Season Five ไขเคล็ดลับความสำเร็จ! ในการเป็นวงดนตรี 500 ล้านวิว

ถึงแม้ว่าในตอนนี้เพลงแนวประสานเสียงนั้นจะไม่ได้เป็นแนวเพลงที่อยู่ในกระแสหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของดนตรีดัง Season Five เลย เพราะพวกเขาคือศิลปินดังที่นอกจากจะมีความสามารถแล้ว ผลงานพวกเขาก็โด่งดังและมียอดวิวรวมกันสูงถึง 500 ล้านวิวจากทุกซิงเกิ้ลที่ทำออกมา

ซึ่งหลังจากที่ปล่อยผลงานเพลงล่าสุด "นอนจับมือกันครั้งแรก" ออกมา ล่าสุดทางวงก็ได้มาให้สัมภาษณ์เรื่องผลงานใหม่กับทาง Sanook! Music และเล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขาให้ทีมงานและผู้อ่านได้ฟังกันอย่างไม่มีกั๊กด้วย 

 

 

กลับมาคราวนี้ พี่ๆมากับเพลง นอนจับมือกันครั้งแรก เพลงนี้มีที่มาอย่างไร

 Season Five : เพลงนี้พี่ฟองเบียร์ แต่งทั้งเนื้อร้องและทำนองเองครับ แล้วเป็นประสบการณ์ที่เขาได้ยินคนทะเลาะกัน และเลยนึกถึงว่าคนที่รักกันก็มีช่วงใช้อารมณ์ และขาดสติทะเลาะกัน ก็เลยเป็นการเตือนสติว่าเวลาทะเลาะกัน เราอาจจะเสียเขา เลยเป็นการเตือนให้เขานึกย้อนกลับไปวันที่เขาเจอกันวันแรกๆ ก็จะมีเหตุการณ์ นอนจับมือครั้งแรก ก็คือถ้าจะถึงปลายทางความรัก ก็อยากให้ลองย้อนกลับไปถึงครั้งแรก

 

ตอนที่ฟังเพลงนี้ครั้งแรก สมาชิก Season Five มีความรู้่สึกอย่างไร

Season Five :  พวกเราพอฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็ชอบเลย เพราะเป็นมุมที่คนไม่ค่อยนึกถึงกันและเป็นเพลงที่ไม่ค่อยง้อด้วย เหมือนเป็นการตักเตือนว่าอย่าใช้อารมณ์ เป็นผู้ใหญ่ดี คือสมัยก่อนเราร้องเพลงอย่าง พูดไม่คิด อ้อนวอนหน่อยๆ จะต่างจากเพลงนี้ เพลงนี้ก็จะมีจังหวะกลางๆหน่อย ตอนเรียบเรียงดนตรีก็จะยากในการใส่รายละเอียดลงไปหน่อย

 

เอ็มวีเพลงนี้ มีเนื้อหาพูดถึงอะไร

Season Five : เราอยากให้เอ็มวีมันดูเรียล เลยได้น้องเพลิงและมิ้งมาเล่น เคมีเข้ากันดี ก็สวยหล่อทั้งคู่ ก็ใช้กล้องแบบพิเศษให้ภาพออกมาวาวๆ แบบใน Transformer คือเวลาดูภาพก็จะมีภาพที่ต่างออกไปครับ

 

เปา Season Five

กระแสตอบรับตอนนี้เป็นตามที่คาดหวังไหม 

Season Five : กระแสดีระดับหนึ่งเลย คือเพลงนี้ปล่อยออกมาไม่นาน คนก็ร้องได้แล้ว ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ปล่อยออกมาเลยครับ เป็นผลงานที่พวกเราก็คาดหวังระดับหนึ่งเลยกับซิงเกิ้ลนี้

 

ตอนนี้ก็ปล่อยเพลงออกมา 5 ซิงเกิ้ลแล้ว มีแพลนจะทำอัลบั้มเต็มไหม

Season Five : มีครับเร็วๆนี้ เพราะเราจะรอให้ครบ 10 ปีแล้วปล่อย (หัวเราะ) ก็รอให้มีเพลงเยอะๆก่อนครับ อาจจะเป็น 5 เพลงที่ปล่อยไปแล้ว และ 5 เพลงที่ยังไม่ได้ปล่อย ก็คิดว่าจะรอรวบรวมให้ครบ 10 เพลงก่อนครับ

 

หลายๆคนจะชื่นชอบการแสดงสดของวง Season Five กันมาก ปกติพวกคุณมีวิธีเตรียมตัวอย่างไรก่อนแสดง

Season Five : ก็ต้องวอร์มเสียงก่อนครับ วิธีแต่ละคนก็จะต่างกัน ผมก็จะไล่สเกลก่อน อย่างเอกก็จะใช้วิธีออกกำลังกายก่อนขึ้นแสดงครับเพื่อความฟิตร่างกาย บางคนไล่ตัวโน้ต บางคนใช้วิธีพักเสียงทานน้ำอุ่น ทานข้าวก่อนการแสดงก็มีครับ

 

จั๊ก Season Five

ก่อนหน้านี้ จะมีคนตั้งฉายาพวกคุณว่าวง 500 ล้านวิว คุณรู้สึกอย่างไรกับฉายานี้

Season Five : จริงๆมันเป็นการเอายอดวิว ทุกเพลงที่ทำมาโกยรวมๆกันครับ คือพวกเราเป็นวงที่โตมากับโซเชี่ยลและออนไลน์ ก็อยากจะขอบคุณตรงนี้ เพราะมันก็มีเพลงที่ได้ร้อยล้านวิวไปสองเพลง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมีเพลงที่กำลังร้อยล้านอีก ก็อยากจะทำอะไรให้แฟนๆเหมือนกัน

คือในตอนนี้ถ้าวัดยอดวิวเป็นกระแสในค่าความนิยม เราก็ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้เลย ต้องขอบคุณทุกคนในโลกโซเชี่ยลและก็ทุกๆทาง แม้แต่คนที่เจอตามงาน หรือคนทางบ้านที่คอยสนับสนุนเช่นกันครับ

 

วง Season Five เองก็เคยอยู่ในยุคที่วงการเพลงเป็นซีดี จนมาถึงดิจิตอล คุณชอบยุคไหนมากกว่ากัน

Season Five : พวกเราอยู่ในช่วงที่เป็นรอยต่อพอดีครับ จริงๆเกิดมาก็เห็นช่วงเทปด้วย คือทุกยุคมีข้อดีข้อเสียหมด คือคนรู้จักเราช่วงปลายซีดี และกำลังเข้ามาดิจิตอลพอดีเลยครับ คือยุคสุดท้ายของซีดีเลย อัลบั้มแรกได้ออกเป็นซีดี  และพวกเราก็อยู่ในยุคสุดท้ายที่มีการดาวน์โหลดริงโทนด้วย

คือเพลงเราได้ยอดวิวเยอะ แต่ไม่ได้กอบโกยรายได้เท่าไหร่ เพราะเราดันมาเปรี้ยงช่วงที่คนเริ่มไม่ได้เงินจากการขายเพลงแล้ว แต่เราก็ได้รายได้ทางอ้อม พอคนรู้จักเราจากโซเชี่ยล ก็ทำให้เรามีคอนเสิร์ตมีงานก็ทำให้คนรู้จักเรามาก

สำหรับพวกเราในยุคก่อนการเป็นศิลปินมันยากมากครับ และระยะห่างจากคนทั่วไปและศิลปินมีเยอะมาก อย่างสมัยก่อนการเจอพี่เบิร์ดมันยากมาก แต่เดี๋ยวนี้ถ้าเราอยากเจอบอดี้แสลมก็แค่ดูตารางงาน เราสามารถไปใกล้ชิดพวกเขาได้ และการออกผลงานศิลปินก็ไม่มีโอกาสได้แสดงผลงานมากเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ใครๆก็โชว์ผลงานได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีซีดี ก็แสดงผลงานได้ ตอนนี้เลยรู้สึกได้เลยว่ามีศิลปินเยอะมากจริงๆ มีเยอะและมาเร็วกันมากครับ

