่งทางวงได้เซ็นสัญญาในปี 2007) และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Greeeen ได้เดบิวน์กับค่ายเพลงนี้
และในปี 2017 นี้ทางวงก็จะมีอายุครบ 10 ปี ทางวงจึงตัดสินใจที่จะให้สัมภาษณ์และจัดคอนเสิร์ตขึ้น นั่นแสดงว่าทางวงจะต้องเปิดเผยตัวตนใช่หรือไม่ !!!
คำตอบคือ ไม่ใช่ สุดท้ายทางวงก็มีวิธีที่น่ารักๆและสุดล้ำในการคงคอนเซปของตัวเองเอาไว้นั่นก็คือ การใส่ชุดแบบตัวมาสค็อตมาออกรายการให้สัมภาษณ์ ส่วนเวลาที่แสดงคอนเสิร์ตนั้นทางวงก็ใช้เทคโนโลยี โมชั่น แคปเจอร์ ( Motion Capture ) ในการจับการเคลื่อนไหวท่าทางและฉายภาพขึ้นจอบนเวทีแทน ช่างสุดยอดอะไรเช่นนี้
และเหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ชื่อว่า Kiseki นั่นก็เป็นเพราะว่า Kiseki (อันแปลว่า ปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นความหมายที่เข้ากันกับเส้นทางชีวิตของสมาชิกวง) เป็นบทเพลงที่ถือได้ว่าโด่งดังที่สุดของ Greeeen เลยก็ว่าได้
Kiseki เป็นซิงเกิลที่ 7 ของทางวงซึ่งปล่อยออกมาในปี 2009 ซึ่งเพลงนี้ได้ขึ้นอันดับหนึ่งของทุกชาร์จ ในญี่ปุ่น ยอดขายห้าแสนกว่าแผ่น ยอดดาวน์โหลดหลายล้าน และได้ถูกนำมาเป็นเพลงประกอบซีรีย์เรื่อง Rookies ที่สร้างมาจากมังงะชื่อดังอันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬาเบสบอล ความดังของการ์ตูน ซีรีส์ บวกกับความน่ารักและอบอุ่นของเพลงและมิวสิควีดิโอของเพลงนี้ที่เล่าเรื่องราวความรักของคนในครอบครัวและคนในวัยต่างๆได้อย่างงดงาม จึงทำให้เพลงนี้ประสบความสำเร็จราวปาฏิหาริย์
ซีรีย์เรื่อง Rookies
ความหมายของเพลงนี้ช่างอบอุ่นและงดงามยิ่งนัก เป็นบทเพลงที่ส่งผ่านความรักที่อ่อนโยนและความรู้สึกขอบคุณ ที่เรามีต่อคนรักที่อยู่เคียงข้างเราเสมอมา ก่อเกิดเป็นความรักที่เรารู้สึกว่าเป็น “ปาฏิหาริย์” ของชีวิต การที่เราได้พบเจอกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในแต่ละวัน มันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ แต่สำหรับเรามันเป็น “ปาฏิหาริย์”
“พวกเราค้นพบความสุขเล็กๆได้จากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
เส้นทางที่เราเดินผ่านด้วยกันช้าๆนั่นก็เป็น “ปาฏิหาริย์”
การพบเจอกันของเรานั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยบนโลกอันกว้างใหญ่
แต่สำหรับเราก็นับว่าเป็น “ปาฏิหาริย์””
(เนื้อเพลงแปลไทย ที่มา : http://tsukimusaki.exteen.com/20150125/kiseki-greeeen )
น้องเกลจาก Thailand’s Got Talent ยังเคย cover เพลงนี้มาแล้ว
หากใครที่ชื่นชอบบทเพลงป็อปในสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึก สดใส อบอุ่น Greeeen เป็นอีกวงหนึ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง และภาพยนตร์เรื่อง Kiseki : Sobito of That Day หรือ 4 ทันตะ หัวใจดนตรี ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของวงดนตรีวงนี้ก็ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกัน เพราะเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคนได้เลยทีเดียว
source :