(รีวิว) ในค่ำคืนที่มังกรออกโบยบินอีกครั้งใน Imagine Dragons Evolve World Tour

เสียงเฮดังลั่นจากเหล่าพนักงานนับสิบชีวิตที่ทำหน้าที่ขาย official merchandise ของวงมังกรมโน Imagine Dragons ในงานคอนเสิร์ต Singha Music presents Imagine Dragons Evolve World Tour Live in Bangkok เมื่อคืนที่ 11 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา บ่งบอกให้แฟนๆ ทุกคนทราบว่า ค่ำคืนนี้เป็นอีกคืนที่ทางผู้จัดอย่าง Live Nation BEC-Tero ประสบความสำเร็จจากการนำวงอัลเทอร์เนทีฟร็อคสัญชาติอเมริกันวงนี้กลับมาเล่นที่เมืองไทยอีกครั้ง เพราะ official merchandise ขายหมดเกลี้ยงทุกชิ้นตั้งแต่วงยังไม่เริ่มแสดง และแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนสถานที่จัดจากลานกลางแจ้ง Oasis Arena SHOW DC มาเป็นฮอลล์ในร่มอย่าง Impact Challenger Hall 1 เมืองทองธานี แต่แฟนคลับก็ยังตามกันมาชมการแสดงสดของวงดนตรีคุณภาพ ที่มีเพลงฮิตมากมายให้ได้ร้องตามกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

60Miles เป็นวงดนตรีของไทยที่ได้รับเชิญเป็นวงเปิดให้กับ Imagine Dragons ในค่ำคืนนี้ ขนเพลงฮิตของตัวเองออกมาอุ่นเครื่องรอกันเพลินๆ ทั้ง “เวทมนตร์” “ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา” และ “ก่อนฉันตาย” ที่มีแฟนเพลงร้องตามกันเสียงดัง แม้ว่าแฟนเพลงที่มาชมคอนเสิร์ตนี้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนฟังเพลงสากล และแฟนคลับของ Imagine Dragons แต่การที่มีคนดูมากมายร้องเพลงตามวงดนตรีของไทยอย่าง 60Miles ได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี จะติดก็ตรงที่ซาวด์ดนตรียังตะกุกตะกักเล็กน้อย เพราะเสียงเบสค่อนข้างจม แต่เสียงกีต้าร์ดังเด่นออกมามากเกินไป และภาคดนตรีโดยรวมยังดูแห้งๆ ไม่น่าตื่นเต้นมากนัก แต่ก็ถือว่า 60Miles สร้างความคึกคักให้กับแฟนเพลงด้านล่างได้มากทีเดียว เพราะร้องเพลงฮิตตามกันกระหึ่ม

 

 

 

ยืนรอกันในฮอลล์ไปอีกราวครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไปกับดนตรีคลาสสิกทั้งจากเครื่องสาย และเปียโนที่ทางวงเลือกที่จะนำมาเปิดคั่นโชว์รอ ถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับวงร็อคที่เลือกดนตรีคลาสสิกมาเปิดรอขึ้นโชว์แบบนี้ เมื่อถึงเวลาสามทุ่มนิดๆ Imagine Dragons ก็เปิดนำด้วยวิชวลสวยๆ เผยให้เห็นภาพในธีมวิทยาศาสตร์ การกำเนิดชีวิต วิวัฒนาการของมนุษย์ และเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งเป็นธีมหลักของ Evolve อัลบั้มล่าสุดของพวกเขา จากนั้นสมาชิกทั้ง 4 อย่าง Dan Reynolds (ร้องนำ), Wayne Sermon (กีตาร์), Ben McKee (เบส) และ Daniel Platzman (กลอง) ก็เริ่มระเบิดความมันกันด้วย “I Don’t Know Why” แทร็คแรกจากอัลบั้ม Evolve ที่ปลุกพลังแฟนเพลงกันด้วยดนตรีอิเล็คทรอนิกสนุกๆ จนแฟนเพลงหลายคนอดโยกตัว โบกมือตามไม่ได้

 

หลังจากทักทายแฟนเพลงด้วยเพลงเปิดโชว์กันพอหอมปากหอมคอแล้ว Dan Reynolds ก็เริ่มทักทายแฟนๆ ด้วยท่าไหว้สามทิศ พร้อม “สวัสดีครับ” ชัดเจน และกล่าวว่าดีใจที่ได้กลับมาแสดงคอนเสิร์ตให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกันอีกครั้ง และอยากให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่ทุกคนได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาทุกอย่าง แล้วสนุกกับดนตรีของพวกเขากันให้เต็มที่ จากนั้นจึงต่อด้วยเพลงฮิตที่ทุกคนร้องส่งเสียงร้องกันตั้งแต่อินโทรขึ้นอย่าง “It’s Time” และ “Gold” ที่ Dan Reynolds นักร้องนำวิ่งขึ้นมาร้องที่ส่วนของเวทีตรงกลางเกือบตลอดทั้งเพลง

เมื่อพวกเขากลับมาพร้อมกับอัลบั้มที่สามอย่าง Evolve วงจึงไม่ลืมที่จะขนเพลงใหม่ๆ จากอัลบั้มนี้มาฝากแฟนเพลง ทั้ง “Mouth of The River” และ “Start Over” โดยที่ก่อนจะเข้าเพลง Dan Reynolds ไม่ลืมที่จะพูดคุย และแนะนำเข้าเพลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งก่อนเข้าเพลง “Yesterday” ที่เขาถือแก้วเบียร์แล้วเรียกให้เหล่าแฟนเพลงชนแก้วด้วยกัน พร้อมกับกล่าวว่า “Yesterday is meaningless” เมื่อวานก็แค่อดีต มาฉลองให้กับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นกันดีกว่า ก่อนชวนแฟนเพลงตะโกนร้องท่อน ‘Yesterday’ ไปพร้อมๆ กันตลอดทั้งเพลง และที่กระชากอารมณ์กลับมาโดยพูดถึงเรื่องโรคซึมเศร้าว่า ตัวเขาเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องประสบปัญหาโรคซึมเศร้า เขาเข้ารับการบำบัด และทุกอย่างก็ดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ทุกคนร่วมกันแบ่งบันความรักให้กับคนรอบข้าง และเข้าช่วยเหลือคนที่มีอาการซึมเศร้ากันอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันใครที่รู้ตัวว่ากำลังเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า ก็ควรจะขอรับความช่วยเหลือจากคนอื่น อย่าเก็บไว้ให้ทรมานแต่เพียงผู้เดียว และปรึกษาจิตแพทย์ด้วย “การเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการซึมเศร้า ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ” เขากล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนเริ่มต้นเพลง “Demons” ที่มีท่อนเพลงเจ็บปวดอย่าง “Don't get too close. It's dark inside. It's where my demons hide, it’s where my demons hide.”

 

 

เพลงที่สามารถปลุกอารมณ์ของแฟนเพลงให้ลุกฮืออย่างอยู่หมัด หนีไม่พ้น “Thunder” ที่แฟนๆ บางส่วนไม่ลืมที่จะทำโปรเจ็คเปิดภาพกระพริบสีฟ้า-ส้ม ประกอบเพลง และเพลง “Believer” ที่ก่อนขึ้นเพลงมีอินโทรเพลง “Worriors” สั้นๆ แล้วค่อยๆ ไต่ระดับความมันเพื่อเข้าเพลงหลัก เหล่าแฟนเพลงร้องตามกันได้อย่างคล่องปาก และโยกตัวไปตามจังหวะของเพลงอย่างเห็นได้ชัดกันไปทั้งฮอลล์ จนทำให้นักร้องนำอย่าง Dan Reynolds ยิ้มแก้มปริ แล้วกล่าวขอบคุณแฟนเพลง ก่อนที่จะบอกว่าคืนนี้อยากส่งความสนุกให้ทุกคนกันแบบ non-stop ไม่ต้องพักเพื่ออังกอร์แต่อย่างใด ลุยต่อกันเลยกับ “Walking the Wire” และ “Radioactive” เพลงปิดท้ายที่ทำเอาเหล่าแฟนเพลงตะโกนร้องกันสุดเสียง ท่ามกลางแสงสีแดงฉาบเวทีไปทั่วตลอดทั้งโชว์ และเสียงกลองอันหนักหน่วงของสมาชิกในวงแต่ละคนที่วางมือจากไมโครโฟน กีตาร์ เบส แล้วกันมาคว้าไม้กลองมาตีกลองกันคนละชุด เพิ่มกิมมิกให้กับการแสดงได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจทำให้แฟนเพลงโดยเฉพาะโซนหลังๆ ขัดใจอยู่บ้าง เห็นจะเป็นซาวด์ดนตรีที่ไม่ได้หนักแน่นอย่างที่คิด โดยเฉพาะเสียงกลอง และเบสที่ค่อนข้างจมจนแทบจะถูกเสียงร้อง และเสียงกีตาร์แหลมๆ กลบจนเกือบหมดในบางเพลง โดยเฉพาะเพลงดังอย่าง “Demons”, “Thunder” และ “Believer” ที่เสียงกลองไม่กระแทกกระทั้นพอให้คนฟังรับรู้ถึงพลังของเพลง เสียงสแนร์ ทอม และเสียงของเบสจมกว่าที่คอนเสิร์ตเพลงร็อคควรจะเป็น ทำให้ขาดอรรถรสในการเพลงไปบ้าง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะเพลงของ Imagine Dragons มีจังหวะ และท่อนที่สามารถส่งพลังถึงคนดูได้มากมายหลายจุดหลายเพลง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นความตั้งใจของวงหรือไม่ที่เซ็ตซาวด์เครื่องดนตรีให้เป็นเช่นนี้

แต่หากพูดถึงในแง่ของการเอนเตอร์เทนของศิลปินแล้ว ถือว่าทำได้ดี เพราะนอกจากนักร้องนำแล้ว ยังเปิดโอกาสให้สมาชิกในวงอย่างมือกีตาร์ เบส และกลอง ได้มีช่วงโชว์ของ ออกมาทักทายคนดูด้านหน้ากันอย่างใกล้ชิดด้วย และหลายคนอาจเสียดายที่ไม่ได้ฟังเพลงฮิตจากอัลบั้มก่อนอย่าง “I Bet My Life” และ “Shots” เพราะเซ็ตลิสต์ของวงก็เปลี่ยนไปตามแต่ละประเทศที่เล่น

 

 

หลังจบการแสดง ทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่า ถ้าโชว์นี้ได้เล่นในลานกลางแจ้งตามเดิม ซาวด์ที่เราได้ฟังกันจะเหมือน หรือแตกต่างไปจากคืนนี้หรือไม่ แต่ผู้จัดก็อาจจะต้องรับความเสี่ยงกับสภาพอากาศที่ฝนอาจจะตกเอาในคืนไหนก็ได้ การเลือกฮอลล์ในร่มจึงดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แต่ถึงกระนั้นหากเทียบกับซาวด์ดนตรีของวงเมื่อครั้งแรกที่มาเล่นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีแล้ว ต้องยอมรับตรงๆ ว่าซาวด์ดนตรีโดยรวมในครั้งก่อนนั้นทำได้ดีกว่า

ได้แต่หวังว่าถ้าเรายังมีโอกาสได้ชม Imagine Dragons กันอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง จะมีโอกาสชมพวกเขาในบรรยากาศดนตรีที่เข้มข้น ดุดัน และแน่นพร้อมทั้งซาวด์เบส ซาวด์กลองมากกว่านี้อีกนิด จะทำให้อรรถรสในการชมดนตรีสดจากวงอัลเทอร์เนทีฟร็อคคุณภาพเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวแน่นอน

 

____________________

Story : Jurairat N.