เท่ ตลก มัน ซึ้ง ครบทุกรสไปกับ Super Junior World Tour “SUPER SHOW 7” in Bangkok

ไม่ใช่ทุกวงจะมีซีรีส์ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกในชื่อเดียวกันไปทุกครั้งจนกลายเป็นลายเซ็นไปเสียแล้ว สำหรับหนุ่มๆ ไอดอลเกาหลี (ที่ตอนนี้กลายเป็นรุ่นพี่ไปเรียบร้อยแล้ว) อย่าง Super Junior ที่คราวนี้กลับมาพร้อมกับ SUPER SHOW 7 คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 7 โดย SM True หนุ่มๆ คงแทบจะหลับตาเดินหลังเวทีที่อิมแพ็ค อารีน่าได้เลยทีเดียว (ยังไม่รวมยูนิตย่อยๆ อย่าง Super Junior-M และ K.R.Y อีกนะ) แต่ถึงแม้ว่าจะสลับเมมเบอร์กันมาไทยเป็นว่าเล่นขนาดนี้ บัตรคอนเสิร์ต SUPER SHOW ก็ยังคงขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หมดภายใน 5 นาทีอีกเช่นเคย เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ความนิยมในตัวบอยแบนด์ยุค 2000 กว่าๆ วงนี้ยังคงไม่ลดลงตามที่หลายๆ คนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่แฟนคลับให้คำนิยามเอาไว้ว่า เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของวงนี้เลยทีเดียว

ก่อนจะได้พบทั้ง 7 หนุ่ม อีทึก, ฮีชอล, ชินดง, เยซอง, ซีวอน, อึนฮยอก และ ทงเฮ กันบนเวที Sanook! Music มีโอกาสได้ร่วมงานแถลงข่าว และเก็บภาพมาฝากแฟนๆ กันด้วย นอกจากพวกเขาจะตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้มาเจอแฟนเพลงชาวไทยมาตลอดแล้ว สมาชิกที่เพิ่งปลดประจำการทหารมาสักพักอย่างซีวอน อึนฮยอก และทงเฮ ก็กล่าวตรงๆ ว่ารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาขึ้นเวทีที่นี่อีกครั้งหลังจากรอมานานกว่า 3 ปี นอกจากนี้อึนฮยอกยังขอโชว์สเต็ปแดนซ์เบาๆ และทงเฮกล่าวขอแฟนเพลงแต่งงานเป็นภาษาไทย อุ่นเครื่องให้แฟนเพลงได้ชมกันเล็กน้อยก่อนขึ้นเวทีอีกด้วย

 

 

 

 

การตกแต่งของเวทีคอนเสิร์ตในคราวนี้ออกแนวเรโทร รวมถึงรูปแบบตัวอักษรที่ใช้ที่ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Gatsby เราตั้งใจสังเกตการจัดฉาก ลำดับการเรียงเพลง และรูปแบบของโชว์โดยรวมมากเป็นพิเศษ เพราะทราบมาว่า SUPER SHOW 7 ในครั้งนี้ ชินดง และอึนฮยอกมีส่วนอย่างมากในการดีไซน์โชว์ทุกๆ ส่วน เวลา 5 โมงเย็นเป๊ะ ไฟในฮอลล์ก็ดับลง เผยให้เห็นทะเลสีน้ำเงินจากแท่งไฟในมือของแฟนเพลงทั่วทั้งฮอลล์ พร้อมกับวิดีโอเปิดตัว ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวที่ได้รับการ์ดเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้สุดพิเศษ ที่มีทั้ง 7 หนุ่มแต่งตัวราวกับเจ้าชายอยู่ในงานด้วย ภาพบนจอเผยให้เห็นตู้ใส่ชุดสูทสีดำ ซึ่งตัดภาพกลับมาบนเวทีเป็นตู้กระจกใส หนุ่มๆ ออกมาจากตู้พร้อมเพลง “Black Suit” พอดิบพอดี นี่แค่ความประทับใจเล็กๆ ช็อตแรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า ...เออ เข้าใจทำนะ

 

 

ลำดับของโชว์ และฉากของแต่ละช่วงของการแสดงบนเวทีถูกคั่นด้วยวิดีโอที่มีชินดง และอึนฮยอกช่วยวางโครงเรื่อง และกำกับภาพ โดยแต่ละส่วนมี mood & tone แตกต่างกันไป ทั้งฉากสวีทกับสาวบนม้านั่งใต้แสงไฟ ราวกับฉากดังในภาพยนตร์เรื่อง La La Land ในเพลง “Girlfriend” ฉากประตูเรียงกัน 7 บานที่สมาชิกเปิดประตูออกมาร้องเฉพาะท่อนของตัวเองสลับกันไปเรื่อยๆ ด้วยจังหวะที่แม่นยำสุดๆ ในเพลง “Too Late” และการแสดงสุดเซ็กซี่เร่าร้อนกับผ้าลูกไม้คาดตาสีดำในเพลง “It’s You” คอมโบเซ็ตช่วงนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากเอลฟ์ชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงฉากที่ขนเอาโต๊ะ เก้าอี้ และกระดานดำมาสร้างบรรยากาศในห้องเรียน พร้อมหนุ่มๆ ในชุดนักเรียนในเพลง “Runaway” ก็ทำให้แฟนๆ อมยิ้มไปกับความร่าเริงของสมาชิกทุกคนในวงได้ดีเช่นกัน