 

 

เจ Season Five 

 

ในตอนนี้ นอกจากตัววงแล้ว คุณเอก เองก็เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนักแต่งเพลงด้วย คุณเริ่มแต่งเพลงเมื่อไหร่

เอก Season Five : จริงๆแต่งตั้งแต่ ม ต้น ครับ คือไม่มีหลักการอะไรเลย แต่ผมเป็นคนชอบแต่งกลอนประกวด คือวันสำคัญวันสุนทรภู่ ผมเป็นคนชอบวิชาภาษาไทยและชอบเรื่องภาษามาก และพอชอบดนตรีทั้งสองอย่างก็มารวมกัน ก็เลยเริ่มเขียนเพลงขึ้นมา แต่ไม่กล้าโชว์ออกมาเพราะคิดว่าไม่เก่ง แต่พอเข้ามาอยู่ในวงการก็เริ่มเอาเพลงที่ทำให้เพื่อนๆและโปรดิวเซอร์ดู เขาก็ชอบกันเลยได้แต่งเพลง แหลก ออกมาเป็นเพลงแรก คือเราอยากให้เป็นผลงานของเราจริงๆ พอเพลงนี้คนชอบก็เลยมีโอกาสได้เขียนให้คนอื่นตามมาครับ

 

หลายๆศิลปินที่คุณแต่งเพลงให้ ก็เป็นคนที่มีบุคลิกต่างจากคุณ การแต่งเพลงให้คนอื่นมีความท้าทายอย่างไร

เอก Season Five : เราต้องดูศิลปินที่เราแต่งให้ว่าเขาเป็นใคร ว่าภาษาที่เขาใช้เป็นอย่างไร คนฟังจะเชื่อสิ่งที่เขาร้องไหม และต้องดูว่าเขาเป็นคนแบบไหนทำเพลงแนวไหน คือเราก็ต้องรู้จักตัวตนศิลปินที่ทำงานด้วยครับ

 

คิดว่าอะไรคือลายเซ็นในการแต่งเพลงของคุณ

เอก Season Five : มันก็จะมีคำเปรียบเทียบ อย่างเพลง แหลก ก็มีการเปรียบเทียบ ก้อนหินกับเม็ดทราย หรือ Sky & Sea ก็จะมี ฟ้ากับทะเล ที่เอามาเปรียบเทียบกัน คือผมมักจะใช้แบบนี้ในเพลง ใช้คำเปรียบเปรย คือใช้คำที่เราใช้เอง ที่บางทีเพื่อนฟังเพลงก็รู้ว่าเป็นงานเรา บางคนก็บอกว่า “ภาษาแบบนี้มีแกคนเดียว” (หัวเราะ)  ก็คงเป็นการใช้ ภาษาในเพลงอ่ะครับที่เป็นเอกลักษณ์

 

เอก Season Five

 

ในปัจจุบันนี้การที่เด็กคนหนึ่งจะฟอร์มวงร็อกเป็นเรื่องปกติมาก แล้วถ้าพวกเขาจะทำวงประสานเสียงแบบพวกคุณ พวกเขาควรทำอย่างไร

Season Five : คือถ้าคุณชอบเพลงประสานเสียงแบบนี้ มันเป็นอะไรที่เฉพาะทางมากครับ เพราะคนส่วนใหญ่ชอบฟังเพลงร็อก คือถ้าเราชอบอะไรที่ไม่เป็นที่นิยม มันก็ต้องใจรักมากครับ อย่างพวกเราเองโตมากับเทปยุคศิลปินผิวดำ คือตอนนั้นมี BoyziiMen ซึ่งตอนนี้มันก็หมดไปแล้ว คือถ้าเราเกิดยุคนี้ พวกเราคงไม่ทำเพลงแบบนี้แน่นอน แต่สมัยก่อนเพลงประสานเสียงมันดังมาก ตอนนี้ก็จะเหลือแค่ชาวต่างชาติ เพราะมันเป็นวัฒนธรรมของคนเป็นคริสต์ที่ร้องในโบสถ์ อย่างเราเองก็มาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนที่เป็นโรงเรียนคริสต์

