"ต้น ธนษิต" เผยชีวิตหลังคว้าแชมป์เอเอฟ! และสิ่งที่ได้รับจากกระแส "หน้ากากทุเรียน" | Sanook Music

"ต้น ธนษิต" เผยชีวิตหลังคว้าแชมป์เอเอฟ! และสิ่งที่ได้รับจากกระแส "หน้ากากทุเรียน"

"ต้น ธนษิต" เผยชีวิตหลังคว้าแชมป์เอเอฟ! และสิ่งที่ได้รับจากกระแส "หน้ากากทุเรียน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงนักร้องหนุ่มอาร์แอนด์บีมากความสามารถในประเทศไทย ชื่อของ ต้น ธนษิต หนุ่มเสียงดีจากบ้านเอเอฟ 8 ต้องเป็นชื่อที่หลายคนคิดถึงแน่นอน โดยหลังจากที่เขาได้ปล่อยเพลง รู้ยัง ในปีที่ผ่านมา เขาก็ได้กลับมาพร้อมซิงเกิ้ลเพลง "เปล๊า" ที่เขากลับมาพร้อมดนตรีที่คุ้นเคยอีกครั้ง

 

และในวันนี้ ต้น ธนษิต ก็ได้มาเยี่ยมทีมงาน Sanook! Music เพื่อเล่าถึงเพลงใหม่ และแชร์เคล็ดลับในการร้องเพลงอาร์แอนด์บี รวมถึงการใช้ชีวิตในฐานะศิลปินที่มีความสามารถหลากหลายด้วย 

 

 

กลับมาคราวนี้มากับเพลง เปล๊า เพลงนี้มีเนื้อหาอย่างไร

ต้น ธนษิต : มันก็คือคำว่า เปล่า เสียงสูงครับ คือเป็นคนที่ชอบคนคนหนึ่งแล้วเขารู้เลยมาถาม เราเลยปฎิเสธว่าไม่ได้ชอบ เป็นคนปากแข็ง คือถ้าฟังจะรู้เลยว่าชอบแต่ปากแข็งไม่บอก ก็ได้ทำงานกับ แต๊บ AF ในเพลงนี้ ทำมาตั้งแต่เพลง รู้ยัง และได้พี่แอ้มมาเขียนเนื้อครับ พี่แต๊บเขาทำเพลงแนวนี้ได้ดีมากครับ

 

ต้นมีส่วนร่วมกับทำเพลงนี้อย่างไรบ้าง

ต้น ธนษิต : ก็เป็นการดีไซน์โทนเสียงครับว่าท่อนนี้จะร้องแบบไหน  แบบคำนี้เหมาะสมและดูการแอดลิปกันกับแต๊บครับ

 

เพลงนี้เองก็ปล่อยออกมาใน JOOX ก่อนด้วย กระแสเป็นอย่างไรบ้าง

ต้น ธนษิต : ดีครับ ต้นเป็นคนเช็คกระแสและทวีตแชร์ลิงค์ให้คนฟัง ก็จะติด Hash tag ก็จะดู Comment ตลอด หลายคนก็ดีใจว่าเรากลับมาแล้ว ว่าเพลงนี้เพราะมาก ฟังวนทุกวัน เราก็คาดหวังระดับหนึ่งกับเพลงนี้ ก็อยากให้คนชอบกันก็โอเคแล้ว เพราะถ้าเขาเล่น แชร์ มันก็จะไปต่อ ก็ไม่ได้หวังให้มันเปรี้ยงมากแต่อยากให้ชอบกันครับ

 

 

ก่อนหน้านี้ต้นก็มีเพลงแอบรักอย่าง "รู้ยัง" ออกมา ปกติถ้าต้นแอบรักใครสักคน ต้นจะทำอย่างไร

ต้น ธนษิต : ถ้าแอบชอบใครสักคนจะเงียบมาก ปกติจะเป็นคนพูดเยอะมาก แต่ถ้าแอบชอบก็จะไม่คุยกับเขา จะไม่พูดเลย ทั้งๆที่อยากคุยแต่เราขี้อาย ถ้าชอบก็จะขี้อายมากครับ

 

แล้วถ้าแฟนเพลงเจอเหตุการณ์แบบในเพลงนี้ ต้นจะแนะนำอย่างไร

ต้น ธนษิต : จริงๆ เพลงนี้ก็มีความย้อนแย้งในตัวเองครับ ว่าเขาอาจชอบเรา คือเราก็ถามแยบๆไปว่า ถ้าเราชอบเธอ เธอจะโอเคไหมด้วย คือบางคนเจอเหตุการณ์นี้ก็จะทำอะไรไม่ถูกก็ปฎิเสธไว้ก่อนแบบ เปล๊า ไม่ได้ทำ ไม่ได้ชอบ ก็อยากให้ตั้งหลักก่อนว่าเขาชอบเราไหม หรือลองส่งเพลงนี้ให้เขาฟังก่อนก็ได้ครับ

 