SUPER SHOW 7 คราวนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่อย่าง PLAY แม้ว่าจะยกเพลงใหม่มาเล่นเกือบยกอัลบั้ม แต่บรรยากาศในงานไม่ได้ดร็อปลงเลยแม้แต่นิดเดียว แฟนๆ สนุกสนาน และซาบซึ้งไปกับเพลงใหม่ๆ อย่าง “Scene Stealer”, “One More Chance”, “The Lucky Ones”, “Spin Up!” และ “I Do” ที่นำไป mash up กับ “Marry U” ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะทั้งดนตรี และความหมายของเพลง (SUPER SHOW 6 แฟนไทยทำโปรเจ็กต์ขอศิลปินแต่งงาน คราวนี้เป็นศิลปินที่ขอแฟนเพลงแต่งงานเอง เหมาะเจาะไปอีก)

 

 

สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของงาน ที่มาจากฝีมือของแฟนเพลงเอง นั่นคือโปรเจ็กต์การแปรอักษรด้วยไฟสีแดง เป็นอักษรภาษาเกาหลี ที่แปลได้ว่า “ไม่ว่าเมื่อไรก็เดินไปด้วยกันนะ” ทำเอาสมาชิกที่ไม่ได้ขึ้นเวทีมาสักพักอย่างอึนฮยอกร้องไห้กลางเวที จนเพื่อนๆ ในวงต้องเข้ามาปลอบกันเลยทีเดียว เป็นโมเมนต์น่ารักๆ ที่ศิลปินบนเวที และแฟนเพลงในฮอลล์ทุกคนซาบซึ้งตามกันไปด้วย

ได้ชื่อว่าเป็น Super Junior ไม่ปล่อยให้เท่ได้นาน กรี๊ดกันคอแตกไปแล้ว ต้องคั่นด้วยช่วงตลกๆ อย่างการแต่งคอสเพลย์เป็นยอดมนุษย์ 6 สี (โดยมีชินดงเป็นหุ่นยนต์ตัวหัวหน้า) และเพลงที่ร้องในช่วงนี้จะเป็นเพลงอะไรไปไม่ได้นอกจาก “Super Ranger” และ “Rokuko” ของยูนิต Super Junior-H ที่กลายเป็นเพลงประจำ SUPER SHOW ไปเสียแล้ว เพิ่งจะขำจนท้องแข็งกันไปไม่เท่าไร ก็มากระโดดจนเหนื่อยกับเมดเลย์รัวๆ ของเพลงฮิตในอดีต ทั้ง “On and On”, “Super Duper”, “Sorry Sorry”, “Mr. Simple” และ “Bonamana” ที่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เพิ่มความหนักแน่นด้วยเสียงกลองที่เข้มข้นกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ พร้อมหนุ่มๆ ที่วิ่งพล่านไปทั่วทุกมุมของเวที

ช่วงท้ายของโชว์ ปรับอารมณ์สู่โหมดซึ้ง ด้วยวิดีโอที่บอกเล่าเรื่องราวของแฟนเพลงที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดว่าอยู่ตัวคนเดียวบนโลกตลอดเวลา แต่ชีวิตมีความสุขขึ้นได้เพราะมี Super Junior ให้ได้ติดตาม แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า สมาชิก Super Junior เองนี่แหละที่ปลอบใจแฟนเพลงว่า ทุกคนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ในทุกช่วงขณะของชีวิตยังมีพวกเขาอยู่เคียงข้างตลอดเวลา และเป็นอีทึกเองที่อ่านข้อความจากสมาชิกในวงทุกคนถึงแฟนเพลงทุกคน ว่าแฟนเพลงเติบโตมาพร้อมๆ กันกับพวกเขา จากเป็นนักเรียน นักศึกษา เข้าสู่วัยทำงาน จนมีแฟน แต่งงาน มีลูก ขอบคุณที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีทุกคนก็ยังคงให้การสนับสนุนพวกเขาอยู่เสมอ มาถึงตรงนี้แฟนเพลงหลายคนปาดน้ำตากันรัวๆ

 

 

จากการสังเกตลำดับการจัดโชว์ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีการดีไซน์เอาไว้เป็นอย่างดี ว่าช่วงไหน ใช้เพลงไหน เพื่อให้ได้อารมณ์แบบไหน และยังไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับสมาชิกแต่ละคนให้ได้มีช่วงของตัวเอง ทั้งชินดงที่ทำหน้าที่หัวหน้ากำกับศิลป์บนเวที ทงเฮโชว์เดี่ยวเปียโน  ฮีชอลโชว์เดี่ยวกลอง เยซองโชว์พลังเสียงทรงพลัง อึนฮยอกโชว์สเต็ปแดนซ์ ซีวอนได้แสดงเลียนแบบฉากดังในซีรีส์ The Good Doctor พร้อมปรากฏตัวในลุคดีเจราวกับ Calvin Harris และอีทึกที่ทำหน้าที่ดำเนินช่วง talk ให้เป็นไปอย่างราบรื่น

อีกจุดที่สมาชิก Super Junior เน้นมากเป็นพิเศษ คือช่วง talk ขนภาษาไทยจัดมาหลายชุด มุกตลกต่างๆ ที่ทำให้แฟนเพลงหัวเราะกันไปทั้งฮอลล์ และช่วงขอบคุณในตอนท้ายที่ซาบซึ้งจนหลายคนยังไม่อยากให้คอนเสิร์ตกว่า 3 ชั่วโมงนี้จบลง

 

 

แม้ว่า SUPER SHOW ในครั้งนี้จะมาเต็มรูปแบบทั้งแสงสีเสียงที่มีคุณภาพเหมือนเดิม แต่ด้วยมุมด้านข้างของเวทีที่มีฉากใหญ่ๆ ตั้งอยู่ ในบางช่วงที่วิดีโอขึ้นพร้อมซับภาษาไทย ผู้ชมฝั่งข้างเวทีจึงอ่านซับไทยไม่ได้เพราะถูกฉากของเวทีขนาดใหญ่บังอยู่ ในส่วนของแท่งไฟ official ที่ควรจะเปลี่ยนสีระหว่างแสดงคอนเสิร์ตในฮอลล์ได้ ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนสีให้เห็นแต่อย่างใด นอกจากนี้การแสดงของโชว์ในครั้งนี้จะเน้นเอนเตอร์เทนมากกว่าการร้อง เนื่องจากสมาชิกสายร้องอย่าง เรียวอุค และคยูฮยอน อยู่ในช่วงเกณฑ์ทหาร จึงทำให้มาร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ไม่ได้ คนที่ต้องรับหน้าที่ร้องหนักๆ จึงตกเป็นของเยซองอย่างชัดเจน นอกจากนี้พาร์ทเต้นหนักๆ ทางวงยกให้เป็นหน้าที่ของแดนเซอร์ที่รับผิดชอบในส่วนของ Dance Performance เมดเล่ย์เพลงเก่าๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่แดนเซอร์ของวงได้มีโอกาสเผยโฉมกันอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่หากใครที่คาดหวังว่าจะได้เห็น Super Junior เต้นเป๊ะๆ เยอะๆ ก็อาจจะไม่ค่อยได้เห็นมากเท่าที่ควร ทำให้โดยรวมถือว่าเป็นโชว์ที่เอาใจฐานแฟนคลับเก่าๆ มากกว่าที่จะจับใจแฟนเพลงใหม่ๆ 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความผูกพันของ Super Junior และแฟนเพลงที่ติดตามพวกเขามาอย่างยาวนานหลายปี การแสดงดำเนินไปได้ด้วยดี และราบรื่นตลอดโชว์ ลูกอ้อนที่หยอดตลอดโชว์กับสัญญาว่าจะกลับมาอีก และเซอร์ไพรส์ซ้ำซ้อนในวิดีโอช่วงปิดคอนเสิร์ต ทั้งเบื้องหลังของวิดีโอแต่ละช่วงที่ถ่ายทำ และวิดีโอเมสเสจสุดเซอร์ไพรส์จากเสียงของเรียวอุค และคยูฮยอน ที่สัญญาว่าจะกลับมาเล่นคอนเสิร์ตในครั้งหน้า ทำให้แฟนเพลงต่างก็สัมผัสได้ถึงความทุ่มเท ตั้งใจ และเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของ Super Junior อย่างแท้จริง

ไม่ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะมี SUPER SHOW 8 แต่เชื่อว่าเอลฟ์ชาวไทยคงรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ และเตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ ให้หนุ่มๆ Super Junior อีกเหมือนเดิมแน่นอน เพราะ “ไม่ว่าเมื่อไรก็เดินไปด้วยกันนะ” ใช่ไหมล่ะ?

 

 

______________________

Story : Jurairat N.

Photos : Sanook, SM True