"ฮิวโก้" เผยการทำเพลงที่ไม่รอความเท่! และความพิเศษคอนเสิร์ต "ภาษาแม่" | Sanook Music

"ฮิวโก้" เผยการทำเพลงที่ไม่รอความเท่! และความพิเศษคอนเสิร์ต "ภาษาแม่"

"ฮิวโก้" เผยการทำเพลงที่ไม่รอความเท่! และความพิเศษคอนเสิร์ต "ภาษาแม่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เก็บประสบการณ์การทำงานเพลงที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปี ล่าสุด ฮิวโก้ จุลจักร ก็ได้กลับมาทำงานเพลงไทยกับค่ายเพลง Me Records ซึ่งเขาได้เปิดตัวอัลบั้มชุดใหม่ ดำสนิท พร้อมจัดคอนเสิร์ต "ฮิวโก้ ภาษาแม่" ที่เขาจะหยิบงานเพลงไทยทั้งหมดมาโชว์ให้แฟนเพลงชาวไทยได้ชมกันเต็มๆด้วย 

ซึ่งทาง ฮิวโก้ นั้นก็ได้มาเยี่ยมทีมงาน Sanook! Music พร้อมเล่าถึงการทำงานผลงานเพลงไทย รวมถึงพูดถึงความพิเศษคอนเสิร์ต ฮิวโก้ ภาษาแม่ ที่เขาได้นำเพลงไทยทั้งหมดที่แฟนเพลงชอบมาโชว์ให้ทุกคนได้ชมกันสดๆ 

 

 

อะไรคือจุดเริ่มต้นของคอนเสิร์ต ฮิวโก้ ภาษาแม่ ในครั้งนี้

ฮิวโก้ : เป็นความตั้งใจของคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเล่นเพลงไทยล้วนๆครับ ปกติจะเล่นเพลงสากลล้วนมาตลอดครับ คอนเสิร์ตจะต่างจากรอบที่แล้วคือจะมีรอบเดียว แต่จะเป็นฮอลล์คอนเสิร์ตที่ใหญ่ขึ้นด้วยครับ

 

ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก็มีคุณเป้ อารักษ์ กลับมาร่วมงานด้วย ทำไมถึงชวนเขาร่วมงานอีกครั้ง

ฮิวโก้ : เพราะเขาชอบเพลงวงสิบล้อมากครับ ก็อยากให้เขาได้ร้องสักเพลงครับ ก่อนหน้านี้เขาชวนเรามาโปรดิวซ์งานด้วย และรสนิยมคล้ายๆกัน มันก็สนุกอยู่แล้ว การทำงานกับเพื่อน ในคอนเสิร์ตนี้เขาก็จะเลือกเพลงของสิบล้อมาร้อง และเพลงจากอัลบั้มของเขาเองที่ผมมีโอกาสได้ช่วยเขาทำ มันก็น่าจะออกเพราะครับ

 

อีกหนึ่งแขกรับเชิญของคอนเสิร์ตนี้คือ คุณ เจ มณฑล ที่ร่วมทำเพลงกับคุณมานาน ทำไมถึงเลือกเขามาเป็นแขกรับเชิญครั้งนี้

ฮิวโก้ : ผมกับเขาร่วมงานมานานแล้วครับ ก็คิดว่าถ้าการทำงานมันดีผมก็จะรักษาทีมงานไว้ ยกเว้นถ้าถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว อย่างพี่เจก็ทำเพลงอัลบั้มสากล และเล่นดนตรีสดมาสี่ปีกับผม เป็นสมาชิกอีกคนของวง ดังนั้นคอนเสิร์ตนี้ก็ต้องมีเขาครับ

 

 

 

การที่ศิลปินคนหนึ่งจะร่วมงานกับคุณ เขาต้องมีเคมีที่ตรงกับคุณไหม

ฮิวโก้ : คือเคมีความสัมพันธ์มันเป็นสิ่งที่เช็คเบื้องต้นไม่ได้ในตอนแรกที่เริ่มงาน มันต้องดูกันไปนานๆ ที่สำคัญจริงๆคือทักษะและฝีมือครับ และเขาคนนั้นพอใจกับค่าตัวที่ได้รับหรือเปล่า อันนี้มันเป็นเรื่องเบื้องต้นครับส่วนเคมีต้องดูหลังจากการทำงานบนถนนดนตรีแล้ว ว่าการผ่านความยากลำบากแต่ละช่วงเป็นอย่างไร อะไรแบบนี้มันดูไม่ออกในตอนแรก สิ่งแรกที่สำคัญคือมือต้องถึง และมีความสามารถครับ รวมถึงรับข้อแม้ต่างๆของเขาและของเราได้ คือผมจำเป็นต้องชอบงานของเขา แต่จะดูตอนซ้อมตอนทำงานว่าเล่นได้หรือเปล่า

 

หลายๆคนก็เซอร์ไพรส์มาก ที่คุณเลือก วี วิโอเลต มาเป็นแขกรับเชิญ เพราะแนวเพลงที่แตกต่างกันมาก ทำไมคุณถึงเลือกวีมาร่วมงาน  

ฮิวโก้ : คืออยากมีคนที่นอกเหนือจากพรรคพวกตัวเองบ้าง และอยากให้มีผู้หญิงบ้างนอกจากผู้ชาย และเขาเป็นคนเสียงเพราะและเป็นคลื่นลูกใหม่ที่อยากรีบร่วมงานด้วยกันก่อนเขาจะดังกว่านี้ ในอนาคตเขาอาจจะหยิ่งก็ได้ (หัวเราะ) และเคยเจอในงาน Cat radio และเคยแสดงคอนเสิร์ตต่างจังหวัดด้วยกันที่ต่างจังหวัด รวมถึงงาน RCB Rock n roll Comeback ที่ผมเคยจัดกับเพื่อน จริงๆเขาพร้อมในการเป็นนักร้องป๊อปแต่ก็ชื่นชอบเพลงนอกกระแสด้วย ผมเองก็ชื่นชอบและสนับสนุนคนแบบนี้ เป็นทั้งดีเจเป็นอะไรหลายอย่าง และเป็นตัวอย่างที่ดีและมีพรสวรรค์ด้วย

จริงๆน่าชื่นชมกับคนรุ่นใหม่ในยุคนี้นะครับ ที่มีความสามารถทุกคน สมัยผมศิลปินหลายคนรวมถึงตัวผมเอง ไม่ต้องร้องเพลงเพราะก็ดังได้ ตอนนี้มันต้องมีพรสวรรค์ระดับหนึ่ง อย่างนักร้องสมัยนี้ต้องร้องเก่งระดับหนึ่ง สมัยก่อนบางทีร้องไม่ได้เรื่องก็เป็นนักร้องได้

 

ในปัจจุบันนี้ มีศิลปินรุ่นใหม่คนไหนที่คุณชื่นชอบบ้าง

ฮิวโก้ : ก็มี Yellow Fang, YENA, Zero Hero ที่อาจจะลำเอียงหน่อยเพราะผมโปรดิวซ์เอง. Rasmee อีสานโซล, Chanudom, Desktop Error, สหายและสายลม, Bangkok Paradise มีเยอะมากครับ วงวัยรุ่นเดี๋ยวนี้ที่ผมนั่งฟังมีงานดีๆเยอะมาก ผมไม่รู้ว่าด้านธุรกิจเพลงเป็นอย่างไร แต่ถ้าดูจากผลงานเพลงที่ออกมา ก็รู้สึกว่าวงการเพลงค่อนข้างสุขภาพดีครับ

 

 

ปีที่ผ่านมาคุณเองได้กลับมาทำเพลงไทยกับค่าย Me Records อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณกลับมาทำเพลงกับค่ายนี้

ฮิวโก้ : ต้นมือกีต้าร์ซิลลี่ฟูลส์ชวนผมครับ คือสมัยก่อนเราอยู่ค่าย More Music ด้วยกัน และผมเองก็เป็นแฟนเพลงของ Silly Fools ตั้งแต่อัลบั้มชุด Candyman คือชอบจนเคยให้เขายืมรถของผมที่เป็นรถเก่าไปใช้ในมิวสิควีดีโอด้วย แต่สุดท้ายเอ็มวีตัวนั้นไม่ได้ออก (หัวเราะ) ก็คุยสนุกดี ตรงไปตรงมา และเขาปากจัดมาก ซึ่งถ้าเขากล้าชวนเราไปที่ไหนคงต้องดีมาก เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรขำๆ เป็นคนที่อยู่ในวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่มากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่วน ฟองเบียร์ ผมได้ยินชื่อเขามานานแล้วในวงการ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ก็ไปคุยกันว่าเราต้องการอะไร และเขารับข้อแม้ของเราได้ ก็ได้ร่วมงานกันและออกมาดีครับ