ปกติแฟนเพลงจะเห็นต้นทำเพลงอาร์แอนด์บีตลอด ทำไมถึงชื่นชอบเพลงแนวนี้

ต้น ธนษิต : เพราะมันเป็นเพลงที่ต้นว่าเป็นตัวเราและถนัดที่สุด แต่จริงๆไปงานก็ร้องเพลงหลายแนว อย่างไปมาเลย์มาก็ร้องบัลลาด แต่ถ้าเลือกได้ก็จะเน้นเพลงอาร์แอนด์บีโซล  มันเป็นเพลงที่มีเสน่ห์มากครับ สมัยก่อนคนไทยฟังไม่เยอะ แต่เดี๋ยวนี้เยอะขึ้นมาก ต้นเองก็อยากเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำเพลงแนวนี้  อยากให้คนนึกถึงเราเวลาฟังเพลงแนวนี้

 

 

หลายๆคนที่ชื่นชอบเพลง อาร์แอนด์บี ก็จะมีศิลปินต่างชาติที่เป็นไอดอล  ต้นมีศิลปินคนไหนที่ชื่นชอบบ้างไหม

ต้น ธนษิต : จริงๆมีหลายคนครับ แต่ที่ชอบมากที่สุดเลยคือ Amy Winehouse ที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะเป็นคนที่ชอบมาก ฟังเพลงของเขาเยอะมาก ในช่วงที่ออกเพลงก็ใช้การร้องของเขามาอ้างอิง ลองศึกษาการร้องเขา แต่จริงๆก็ชอบหลายคนครับ

 

การร้องเพลงแนวอาร์แอนด์บี ก็จะมีเทคนิคเยอะมาก การร้องเพลงแนวนี้ควรเริ่มฝึกอย่างไร

ต้น ธนษิต : จริงๆอย่างแรกต้องฟังเยอะ ฟังแล้วจะรู้ว่ามันจะมีจังหวะแบบไหน สักพักก็เริ่มเลียนแบบการร้อง คือไม่ได้ให้เหมือน แต่ให้ดูว่าลูกเอื้อนแบบนี้ร้องยังไง ก็ลองแบ่งดูว่าท่อนแบบไหน คือถ้าแอดลิปมันเยอะมาก ก็ต้องแกะเป็นท่อนๆไป อันนี้เป็นวิธีที่ต้นใช้ ถ้าใครอยากร้องเพลงแนวนี้ก็อยากให้ลองดูครับ ก็อยากให้ฟังเยอะๆและหาดูว่านักร้องแนวนี้มีใคร ชอบเพลงใครก็ลองศึกษาเพลงเขา และลองร้องตามดู คือมันอาจจะยังไม่ได้ตอนแรก แต่ก็อยากให้ลองพยายามดูครับ

 

ก่อนหน้าการร้องอาร์แอนด์บี ก็ทำให้ต้นตกเป็นผู้ต้องสงสัยหน้ากากทุเรียนด้วย รู้สึกอย่างไรกับกระแสในตอนนั้น

ต้น ธนษิต : รู้สึกดีใจครับ ก็มีคนมาบอกเยอะ แต่รู้ว่าเป็นพี่ทอม Room39 เลยตั้งแต่ต้น ก็จะมีคนสงสัยเราก็เลยเนียนตามน้ำไปเลย แล้วก็ลงรูปปั่นกระแสกับทอมแกล้งแซวว่าเป็นพี่หรือเปล่า พี่เขาก็แซวกลับ  คือเราเองเป็นแฟนเพลงเขาและชื่นชมที่ทอมมาก คือการที่คนคิดถึงเราในฐานะผู้ต้องสงสัยมันก็ดีครับ แสดงว่าเขาคิดถึงเรา ในฐานะคนที่ร้องเพลงดี ก็รู้สึกดีที่เขาเห็นความสามารถเรา และหลายคนที่ไม่รู้จักเรา ไม่ได้ดูเราในเอเอฟ ก็ไปหาผลงานเรามาฟังทำให้เขารู้จักเรา ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ก็ขอบคุณคนที่นึกถึงผมครับ

 

 

ในฐานะที่ต้นมาจากเวทีประกวดร้องเพลง คุณคิดอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงที่รายการเก่าๆหายไป และมีรายการใหม่มาแทน

ต้น ธนษิต : จริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมชาติมาก คือไม่ต้องเป็นวงการประกวด แม้แต่การทำธนาคารหรือห้าง สักวันมันก็จะมีธนาคารหรือห้างใหม่ขึ้นมา มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือต้นเองก็ไม่ได้ยึดติดอะครับ ว่าต้องนึกถึงเราตลอด ทุกวันนี้นักร้องเยอะมาก คือเดือนนึงมีไม่รู้กี่คน มีคนคัฟเวอร์ลงยูทูป มีคนทำเพลงไม่มีค่ายเยอะมาก

คือในตอนนี้มีนักร้องเยอะมาก เราเองก็ห้ามจิตตกว่าเราจะหายไป คือสิ่งที่เราทำได้คือเราต้องพัฒนาตัวเองให้อยู่ได้นาน คือถึงเราเป็น The Winner แต่พอรายการจบแล้ว มันก็คือจบและเริ่มต้นใหม่และต้องไปต่อสู้กับคนอื่นต่อ คือพอจบรายการ ทุกคนก็ต้องแข่งใหม่หมด ถึงแม้เราจะมีตำแหน่งก็ตาม แต่ในที่สุดมันต้องใช้ความสามารถและดวง คือมีคนเก่งกว่าผมเยอะแต่ไม่มีโอกาส เราก็จะไปเรื่อยๆ เพราะมันขึ้นด้วยความสามารถ โอกาส และ ดวง ที่ต้องเหมาะสม คือไม่ได้ยึดติดว่าคนต้องรู้จัก คือแค่คนชอบและพื้นที่ให้แสดงผลงานเราก็ดีใจมากแล้วครับ

 

คุณมีความรู้สึกท้อบ้างไหม ในการทำงานเพลง

ต้น ธนษิต : มันไม่ท้อ แต่มันเหนื่อยครับ เพราะคู่แข่งเยอะ คือแข่งนานๆมันก็เหนื่อย แต่คือเราเป็นคนที่ใจสู้อยู่แล้ว ก็สู้มาสองปีกว่าจะได้ตั้งแต่แข่ง คือมีคนเกิดขึ้นมา เราก็ต้องพยายามออกผลงาน เราต้องคิดว่าจะทำอะไรออกมา มันก็เป็นเรื่องการปรับความคิดครับ

 

 

นอกจากการร้องเพลงแล้ว ต้นเองก็มีงานแสดงละครเวทีด้วย อะไรคือสิ่งที่ยากสุดในการแสดงแบบนี้

ต้น ธนษิต : สิ่งที่ยากก็คือพลังที่ส่งออกไปครับ เพราะมันไม่เหมือนการร้องเพลง คือละครเวทีมันยากตรงที่เราต้องใช้พลังทั้งหมดและส่งมันไปถึงคนดูแถวหลังสุด ให้เขาไปกับเรา และมันใช้แรงและความสามารถเยอะ การร้อง Movement มันยากมาก แต่พอทำออกไปเราจะรู้เลยว่าเก่งขึ้นและสนุกมาก คือเราชอบมากเพราะได้ใช้ทุกศาสตร์ที่เรียนมาทั้งร้อง เต้น แสดง คือเหนื่อยแต่ก็สนุกมาก การแสดงทุกรอบเราเองต้องดีขึ้นเรื่อยๆ คือถ้าเสมอตัวก็ระดับหนึ่ง ถ้าเล่นแล้วพลังตกเราก็ต้องคิดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และต้องปรับปรุงการแสดงครับ

 

นอกจากงานเพลงแล้ว ตอนนี้ต้นสนใจงานด้านอื่นในวงการบ้างไหม

ต้น ธนษิต : จริงๆมีพิธีกรรายการหนังครับ คือเวลามีรอบเปิดตัวในเอเชีย ด้วยความที่เราพูดอังกฤษได้เขาก็ส่งเราไปสัมภาษณ์นักแสดง ก็เคยสัมภาษณ์ Charlize Theron, Chris Hemsworth และ Matt Demon ก็เป็นอีกงานที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ พอโอกาสมาเราก็คว้าไปก่อน คือเราจะไม่รู้ว่าทำอะไรได้ ถ้าเราไม่ลองทำ คืองานพิธีกรก็ไม่เคยทำ แต่พอลองดูแล้วก็ทำได้ครับ แต่มีอีกอย่างที่ไม่เคยทำก็คืองานละคร ซีรี่ย์ ก็ยังไม่เคยได้ทำครับ

 

ก่อนหน้านี้ต้นมีผลงานเพลงละครเยอะมาก เราเตรียมตัวเวลาร้องเพลงแนวนี้อย่างไร

ต้น ธนษิต : ก็จะมีดูเรื่องย่อละคร คาแร็คเตอร์ของพระเอก ต้องดูว่าเขาเป็นคนแบบไหน และคิดอย่างไร เราก็จินตนาการเขาเป็นแบบไหน ต้องจินตนาการดูและร้องออกมาครับ ตอนนี้ก็เหลือแค่งานละครที่ยังไม่ได้ทำ จริงๆมันก็เป็นอีกบทบาทที่อยากทำครับ

คลิกฟังเพลง เปล๊า! ได้ที่นี่

 

นอกจากจะเป็นนักร้องหนุ่มที่ร้องเพลงได้ไพเราะแล้ว ต้น ธนษิต ก็เป็นศิลปินที่มีความคิดและความตั้งใจในการทำงานอีกคนหนึ่งเลย ซึ่งแฟนๆสามารถฟังเพลงของเขาได้ที่ Sanook! Music และ JOOX รวมถึงติดตามข่าวคราวเขาได้ที่แฟนเพจ Ton Thanasit ได้เช่นกันครับ 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ "ต้น ธนษิต" เผยชีวิตหลังคว้าแชมป์เอเอฟ! และสิ่งที่ได้รับจากกระแส "หน้ากากทุเรียน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook