(รีวิว) ความสุข (เกือบจะสุด) ใน “PREP Return to Bangkok” | Sanook Music

(รีวิว) ความสุข (เกือบจะสุด) ใน “PREP Return to Bangkok”

(รีวิว) ความสุข (เกือบจะสุด) ใน “PREP Return to Bangkok”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พฤษภาคม 2017 คือครั้งแรกที่คอดนตรีชาวไทยได้อิ่มเอมไปกับซาวนด์โมเดิร์นโซลอันละมุนละไมของ 4 หนุ่มจากกรุงลอนดอนในนาม PREP (เพร็พ) กับ “PREP Live in Bangkok” การแสดงสดครั้งแรกในเมืองไทยของพวกเขาที่สร้างความประทับใจจนเป็นกระแสปากต่อปาก ถัดมาอีกเพียง 7 เดือน ผู้จัดเจ้าเดิม Seen Scene Space พา PREP กลับมาเมืองไทยอีกครั้งพร้อมกับชื่อคอนเสิร์ตเท่ๆ อย่าง “PREP Return to Bangkok” ในค่ำคืนที่ผ่านมา (2 ธันวาคม 2560) โดยโยกย้ายไปจัดงานกันที่ Voice Space ถ.วิภาวดีรังสิต อันเป็นสถานที่ที่กว้างขวางมากขึ้น (ครั้งที่แล้วจัดที่ Live RCA Bangkok) แต่กระนั้นบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงแบบไม่มีจำหน่ายเพิ่มหน้างาน เป็นสัญญาณอันดีว่า วงดนตรีจากประเทศอังกฤษวงนี้กลายเป็นขวัญใจคออินดี้ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

temp.

            บรรยากาศ ณ Voice Space คึกคักเอาการ เราเดินทางไปถึงก่อนวงเปิดวงแรกอย่าง temp. จะขึ้นเวทีไม่นานนัก นี่คืออีกหนึ่งวงดนตรีสัญชาติไทยที่เราอยากดูการแสดงสดของพวกเขาอีกครั้ง หลังจากเพิ่งได้ชมไปสดๆ ร้อนๆ ที่งาน Cat Expo 4 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว temp. ยังใช้เซ็ตลิสต์คล้ายเดิมนั่นก็คือการสลับสับเปลี่ยนระหว่างเพลงในอีพีอัลบั้ม Motel California กับเพลงคัฟเวอร์อย่าง “Mrs. Cold” ของ King of Convenience, Baby I’m Yours” จาก Van McCoy รวมถึง “I Want It That Way” ของบอยแบนด์ในตำนาน Backstreet Boys ในขณะเพลงจากอีพีที่คุ้นหูคอดนตรีเป็นอย่างดีอย่าง “Moonshine” และ “Motel California” ก็ทำให้แฟนๆ ด้านล่างร้องตามโยกตามได้พอสมควรทีเดียว

            ซาวนด์ในช่วงแรกอาจจะฟังดูล้นๆ บวมๆ อยู่พอสมควร โดยเฉพาะเบสที่ขึ้นมาโน้ตแรกทำเอาตกใจทีเดียว แต่ปัญหาดังกล่าวก็ค่อยๆ คลี่คลายไปทีละเล็กทีละน้อยระหว่างโชว์ แต่ก็มีเหตุการณ์ไมโครโฟนหอน หรือแม้แต่เดดแอร์บนเวทีที่ทำให้โชว์ไม่ค่อยต่อเนื่องอยู่เป็นระยะ แต่หากเทียบกับการแสดงสดในงาน Cat Expo 4 เมื่อวีคที่แล้ว โชว์เมื่อคืนนี้ของ temp. มีความกลมกล่อมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ความประหม่าของนักร้องนำอย่าง นิค ลดน้อยลง กีตาร์ของ อุน รวมถึงเสียงทรัมเป็ตจาก แดน ฟังอร่อยหูดีแท้ แม้ว่า temp. จะออกตัวว่าเป็นวงดนตรีป็อป แต่ป็อปของพวกเขาเต็มไปด้วยรายละเอียดและสัดส่วนทางดนตรีที่ไม่ธรรมดา อาจจะไม่จัดจ้านจี๊ดจ๊าดแบบตีหัวเข้าบ้าน แต่หากลองตั้งใจฟังก็จะค้นพบเสน่ห์ของ temp. ที่ยากจะมีใครเลียนแบบได้

