เบื้องลึกของ "Take Me Home, Country Roads" ที่ปีนี้ใช้ประกอบหนังไป 4 เรื่องแล้ว | Sanook Music

เบื้องลึกของ "Take Me Home, Country Roads" ที่ปีนี้ใช้ประกอบหนังไป 4 เรื่องแล้ว

เบื้องลึกของ "Take Me Home, Country Roads" ที่ปีนี้ใช้ประกอบหนังไป 4 เรื่องแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหมือนว่าปีนี้เป็นปีแห่งการรำลึกถึงจอห์น เดนเวอร์ เลยนะ เพราะ Kingsman The Golden Circle นี่ก็เป็นหนังเรื่องที่ 4 ของปีนี้แล้ว ที่นำเพลงของจอห์น เดนเวอร์ มาใช้ประกอบในหนัง Take Me Home, Country Roads ถูกใช้ใน Alien: Covenant , Diary of a Wimpy Kid: The Long Haul , Logan Lucky แล้วก็ยังมี Annie’s Song ของ จอห์น เดนเวอร์ อีกเช่นกันก็ถูกนำมาใช้ใน Free Fire และ Okja น่าจะด้วยเหตุที่จอห์น เดนเวอร์ เป็นศิลปินคนหนึ่งที่ชาวอเมริกันรัก และปีนี้ก็ครบรอบ 20 ปี ที่จอห์น ได้จากโลกไป 

 

คลิกเพื่อฟัง John Denver - Annie's Song

annies-song

 

 

จอห์น เดนเวอร์ เป็นศิลปินอเมริกัน เขาเป็นทั้งนักร้อง นักแสดง นักดนตรี นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง จอห์น ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุค 70s เขามีเพลงมากกว่า 300 เพลง แต่งเองเสีย 200 เพลง รวมกันแล้วขายได้มากกว่า 33 ล้านแผ่นทั่วโลก เพลงของจอห์นประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ชาร์ต ทั้งชาร์ตเพลงคันทรี่ และ บิลบอร์ด มีเพลงดังหลายเพลงนอกเหนือจาก Take Me Home, Country Roads ก็ยังมี “Annie’s Song”, “Rocky Mountain High”, “Thank God I’m a Country Boy”, และ “Sunshine on My Shoulders” จอห์น มีความรักในการบิน แล้วก็เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินส่วนตัวตกในแคลิฟอเนีย เมื่อ 12 ตุลาคม 1997 ในวัย 53 ปี ทิ้งผลงานไว้ 32 อัลบั้ม ทุกวันนี้ก็ยังมีผลงานของจอห์น เดนเวอร์ ออกสู่ตลาดอยู่เรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เป็นงานรวมฮิต และ บันทึกการแสดงสด

 

เครื่องบินรุ่นเดียวกับของจอห์น เดนเวอร์ ที่ตก

 

Take Me Home, Country Roads เป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของจอห์น บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Poems, Prayers and Promises เป็นผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 ออกในปี 1971 เพลงประสบความสำเร็จอย่างมาก ขึ้นถึงอันดับที่ 2 ในบิลบอร์ดชาร์ต ด้วยเนื้อหาที่มีความเป็นอเมริกันสูง บรรยายความงามความคิดถึงบ้านนอกของคนอเมริกัน จึงเป็นเพลงที่อยู่ในใจของชนอเมริกันมากว่า 40 ปี ไม่เพียงแค่คนอเมริกันที่รักเพลง Take Me Home, Country Roads เพราะแมทธิว วอห์น ผู้กำกับ Kingsman The Golden Circle เจ้าของไอเดียเลือก Take Me Home, Country Roads มาใส่ในหนังก็เป็นชาวอังกฤษ และเพลงนี้ก็ถูกใช้ประกอบในหนังอย่างเชิดชู เราได้ยินดนตรีของ Take Me Home, Country Roads ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง และถูกใช้คลอในฉากหลังตลอดเรื่อง และสุดท้ายก็นำมาให้ “เมอร์ลิน” ร้องในฉากสำคัญของเรื่อง ตัวมาร์ค สตรอง เองก็ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเขารู้สึกกระดากมากที่ต้องร้องเพลงนี้ในหนัง ในขณะที่เขาไม่ใช่นักร้องเลย 

 

คลิกเพื่อฟัง John Denver - Take Me Home, Country Roads

take-me-home-country-roads

 

 

เชื่อว่าการสดุดีอย่างให้เกียรติของแมทธิว วอห์น ต่อจอห์น เดนเวอร์ ด้วยการนำ Take Me Home, Country Roads มาใช้เป็นเพลงธีมในหนัง น่าจะทำให้คนรุ่น 70s ได้หวนคิดถึงความสวยงามเพลงนี้ขึ้นมาอีกครั้ง และคนรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นหูกับเพลงนี้ ก็น่าที่จะสัมผัสได้ถึงความไพเราะของเพลงนี้เช่นกัน ถึงตรงนี้ทางผู้เขียนได้นำเกร็ดเรื่องราวที่มาของเพลงนี้มาฝากกันด้วยครับ

 

บิล แทฟฟี่ และ จอห์น เดนเวอร์

 

ผู้ประพันธ์หลักเพลงนี้คือ บิล และ แทฟฟี่ ดานอฟ คูสามีภรรยา ช่วงนั้นจอห์น เดนเวอร์ ไปโชว์เพลงที่วอชิงตัน กับ บิล และ แทฟฟี่ หลังโชว์จบ ทั้งคู่ก็เชิญจอห์น ให้ไปที่บ้านพวกเขา แล้วทั้งคู่ก็เล่นเพลงนี้ให้จอห์นฟัง แต่แล้วก็เกิดเหตุที่จอห์นเกือบไม่ได้ทำเพลงนี้ เพราะระหว่างทางกลับบ้าน จอห์นเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้นิ้วโป้งหักต้องเข้าโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก จอห์นและคู่สามีภรรยาดานอฟช่วยกันทำเพลงนี้จนจบ และนำเพลงนี้ไปร้องโชว์ด้วยกัน วินาทีนั้นจอห์นรู้แล้วว่าเขามีเพลงฮิตในมือแล้ว เขารีบพาทั้งคู่ไปบันทึกเสียงที่นิวยอร์ค ในเพลงนี้ถ้าฟังดี ๆ จะได้ยินเสียงบิลและแทฟฟี่ร้องคอรัสอยู่ด้วย

 

 

เนื้อหาในเพลงนี้พูดถึงถนนในเวสต์เวอร์จิเนีย ทั้ง ๆ ที่จอห์น เดนเวอร์ ไม่เคยไปเวสต์เวอร์จิเนียเลยสักครั้ง ส่วนบิลและแทฟฟี่ก็ไม่เคยไปเวสต์เวอร์จิเนียเช่นกัน ทั้งคู่เขียนเพลงนี้ขณะขับรถไปแมรี่แลนด์ด้วยกัน บิล ได้แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้จากโปสการ์ดจากเพื่อนเก่าที่อยู่ในเวสต์เวอร์จิเนียส่งมาให้ บวกกับสถานีวิทยุที่เขาฟังตอนเด็ก ๆ ก็เป็นคลื่นสถานีที่อยู่ในเวสต์เวอร์จิเนีย

 

แรกทีเดียวบิลและแทฟฟี่ตั้งใจจะแต่งเพลงนี้กับจอห์นนี่ แคช ไม่ได้มีภาพจอห์น เดนเวอร์ ในหัวเลย เพราะคิดว่าเพลงนี้ไม่เหมาะกับสไตล์ของจอห์น เดนเวอร์

 

ในช่วงที่บิลและแทฟฟี่แต่งเพลงนี้กับจอห์น เดนเวอร์ ทั้งคู่มีวงดนตรีชื่อ “Fat City” แล้วก็มีข้อครหาว่าทั้งคู่ทำให้จอห์นดัง แล้วจอห์นก็ลืมพวกเขา แต่ทั้งคู่ก็ออกมาแก้ต่างให้จอห์นเสมอว่าไม่เป็นความจริง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับจอห์นดำเนินไปด้วยดีเสมอ เวลาจอห์นออกทัวร์ก็เอา Fat City ไปด้วยตลอด แล้วยังทำให้ Fat City ได้เซ็นสัญญากับค่าย RCA อีกด้วย บิลและแทฟฟี่ก็ยังแต่งเพลงให้จอห์นอีกหลายเพลงด้วย

 

แชด มิตเชลทริโอ

 

Take Me Home, Country Roads ออกมาในฤดูใบไม้ผลิปี 1971 แต่ดังไปทั่วประเทศช่วงกลางเดือนเมษายน แต่เพลงก็ยังไต่อันดับในชาร์ตแบบช้า ๆ เหตุเพราะจอห์น เดนเวอร์ เป็นนักร้องที่ยังไม่ดังในช่วงนั้น ผลงานของจอห์นในตอนนั้นมีแต่เพลง “Leaving On A Jet Plane,” ที่เขาเป็นผู้แต่งไว้ ตอนที่เป็นสมาชิกวง “แชด มิตเชลทริโอ” แล้วก็ได้วง ปีเตอร์ พอล แอนด์ แมรี่ ไปบันทึกเสียงจนโด่งดังในปี 1969 , จอห์น มั่นใจว่า Take Me Home, Country Roads จะต้องกลายเป็นเพลงฮิตอย่างแน่นอน เลยยืนกรานให้ค่ายอาร์ซีเอโปรโมตเพลงนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วสุดท้ายก็เป็นผลสำเร็จ Take Me Home, Country Roads กลายเป็นเพลงฮิตในฤดูร้อนปีนั้น ขึนถึงอันดับที่ 13 ในชาร์ต US TOP 40

 

ก้อนหินสลัก อนุสรณ์ที่ระลึกถึงจอห์น เดนเวอร์ ที่แอสเพน โคโคราโด

 

 

อ่านเนื้อเพลงและคำแปลกันครับ

Almost heaven, West Virginia Blue ridge mountain, Shenandoah river Life is old there, older than the trees Younger than the mountains, blowing like a breeze

เวสท์เวอร์จิเนีย ดุจดั่งสวรรค์ เทือกเขาบลูริดจ์ แม่น้ำ Shenandoah ชีวิตเก่าๆที่นั่น เก่าแก่ยิ่งกว่าต้นไม้ เยาว์วัยยิ่งกว่าภูเขา พัดพาไปเหมือนดั่งสายลม

Country Roads, take me home To the place I belong West Virginia, mountain mamma Take me home, Country Roads

ถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที สู่ที่ที่ฉันคู่ควร เวสท์เวอร์จิเนีย ภูเขาทั้งหลาย พาฉันกลับบ้านที ถนนชนบท

All my memories, gather round her Miners’ lady, stranger to blue water Dark and dusty, painted on the sky Misty taste of moonshine, teardrop in my eye

ความทรงจำทั้งหลายของฉัน วนเวียนอยู่รอบตัวเธอ สาวชาวเหมือง ไม่คุ้นเคยกับท้องทะเล ท้องฟ้านั้นแต่งแต้มไปด้วยความมืดมนและเต็มไปด้วยฝุ่นละออง แสงจันทร์ที่ถูกบดบังไปด้วยหมอก น้ำตาในดวงตาของฉัน

Country Roads, take me home To the place I belong West Virginia, mountain mamma Take me home, to the Country Roads

ถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที สู่ที่ที่ฉันคู่ควร เวสท์เวอร์จิเนีย ภูเขาทั้งหลาย พาฉันกลับบ้านที ถนนชนบท I hear her voice in the morning hour she calls me Radio reminds me of my home far away Driving down the road I get a feeling That I should have been home yesterday, yesterday

ฉันได้ยินเสียงเธอเรียกฉันในยามเช้า เสียงวิทยุย้ำเตือนให้ฉันนึกถึงบ้านเกิดที่อยู่ห่างไกล ฉันมีความรู้สึกเมื่อขับไปตามถนน ว่าฉันควรจะกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

Country Roads, take me home To the place I belong West Virginia, mountain mamma Take me home, Country Roads

ถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที สู่ที่ที่ฉันคู่ควร เวสท์เวอร์จิเนีย ภูเขาทั้งหลาย พาฉันกลับบ้านที ถนนชนบท

Country Roads, take me home To the place I belong West Virginia, mountain mamma Take me home, to the Country Roads Take me home, that Country Roads Take me home, that Country Roads

ถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที สู่ที่ที่ฉันคู่ควร เวสท์เวอร์จิเนีย ภูเขาทั้งหลาย พาฉันกลับบ้านที ไปยังถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที ถนนชนบท พาฉันกลับบ้านที ถนนชนบท

 

เครดิตคำแปลโดย aelitaxtranslate

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook