หลังจากที่ชนะเวทีประกวด Chang Music Contest 2012 วงดนตรี EDM อย่าง Boom Boom Cash ก็พาดนตรีสุดมันส์ของพวกเขาเข้าไปอยู่ในใจแฟนเพลงเป็นที่เรียบร้อย จนทำให้พวกเขามีงานโชว์ต่อเนื่องและได้รับเชิญให้ไปแจมกับศิลปินรุ่นพี่มากมายหลายวง

และในปี 2560 พวกเขาก็ได้เริ่มงานกับค่ายใหม่ Wayfer Records พร้อมเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ Clean Food ที่ได้นำเรื่องราวความรักและอาหารมาผสานกันอย่างลงตัว และล่าสุดสมาชิกทั้งสี่อย่าง เอ้, หมิว, แขก และ โอเล่ ก็ได้มาเล่าถึงการทำงานกับค่ายใหม่ พร้อมเผยเบื้องหลังการทำงานเพลงสุดอร่อยของพวกเขาด้วย

วง Boom Boom Cash มาร่วมงานกับค่าย Wayfer Records ได้อย่างไร

หมิว: ค่าย Wayfer Records อยู่ในเครือ Warner Music ที่ดูแลโดยพี่ ดาโน่ ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของวงเรา พวกเราเองก็เลยย้ายตามมา ซึ่งค่ายเก่าของวงเราเองก็เป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Warner อยู่แล้วด้วยค่ะ

เพลง Clean Food มีจุดเริ่มต้นจากไหน

เอ้ : เราเปรียบเทียบอาหารเพราะสมัยก่อนจะมีเทรนด์กินคลีน พวกเราก็กินตามใจตัวเอง จนกระแสกิน Clean Food มาเราบางคนก็รู้สึกว่ากินอาหารอร่อยๆแบบ เบค่อน หรือ อาหาร Fast Food ไม่ได้แล้ว แต่พวกเราจะคิดอีกแบบว่า ถึงจะมีคนบอกว่าอาหารที่เรากินไม่ดี แต่เราก็จะกินต่อไป ก็เหมือนคนรักอะครับที่หลายคนอาจมองไม่ดี แต่เราก็จะรักของเราแบบนั้นต่อไป

ทำไมถึงมาร่วมงานกับ ฟักกลิ้งฮีโร่ ในเพลงนี้

หมิว : จริงๆพวกเราเคยทำงานกับทีมก้านคอคลับ แต่ไม่เคยทำเพลงกับเขาคนเดียว แต่พี่เขาเคยมาแจมบนคอนเสิร์ตบ่อยๆและเป็นคนน่ารัก พี่เอ้ก็เลยติดต่อชวนเขามาร่วมงานด้วยค่ะ

เอ้ Boom Boom Cash

ดนตรีเพลงนี้เป็นสไตล์แบบไหน

เอ้ : เพลงนี้เป็นเพลงป๊อปแดนซ์ครับ คือไม่ได้มีซาวด์ฉูดฉาดมาก จะมีกลิ่นอาย Future Bass ผสมนิดหน่อย

ทำไมถึงเลือกธีมห้องครัว มาใช้ในเอ็มวีนี้

หมิว : พอเพลงมันเป็นคลีนฟู้ด ก็เลยอยากเอาอาหารมาให้คนดู ก็เลยเสนอเรื่องอาหารและความรักควบคู่กันไป อย่างในเอ็มวีก็จะมีพระเอกนางเอก ก็จะมีถ่ายหุ่นที่ผอมเพรียวด้วย คือจะเป็นการตัดไปตัดมาระหว่างภาพของอาหารและความรักค่ะ

คาดหวังกับซิงเกิ้ลนี้อย่างไรบ้าง

หมิว : เอ็มวีนี้เป็นเพลงที่เราจัดเต็มกันมาก แล้วตั้งใจทำกันมากที่สุด และทุกคนก็ได้ระดมความคิดกันและใส่ไอเดียทุกคน อาหารในเอ็มวีนี้ก็เลือกกันเองทุกชนิด ก็เป็นอาหารโปรดของพวกเราหมดเลย

แขก Boom Boom Cash

ปีนี้วง Boom Boom Cash แจมกับศิลปินหลายคนมาก ทั้งงานเพลงและคอนเสิร์ต ได้ประสบการณ์อะไรบ้าง

หมิว : มันแล้วแต่งานด้วยค่ะ เพราะแบบว่าบางทีการทำงานกับวงอย่าง Bodyslam มันก็ยิ่งใหญ่และเยอะมาก คือเราซ้อมมาเยอะมาก แต่เขาก็สอนว่าการโชว์สดเป็นอย่างไร เพราะมันไม่เหมือนที่คิดไว้เลยต้อง Improvise หมด มันก็สอนให้เรารู้ว่าการเป็นศิลปินต้องทำอะไรบ้าง อย่างตอนหมิวทำงานกับค่าย Mono ก็เป็นภาพที่โตขึ้นตามธีมที่ค่ายแนะนำ ก็เป็นประสบการณ์ต่างกันออกไปค่ะ

เอ้: มันแล้วแต่การร่วมงานครับ เพราะทุกคนมีเรื่องที่สอนต่างกันออกไป ทั้งหมดก็กลายเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเราทำเพลงครับ

เมื่อปีที่ผ่านมาทางวงมีโชว์ถึง 250 งานในปีเดียว มีเหตุการณ์ประทับใจบ้างไหม

หมิว : มันต่างกันออกไปแต่ละจังหวัดเลยค่ะ บางที่เขาก็จะมาพูดภาษาถิ่นกับเรามันก็อะไรที่น่ารักดี ตอนนี้ในวงการเพลง EDM มันก็แพร่หลายด้วย แบบไปห้างก็ได้ยิน ตอนนี้หลายๆคนก็ฟังเพลง EDM มากขึ้นด้วย

คิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ในการแสดงของวง

หมิว : เวลาเล่นสดก็จะเป็นตัวเองมากค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่มันเป็นดนตรีปาร์ตี้เลยไม่ซีเรียส ก็พยายามเล่นให้สนุกที่สุดให้คนดูสัมผัสความมันส์และสนุกไปกับพวกเราได้ค่ะ

โอเล่ Boom Boom Cash

มีการแพลนก่อนไหม ว่าคอนเสิร์ตแบบไหนจะเล่นเพลงอะไร

หมิว : พวกเราก็ต้องดูก่อนว่าไปเล่นร้านแบบไหน มีคนดูเยอะเท่าไหร่ พอขึ้นเวทีซ้อมครั้งแรกก็จะคิดเรื่องเพลงที่จะเล่นเลย บางทีเราไปงานที่เป็นทางการเป็นเก้าอี้นั่งหมดก็ต้องปรับการแสดงหมด การเล่นแต่ละร้านก็จะต่างกันไป ถ้าเป็นเทศกาลดนตรีก็จะเป็นอีกแบบ

สมาชิกของวงมีจุดเริ่มต้นจากการทำเพลงร็อก คุณได้นำความร็อกมาผสมอย่างไร

เอ้ : มันจะมีความร็อกในการเล่นคอนเสิร์ตครับ อย่างแขกก็จะมีว้ากผสมการแร็พ บางทีดนตรีที่ทำก็จะมีกลิ่นอายบ้าง

หมิว Boom Boom Cash

ก่อนหน้าจะมาเป็นสมาชิก หมิวเองเป็นแชมป์การร้องเพลงหลายเวที มีเคล็ดลับในการแข่งอย่างไร

หมิว : ตอนประกวดไม่ได้คิดเรื่องจะชนะใจกรรมการเลย แค่คิดทำให้ดีที่สุดเวลาอยู่บนเวทีเท่านั้น อาจารย์จะสอนให้ซ้อมร้องหนักมาก ให้ซ้อมเพลงเดียวหกเดือน เพื่อจะร้องไม่กี่นาที อย่าไปคิดเรื่องกรรมการเรื่องการให้คะแนนให้โฟกัสแต่ตัวเองเท่านั้น ถ้าเราชนะตัวเองได้ก็คงชนะใจกรรมการได้เช่นกันค่ะ แต่พอมาอยู่วงก็จะไม่ได้ร้องแบบนั้น เพราะมันจะไม่เข้ากับดนตรี

