[Interview] Phoenix เผยชีวิตร็อกสตาร์แสนเรียบง่าย กับ 17 ปีกว่าจะได้มาไทย
“ตื่นเต้นเนอะ”
คำพูดสั้นๆ ระหว่างสื่อที่มองหน้ากัน เตรียมบรีฟคำถามที่จะสัมภาษณ์วงร็อก/ซินธ์ป็อบสุดเก๋จากฝรั่งเศสที่แฟนเพลงชาวไทยรอคอยมาครึ่งชีวิต สุดท้ายวันนี้พวกเราก็ได้คุยกับพวกเขาตัวเป็นๆ เราเป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟน Phoenix มานาน แม้ว่าจะไม่ได้ตามมาตั้งแต่แรก แต่ทันที่ที่ได้รู้จักก็ไปขุดงานเก่าๆ มาฟังเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ก็คิดเอาไว้ว่าคงไม่ได้เจอถ้าไม่เก็บเงินบินไปดูต่างประเทศ หรือไม่แน่วงอาจจะเลิกไปก่อนที่เราจะทันเก็บเงินไปดูได้ แต่วันนี้เราไม่ใช่แค่ได้ดูคอนเสิร์ตระยะประชิด แต่ยังได้สัมภาษณ์ ได้พูดคุยกับพวกเขาใกล้ๆ ไม่ต้องอ่านบทสัมภาษณ์คนอื่น หรือนั่งดูผ่าน Youtube อีกต่อไป
วินาทีแรกที่เห็นสมาชิกทั้ง 4 คน Thomas Mars, Laurent Brancowitz (Branco), Christian Mazzalai และ Deck d'Arcy เดินเข้ามา ทั้งที่เตรียมใจไว้หลายชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงๆ พอได้นั่งสัมภาษณ์ในระยะประชิดไม่เกิน 2 เมตร ความตื่นเต้นก็ถาโถมรัวๆ เหมือนกัน แต่ที่สุดท้ายแล้วการสัมภาษณ์ครั้งนี้จบลงด้วยรอยยิ้มแล้วเสียงหัวเราะได้ ต้องขอบคุณความน่ารักเป็นกันเองของพวกเขาจริงๆ
____________________
มากรุงเทพครั้งแรก บัตรคอนเสิร์ตก็ขายหมดเกลี้ยงเลย รู้สึกอย่างไรบ้าง?
Laurent : พวกเราดีใจมากที่ได้มาที่นี่ เพราะเรารอมา 17 ปีเลยนะกว่าจะได้มา ไม่คิดเลยว่าบัตรจะขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว พวกเราเลยตื่นเต้นกันมากๆ
Thomas : เป็นสัญญาณที่ดีนะ (ยิ้ม)
ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าจะได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย คิดภาพในหัวไว้ยังไงบ้าง?
Thomas : พวกเรามีภาพในหัวที่มันผิดจากความจริงมาก (ยิ้ม) อืมมมมมม อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นยังไง
สื่อ : มีช้างอยู่ทุกที่ อะไรอย่างนั้นไหม? (สื่อหัวเราะ)
Thomas : (ยิ้ม) ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่มาก็วันครึ่ง พวกเราชอบที่นี่มากนะ
ทำไมถึงเลือกชื่ออัลบั้มใหม่นี้ว่า Ti Amo?
สมาชิกพยักเพยิดหน้ากันว่าจะให้ใครเป็นคนตอบ หวยมาลงที่ Laurent
Laurent : Ti Amo เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า I Love You อัลบั้มนี้ก็เต็มไปด้วยเพลงที่พูดถึงความรัก แล้วเราก็ได้แรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มนี้จากประเทศอิตาลี (หยุดพูด ทำท่ายักไหล่ ประมาณว่า ‘ก็ง่ายๆ แบบนี้แหละ’ สื่อมวลชนหัวเราะเสียงดัง) ผมว่ามันก็เพอร์เฟ็คอยู่นะ (ยิ้มกว้าง)
ตอนที่พวกคุณกำลังทำอัลบั้มนี้กันอยู่ ได้ข่าวว่ามีเหตุการณ์ความรุนแรงที่ฮอลล์คอนเสิร์ต Bataclan ในปารีสพอดี รู้สึกอย่างไรบ้าง?
Thomas : Chris อยู่ในนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทุกอย่างปิดหมด แล้วยิ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตด้วย น่ากลัวมาก ไม่ใด้น่ากลัวแค่จากที่เห็นภายนอกนะ เหมือนมีอะไรที่มันมีพลังมากๆ เกิดขึ้น
ได้ยินว่าพวกคุณนิยามอัลบั้มนี้ว่า ‘Melted Gelato’ มันเป็นยังไงเหรอ?
สมาชิกมองหน้ากันแล้วยิ้ม
Laurent : สำหรับพวกเรามันชัดเจนมากนะ แต่ผมไม่รู้จะอธิบายให้ฟังยังไงเนี่ยสิ (เอ้า แบบนี้ก็ได้เหรอพี่ เราคิดในใจแต่เผลอหัวเราะออกมา)
เราเอง : ก็อยากรู้อ่ะ (สื่อหัวเราะ)
Thomas : มันสื่อถึงอะไรสักอย่างที่มันกำลังจะจางหายไป ไอติมที่กำลังละลาย ก็เหมือนช่วงเวลาดีๆ ที่มันกำลังค่อยๆ หายไป เหมือนเป็นข้อคิดอย่างหนึ่งว่าเราควรใช้เวลาอย่างมีค่าด้วยเหมือนกัน เป็นไอเดียตอนที่เราเขียนเพลงอัลบั้มนี้กันน่ะ
อัลบั้มนี้เหมือนเป็นอัลบั้มประจำ summer พวกคุณคิดจะทำอัลบั้มประจำ winter บ้างไหม?
Laurent : อัลบั้มนี้เป็น summer เพราะเราตั้งใจออกอัลบั้มช่วง summer นี่แหละ ราวๆ พฤษภาคม-มิถุนายน เราวางแผนกันเอาไว้นานแล้วว่าจะปล่อยอัลบั้มช่วงนี้ แต่ในอนาคตอาจจะมีอัลบั้มคริสมาสต์ก็ได้นะ
สื่อ : คุณเคยปล่อยออกมาแล้วนี่ ชอบเพลงนั้นมากเลย
สมาชิกทุกคนหันมาตอบว่า ใช่ๆ (เป็นเพลง “Alone on Christmas Day” feat. Bill Murray งานคัฟเวอร์จาก The Beach Boys ที่ถูกนำมาประกอบ “A Very Murray Christmas” หนังสั้นพิเศษใน Netflix ฉายเมื่อปี 2015 กำกับและเขียนบทโดย Sofia Coppola ภรรยา Thomas)
ถ้าให้แต่งเพลงโดยมี Thailand เป็นแรงบันดาลใจบ้างล่ะ? คิดว่าจะออกมาเป็นยังไง?
(สมาชิกทุกคนหัวเราะ)
Thomas : พวกเราจะได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงเมื่อเราได้ทัวร์คอนเสิร์ตกันก่อนน่ะนะ ทุกครั้งที่ได้ทัวร์ ได้ไปที่ต่างๆ พวกเราจะรู้สึกว่าชีวิตพวกเรากลับมารู้สึกตื่นเต้นกันอีกครั้ง อย่างที่เรามาที่นี่ เราก็ได้เจอกับการผสมผสานที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ถ้าพรุ่งนี้เราไปอีกที่ เราก็จะเจอกับอีกซาวนด์หนึ่งที่แตกต่างไปอีก สำหรับกรุงเทพก็เป็นอะไรที่ดีนะ มีเอกลักษณ์เฉพาะที่เจอได้แค่ในกรุงเทพ เราซื้อเครื่องดนตรีบางอย่างเอาไว้ด้วยนะ
คิดว่าเพลงไหนที่เหมาะที่จะมาเล่นในกรุงเทพที่สุด?
