ชีวิตหลังถอดหน้ากากของ "ลีเดีย" และผลงานใหม่ที่น่าตื่นเต้น
หลังจากที่ได้คว้าแชมป์รายการ The Mask Singer ในฐานะหน้ากากซูโม่ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน เองก็ได้กลับมาทำงานเพลงเต็มตัวอีกครั้ง โดยนอกจากจะมีผลงานเพลงละคร และซิงเกิ้ลเพลง "พัง…ลำพัง" กับวง Getsunova แล้ว เธอก็มีงานคอนเสิร์ตให้แฟนเพลงได้ชมความสามารถเป็นระยะๆ รวมถึงงานคอนเสิร์ตส่งท้ายปลายปี Thailand Top100 by JOOX ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา
โดยในงานนี้ทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้มีโอกาสพูดคุยกับลีเดียแบบ Exclusive หลังเวที ถึงการร่วมงานในคอนเสิร์ต Thailand Top 100 by JOOX รวมถึงอัพเดตผลงานของเธอหลังจบรายการ The Mask Singer และโปรเจ็คพิเศษกับศิลปินระดับโลกที่มีประสบการณ์ในวงการเพลง 40 ปีอย่าง Michael Bolton ด้วย
การแสดงสุดอลังการบนเวที Thailand Top100 by JOOX
"ลีเดียมาร่วมคอนเสิร์ตนี้ได้เพราะพี่ หนึ่ง - จักรวาล เสาธงยุติธรรม เป็นคนชักชวนมาค่ะ เพราะพี่เขาเป็นคนที่ดูแลเบื้องหลังในด้านดนตรีของงานนี้ การทำงานครั้งนี้ก็ยากนิดหน่อยตรงที่หาคิวยาก แต่ก็พยายามซ้อมกับลุลาอย่างเต็มที่เพื่อให้โชว์ออกมาดีที่สุดค่ะ
คอนเสิร์ตนี้ก็ได้แสดงในธีม Geisha Dance Fever ด้วยค่ะ ตอนเห็นก็รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะนอกจากชุดจะอลังการแล้ว เพลงสากลในคอนเสิร์ตนี้ยังมีการปรับดนตรีให้มีความเป็นญี่ปุ่นขึ้นด้วย ซึ่งตอนแรกเองก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน"
ภาพจากงานคอนเสิร์ต Thailand Top 100 by JOOX
ชีวิตหลังจบรายการ The Mask Singer
“ลีเดียขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ จริงๆเราก็ไม่คิดว่าจะกลับมาทำงานร้องเพลงจริงจังได้แบบนี้ เพราะพอถอดหน้ากากก็มีงานทุกวันเลย เพราะพอตอนแต่งงานและมีครอบครัว คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าเราน่าจะทุ่มเทเวลาให้ครอบครัว แต่พอได้กลับมาร้องเพลงแบบนี้ก็มีความสุขมากค่ะ
ตอนที่แข่งรายการ ลีเดียจะพยายามทำให้ตัวเองมีพัฒนาการและเซอร์ไพรส์เรื่อยๆ คือสัปดาห์นี้ทำอะไร สัปดาห์หน้าก็ต้องพัฒนาและมีอะไรใหม่ๆให้ชม เป็นการแข่งกับตัวเองค่ะ ก็อยากให้ทุกคนที่มาแข่ง The Mask Singer เต็มที่ไปกับมัน เพราะพอไม่ได้แข่งเราก็แอบคิดถึงบรรยากาศตอนนั้น โดยเฉพาะตอนที่ตอบคำถามกรรมการเพราะมันสนุกมาก”
การเข้าร่วมรายการ Diva Makeover ในฐานะ Commentator
“รายการนี้เป็นรายการที่ดีมาก เพราะเป็นรายการที่ให้โอกาสคน หลายๆคนที่เข้ามารายการนี้ตอนแรกก็เป็นคนมีความสามารถ แต่ด้วยบุคลิกและรูปลักษณ์ทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร หลายคนก็เคยโดนดูถูกและเหยียด แต่ในรายการนี้ผู้ชนะเองจะได้เดินทางไปปรับลุคใหม่ถึงประเทศเกาหลีใต้ค่ะ
ส่วนตัวลีเดียรู้สึกดีใจที่ ประเทศไทยมีการประกวดร้องเพลงหลายเวทีแบบนี้ เพราะจริงๆต่างประเทศเองก็มีเวทีแบบนี้เยอะเหมือนกัน ก็ดีใจมากที่ประเทศไทยมีอะไรแบบนี้ค่ะ เวทีร้องเพลงเป็นสถานที่ที่ทำให้เยาวชนและคนที่มีความสามารถจะได้แสดงออกค่ะ”
การร่วมงานกับ Michael Bolton
นอกจากในปีนี้เธอจะได้ร่วมงานกับการประกวดร้องเพลงในประเทศไทยแล้ว ลีเดียยังได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง Michael Bolton ในรายการประกวดร้องเพลงระดับเอเชีย Bolt of Talent และคอนเสิร์ตใหญ่ของเขาในไทยด้วย โดยเธอได้เล่าถึงการทำงานกับ Michael ครั้งนี้ว่า
“การร่วมงานกับ Michael มันเป็นโอกาสที่ดีจริงๆค่ะ เพราะเราฟังเพลงเขามาตั้งแต่เด็ก และพอเขามาไทยแล้วชวนเราขึ้นคอนเสิร์ตด้วย มันเหมือนฝันไปเลยค่ะ ตอนที่ทำงานด้วยกันก็ได้ประสบการณ์มากมายเลยค่ะ ทั้งเรื่องวิธีการทำงานกับทีมงานต่างชาติ และการดูแลตัวเองให้พร้อมที่สุดเวลาขึ้นคอนเสิร์ต”
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสถามถึงผลงานเพลงในปีหน้า ซึ่งเธอก็ได้กล่าวถึงผลงานว่า “ตอนนี้มีแพลนที่จะทำเพลงใหม่ในปีหน้าค่ะ แต่ยังไม่ถึงไหนเลย (หัวเราะ) เพราะคอนเสิร์ตเยอะมาก มีงานทุกวัน แต่สามารถติดตามลีเดียได้ในรายการ Diva Makeover ค่ะ"
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในวงการเพลงมา 10 กว่าปี แต่เวที The Mask Singer ก็ทำให้หลายคนได้เห็นความสามารถและรู้จักตัวตนของเจ้าหญิงอาร์แอนด์บีในด้านที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้ทาง Sanook! Music จะนำผลงานเพลงของ
Story : Sidhipong W.
ขอบคุณภาพจาก Instagram lydiasarunrat
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