"กานต์ กานตพนธ์" จากวัยรุ่นเลือดร้อน สู่ศิลปินความสามารถรอบด้าน
ในปัจจุบันนี้นอกจากศิลปินหลายคนจะมีความสามารถในการร้องเพลงและเล่นดนตรีแล้ว ศิลปินหลายคนก็มาพร้อมความสามารถในการแสดง การทำเบื้องหลัง และงานธุรกิจส่วนตัวด้วย อย่างเช่น กานต์ กานตพนธ์ ศิลปินหนุ่มจากค่าย Luster Entertainment ที่นอกจากงานเพลงแล้ว เขาก็มีผลงานด้านอื่นในวงการด้วย
โดยล่าสุดทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูคคุยกับ กานต์ ถึงผลงานเพลงใหม่ คนสำคัญชั่วคราว รวมถึงเส้นทางการศิลปินที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายก่อนที่จะมีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง
คุณกานต์มาร่วมงานกับค่าย Luster Entertainment ได้อย่างไร
กานต์ : เพื่อนๆผมที่อยู่ในค่ายชวนมาครับ จริงๆไม่ได้มีปัญหากับทางค่ายเก่านะครับ แต่ผมอยากทำเพลงที่ต่างจากเดิม แต่ตอนทำงานค่ายเดิมมันจะจัดจ้านสุดโต่งจนคนฟังเข้าไม่ถึงเท่าไหร่ เลยมาอยู่กับค่ายนี้ครับ เพราะทางค่ายเดิมเขายืนยันจะทำเพลงแนวเดิมครับ
การทำงานกับผู้บริหารค่ายมือใหม่อย่างคุณ กานต์ วิภากร เป็นอย่างไรบ้าง
กานต์ : ดีครับ พี่เขาเป็นคนน่ารักนิสัยดี เขาให้โอกาสผมหลายอย่างมากไม่ใช่แค่ทำเพลง แต่เขาให้ผมทำเอ็มวีกำกับเอ็มวีด้วยครับ
แล้วการทำงานกับเพื่อนในค่ายเป็นอย่างไรบ้าง
กานต์ : ดีครับ ผมก็สนิทหลายคนอย่าง บอล ศิริโชค, ตั้ม The Skipper นี่เป็นสามทหารเสือเลย ส่วนการร่วมงานก็ขึ้นอยู่กับทางพี่ กานต์ วิภากร ด้วย เพราะเพลงของบอลก็มาอยู่ในโปรเจ็คผมแล้ว แต่ของตั้มจะยากหน่อยเพราะเป็นวง ส่วนพี่ แม้ว นานา นี่ก็สนิทและรู้จักมาตั้งแต่พี่เขาทำเพลงช่วงแรกๆแล้วครับ
จากซ้ายไปขวา กานต์ กานตพนธ์, กานต์ วิภากร, แม้ว นานา และ บอลศิริโชค
เพลง คนสำคัญชั่วคราว มีเนื้อหาพูดถึงอะไร
กานต์ : เพลงนี้มาจากรุ่นน้องคนหนึ่งที่แอบชอบผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว แต่ผู้หญิงเขาเลิกกับแฟนและมาคบรุ่นน้องผม เสร็จแล้วแฟนผู้หญิงคนนั้นกลับง้อ เขาก็กลับไปหาแฟนเก่า น้องผมก็กลายเป็นคนสำคัญชั่วคราวแบบในเพลงเลยครับ
ซิงเกิ้ลนี้ต่างจากเพลงที่เคยทำมาจุดไหนบ้าง
กานต์ : ต่างครับ เพราะเพลงที่แล้วผมเน้นดนตรี แต่เพลงนี้ลดสเกลดนตรีและเพิ่มความสำคัญเนื้อร้องตั้งแต่ต้นเพลงไปจนจบเพลง ให้คนฟังเขาสามารถเข้าใจเนื้อหาเพลงได้
ทำไมคุณถึงตัดสินใจกำกับเอ็มวีเพลงนี้เอง
กานต์ : ผมเป็นนักแสดงอยู่แล้วครับ เอ็มวีที่แล้วก็มีกำกับเองแต่มันไม่เป็นเรื่องราว ก็เลยตัดสินใจกำกับเพราะเขียนพล็อตเรื่องมา แล้วพี่กานต์เขารู้ว่าผมทำโปรดัคชั่นทำภาพยนตร์ได้ เลยทำเอ็มวีเป็นไตรภาคเลยครับจะมีภาคต่อของสองศิลปินเลยครับ
หลังจากเพลง คนสำคัญชั่วคราว จะมีเอ็มวีเพลง สิบปากว่าไม่เจ็บเท่าตาเห็น ของพี่ แม้ว นานา และเพลง ข้าม ของ บอล ศิริโชค ที่น้องเสือลูกชายพี่กานต์ร่วมแสดงด้วย บทสรุปทุกอย่างอยู่ในภาคสาม เอ็มวีของผมจะเป็นตัวเริ่มและจุดเชื่อมของทุกอย่างครับ
เอ็มวีมีเนื้อหาอย่างไร
กานต์ : เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทะเลาะกับแฟนมาแล้วเราไปปลอบเขา ก็ดูรักกันและอินเลิฟ เสร็จแล้วแฟนเขากลับมา และมาอำลาเรา แต่เรื่องมันจะมีปมทิ้งไว้เพราะมีผู้หญิงปริศนาที่นั่งกับผมตอนจบเอ็มวี ก็จะปล่อยให้คนคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเอ็มวีภาคต่อไป
รู้สึกอย่างไรกับกระแสตอบรับที่ออกมา
กานต์ : ดีครับ เพราะ Luster เป็น Channel ใหม่ คน Subscribe มีแค่สองหมื่นคนครับ แต่เอ็มวีตัวนี้ยอดวิวขึ้นไวมากสำหรับ Channel ใหม่ แป๊ปเดียวก็เป็นแสนวิวแล้วครับ
ในคอมเม้นต์ก็จะมีสาวๆมาชมความหล่อของคุณด้วย รู้สึกอย่างไร
กานต์ : จริงๆเอ็มวีนี้น้อยลงนะครับ (หัวเราะ) ถ้าซิงเกิ้ลแรกจะมีพูดถึงเยอะหน่อย แบบมาส่องพี่กานต์ แต่เดี๋ยวนี้จะน้อยลง มาพูดถึงเนื้อหาเพลงและเอ็มวีว่าเหมือนชีวิตจริง ดูแล้วร้องไห้ มีไม่เยอะที่พูดถึงตัวผม ก็ดีใจที่คนมองผมที่ความสามารถและผลงานที่ทำออกมามากกว่า
คลิกฟังเพลง คนสำคัญชั่วคราว ได้ที่นี่
นอกจากงานเพลงแล้ว คุณมีงานแสดงมีธุรกิจส่วนตัวด้วย แบ่งเวลายากไหม
กานต์ : จริงๆธุรกิจส่วนตัวผมมีคนทำให้ครับ เพราะเป็นผู้บริหารแล้วเลยไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่เท่าไหร่ ก็ตรวจงานอย่างเดียว เลยไม่ยุ่งเท่าไหร่
งานเพลงและงานแสดงสำหรับคุณ อันไหนยากกว่ากัน
กานต์ : งานแสดงผมก็ได้รับตามบทบาทและคาแร็คเตอร์อย่างอังกอร์ หรือ บางระจัน ที่ผมได้รับการติดต่อมา ส่วนมากเป็นบทบู๊ ซึ่งผมถนัดบทแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนเพลงนี่อยู่กับผมมาตลอด ผมเป็นมือกีต้าร์มาตลอด พอเข้าปี 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้วนักร้องผมปวดท้องวิ่งลงจากเวที ผมก็ตกใจเลยร้องเพลงช้าไปสองเพลง หลังจากนั้นเจ้าของร้านให้ผมเป็นนักร้องและร้องเพลงจริงจังเลยครับ
ช่วงที่คุณเล่นดนตรีกลางคืน มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือตลกๆบ้างไหม
กานต์ : ตอนที่ผมเล่นที่ร้าน Funky villa ก็จะมีแฟนเพลงประจำครับ มาตั้งแต่สองทุ่มทั้งๆที่เล่นดึก และคือมาทุกวันจนผมจำหน้าได้ ผมก็เลยแกล้งแซวคนดูเรื่องการแต่งตัว และลุคบ้าง เขาก็เขินๆกัน ส่วนเรื่องของขวัญแฟนเพลงมันก็มีปกติอยู่แล้ว แต่ก็จะมีคนดูแกล้งปาของใส่บ้างจนอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน แต่ไปๆมาๆคนที่แกล้งเป็นเพื่อนต่างคณะในมหาวิทยาลัยก็เลยกลายเป็นเรื่องตลกไป
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จำได้ดีคือมีทหารเกณท์มาดูและผมอยากร้องเพลง บางระจัน พอเริ่มเพลงเขาตีกันเลย คือผมเป็นนักร้องที่ค่อนข้างโผงผาง อยากเล่นแต่เพลงเท่ๆ Disco, soul, funk สมัยก่อนถ้าใครขอที่ผมไม่ชอบก็จะพูดออกไมค์เลยว่าผมไม่อยากเล่นเพลงแบบนี้ เพื่อนร่วมวงก็จะไม่พอใจเท่าไหร่ผมเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมโตและคิดได้แล้วครับ ตอนนั้นคือเราอายุ 18-19 เองครับ หลังจากนั้นก็เลยรู้ว่าการพูดตรงโผงผางเกินไปก็มีผลต่อการทำงานครับ