TELEX TELEXS 

           ต่อด้วย TELEX TELEXS (เทเล็กซ์ เทเล็กซ์) อีกหนึ่งวงป็อปที่ฉาบด้วยสีสันแห่งอิเล็กทรอนิกส์อันฉูดฉาด กับการนำเข้าโชว์ด้วยพลังแห่งเสียงโอเปร่า ก่อนจะไล่เรียงซิงเกิ้ลต่างๆ ที่ทั้ง 3 หนุ่มกับ 1 สาวปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ทั้ง Shibuya” และ “ถาม” หลังจากนั้นมือซินธ์อย่าง ปิ้ว ก็สลับตำแหน่งฟร้อนต์แมนกับนักร้องนำอย่าง ออม ออกมาถ่ายทอดความคึกคักผสมความเศร้าในเพลง “Bad Old Days” ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว คึกคักขึ้นมาอีกเลเวลกับ “เรือใบ” และ “หยุดตรวจ” ซิงเกิ้ลล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ทิ้งท้ายด้วยเพลงแจ้งเกิดอย่าง “La Belle” และ 16090” ที่ได้ เติร์ก มือกีตาร์วง Gym and Swim ขึ้นมาแจมร้องแร็พบนเวทีอีกต่างหาก

            ยอมรับว่าไม่ได้ดูโชว์ของ TELEX TELEXS มาสักพักใหญ่ แต่การกลับมารับชมการแสดงสดของพวกเขาเมื่อคืนนี้ทำให้รู้เลยว่า การออกเดินทางสะสมเลเวลตามเวทีน้อยใหญ่มันส่งผลกับวงดนตรีอย่างแท้จริง ความเคอะเขิน เก้ๆ กังๆ ในอดีตของ TELEX TELEXS เริ่มหายไป ความเจนจัดเริ่มเข้ามาแทนที่ การอะเร้นจ์แต่ละเพลงเพื่อการแสดงสดโดยเฉพาะทำให้เกิดมิติใหม่จากที่เคยได้ฟังในซีดีอยู่มากทีเดียว เสียดายเล็กน้อยที่เมื่อคืน ออม นักร้องสาวของวงป่วย พลังเสียงจึงอาจไปไม่ถึงจุดที่เคยทำได้ รวมถึงเรื่องซาวนด์ที่ช่วงแรกๆ ที่ดูแห้งๆ ไปสักนิด รวมถึงในท่อนฮุกของเพลง “เรือใบ” ที่ควรจะพุ่ง แต่กลับดร็อปกว่าท่อนเวิร์สอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อย่าคลาดสายตาจากวงดนตรีวงนี้เด็ดขาด น่าจับตามองมากๆ

ปลานิลเต็มบ้าน 

           ส่งไม้ต่อให้กับ ปลานิลเต็มบ้าน วงดนตรีที่อยู่ในวงการเพลงบ้านเรามาพักใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะหาโอกาสรับชมการแสดงสดของพวกเขาได้ง่ายๆ เราจึงไม่พลาดที่จะเกาะติดเวทีเช่นเดิม เริ่มต้นด้วยเพลงที่ทำให้ทุกคนรู้จักพวกเขาอย่าง “คิดดีดี” ก่อนจะเรียงคิวบทเพลงซึ่งเป็นที่รู้จักอย่าง “บอก”, “ขอบคุณ” รวมถึง “แค่นั้นเอง” ที่พาคนดูในฮอลล์ดำดิ่งไปกับความหม่นเศร้า และค่อยๆ ไต่ระดับความเดือดขึ้นมาในช่วงท้าย ส่วน “โลกส่วนตัว” และ “นาฬิกา” ซึ่งเป็นเพลงปิดโชว์ เสียงร้องตามก็ดังกระหึ่มไม่แพ้กัน