ในเพลงของวงบางครั้งจะมีซาวด์แปลกใหม่ ออกมาเรื่อยๆด้วย เอ้มีวิธีหาซาวด์มาใช้ในเพลงอย่างไร

เอ้ : ในโปรแกรมที่ผมใช้ มันจะสร้างเสียงใหม่ๆได้ ก็สร้างซาวด์ใหม่ๆได้ เราสามารถใส่ Effect ได้เต็มที่ จะให้มันฟุ้งก็ได้ เวลาทำเพลงต่างๆเราจะมีความคิดว่า เพลงนี้ควรมีซาวด์แบบนี้ พอทำไปก็จะให้ฟีลดนตรีพาไปเองครับ

หมิว : เวลาพี่เอ้ทำงาน เขาก็จะเอาเสียงตัวเองมาดัดเอา เป็นเสียงที่สร้างขึ้นมาเองที่ไม่มีในโปรแกรม บางทีก็เคยเอาเสียงเรือดำน้ำมาดัดใส่ในเพลงด้วย บางทีก็เอาเสียงหมิวมาดัดแปลงเป็นบีทโดยการใส่เอฟเฟกต์ค่ะ

สุดท้ายนี้ ถ้าสมมุติสมาชิกวง Boom Boom Cash เป็นอาหาร พวกคุณจะเป็นอาหารอะไร

แขก : ถ้าเป็นผมคงเป็นเนื้อย่างอะครับ คือเป็นเนื้อเฉยๆ แต่เปลี่ยนรูปแบบได้ คือเป็นคนง่ายๆ แต่ก็มีมุมไม่ง่าย อย่างเนื้อย่างถ้าเราปล่อยมัน มันก็จะไหม้ครับ แต่ก็สามารถให้มันนุ่มหรือเกรียมนิดๆเช่นกันครับ

หมิว : คงเป็นอาหารประเภทไข่ทุกชนิดค่ะ เพราะเป็นคนชอบทานไข่อยู่แล้ว และมันเป็นส่วนประกอบทุกอย่างและเป็นจานหลักได้ สามารถทำให้มันจืดหรือรสจัดก็ได้ค่ะ

เอ้ : ผมน่าจะเป็นสังขยาอะครับ นิ่มๆดี เป็นคนนิ่มๆครับ (หัวเราะ)

โอเล่ : ผมคงเป็นข้าวต้มกุ๊ยครับ เป็นคนไม่สุภาพเท่าไหร่ (หัวเราะ)

คลิกฟังเพลงของวง Boom Boom Cash ได้ที่นี่

นอกจากจะเป็นวงที่มีความสามารถแล้ว Boom Boom Cash เองก็เป็นวงที่มีความสร้างสรรค์ในการทำเพลงและประยุกต์ให้เกิดความแตกต่างด้วย ซึ่งแฟนๆสามารถฟังเพลงสุดอร่อยและรสจัดจ้านของวงได้ JOOX และ Sanook! Music เลยครับ

อัลบั้มภาพ Boom Boom Cash เผยสูตรลับดนตรีสุดอร่อย! ภาพที่ 13 / 16

Boom Boom Cash เผยสูตรลับดนตรีสุดอร่อย!

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

THE RAMPAGE x BOOM BOOM CASH ส่งเพลงใหม่ "What is done" ผลงานร่วมมือกันของศิลปินสองประเทศ

"หมิว Boom Boom Cash" เผย! การแข่ง "The Mask Line Thai" ยากกว่าตอนคว้าแชมป์โอเปร่า

Boom Boom Cash ควง "ลำไย ไหทองคำ" ส่งเพลง "สาธุ" ขึ้นแท่นเอ็มวีร้อยล้านวิว

เปิดตัว "Wayfer Records" อย่างเป็นทางการ 6 ศิลปินจัดความมันยันเที่ยงคืน