เบิ้ล ปทุมราช ลูกทุ่งรุ่นใหม่ กับเบื้องหลังผลงานที่หลายคนไม่เคยรู้

เมื่อลองมองวงการลูกทุ่งของไทยในปัจจุบัน  เพลงลูกทุ่งจากบรรดาลูกอีสานกลายเป็นเพลงที่คว้าใจของคอเพลงไปได้อย่างมากมายและกลายเป็นเพลงที่สร้างกระแสบนพื้นที่สื่อได้ล้นหลาม ทั้งแนวลูกทุ่งแบบ Mass หรือลูกทุ่ง Indie สาเหตุที่นอกเหนือจากลูกอ้อนและความใสซื่อรวมทั้งจริตจก้านที่น่าสนใจซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของเพลงลูกทุ่งอีสาน อีกหนึ่งอย่างก็คือการทำโชว์ที่ผสมผสานประเพณีพื้นบ้านเข้ากับแนวเพลงที่ดูสมัยใหม่ ความอลังการของเวที  แดนเซอร์ และนักดนตรี สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือเครื่องมัดใจที่ทำให้นักร้องลูกทุ่งจากภาคอีสานสามารถผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาสร้างความน่าสนใจให้กับวงการเพลงบ้านเราได้

 

 

เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม (อาทิตย์ สมน้อย) คืออีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งอีสานที่ได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของวัยรุ่นในบ้านเราในช่วงที่ผ่านมา จากภาพลักษณ์เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มีความใสซื่อและบุคลิกที่ขี้เล่นจากเพลง "อ้ายมีเหตุผล" จนมาสู่การตระเวนขึ้นโชว์ตามเวทีต่างๆ ในต่างจังหวัดจนสามารถสร้างแฟนคลับได้อย่างมากมาย มาในตอนนี้ก่อนที่หนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม จะเข้าไปรับใช้ชาติในฐานะทหารเกณฑ์ เขาก็ขอมอบเพลงที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีความโด่งดังของเขาในเพลง “ให้น้องไปสา”

 

ถ้าจะพูดถึงความหมายของ “ให้น้องไปสา” ก็ต้องมองว่านี่คือมุมมองของคนรุ่นใหม่ในเรื่องความรักที่น่าสนใจ ในอดีตเพลงลูกทุ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือยืนยันของอานุภาพความรักที่รันทด ชวนหดหู่และมีแต่ความอาภัพ มาในเพลงนี้เราจะพบมุมมองความรักที่เปลี่ยนแปลงไป  อย่างในท่อนฮุคที่ขอยกมาให้เห็นภาพ  "ให้น้องไปสา ไปหาคนที่คู่ควร ไปแล้วอย่าหวน ไปสาไปเอาคนใหม่ ปล่อยอ้ายให้เหงา ซึมเศร้าคนเดียวเรื่อยไป บ่ต้องสนใจ ปล่อยอ้ายให้ตายลำพัง"          

 

 

เมื่อดูเนื้อเพลง เราจะพบอาการตัดพ้อหากแต่เข้มแข็งอยู่ในเพลงค่อนข้างเยอะ อาการของการไม่รั้งคนรักของตัวเอง การแสดงออกที่ไม่ต้องการให้สัมพันธ์ครั้งนี้ยืดเยื้อจนเกินพอดี  หากแต่ก็ยังไว้ลายอารมณ์ขุ่นเคืองหรืออารมณ์ประชดประชันอยู่บ้างให้พอไม่เป็นพระอิฐพระปูน  อารมณ์ของการโนสนโนแคร์เป็นสิ่งที่ดูจะเข้ากับอารมณ์ความรู้สึกของคนในช่วงนี้ ทำให้มันสามารถซื้อใจแฟนเพลงของเขาได้อย่างถล่มทลาย จนอีกไม่นานเพลงนี้จะสามารถทำยอดวิวได้เกินหลักร้อยล้านวิวอย่างแน่นอน 

 

และเมื่อดูโครงสร้างทางดนตรี “ให้น้องไปสา” คือการหยิบจับแนวดนตรีต่างๆ เข้ามาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว  ตั้งแต่ความเป็นลูกทุ่งที่มีเมโลดี้ตรงๆ จริงใจแสดงออกชัดๆ กับความเป็น Rock ที่หนักแน่นและชวนกระแทกกระทั้น แต่อีกหนึ่งสิ่งที่กลายเป็นลายเซ็นในเพลงของหนุ่มเบิ้ล ก็คือเสียงดนตรีพื้นบ้านอีสานที่ใส่เข้ามาในเพลง

 

 

ในเพลงนี้เราจะได้ยินเสียงแคนที่ไพเราะ เสียงพิณที่ตัดอารมณ์หนักๆให้ดูอ่อนโยนและเสียงคอรัสที่ค่อยๆ ปลุกความรู้สึกของเพลงให้ดูยิ่งใหญ่และชวนออกสเต็ปเวลาอยู่หน้าเวที  และแน่นอนว่าทั้งเนื้อร้องและทำนองก็เป็นฝีมือของหนุ่มเบิ้ล ปทุมราชเอง ก็ต้องบอกว่านอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาและบุคลิกที่โดนใจใครหลายคน หนุ่มเบิ้ล ปทุมราชก็มีฝีไม้ลายมือในการแต่งเพลงที่เก่งกาจอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองและเชื่อว่ามีหลายคนที่มองข้ามฝีมือการแต่งเพลงของเขาไป         

 

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมก็คือการออกเสียงของหนุ่มเบิ้ลที่ชัดถ้อยชัดคำ และมีคุณภาพการร้องที่ผสมความใหม่ของสำเนียงแบบวัยรุ่นและความเป็นลูกทุ่งอีสานที่มีความตรงไปตรงมา  เสียงเอื้อนที่เต็มไปด้วยอารมณ์เนื้อน้อยต่ำใจหากแต่แข็งกร้าว ให้ความรู้สึกที่เท่และน่าสงสารอย่างพอดิบพอดี 

 

 

งานนี้ก็ต้องบอกว่าฉายานักร้องลูกทุ่งร้อยล้านวิว ไม่ใช่เรื่องของโชคหรือดวงแต่เพียงอย่างเดียว เพราะหนุ่มเบิ้ลได้แสดงให้เราได้เห็นว่า วงการเพลงลูกทุ่งไม่มีวันตายและมันได้ต่อยอดไปสู่อะไรที่แปลกใหม่และน่าค้นหาอีกมาก นอกจากนี้ มันยังได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญให้แก่วงการเพลงของไทยที่หลายคนบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงขาลง โดยที่คนเหล่านั้นอาจจะมองข้ามตลาดเพลงลูกทุ่งที่สร้างรายได้มหาศาลและยังเป็นตลาดเพลงที่ครองใจคนไทยหลายล้านคนมาอย่างยาวนาน ส่วนหนึ่งก็เพราะมันได้รับการต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่นอยู่ตลอดเวลา

 

ถือได้ว่าหนุ่มเบิ้ล ปทุมราชเองก็เป็นอีกหนึ่งกำลังหลักของวงการเพลงลูกทุ่งในปัจจุบันที่ทำให้คนรุ่นใหม่ยังชอบที่จะฟังและดูเพลงลูกทุ่งอยู่ ระยะเวลา 2 ปีในค่ายทหารคงจะทำให้หนุ่มเบิ้ลได้แรงบันดาลใจกลับมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงให้คอเพลงได้ประหลาดใจได้อย่างแน่นอน 

Story : Kaweewat  Boonyuang         

ขอบคุณจาก Facebook: rsiammusicpage