            จำได้ลางๆ ว่า เคยดู ปลานิลเต็มบ้าน เล่นสดเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งในตอนนั้นไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรมาก แต่สำหรับครั้งนี้ ขอบอกว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ เพราะพวกเขาเอาคนดูอย่างอยู่หมัดตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย ทั้งๆ ที่ในพาร์ตดนตรีไม่ได้มีความฉูดฉาดแต่อย่างใด แต่เสียงเพอร์คัสชั่น แซกโซโฟน รวมถึงสัดส่วนทางดนตรีที่มีการเรียบเรียงอย่างมีชั้นเชิงทำให้เราไม่สามารถกระพริบตาตลอดการโชว์ของพวกเขาได้เลย ราวกับว่าตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะอย่างไรอย่างนั้น โดยเฉพาะเสียงร้องของ ตุลย์ นักร้องนำที่เปล่งออกมาจากความรู้สึกข้างในในทุกๆ บทเพลง เราเชื่อว่าทั้งฮอลล์ก็สามารถสัมผัสได้เช่นกัน ลืมไปเสียสนิทเลยว่า ตอนที่เห็นไลน์อัพครั้งแรกแอบรู้สึกตะหงิดๆ ว่า ปลานิลเต็มบ้าน อาจจะทำให้โชว์โดยรวมดร็อปหรือเปล่า เนื่องด้วยแนวดนตรีที่แตกต่างจากวงอื่นอย่างชัดเจน สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูการแสดงสดของวงนี้... แนะนำด่วนๆ เลย

 PREP

            เดินทางมาถึงไฮไลต์ของงานกันแล้ว 4 สมาชิกวง PREP อย่าง แดน แรดคลิฟฟ์ (กีตาร์, คีย์บอร์ด, ซินธิไซเซอร์), ลีเวลีน แอป เมิร์ดดิน (คีย์บอร์ด, เปียโน), กีโยม แจมเบล (กลอง) และ ทอม แฮฟล็อค (ร้องนำ) พร้อมแบ็คอัพอีก 2 คนก้าวขึ้นสู่เวทีพร้อมเสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนเพลงชาวไทยจากด้านล่าง ในตอนนั้นความสงสัยในสมองเริ่มประมวลผลอีกครั้งว่า นอกจาก 4 เพลงในอีพี Futures ซึ่งทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว PREP จะเอาผลงานใหม่ๆ มาฝากแฟนๆ มากเท่าไหร่กันเชียว ซึ่งพวกเขาก็ตอบคำถามเราด้วย 2 เพลงแรกอย่าง Pressure” และ “Cold Fire ในทันที ก่อนที่จะเรียกเสียงฮือฮาด้วยเพลง “Sunburnt Through the Glass” ให้ได้โยกตามกันถ้วนหน้า ตัดสลับด้วยเพลงใหม่อีกครั้งกับ “Snake Oil” ต่อด้วยไตเติ้ลแทร็คของอีพีอย่าง “Futures” ที่แฟนชาวไทยร้องตามกันอย่างพร้อมเพรียง

            PREP ตอบข้อสงสัยเราอีกครั้งด้วย 3 เพลงใหม่ ก่อนจะกล่าวขอบคุณวงเปิดสัญชาติไทยทั้ง 3 วงแบบชัดถ้อยชัดคำ และนำเพลงที่พวกเขานำมาเล่นคราวที่แล้วอย่าง “Don’t Bring Me Down” และ Situation” มาเล่นให้ฟังอีกครั้ง แต่แล้วก็เกิดความขัดข้องทางเทคนิคกับคีย์บอร์ด อาวุธสำคัญของวง จน ทอม นักร้องนำต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยการชวนคนดูร้องเพลง “Futures” แบบไม่มีดนตรี ได้ฟีลไปอีกแบบ ก่อนจะจัดเต็มด้วยเพลงดังอย่าง Who’s Got You Singing Again” และในช่วงอังกอร์กับเพลงที่ไม่เล่นคงมีเคืองกันบ้างกับ Cheapest Flight” ที่ร้องตามกันกระหึ่ม และดูเหมือนว่าแรงของ PREP ยังไม่หมด เพราะพวกเขาออกไปแจกลายเซ็นบริเวณด้านหน้างานแทบจะในทันทีหลังจากคอนเสิร์ตจบอีกด้วย

            หากจะว่ากันตามตรง เราชอบโชว์ครั้งที่แล้วของ PREP มากกว่าครั้งนี้... หนึ่งคือ เรารู้สึกว่า พอสถานที่และเวทีใหญ่ขึ้น เหมือนว่า PREP จะเอาคนดูไม่อยู่ บรรยากาศใกล้ชิดและส่งต่อความละมุนของซาวนด์โมเดิร์นโซลที่โดดเด่นด้วยกรู๊ฟมายังผู้ชมนั้นหายไปอยู่พอสมควร และยิ่งเมื่อเพลงเป็นเซ็ตลิสต์คล้ายเดิม ความแตกต่างในความรู้สึก เราจึงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน

            สองคือเรื่องซาวนด์ เราไม่ทราบถึงรายละเอียดปลีกย่อยในความแตกต่างระหว่าง Live RCA Bangkok กับ Voice Space แต่ระบบเสียงในหนนี้ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจได้แค่ประมาณหนึ่ง และไม่พีคเหมือนคราวที่แล้ว ความกลมกล่อมโดยรวมคือสิ่งที่ขาดหายไป และนั่นทำให้เสน่ห์ในบทเพลงของ PREP หายไปด้วย ไม่นับรวมถึง 3 วงเปิดที่เราก็ยังรู้สึกว่า ‘ดีกว่านี้ได้อีก’ อยู่ตลอดเวลา

            สาม... คนคุยกันเสียงดังมาก เราพยายามหาจุดที่สามารถเสพย์ดนตรีของ PREP ได้อย่างเต็มที่ เดินวนซ้ายก็แล้ว ขวาก็แล้ว ด้านหลังก็แล้ว ส่วนด้านหน้าก็เบียดเข้าไปไม่ไหว คงเป็นเรื่องวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตของคนไทยที่ก่อนหน้านี้ก็มีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับตอนนี้ความหวังดังกล่าวอาจดูเลือนรางลงทุกทีหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่

            อย่างไรก็ตามก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เพลงของ PREP มันเปี่ยมไปด้วยพลังในเชิงบวกเสียเหลือเกิน การเลือกเสียงมาใส่ไว้ในแต่ละวรรคแต่ละท่อนมันช่างถูกที่ถูกเวลา และถูกเสียง ท่วงทำนองก็ชวนเคลิบเคลิ้ม บวกกับระบบแสงที่สวยงาม จังหวะดีตามมาตรฐานงานของ Seen Scene Space รวมถึงการบริหารจัดการของผู้จัดรายนี้ก็ยังคงมาตรฐานอันยอดเยี่ยมไว้เช่นเดิม

แต่ก็อย่างที่บอก มันเหมือนกับว่า ความสุขที่เกิดขึ้นเมื่อคืน... เป็นความสุขที่ไม่สุดเสียอย่างนั้น และที่สำคัญ หาก PREP จะกลับมาเมืองไทยตามคำสัญญา โปรดกลับมาพร้อมอัลบั้มเต็มเถอะนะ ฟังแค่นี้มันไม่เต็มอิ่มจริงๆ

 

Story by: Chanon B.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook