(สัมภาษณ์) “การเริ่มต้น จุดจบ และการแยกจาก” แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงทุกวันนี้ของ The xx | Sanook Music

(สัมภาษณ์) “การเริ่มต้น จุดจบ และการแยกจาก” แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงทุกวันนี้ของ The xx

(สัมภาษณ์) “การเริ่มต้น จุดจบ และการแยกจาก” แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงทุกวันนี้ของ The xx
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากต้องลุ้นกันตัวโก่งว่าจะมาแสดงสดที่เมืองไทยหรือไม่อยู่นานสองนาน เพราะ 3 สมาชิกวง The xx อย่าง Romy Madley Croft (กีตาร์, ร้อง), Oliver Sim (เบส, ร้อง) และ Jamie Smith (ซินธิไซเซอร์, แซมเพลอร์) ได้แต่บินเฉียดไปบินมา ไม่ลงสถานีจอดที่ประเทศไทยเสียที ทว่าท้ายที่สุด คอดนตรีตัวจริงก็ฟินกันถ้วนหน้า เมื่อผู้จัด VIJI CORP ทำเซอร์ไพรส์ ประกาศคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของ The xx กับ SINGHA MUSIC presents The xx Live in Bangkok”

หากจะว่ากันตามจริง ดนตรีของ The xx อาจไม่มีคำนิยามอันแน่ชัด เพียงแต่คนฟังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ห้อมล้อมซาวด์เอาไว้ ลุ่มลึก กรีดแทง หม่นมืด ในขณะที่เนื้อหาก็เปรียบเสมือนกระบอกเสียงของวัยรุ่นที่ไม่ได้มองโลกสวยงามนัก จากอัลบั้ม xx เมื่อปี 2009 และ Coexist ในอีก 3 ปีให้หลัง The xx เริ่มกลายเป็นวงที่ทั่วโลกจับตามองนับแต่นั้นเป็นต้นมา กับความเป็น “ตัวตน” อันโดดเด่น ตระเวนออกเวิลด์ทัวร์ และขึ้นเวทีเทศกาลดนตรียักษ์ใหญ่ทั่วโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว 3 สมาชิกจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็กลับมาพร้อมอัลบั้มเต็มชุดใหม่ที่ใช้ชื่อว่า I See You กับโทนสีและกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปอยู่บ้าง จักรวาลของพวกเขาไม่ได้มีเพียงความหมองหม่นรวดร้าวอีกต่อไป แสงสว่างเริ่มเข้ามาปะทะร่างกาย และส่งผ่านความรู้สึกเหล่านั้นออกมาผ่านบทเพลง อาจจะเป็น “ช่วงวัย” และ “การเติบโต” ที่ทำให้ The xx เรียนรู้ว่า การเริ่มต้น จุดจบ และการแยกจากกัน มันให้บทเรียนอะไรกับพวกเขาบ้าง

เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน SINGHA MUSIC presents The xx Live in Bangkok” ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ก็จะเกิดขึ้นจริงแล้วบนผืนแผ่นดินสยามประเทศ ซึ่งทาง Sanook Music ก็มีโอกาสเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในเพลงของ The xx แต่อย่างใด) ส่งต่อไปยัง 3 สมาชิก กับ 7 คำถามที่พวกเขาตอบกลับมา และทันทีที่เราอ่านจบ ก็ยิ่งอยากทำความรู้จักวงดนตรีวงนี้มากขึ้นอีกเป็นกอง

 

แฟนเพลงชาวไทยรอคอยที่จะได้ชมคอนเสิร์ตของ The xx มานานมาก และต่างก็ตื่นเต้นที่สุดท้ายพวกคุณกำลังจะมาเยือนไทยเสียที มีเซอร์ไพรส์อะไรเตรียมไว้ให้แฟนๆ ชาวไทยบ้างไหม?

Oliver : พวกเราทัวร์คอนเสิร์ตมารอบโลก แต่ก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งที่รู้ว่าจะได้ไปแสดงที่ไหนเป็นครั้งแรก ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงปล่อยให้เวลามันผ่านไปนานนักกว่าที่พวกเราจะได้มากรุงเทพฯ ผมรอที่จะไปที่นั่นไม่ไหวเลยล่ะ นอกจากจะตื่นเต้นที่จะได้เล่นคอนเสิร์ตที่นั่นแล้ว ผมยังอยากท่องเที่ยว และทำความรู้จักกรุงเทพฯ ให้มากขึ้นด้วย

 


Oliver Sim (Photo by: Tom Ordoyno)

ถ้าพอจะมีเวลาว่างระหว่างอยู่ที่ประเทศไทย อยากจะทำอะไรกันมากที่สุด?

Jamie : ผมอยากแวะร้านขายซีดีในประเทศไทย อยากดูว่ามีศิลปินไทยคนไหนน่าสนใจบ้าง

โทนเพลงในอัลบั้ม I See You ดูสดใสขึ้นกว่าอัลบั้มก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกคุณในช่วงหลังหรือเปล่า?

The xx : ขอบอกเลยว่า I See You เป็นอัลบั้มสำหรับการเฉลิมฉลองเลยล่ะ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับอัลบั้มก่อนหน้านี้ อาจจะสัมผัสได้ว่า การเฉลิมฉลองของพวกเราค่อนข้างแตกต่างไปจากคนอื่นๆ อยู่สักหน่อย นอกจากนั้นอัลบั้มนี้ยังพูดถึงเกี่ยวกับการเติบโต มิตรภาพ และครอบครัวด้วย

 


Romy Madley Croft (Photo by: Tom Ordoyno)

ในทุกวันนี้ อะไรคือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงสำหรับ The xx?

The xx : พวกเราเคยมีประสบการณ์ความรักในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น จุดจบ แยกจาก แม้กระทั่งกลับมาใกล้ชิดกันยิ่งกว่าเดิมในฐานะเพื่อน เราเหมือนค้นพบตัวเองในตัวของอีกคน ได้เห็นได้เรียนรู้กันและกัน และเข้าใจกันมากขึ้น เรื่องเหล่านี้จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการแต่งเพลงในช่วงนี้

พวกคุณคิดว่า “เวลา” เป็นสิ่งสำคัญในการทำอัลบั้มเพลงหรือไม่? เพราะแต่ละอัลบั้มของพวกคุณมักใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าพวกเราจะได้ฟัง

The xx : เป็นเรื่องที่สำคัญนะที่เราจะทำเพลงโดยพยายามไม่ไปเร่งรัดอะไรมาก ต้องแน่ใจว่าพวกเรามีเวลามากพอที่จะคิดว่า เราอยากให้อัลบั้มนี้ออกมาเป็นอย่างไร และในเมื่อต้องทัวร์คอนเสิร์ตด้วย เลยทำให้ระยะเวลาในการทำแต่ละอัลบั้มค่อนข้างนาน เพราะการทัวร์คอนเสิร์ตถือเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของพวกเราในแต่ละปี

 


Jamie Smith (Photo by: Tom Ordoyno)

การมีสมาชิกในวง 3 คน มีความยาก หรือง่ายอย่างไรในการขึ้นแสดงบนเวทีในแต่ละครั้ง?

The xx : แต่ก่อนพวกเราจะทำเพลงกันแค่ในแบบที่พวกเราสามารถเล่นสดพร้อมกันได้เท่านั้น เพราะฉะนั้นการเล่นดนตรีจากในห้องอัด แล้วออกมาเล่นบนเวทีมันเลยไม่ยากนัก แต่ตอนนี้เรามีรายละเอียดอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น และตอนอยู่บนเวทีก็แตกต่างไปจากเดิมมาก เพราะคุณจะไม่เห็นกันและกันตลอดเวลาเหมือนตอนที่เรานั่งอัดเพลงในสตูดิโอด้วยกัน

เมื่อเพลงของ The xx มีซาวด์อิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนสำคัญ พวกคุณทำอย่างไรที่จะปรับแต่งให้การแสดงในแต่ละเพลงไม่เหมือนกับว่า คนฟังกำลังเปิดซีดีอยู่?

The xx : ทุกเสียงที่พวกคุณได้ยินเป็นเสียงที่ Jamie เป็นคนค่อยๆ ดึงออกมาทีละเสียง เขาจะมีเซ็ตอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือของดีเจทั้งหมด รวมไปถึงซินธิไซเซอร์ แซมเพลอร์ และกลอง ดังนั้นเสียงที่ออกมาใกล้เคียงกับการเล่นสดมากที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้


The xx (Photo by: Laura Coulson)

ย้ำกันอีกสักรอบ SINGHA MUSIC presents The xx Live in Bangkok” จะจัดขึ้นที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ในวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 บัตรราคา 2,800 บาท (บัตรยืน ราคาเดียว) สามารถดูรายละเอียดการซื้อบัตรได้จากลิงค์นี้ >>> http://music.sanook.com/event/2394745/

แล้วไปร่วมดื่มด่ำกับบทเพลงอย่าง “On Hold”, “Say Something Loving” หรือแม้แต่เพลงจากอัลบั้มเก่าอย่าง “Crystalised”, “Shelter”, “Chained” และ “Angels” ด้วยกัน บอกตามตรงด้วยความสัตย์จริงว่า เราไม่อยากให้คุณพลาดโชว์นี้ด้วยประการทั้งปวง

 

Story by: Chanon B. & Jurairat N.

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ (สัมภาษณ์) “การเริ่มต้น จุดจบ และการแยกจาก” แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงทุกวันนี้ของ The xx

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook