รำลึก 8 ปีที่จากไป Michael Jackson ในความทรงจำของทุกคน
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเข้าปีที่ 8 แล้วสำหรับการจากไปของราชาเพลงป็อบ Michael Jackson เรื่องราว และบทเพลงของเขายังไม่จางหายไปจากความทรงจำของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะแฟนเพลงที่ยังคงจดจำทุกรายละเอียดของเขาได้อย่างแม่นยำราวกับว่า Michael Jackson ยังเป็นศิลปินที่ยังมีผลงานให้เราติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะผลของเขา และความเป็นตัวของเขาเองมันช่างคลาสสิก และเล่าสู่กันฟังได้ไม่มีวันจบ
เพื่อเป็นรำลึกการจากไปของ Michael Jackson ทีมงาน Sanook! Music จึงนำความประทับใจของเหล่าคนดังที่มีต่อ Michael Jackson มาให้เราได้รู้จักตัวตนของ King of Pop จากความทรงจำของพวกเขากันค่ะ
“รู้จัก Michael Jackson เพราะปกติชอบฟังเพลงอยู่แล้ว ช่วงนั้น Michael Jackson ดังมากๆ เราก็เลยชอบเขามากๆ ไปด้วยเหมือนกับคนทั้งโลก แล้วเราเห็นว่าเขาเก่งจริงๆ แถมยังเก่งรอบด้านอีกด้วย เลยกลับไปดูผลงานเก่าๆ ของเขา ก็เลยเห็นว่าเขาร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่อยู่ในวง Jackson 5 ก็เลยเริ่มรู้สึกว่านี้แหละคือ King of Pop ที่แท้จริง”
“ผมชอบ Michael Jackson เพราะเขามีความมั่นใจในแนวทางของตัวเอง ทั้งในเรื่องของดนตรี ท่าเต้น ทุกผลงานของเขาออกมามีเอกลักษณ์ คนทั่วโลกได้ยิน ได้เห็นก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่า นี่แหละคือ Michael Jackson ตัวจริงเสียงจริง”
“ 'Black and White' เป็นเพลงที่ผมชอบมากที่สุด เพราะส่วนตัวชอบเนื้อหาเพลงนี้อยู่แล้วตั้งแต่เด็ก และเมื่อ 7ปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ร้องเพลงนี้ในคอนเสิร์ต Tribute to Michael Jackson ในเมืองไทย ได้แสดงเพลงนี้ร่วมกับชิน (ชินวุฒิ) มันเป็นช่วงเวลาที่ดีสุด คนกรี๊ดดังมาก แล้วหัวใจเราก็เต้นดังไปด้วย รู้สึกภูมิใจการการแสดงครั้งนั้นของตัวเองสุดๆ ไปเลยครับ”
ทาทา ยัง
“คุณป้าของทาทาท่านอยู่ที่ประเทศแคนาดา ท่านอัดวิดีโอคลิปของ Michael Jackson แล้วส่งจากประเทศแคนาดามาให้ทาทาที่ไทย ตอนนั้นทาทาอายุประมาณ 8-9 ขวบ เป็นรายการ MTV มี Michael Jackson ร้องเพลง ตอนนั้นคุณพ่อและคุณแม่ของทาทาท่านฟังเพลงของ Jackson 5 อยู่แล้ว ทาทาเลยรู้จักตามไปด้วย เลยทำให้ทาทาได้รู้จักกับ Michael Jackson ตั้งแต่เด็กๆ”
“Michael Jackson คือไอดอลของทาทาที่ทำให้ทาทาอยากเป็นนักร้อง ตอนเด็กๆ เวลาที่เราเห็นเขา มันทำให้เรารู้สึกว่าอยากเป็นนักร้อง เหมือนบอกตัวเองเลยว่าทาทาต้องเป็นนักร้อง (หัวเราะ) เพลงแรกของ Michael Jackson ที่ทาทาหัดร้องคือ ‘Man in the Mirror’ ค่ะ”
กอล์ฟ พิชญะ
“ตอนผมเริ่มรู้จัก Michael Jackson ก็ช่วงยุคกลางๆ ของเขาแล้วครับ พี่แบงค์ (พี่ชายกอล์ฟ) ชอบมาก จำความได้คือตอนนั้น น่าจะสัก 10ขวบได้ พี่แบงค์เปิดทีวีที่ห้องรับแขก เป็นวิดีโอคอนเสิรต์ของเขา แล้วเราก็ยืนดูแบบงงๆ เราก็เริ่มรู้จักท่าเต้น moonwalk ตั้งแต่ตอนนั้น แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มซึมซับความชื่นชอบในตัวของ Michael Jackson มาเรื่อยๆ”
“ผมประทับใจในผลงานเขา และเรื่องราวในชีวิตของเขาจากการนั่งดูบทสัมภาษณ์ของเขา คือดูไปดูมาก็น้ำตาไหลกับชีวิตเขา เขาทำงานตั้งแต่เด็กในวง Jackson 5 ซ้อมทุกวันจนเป๊ะ ชีวิตวัยเด็กก็ไม่มี แต่เขาผ่านจุดนั้นมาได้ซึ่งเก่งมากๆ แล้วยังจำได้ว่าเขาเป็นคนที่อ่อนโยนมาก ไม่เคยว่าใครแม้กระทั่งมีคนมาว่าเขาตรงๆ อย่างตอนที่มีแรปเปอร์แต่งเพลงแซวเขาเรื่องจมูกเขายังไม่ว่าอะไรเลย ผมชอบเวลาที่เขาพูดคุยปกติ เขาดูเป็นคนอ่อนโยน เรียบร้อยมาก แต่พอขึ้นเวทีแล้วเหมือนเป็นอีกคน พลังในการแสดงมาเต็ม ทั้งร้องทั้งเต้นเต็มที่”
“ถ้าเอาจริงๆ ผมเลือกไม่ได้เลยนะว่าชอบเพลงไหนมากที่สุด เพราะชอบทุกเพลงเท่าๆ กัน ถ้านอกเหนือจากเพลงที่เขาฮิตๆ กัน ก็จะมีอีกเพลงที่ชอบคือ ‘The Way You Make Me Feel’ เพลงนี้ผมชอบซาวนด์ดนตรี และชอบตอนเขาโชว์สดๆ มีเต้นกับจังหวะกลองที่ยากเพราะต้องจำจังหวะเเม่นมากๆ”
โอ อนุชิต
“หลักๆ แล้วโอประทับใจในตัวของ Michael Jackson จากท่าเต้น รู้สึกว่าท่าเต้นของเขาสวย มิวสิควิดิโอสนุกมาก ไม่ได้เป็นแค่เพลงประกอบภาพธรรมดาๆ แต่เรื่องราวต่างๆ ในนั้นมันสนุกมากครับ อย่าง “Smooth Criminal” “Ghost” ก็ดูจนจบเลย พอโตขึ้น ได้ประสบการณ์แล้วกลับไปดูงานที่เราเคยคิดว่าไม่สนุก กลับกลายเป็นว่ามันดีมาก อย่างมิวสิควิดิโอ “Into the Closet” ที่มี Naomi Campbell มาเล่นให้ โทนสีในวิดีโอสวยมาก และเข้ากับเพลงมากๆ ตัวดนตรีก็คล้ายกับเพลงในยุคปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ออกมาเกือบ 30 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับโอ ไมเคิลคือที่สุดครับ”
“ผมชอบเพลง ‘Smooth Criminal’ ที่สุดเพราะชอบมิวสิควิดิโอเป็นหลัก เป็นเพลงที่จำง่าย ร้องท่อนซ้ำๆ อย่าง ‘Annie are you ok? Annie are you ok?’ เป็นเพลงที่มีคุณสมบัติทุกอย่างที่เพลงฮิตควรจะมี มิวสิควิดิโอก็สุดยอดมาก อย่างท้ายืนต้านแรงโน้มถ่วงนี่ คือวิธีคิดของเขา แค่ยืนตัวเอียงนิดเดียว คิดได้ยังไงว่าทำแบบนี้แล้วคนจะฮือฮา กลายเป็นภาพที่ทุกคนจำได้ ท่าเต้นของไมเคิลทุกท่าก็ไม่ใช่แค่ขยับตัวไปมา ในเพลงนี้ดูเหมือนเป็นมาเฟียอิตาลี เคลื่อนตัวกับสูทที่ดูเท่ มีหมวกปิดหน้า มันดูเท่มาก ผมเลยชอบเพลงนี้มากที่สุดครับ”
แก้ม วิชญาณี
“แก้มรู้จักไมเคิลตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยค่ะ เคยได้ยินว่าเขาเคยมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย และคนดูเยอะมาก แล้วก็รู้จักเพราะเพลงและท่าเต้นของเขาเลย”
“แก้มเชื่อว่าทุกคนประทับใจใน Performance ของเขา ทั้งเสียงร้องของเขา และเพลงของเขาที่ติดหูมาก แต่ละเพลงไม่ได้ยากจนร้องตามไม่ได้ พอร้องตามได้เลยรู้สึกสนุกมากๆ ไปด้วย เพลงช้าก็ซึ้งเป็นเอกลักษณ์มากๆ ค่ะ”
“ถ้าให้แก้มเลือกเพลงที่ชอบที่สุด บอกเลยว่ายากมากค่ะ เพราะชอบหลายเพลงเลย เสียงเขาดีมากๆ ไม่ว่าจะเพลง ‘Ben’ ‘Billy Jeans’ แต่ชอบมากที่สุดก็คงจะเป็น ‘You Are Not Alone’ คือฟังแล้วมันรู้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะ ก็เลยชอบเพลงนี้ เสียงของเขาถ่ายทอดอารมณ์และเนื้อหาของเพลงได้ดีมากๆ จริงๆ แก้มก็ชอบทุกเพลงนะ ถึงเราจะเกิดไม่ทันช่วงยุคแรกก็ตาม แต่ชื่อเขาก็อยู่ตลอดไป เพราะเขาเป็นตำนานจริงๆ”
ฮั่น อิสริยะ
“ผมรู้จัก Michael Jackson ตอนที่จะเริ่มเต้นครับ ถ้าใครที่เต้นจะต้องรู้จักไมเคิลอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นต้นแบบ ต้องบอกว่าเป็นเจ้าพ่อของการเต้นเลย และเป็นตำนานที่ใครๆ ก็จดจำ”
“ผมชอบการทำงานของเขา ที่ค่อนข้างละเอียดในเรื่องของดีเทลต่างๆ เวลาจะขึ้นคอนเสิร์ต คนที่ขึ้นคอนเสิร์ตเขาจะเลือกเองจากการออดิชั่นด้วยตัวเขาเอง ผมว่าเป็นการทำงานที่ละเอียดจริงๆ”
“เพลงที่ผมชอบ ก็จะเป็นเพลง ‘Smooth Criminal’ ที่ทำให้หลายคนรู้จัก Michael Jackson รวมถึงตัวผมเองด้วย เพราะเพลงนี้มีท่าเต้นที่เท่มากๆ และส่วนตัวชอบท่าเต้นแนวนี้อยู่แล้ว”
หนุ่ย พงศ์สุข จาก แบไต๋ไฮเทค แฟนตัวจริงของ Michael Jackson
“ผมเห็น Michael Jackson ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 9 ขวบ หลังจากชมภาพยนตร์ไซไฟอวกาศอย่าง Aliens (ภาค2) ก็มาเห็น MV (ที่ Michael Jackson เรียกว่า Short Film) เพลง BAD ของมาติน สกอร์เซซี่ต่อเลย ก็เลยเข้าใจด้วยระบบสมองของตนเองในวัย 9 ขวบว่า ไมเคิล แจ็คสัน กับ ซิเกอร์นี่ วีเวอร์ (นางเอก Aliens) เป็นบุคคลเดียวกัน ...อ๊าวววว!!!”
“Michael Jackson คือศิลปินระดับ Mega Star ซึ่งจะหาโอกาสเกิดได้อีกยากมากแล้วในยุคนี้ ยุคนั้นทุกสถานีโทรทัศน์เปิด MV ของเขา ทุกสถานีวิทยุเปิดเพลงของเขา เขาเป็นคนที่ทำอะไรเต็มที่ เพลงก็ต้องเป็นเพลงที่เพราะที่สุด ทันสมัยไร้กาลเวลาที่สุด MV ก็ต้องถ่ายทอดเป็นหนังสนุกที่สุด แปลกตาทันสมัยมากสุด และ ‘หยุดโลก’ ได้ทุกครั้งที่แพร่ภาพออกอากาศ”
“คอนเสิร์ตระดับ World Tour ของเขาทำด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ในยุคนั้นไม่มีศิลปินคนไหนที่จะแบกเวทีและอุปกรณ์แสงสีเสียงกระเตงๆ ไปทั่วโลกเหมือนเขา เขาใช้เครื่องบิน 3 ลำ ในการขนส่งฉาก/แสงเสียง/ทีมงาน/เสื้อผ้า/คาราวาน และตัวของเขาเองไปทั่วโลก ในระหว่าง Leg การ World Tour ในสเกลที่ไม่เคยมีมาก่อนเพียงเพราะเขาบอกว่า ‘ผมอยากให้แฟนเพลงทั้งโลกได้เห็นสิ่งเดียวกัน’ และจากสูตรนี้ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินในยุคต่อไปได้มากมายมหาศาล”
“ผมเคยคอบไปแล้วว่า การเลือกเพลงของ Michael Jackson ที่ชอบมากที่สุด เป็นการเลือกที่ยากมาก เพราะผมชอบทุกเพลง ผมฟังเพลงของ Michael Jackson เพลินได้ทุกเพลงโดยที่ไม่ต้องกดข้ามเลย สมองผมเปิดรับเพลงเก่าใหม่ของเขาได้ทุกเพลง ฟังแล้วไพเราะแบบแรกฟัง ผมฟังซ้ำงานทั้งหมดของ Michael Jackson มาเป็นหมื่นๆ รอบตั้งแต่วัยเด็กจนมาถึงวัยนี้ ขึ้น Intro มา 1 วินาทีผมก็บอกได้แล้วว่าเป็นเพลงอะไร ฉะนั้นการตอบว่าชอบเพลงใดมากที่สุดจึงตอบได้ยากกว่าคำถามว่าชอบเพลงใดน้อยที่สุดซึ่งนั่นก็คือ 'Whatever Happens' ที่ Michael Jackson นึกไงไม่รู้ไป Feat. กับ Carlos Santana เลยออกมาเป็นเพื่อชีวิตคาราบาวๆ ซึ่งผมว่ามันผิดที่ผิดทาง”
“แต่เพลงที่ ‘ถูกที่-ถูกทาง-ถูกหู-ถูกอารมณ์’ ที่สุด ฟังเสร็จแล้วอยากออกไปกู้โลก เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและอยากทำดีตลอดเวลานั่นคือเพลง ‘Man In The Mirror’ ซึ่ง Michael Jackson แต่งและร้องไว้ใน BAD และใช้ร้องปิดในโชว์ถึง 2 World Tour ด้วยกัน MV ก็ทำดีมากๆ (เรียกว่า Short Film ได้จริงๆ) และถ้า Michael Jackson ไม่เสียชีวิตไปก่อนออกเดินทางไปลอนดอนเพียง 8 วัน เราก็จะได้เห็นเพลงนี้เป็นเพลงปิดคอนเสิร์ต The Final Curtain Call (รูดม่านชีวิตการเป็นนักร้อง) ใน This Is It ที่สนาม O2 Arena สหราชอาณาจักร”
“เพลง ‘This Is It’ นี้ฟังทีไรก็เศร้ามากและนึกถึงเขาตลอด คิดถึงความดีงามของเขาและอัจฉริยภาพทางดนตรีที่ได้สร้างและวางมาตรฐานไว้ให้โลก เพลงนี้จริงๆแล้ว Michael Jackson ทำงานร่วมกับ Paul Anka ศิลปินรุ่นอาหนิง นิรุตต์ Anka เองหัวเสียไม่น้อยที่ไม่สามารถ Release เพลงนี้ได้ในวัยหนุ่มของไมเคิล (ไมเคิลหนี Quincy Jones มาทำงานกับ Anka เขาศรัทธากันเลยแหวกค่ายออกมา) ด้วยข้อตกลงทางกฎหมายที่พอใจหายโกรธกันทั้ง Sony Music® และ Paul Anka จึงทำให้แทร็ค ‘This Is It’ สามารถ Release ออกมาได้ 3 เวอร์ชั่น 2 เวอร์ชั่นแรกเฉพาะเสียงร้องของ Michael Jackson และคลอด้วยบรรดาพี่ชาย The Jacksons (ที่ไม่ได้บันทึกด้วยในตอนนั้นแต่ได้มาร้องหลังน้องตาย) ส่วนอีก 1 เวอร์ชั่น ผมไม่ได้เพียงอยากให้คุณได้ฟัง ‘This Is It’ ซ้ำสองรอบ แต่เวอร์ชั่นสุดท้ายนี้คุณต้องฟังเพราะมันคือ "Original" แบบที่ Michael Jackson ตั้งใจร้องไว้กับ Paul Anka การนำเสนอเพลงเป็นคนละทิศคนละทางกับความเศร้า มันไม่ใช่บรรยากาศการอำลา แต่เป็นชีวิตชีวาที่ผมอยากให้คุณฟัง”