ถ้าเราสังเกตดูวงประสานเสียงอย่าง Acapella 7 Alarm9 และ Season Five ก็มาจากสถานศึกษาหมดเลย เราก็อยากให้คนที่ชอบเพลงแนวนี้ลองไปดูชุมนุมตามสถานศึกษา ที่ส่วนมากจะมีชมรมประสานเสียง และหาว่าเราชอบจริงไหม ถ้าเราได้พื้นฐานแล้วลองทำวงของตัวเองขึ้นมาครับ  คืออยากให้ไปสร้างพื้นฐานทฤษฎีกับสถาบันหรือชมรมด้านนี้ครับมันจะทำให้ความรู้ทางดนตรีแนวนี้เราแน่นมาก

คือการทำวงแบบนี้ตอนแรกมันสนุกครับ แต่ไปๆมาๆมันจะเจอเรื่องยากครับ เพราะมันจะต้องมีตำแหน่งเสียงซึ่งจะหาคนมาลงต่างๆยากมาก ถ้าคุณทำวงดนตรีถ้ามือกีต้าร์ไม่โอเคก็แค่หาคนใหม่ แต่การร้องมันจะหายากมากยิ่งถ้าเป็นเสียงที่มีเอกลักษณ์ มันต้อง Fix วงไปนานๆ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนก็ต้องมาหาและเรียนรู้กันใหม่

และอีกหนึ่งปัญหาที่เรามักจะเจอกันก็คือเพลงแนวนี้จะไม่ป๊อป คือคนชอบฟังเพลงง่ายๆ  อย่างเพลงร็อกหนักๆบางทีก็ต้องปรับเป็นป๊อปร็อก อย่างการร้องประสานเสียงมันจะเป็นแนวคลาสสิค ที่วัยรุ่นไม่ชอบ ดังนั้นคุณต้องทำให้มันป๊อปขึ้น เพื่อให้คนฟังง่ายลงมา ก็ต้องประยุกต์ครับ อย่างในซีรี่ย์ Glee หรือ ภาพยนตร์ Pitch Perfect ก็จะมีการปรับเพลงในเรื่องให้ป๊อปขึ้น มีการบีทบ๊อกและดนตรีใหม่ๆมาผสม เหมือนกันครับ คือความคลาสสิคมันก็เป็นปัญหาอีกอย่างของดนตรีแนวนี้ครับ

 

ในตอนนี้ค่าย Merecords ก็มีศิลปินหลากหลายมาก ถ้ามีโอกาสอยากแจมกับเพื่อนๆคนไหนในค่ายบ้าง

Season Five : การแจมมันยากครับเพราะเรามีสี่คน ถ้าขึ้นเวทีกับศิลปินที่เป็นวงมันจะยาก แต่ถ้าคนที่เราแจมด้วยเป็นศิลปินเดี่ยวอย่าง สงกรานต์ ก็เป็นไปได้ ล่าสุดเขาก็พึ่งเอาเพลงของพวกเราไปร้องใน The Mask Singer ซึ่งตอนแรกก็เดาไม่ออกเลยว่าเป็นเขา ก็ชอบมากครับ 

หรือถ้าเป็นวงก็อยากร่วมงานก็คงเป็น Silly Fools  เพราะเราโตมากับเพลงเขา เราก็ทำไลน์ประสานเพลงเขาได้ ล่าสุดก็พึ่งได้ไปคอนเสิร์ตเขามา และเพลงของเขาก็จะมี Melody ที่สวยงามร้องง่ายแบบป๊อป คือน่าจะเหมาะกับการเอามาประสานเสียงเข้าไปครับ

คลิกฟังเพลงของวง Season Five ได้ที่นี่

 

ถึงแม้ว่าแนวเพลงของพวกเขานั้นจะไม่ใช่แนวเพลงหลัก แต่ด้วยความสามารถทางดนตรีและการปรับตัวของวง ก็ทำให้วง Season Five นั้นเป็นอีกวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้ใครเลย ซึ่งแฟนๆสามารถฟังเพลงของพวกเขาได้ที่ JOOX และ Sanook! Music เลยครับ