Laurent : จริงๆ พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ พวกเรายังไม่เคยมาเล่นที่นี่เลย ต่างที่ก็มีฟีดแบคกับเพลงแต่ละเพลงไม่เหมือนกัน เราเลยอยากรู้ว่าถ้ามาเล่นที่กรุงเทพแล้ว จะเป็นเพลงไหน
Christian : พวกคุณว่าเราเล่นเพลงอะไรดีล่ะ? (เอ้า ถามพวกเรากันดื้อๆ เลยจ้า)
สื่อ : ถามฉันเหรอคะ? คงเป็น “J-Boy”
เราเอง : “Lisztomania”! เพลงโปรดค่ะ (สารภาพว่าเป็นเพลงแรกที่ทำให้เรารู้จัก Phoenix) (Laurent หันมาทวนชื่อเพลงเหมือนเก็บไว้เป็นสต็อก สื่อคนเมื่อกี้หันมาบอกเพิ่มเติมว่า เพลงนั้นก็ชอบเหมือนกัน จากนั้นแต่ละคนก็บอกชื่อเพลงที่ชอบออกมา มีทั้ง “1901” “Too Young” “Honeymoon” “Long Distance Call” สื่อคนข้างหลังเราบอกว่า ‘จริงๆ ก็ทุกเพลง’ เราหันไปพยักหน้าว่าเห็นด้วย)
Thomas : เซอร์ไพรส์เหมือนกันนะเนี่ย พวกเราไม่รู้มาก่อนเลย
ทัวร์ครั้งนี้ เจออะไรที่แปลกที่สุดบ้างไหม จำได้ว่าคุณเคยเล่าว่าเคยเห็นคู่รักมีอะไรกันจะๆ ตรงหน้า ระหว่างกำลังเล่นเพลงกันเลย
Thomas : ที่เดนมาร์กใช่ไหม (ยิ้ม)
Laurent : ทัวร์ครั้งนี้อาจไม่ได้น่าตกใจเท่าครั้งนั้นหรอกนะ แต่พวกเราได้ไปโชว์ที่บาหลี มีคนดูแถวหน้าอยู่ในสระว่ายน้ำ
(สื่อไทยทำหน้างง มองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วทวนคำที่ได้ยินกันอีกครั้งว่า ‘swimming pool’ จริงๆ ใช่ไหม)
Thomas : แปลกมากใช่ไหมล่ะ (ยิ้ม) (สื่อหัวเราะเสียงดังกันอีกรอบ)
Laurant : เฉพาะแถวหน้าเท่านั้นนะ พวกเขาก็ดูเราไป ว่ายน้ำไป (ทำท่าว่ายน้ำให้ดูด้วย) อาจจะไม่ได้น่าตกใจมาก แต่มันก็ไม่เลวใช่ไหมล่ะ
สื่อ : ได้โดดลงไปในสระว่ายน้ำกับเขาไหม
Laurent : (ชี้ไปที่ Thomas) เขาโดดลงไป!
Thomas : แล้วก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ในสระด้วย! (สื่อหัวเราะกันอีกรอบ)
เวลาเล่นคอนเสิร์ต เห็นคุณ (Thomas) โดดลงไปหาคนดูข้างล่างเกือบทุกโชว์เลย
Thomas : ยกเว้นโชว์หน้าสระว่ายน้ำนั้นนะ (หัวเราะลั่นกันทั้งห้อง)
โมเมนท์แบบไหนที่ทำให้คุณอยากจะกระโดดลงไปหาคนดูแบบนั้น?
Thomas : เอ่อ จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้เท่าไรนะ แรกๆ ผมไม่คิดว่าจะทำด้วย แต่จู่ๆ มันก็รู้สึกว่าบรรยากาศมันพาไป รู้สึกอยากลงไปหาแฟนๆ ด้านล่าง เพราะหลายคน หรืออย่างตอนเราเด็กๆ อาจจะเคยคิดว่าพวกเราอยู่บนเวทีอาจจะมองไม่ค่อยเห็นแฟนๆ ข้างล่างเท่าไร แต่จริงๆ แล้วพวกเราเห็นหมดทุกอย่างนะ พอมันถึงจุดหนึ่งที่ห้ามใจไม่ไหว อยากเข้าไปใกล้แฟนเพลงให้มากขึ้น ผมก็ไปเลย แต่บางครั้งก็ไม่ได้ลงไปนะ ที่ฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้ลงไป มันค่อนข้างอันตราย แต่เมื่อไรที่ได้ลงไปก็รู้สึกดี เหมือนได้ลดช่องว่างระหว่างพวกเรากับแฟนเพลงได้
สื่อ : คืนนี้จะลงมาไหม
Thomas : คืนนี้ไม่แน่ใจ เพราะเวทีคราวนี้สูงมาก สูงที่สุดเท่าที่เราเคยโชว์มา (สื่อร้องโหเสียงดังลั่นห้อง)
Christian : มันสูงจริงๆ
Thomas : คงต้องให้คนเตรียมหมอนรองคอมาให้ด้วย (ฮาลั่นกันทั้งห้อง)
(แล้วคืนวันนั้น Thomas ก็ใช้วิธีค่อยๆ เดินแหวกเข้าไปกลางฝูงชน แล้ว crowd surfing ว่ายกลับไปขึ้นเวทีช้าๆ ไม่ได้โดดลงไปจากเวทีโดยตรง เพราะเวทีสูงจริง อันนี้เห็นด้วย)
อ่านต่อ >> [รีวิว] สมการรอคอย! Phoenix โชว์สนุกทุกเม็ด ฟินตั้งแต่แถวแรกยันหลังฮอลล์
เคยขออะไรหลังเวทีแบบพิเศษๆ แบบที่ร็อกสตาร์เขาขอกันบ้างไหม?
Christian : (ทำท่าคิดหนัก) ไม่มีอ่ะ
Laurent : รีเควสพิเศษแบบร็อกสตาร์เหรอ... จริงๆ ยิ่งเราทัวร์ไปเรื่อยๆ เรายิ่งพยายามขออะไรให้น้อยลง เวลามีคนมาถามว่าอยากได้อะไรหลังเวทีบ้าง เรามักไม่ค่อยขออะไรนอกจาก Evian (น้ำแร่ของฝรั่งเศส) แต่พอมาที่นี่ แล้วเรามาขอ Evian เราก็นึกได้ว่า เออ มันมาจากฝรั่งเศสนี่ ฟังดูงี่เง่ามาก (ที่สั่งน้ำดื่มจากบ้านตัวเองมากินที่นี่) เราพยายามรีเควสอะไรที่เป็นร็อกสตาร์ให้น้อยที่สุด เราเลยได้ Minéré มาแทน (ยิ้ม) เราชอบผลไม้ด้วย “Fruits, fruits, fruits” (ชี้ตามคำพูด เหมือนว่าขอผลไม้เยอะๆ)
เราเอง : ร็อกสตาร์สุขภาพดีสินะ
(Laurent เอาส้มที่แกะเปลือกแล้วครึ่งผล ออกมาจากหมวกแก็ปที่อยู่บนตักตัวเอง สื่อฮาลั่น พี่เอาเข้ามาด้วยเหรอเนี่ย! เชื่อแล้วว่าชอบจริงจัง)
Laurant : อร่อยมาก (หัวเราะ)
Thomas : ครั้งหนึ่งที่หลังเวทีที่เกาหลี ไม่มีอะไรเลยนอกจาก “กล้วย 300 ลูก” (สื่อตกใจ)
สื่อ : แล้วชอบไหม
Thomas : ไม่! (ชัดเจนมาก) ทั้งห้องมีแต่กลิ่นกล้วย
Laurent : แต่มันก็อร่อยมากนะ
Thomas : (หันมาเหล่ Laurent) ก็มีบางคนชอบสินะ
ถ้าให้นิยามวง Phoenix ด้วยภาษาฝรั่งเศส 1 คำ?
Laurent : เราเคยมีบริษัทที่ทำเพลงให้ ชื่อว่า Loyauté (สื่อทำปากขมุบขมิบ พยายามออกเสียงตาม) แปลว่า Loyalty (ทุกคนร้องอ๋อเสียงดังพร้อมกัน)
Laurent : รีแอคชั่นดีมาก (ทุกคนหัวเราะ) นั่นแหละครับ เพราะเราจริงใจต่อกันมากๆ กับทุกคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันมากับเรา ทุกคนที่ร่วมทัวร์กับเรา แล้วพวกเราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เลยคิดว่าคำนี้เหมาะสมที่สุด
เวลา search ชื่อวง Phoenix ลงใน Google อยากให้เห็นอะไรบ้าง?
Thomas : จริงๆ มันก็อยู่เหนือการควบคุมของเรานะ แต่ผมอยากให้คนเห็นว่าเราทำเพลงกันเอง มีผลงานอะไรออกมาบ้าง อย่างอัลบั้มนี้เราก็ทำกันเอง แม้กระทั่งปกอัลบั้ม หรือรูปต่างๆ ที่ส่งโปรโมตตามสื่อเราก็ถ่ายกันเอง
Christian : อย่างปกอัลบั้มนี้เราแค่วาดรูปหัวใจลงไป วาดปุ๊บ ได้แล้วหน้าปก (หัวเราะ) ก็ออกมาดีนะ
อยู่วงการนี้มาจะ 20 ปีแล้ว มีอะไรเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนบ้างไหม?
Thomas : เสียใจเหมือนกันนะที่ต้องขอตอบว่า พวกเราไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงกันเท่าไร (ยิ้ม) (สื่อหัวเราะกันอีกครั้ง) คือมันก็ดีนะ แต่มันก็น่าเศร้านิดหน่อย วันก่อนผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ที่พี่เขยผมที่ชื่อ Roman เจอมา (Roman Coppola พี่ชาย Sofia Coppola ภรรยาของ Thomas) เก่ามากประมาณ 18 ปีที่แล้วได้ เหมือนเขาเจอในคอมพิวเตอร์นั่นแหละ ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า เฮ้อ (หัวเราะ) เหมือนเดิมเลย
เห็นว่าได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Beguiled ด้วย (Sofia Coppola ภรรยาของ Thomas เป็นผู้กำกับ)
Thomas : ใช่ครับ หนังออกแนวโกธิคหน่อย ก็ทำเพลงใหม่หมดเลย
Christian : เป็นเพลงบรรเลงเลย (Scores)
ถามถึงชีวิตหลังทัวร์บ้าง น่าจะมีแฟนเพลงจำพวกคุณได้เยอะเหมือนกัน มีเหตุการณ์แปลกๆ ตอนที่แฟนเพลงจำได้ว่าเป็นพวกคุณบ้างไหม?
Laurent : จะมีคนจำพวกเราได้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ด้วยกัน 4 คน (ยิ้ม) แต่เวลาแยกกันอยู่ ก็เป็นตัวของตัวเองกันไป (สื่อหัวเราะ) ซึ่งมันก็ดีนะ
Thomas : มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนผมอยู่เครื่องบินของ Southwest Airlines นั่งจาก L.A. ไป Dallas เจอแฟนเพลงที่จำผมได้ เธอบอกว่าชอบวงพวกเรามาก แล้วเธอก็เปิดเพลง “1901” ขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอด เปิดดังมากจนผู้โดยสารคนอื่นได้ยิน (สื่อไทยตกใจกันยกใหญ่) บางคนก็ตื่นเต้นนะ แต่คนที่ไม่รู้เรื่องเนี่ยสิ ผมนี่แบบ โอ๊ยยยย (ทำท่าเขินอาย เอามือปิดหูตัวเอง สื่อหัวเราะลั่น) แล้วคือเปิดดังมาก หลายคนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้วตอนนี้มีเพลงอะไรที่ติดหูอยู่บ้างไหม ไม่ต้องเป็นเพลงตัวเองก็ได้
(นิ่งกันไปนาน จน Deck ผู้อยู่เงียบๆ มาตลอดทั้งการสัมภาษณ์ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหาอย่างด่วน)
Deck : ผมมีอยู่เพลงหนึ่งเพิ่งฟังเมื่อวาน “Happy Ending” ของ Alex Cameron
Thomas : พวกเราโตมาด้วยกัน เลยมีแนวเพลงที่ชอบคล้ายๆ กัน แล้วก็เปิดใจกับแนวเพลงใหม่ๆ ด้วย
Laurent : เมื่อวานเราไปคาราโอเกะด้วยกันมา เขา (ชี้ไปที่ Thomas) ร้องเพลง “Wichita Lineman” (ของ Glen Campbell) เป็นเพลงอเมริกันเก่าๆ หน่อย
จบสัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าของทุกคนในห้อง ไม่เว้นแม้แต่ทีมสต๊าฟที่ยืนฟังอยู่ในห้องด้วย บรรยากาศที่เราคิดว่าน่าจะจริงจังกลับกลายว่ามีแต่เสียงหัวเราะ ร็อกสตาร์ที่มีผลงานมาตลอด 17 ปีกลับกลายเป็นคนไม่ถือตัว เข้าถึงได้ง่าย เปิดเผย คุยสนุก และเป็นกันเองขั้นสุด นาทีนี้ถ้าให้นั่งคุยต่อเป็นชั่วโมงๆ ก็เอา แต่ต้องให้พวกเขาไปเจอแฟนๆ ที่รอ Meet & Greet อยู่ด้านนอกด้วย เลยโบกมือลาออกมาจากห้องด้วยความเสียดาย
ศิลปินชื่อดัง มากประสบการณ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเรื่องมาก Phoenix พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณ Warner Music Thailand ด้วยค่ะ
____________________
Story : Jurairat N.
อัลบั้มภาพ 32 ภาพ