คุณเองเป็นศิลปินคนหนึ่งที่ทำงานนานมาก กว่าจะมีเพลงของตัวเอง เคยท้อบ้างไหม
กานต์ : มีครับ นอกจากเรื่องเรียนก็มีเรื่องอื่นด้วย อย่างเช่นเรื่อง ตอนเรียนปริญญาเอกก็ไม่จบเพราะมันยากมาก คือมันไม่ได้หยุดเรียนเพราะงาน เพราะต่อให้ผมเรียนอย่างเดียวมันก็ไม่ไหวอยู่ดี คือคิดว่าอาจจะจบ แต่ผมมองว่ามันยากเลยไม่เรียนต่อ แต่ถ้าไปดูข่าวเก่าๆจะเห็นหลายคนเรียกผมว่าด็อกเตอร์กานต์ครับ ซึ่งจริงๆผมไม่ได้เรียนจบอย่างที่หลายคนเข้าใจครับ
คุณรู้สึกอย่างไรที่ ตัวเองได้รับโอกาสมากมายในวงการขนาดนี้
กานต์ : มันเป็นความโชคดีครับ เพราะผมเป็นคนขอนแก่น มาจากต่างจังหวัด คือเคยมีโอกาสได้คุยกับพี่ เอ ศุภชัย และมีแมวมองหลายคนมาหา และก็เคยแคสละครเรื่องนึง Planning love ผมไปสายมาก ไปแคสตอนสี่ทุ่มเพราะเล่นดนตรีอยู่ พอไปแคสเสร็จ ก็ได้เป็นพระเอกเฉยเลย ก็เป็นเรื่องของนางลูกคุณหนูแนวเกาหลีหน่อยๆ ก็จะลุคต่างจากตอนนี้
ช่วงที่ไปทำเพลงก็มีคนเอาผลงานไปเปิดในทีวี หลังจากนั้นก็กลับมาเรียน ก็ได้รับโอกาสค่าย Crispy sound ให้กลับมาทำเพลงอีกครั้งหลังส่งเดโม่ไปตอนเรียนจบ เพราะเราเองก็ได้รับคำแนะนำจากพี่ๆมากมาย ว่าควรร้องเพลงแบบไหน เพราะตอนแรกร้องแบบหนักๆร็อกๆ ผมเป็นคนชอบแนวร็อกอย่างวง หินเหล็กไฟ ชอบ The Eagles, Santana แต่หลายคนมองว่าผมควรร้องเพลงนุ่มๆมากกว่าตอนที่เริ่มทำเพลงกับ Crispy และพอมาเพลง คนสำคัญชั่วคราว คนก็ชอบกันมาก มีคนมาชมมาเล่าเรื่องราวในคอมเม้นต์เยอะมาก ก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนชอบฟังเพลงผม
สุดท้ายนี้อะไรคือสิ่งที่คุณภูมิใจที่สุดในฐานะศิลปิน
กานต์ : ล่าสุดผมได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นครับ จากมหาวิทายาลัยขอนแก่น คือมหาวิทยาลัยมี 21 คณะ ก็จะวน 21 ปี จะมีตัวแทนหนึ่งคณะที่ได้ไป ปีนี้ผมก็ได้ครับ ก็ถือว่าเป็นเกียรติมากครับ คือมีรางวัลเดียวของปีเลยครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะผลงานเพลงและกำกับหนัง เขาอาจเห็นว่าเราเป็นรุ่นพี่ที่อาจจะให้ความรู้น้องๆ ได้ คือคนที่อยากทำภาพยนตร์และดนตรีก็มาปรึกษาผมได้ครับ ตอนนั้นผมภูมิใจมาก เพราะไม่ได้ง่ายๆ หลายคนที่ได้ก็เป็นถึงคณบดี ส่วนผมเป็นใครก็ไม่รู้ รู้สึกดีใจจริงๆครับ
ถึงแม้ว่าเส้นทางในการเป็นศิลปินของ กานต์ กานตพนธ์ นั้นจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ด้วยความสามารถและความตั้งใจก็ทำให้เขาได้มีผลงานเพลงตามที่ตั้งใจในที่สุด ซึ่งแฟนๆสามารถติดตามฟังผลงานเพลงของเขาได้ที่ JOOX และ Sanook! Music เลยครับ
ขอบคุณภาพจาก Instagram lusterentertainment kantapon004
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