 

ทำไมคุณถึงเลือกทำเพลงเป็นอัลบั้ม แทนที่จะทำเป็นซิงเกิ้ลแบบศิลปินท่านอื่น

ฮิวโก้ : ข้อแม้ในการทำงานของผมก็คือ ต้องมีอัลบั้มและผมสามารถควบคุมด้านศิลป์ได้ทั้งหมดและมีเพลงจากพี่เบียร์อย่างน้อยหนึ่งเพลงครับ ส่วนเรื่องวิธีการปล่อยเพลงอันนั้นเป็นเรื่องของคนอื่นครับ (หัวเราะ)  คือเพลงไทยของผมมีไม่พอ คือแม็กกาซีนกระสุนเพลงไทยมันมีไม่พอ จะให้มาเล่นเพลงเดิมๆมันก็ไม่เหมาะสม ถ้าทำซิงเกิ้ลก็จะมีเพลงเดียว แต่ถ้าทำอัลบั้มก็จะมี 10 เพลงใหม่ออกไปโชว์ให้ทุกคนได้ดูกันครับ

คืออาจจะไม่ต้องใช้ 10 เพลง ใช้แค่ 5-6 เพลงก็ได้ครับ มันเป็นสิ่งที่ดีกับผมและคนฟังครับ ซิงเกิ้ลมันเป็นสินค้าคนละแบบครับ คือเราสามารถฟังซิงเกิ้ลบนรถได้ก็จริง แต่มันก็จะไม่มีเพลงต่อไปให้ฟัง คือปีละครั้งมีผลงานเพลงหนึ่งเพลงสามนาที ผมว่าไม่พอครับ คนอื่นจะทำอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ผมขอเลือกทำเพลงเป็นอัลบั้มครับ

 

เพลงออกมาสองซิงเกิ้ลแล้ว กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

ฮิวโก้ : ดีครับ เหมือนคนเขาเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการสื่อครับ และร้องตามได้ครับไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพและต่างจังหวัดครับ

 

 

ในเพลง ครอบครอง คุณกล่าวว่า “ความเงียบจะทำให้เสียงต่างๆเพราะขึ้น” ความคิดนี้มีที่มาอย่างไร

ฮิวโก้ : มันเหมือนกับสีอะครับ บางทีมันไม่สำคัญว่าเป็นสีอะไร แต่ว่าสีนั้นมันอยุ่กับอะไรมากกว่าครับ อย่างถ้าแต่งชุดแบบหนึ่งแล้วอยู่กับ Background ที่สีเหมือนกับชุด มันก็จะจมลงไป อย่างถ้าคุณมีเสียงแบบหนึ่งมาตลอด บางทีถ้ามีเสียงใหม่เข้ามาเราอาจจะไม่รู้สึก บางทีเราอาจจะต้องยั้งมือบ้าง บางทีถ้าเราต่อยคน หมัดแรกก็จะรู้สึก แต่หลังจากนั้นถ้าต่อยไปเรื่อยๆ และมีอีกมือมาเพิ่ม คุณก็อาจจะไม่รู้สึก การทำเพลงของผมเลยต้องมีหนักเบา ให้มันมีจังหวะขึ้นลง มันก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น

 

ปกติคุณจะได้ไอเดียผลงานเพลงมาจากไหน

ฮิวโก้ : มาจากความคิดของผมเองครับ คือผมจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่มีอยุ่แล้ว คือไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องทำอะไรที่มีอยู่ในท้องตลาดแล้ว อย่างประเด็นที่เคยทำก็จะไม่เอามาทำอีก ส่วนเพลงรักที่เป็นกระแสก็เป็นความรักวัยรุ่นที่รุนแรงและจะเป็นจะตายอกหัก ซึ่งก็ดีที่เขาร้องเพลงแบบนั้น แต่สำหรับผมที่คบคนมา 10 ปี มีลูกสอง และมีอนาคตข้างหน้าค่อนข้างชัดเจน และไม่ได้มีความสงสัยกับเรื่องพวกนี้ มันก็ไม่เหมาะที่จะถ่ายทอดเรื่องความรักสไตล์นั้น ผมไม่ได้กะจะอกหักแล้วชีวิตนี้

 

คุณเป้อารักษ์เคยบอกว่า คุณฮิวโก้ทำงานเพลงมีไทม์ไลน์ชัดเจนต่างจากศิลปินหลายคน ทำไมคุณถึงทำงานในระบบนี้

ฮิวโก้ : เพราะชีวิตมันมีเวลาจำกัด การจะมาค่อยๆปั้นทำเพลงสามนาทีให้ออกมามันไม่ได้แล้ว อย่างการเดินทางออกจากบ้านทีนึง ผมไม่สามารถทำแบบนั้นทั้งอาทิตย์ได้ เพราะมีครอบครัวมีงานอื่นๆที่ต้องรับผิดชอบ อันนี้ผมเรียนรู้จากการทำงานเมืองนอกด้วยว่าเวลามันเป็นเงินทอง อย่างการใช้ห้องอัดที่คิดเป็นชั่วโมง หรือแม้แต่ซาวด์ เอนจีเนียร์ทีมงานต่างๆ และค่าเดินทาง มันแพงกว่าไทยมาก

สำหรับผมการเข้าห้องอัดแล้วไม่ได้อะไรออกมามันไม่โอเค มันควรจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมาที่ปรับนิดหน่อยก็เสร็จแล้ว ผมเลยมองว่าการเข้าห้องอัดแล้วไม่ได้อะไรมันเป็นการสิ้นเปลือง เพราะสิ่งที่เราทำมันเป็นธุรกิจไม่ใช่งานอดิเรก

 

 

ตั้งแต่ทำเพลงมา มีผลงานไหนที่คุณใช้เวลาสั้นสุด และผลงานไหนที่ใช้เวลานานสุด

ฮิวโก้ : เพลง ดำสนิท เป็นเพลงที่นานที่สุดครับเพราะว่าผมแต่งคอรัสขึ้นมา แต่ไม่รุ้จะเล่าอะไร แต่เพลงนี้ไม่ได้แต่งในห้องอัด คือผมจะแต่งเพลงนอกห้องอัด ในที่ที่เขาไม่คิดเงิน พอเสร็จแล้วถึงบันทึกออกมาแล้วปรับแก้เอา ส่วนเพลง ระวัง เพลงนี้ก็นานตรงปรับดนตรีครับ เพราะมีออกมาสามเวอร์ชั่น ก็ใช้เวลานานเพราะทิ้งไว้นาน

แต่ถ้าเพลงที่เร็วสุดคือเพลง ครอบครอง ที่ทำกับพี่ หนึ่ง ณรงค์วิทย์ อันนี้สามถึงสี่ชั่วโมง เขาเองก็มาร่วมแต่งเพลง ระวัง ด้วย แต่คุณหนึ่งเขาเก่งมากเหมือนพี่เบียร์เลย เพราคุณเบียร์แต่งเพลงบันไดสีแดงเองหมดเลย แต่ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ผมเองรู้จักกับคุณหนึ่งมานานแล้ว พอกลับมาเมืองไทยก็ได้ลองหาศิลปินที่น่าสนใจไปร่วมงานด้วย และคุณหนึ่งก็ชวนผมไปร้องเพลงละคร เลือดมังกร พอดี ผมก็ไปเพื่อเปิดโอกาสตัวเอง คือผมเองก็อยากเปิดหูเปิดตาลองทำอะไรกับคนใหม่ๆ ตอนนั้นผมเองยังไม่ค่อยได้ทำงานกับใครเลย และเขาก็เป็นศิลปินที่ต่างจากที่ผมคิด ไม่ใช่จริงจังแล้วส่งเพลงให้ทำ แต่เขาสบายๆทำงานไปด้วยกันและเสร็จออกมา  ถ้ามีโอกาสก็อยากจะร่วมงานกันอีกครับ

 

การทำงานแบบมีไทม์ไลน์กำหนด มันสร้างความกดดันให้คุณบ้างไหม

ฮิวโก้ : มันควรต้องกดดันอยู่แล้วครับ เพราะพอเราแก่ลงเวลามันสำคัญมาก เวลาผมซื้อของผมไม่ค่อยต่อนะครับ เพราะเดี๋ยวมันก็หาได้ คือบางทีต่อราคา 50 บาทนี่มันไม่จำเป็นเลย แต่ถ้าเป็นเวลา 50 นาทีอันนี้มันเป็นอีกเรื่องเลยครับ

 

 

ในประเทศไทยการทำงานเกี่ยวกับศิลปะมันจะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ง่าย สิ่งนี้ทำให้คุณท้อบ้างไหม

ฮิวโก้ : ไม่ครับ ถ้างานจ้างมันเพียงพอและเพลงเป็นที่ชื่นชอบมันก็รีดเงินได้ คืออาจจะไม่เยอะเหมือนสมัยก่อนก็ตาม มันอาจจะท้อสำหรับศิลปินใหม่ แต่สำหรับศิลปินที่กินบุญเก่าอย่างผมนี่บ่นอะไรมากไม่ได้หรอกครับ

 

การร่วมงานกับศิลปินท่านอื่นของคุณเป็นสิ่งที่แฟนเพลงจับตามองมาก ในอนาคตมีใครที่คุณอยากร่วมงานด้วยอีกไหม

ฮิวโก้ : มีเยอะครับ แต่ตอนนี้อยากให้คอนเสิร์ตผมครั้งนี้ผ่านไปก่อน แต่ครั้งต่อจะเป็นอย่างไรขอเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์ดีกว่าครับ เพราะผมยังวางแผนชีวิตแค่เดือนธันวาคมนี้ ก็มีงานเทศกาลดนตรีและมี Collection เสื้อผ้าที่ทำกับ กุ้ง Kunita ด้วย คือผมก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆ อะครับ ไม่หยุดนิ่ง

 

สุดท้ายนี้ แฟนเพลงจะมีโอกาสได้เห็นอัลบั้มเพลงสากลของคุณอีกไหม

ฮิวโก้ : การทำเพลงสากลผมจะไม่ทำกับค่ายเดิมแล้ว คือผมเองอาจจะทำกับค่าย Me records และปล่อยลง YouTube Itune คนก็ดูไปทั่วโลกอยู่ดี เพราะถ้าไปเป็นศิลปินหน้าใหม่ ที่มีอายุใกล้ 40 และมีครอบครัวแล้ว การไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วรอคอยการเป็นร็อคสตาร์ เวลามันเหมาะแล้ว คือผมวางแผนจะอยู่ไทยระยะยาว แต่ถ้ามีโอกาสดีๆที่มีเงินมีทองผมก็บินไปเล่นได้ เพราะเคยไปเล่นที่นิวยอร์กและสิงค์โปร์ที่เป็นงานจ้าง แต่ถ้าจะให้ไปเฝ้ารอความเท่ ต้องไปอยุ่เป็นเดือนบินไปบินมา อันนี้ผมทำไม่ได้แล้วครับ

คลิกชมบทสัมภาษณ์คอนเสิร์ต ภาษาแม่ - ฮิวโก้  จากรายการ "เรียงคิวบันเทิง" ได้ที่นี่ 

 

การกลับมาครั้งนี้ของ ฮิวโก้ นั้นนอกจากจะมีผลงานเพลงทั้งอัลบั้มแล้ว เขาก็ได้พาแฟนๆเข้าสู่โลกของเขาผ่านคอนเสิร์ต  “Hugo ภาษาแม่” ที่กำลังจะมีขึ้นที่นี้จัดขึ้นวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2560 นี้ที่ไบเทคบางนา ฮอลล์ 107 ซึ่งใครที่เป็นแฟนผลงานของ เล็ก ฮิวโก้ นั้นห้ามพลาดงานคอนเสิร์ตนี้เป็นอันขาด 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ "ฮิวโก้" เผยการทำเพลงที่ไม่รอความเท่! และความพิเศษคอนเสิร์ต "ภาษาแม่"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook