“รักในสิ่งที่ทำ และให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์” เคล็ดลับของ Incubus ใน 27 ปีบนถนนสายดนตรี
หากคุณเป็นสาวกอัลเทอร์เนทีฟร็อกยุค ‘90s ถึง 2000s ต้นๆ ตัวจริง ย่อมไม่มีทางที่จะไม่รู้จักเจ้าของเพลงฮิต “Drive”, “Megalomaniac”, “Anna Molly”, “Are You In?” หรือล่าสุดกับ “Nimble Bastard” อย่าง Incubus แน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะมาไทยบ่อยเสียจนหลายคนถึงขั้นหลุดปากออกมาเบาๆ ว่า “มาอีกแล้วเหรอ?” แต่ขอบอกเลยว่าเพลงของ Incubus ฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ และการแสดงสดของพวกเขาก็เต็มไปด้วยพลังที่แฟนเพลงชาวไทยต้องคิดว่า โชคดีแค่ไหนที่ได้ดูพวกเขากันตั้งหลายรอบ
Sanook! Music มีโอกาสได้อีเมลสัมภาษณ์ Incubus ถึงความทรงจำในประเทศไทยที่เคยมาในครั้งก่อนๆ อัลบั้มใหม่ ทัวร์คอนเสิร์ตใหม่ รวมไปถึงการเป็นวงดนตรีจากยุค ‘90s ในโลกปี 2018 ที่จะพิสูจน์ความเก๋าของตัวเองกับเด็กๆเจน Z อย่างไร คำตอบ และการเล่นคำ การใช้สำนวนอุปมาอุปไมยในการตอบของพวกเขาทำให้เราต้องลุกขึ้นคำนับ 3 ทีเลยจริงๆ
____________________
จำได้ไหมว่ามาเมืองไทยกี่ครั้งแล้ว จำอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยได้บ้าง?
Incubus : พวกเราจำได้ว่าเคยไปเมืองไทยมา 3 ครั้งแล้วนะ แต่ละครั้งพวกเราก็สนุกกันมากจนอยากจะกลับไปเล่นคอนเสิร์ตอีกครั้งเสมอ ความทรงจำเกี่ยวกับประเทศไทยที่พวกเราประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นครั้งแรกของพวกเราที่ไปประเทศไทยนี่แหละ เราได้นั่งเรือไปตามแม่น้ำ ได้ชมวัดต่างๆ ไปพร้อมกับวิวสวยๆ แม้ว่าจะฟังดูเหมือนทริปของนักท่องเที่ยวธรรมดาๆ แต่พวกเราก็สนุกมากที่ได้ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวกันตลอดทั้งบ่ายวันนั้น จำได้ว่าพวกเราได้จูบปากกับงูยักษ์ด้วยนะ! เห็นไหมว่าพวกเราจะลืมได้ไง
ปกติเห็นเว้นช่วงทำอัลบั้มแค่ 2-3 ปี แต่อัลบั้ม If Not Now, When? กับ อัลบั้มล่าสุด 8 เว้นช่วงไปตั้ง 5-6 ปี ทำไมถึงทิ้งระยะห่างของแต่อัลบั้มนานขึ้น แล้วพวกคุณรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ต้องกลับมารวมตัวทำอัลบั้มใหม่กันได้แล้ว?
Incubus : สิ่งหนึ่งของ Incubus ที่ผมรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ คือการที่สมาชิกทุกคนในวงต่างมีส่วนร่วม และอยู่ด้วยกันด้วยเหตุผลที่ใช่เสมอ ถ้ามีเหตุผลที่ “ใช่” สำหรับการอยู่ในวงดนตรีแล้วล่ะก็ คิดว่าก็ต้องเป็นข้อนี้แหละ พวกเราภูมิใจในการเป็นวงดนตรีที่แท้จริง และมีความกล้าที่จะยึดมั่นในสิ่งที่เป็นตัวของพวกเราเองเสมอมา บางครั้งชีวิตก็ถูกถาโถมไปด้วยเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ นานาที่ทำให้คุณต้องหันกลับไปให้ความสนใจกับเรื่องเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นในบางช่วงของชีวิตพวกเราจึงถูกแบ่งออกไปจากการเป็นวงดนตรีบ้าง เพื่อไปอยู่กับครอบครัว คนรัก และลองไปใช้เวลาสร้างสรรค์งานในด้านอื่นๆ กัน พวกเราในวงเห็นตรงกันว่าถ้าเราไม่ออกไปใช้ชีวิตตามปกติบ้าง เราก็คงจะไม่สามารถกลับมาทำวงดนตรีที่สร้างสรรค์เพลงดีๆ ให้แฟนเพลงได้เหมือนเดิมแน่ๆ เหมือนที่ว่ากันว่า เวลาผ่านไปเร็วขึ้นเมื่อเราแก่ตัวลง และในขณะที่เรากำลังเติบโต เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านไป 2 ปีแล้ว อะไรทำนองนั้น
อัลบั้ม 8 ยังคงเป็นซาวด์อัลเทอร์เนทีฟร็อกสไตล์ ‘90s ในแบบที่แฟน Incubus คุ้นหูเหมือนเคย คิดว่า Skrillex เข้ามาทำอะไรเพิ่มเติมในแบบที่พวกคุณไม่เคยทำมาก่อนให้กับเพลง และอัลบั้มของคุณโดยรวมบ้าง?
Incubus : พวกเราทำงานกับ Skrillex แค่เฉพาะช่วงท้ายๆ ของการทำอัลบั้ม แต่การที่ได้เขามาช่วงโปรดิวซ์อัลบั้มนี้ก็ช่วยให้เสียงดนตรีในหลายๆ ช่วงเปลี่ยนไปจากที่พวกเราทำเอาไว้ในตอนแรก เขานำเอาอัลบั้มที่พวกเรากำลังทำ และบันทึกเสียงกันอยู่ราวๆ เกือบปีไปมิกซ์เพิ่ม ผสมผสานลายเซ็นของ Skrillex ลงไปนิดหน่อย เหมือนตกแต่งหน้าเค้กที่เรียงชั้นสวยดีอยู่แล้วด้วยน้ำตาลไอซิ่งอีกรอบ
Incubus เพิ่งฉลองครบรอบ 20 ปีอัลบั้ม S.C.I.E.N.C.E. และตอนนี้ก็เดินทางมาถึงอัลบั้มที่ 8 หลังจากที่ร่วมวงกันมาอย่างยาวนานถึง 27 ปี ไม่ใช่ทุกวงที่จะเดินทางมาไกลได้ถึงขนาดนี้ อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ Incubus อยู่ด้วยกันอย่างเข้มแข็งมาตลอด
Incubus : ขอบคุณครับ เคล็ดลับก็คือ พวกเรารักกัน และพวกเรายังสงสัยใคร่รู้ในเรื่องของศิลปะ และดนตรีอยู่เรื่อยๆ ความสงสัยใคร่รู้นี่แหละที่เป็นจุดกำเนิดของพลังวัยรุ่นของพวกเรา!
เมื่อเริ่มต้นออกทัวร์คอนเสิร์ตหลังจากที่ออกอัลบั้มใหม่ พวกคุณเลือกเพลงที่จะเล่นในคอนเสิร์ตกันอย่างไร เน้นที่เพลงในอัลบั้มใหม่ หรือรวมๆ ไปกับเพลงฮิตเก่าๆ ด้วย?
Incubus : คอนเสิร์ตของพวกเราตอนนี้ และเป็นแบบเดียวกันกับที่พวกเราจะเล่นในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการรวมกันของเพลงจังหวะสนุกๆ ของพวกเราที่เคยมีมาทั้งหมด ตั้งแต่เก่าสุด ยันใหม่สุด รับรองว่าจัดให้แน่นๆ แน่นอน
อยู่มานาน เพลงฮิตย่อมเยอะเป็นธรรมดา เบื่อบ้างไหมที่ต้องร้องเพลงเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา แล้วคุณแก้ปัญหานี้อย่างไร?
Incubus : พวกเราจะแอบเปลี่ยนดนตรี เพิ่มลูกเล่นเล็กน้อยในเพลงเก่าๆ ที่เราหยิบมาเล่น โดยเฉพาะพวกเพลงฮิตทั้งหลาย สนุกดีนะ เหมือนเอาเพลงเก่าๆ ของพวกเราเองนี่แหละมารีมิกซ์กันใหม่
Incubus อยู่ในวงการดนตรีมาก็หลายสิบปี และเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่เป็นตัวแทนของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกในยุค ‘90s คิดว่าดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกสมัยนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
Incubus : พวกเรารักดนตรียุค ‘90s ดนตรีในยุคนี้มีอิทธิพลทางดนตรีกับพวกเราในวงมาก แต่ถึงแม้ว่าพวกเราจะก่อตั้งวงกันตั้งแต่ปี 1991 และเราก็ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในวงดนตรียุค '90s ด้วยเหตุผลนั้น แต่พวกเราก็ไม่ได้เป็นที่จดจำในวงกว้างมากนักจนกระทั่งปี 1999 ช่วงที่ปล่อยอัลบั้ม Make Yourself และอัลบั้มนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของใครหลายคนในปี 2000 หลังจากที่พวกเราออกทัวร์คอนเสิร์ตกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ดังนั้นพวกเราอยากเรียกตัวเองว่าเป็นวงดนตรีในช่วงมิลเลนเนียม (ปี 2000) มากกว่า จากการเลือกปีที่พวกเรามีผลงานเด่นชัดจริงๆ
สำหรับวงการเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกสมัยนี้ พวกเรามองว่ามันก็ยังอยู่ในช่วงกำลังเติบโต และมีวงดนตรีเจ๋งๆ หลายวงที่กำลังรับช่วงต่อไปได้ด้วยดี แต่ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวดนตรีที่มีคนฟังเฉพาะกลุ่มอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกธรรมชาติของดนตรีทุกแนวนั่นแหละ เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ที่ศิลปินป็อปเป็นแนวดนตรีที่เป็นที่นิยมที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะกลายเป็นแนวที่มีคนฟังเฉพาะกลุ่มแทนก็ได้ บางทีเพราะดนตรีมันหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติของวัฒนธรรมแบบนี้ แนวดนตรีเก่าๆ อาจจะกลับมาฮิตใหม่ วงดนตรีรุ่นเก๋าก็อาจจะกลับมาโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางสปอต์ไลท์เป็นเฮือกสุดท้ายอีกครั้งก็ได้
Incubus อาจจะเป็นไอดอลของแฟนๆ ยุค ‘90s-2000s แต่สำหรับแฟนเพลงเด็กๆ สมัยนี้ คิดว่าจะเอาชนะใจพวกเขาด้วยดนตรีในแบบของพวกคุณได้อย่างไร?
Incubus : พวกเราพยายามที่จะไม่เรียกร้องความสนใจจากทุกคนอย่างชัดเจนมากขนาดนั้น ให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ไปเองดีกว่า และถ้าจะมีใครหันมาสนใจในสิ่งที่พวกเราทำอยู่ นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว พวกเรารักในเสียงดนตรี ภาพวาด และอื่นๆ อีกมากมาย และคิดว่าพวกเราก็จะทำสิ่งที่พวกเรารักไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีคนสนใจในสิ่งที่พวกเราทำหรือไม่ก็ตาม เราจะรู้สึกดีจริงๆ เมื่อสิ่งที่เราทำ ทำให้คนมากมายสนุกไปกับพวกเราด้วย เหมือนคุณตกลงไปในแม่น้ำอุ่นๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกดีแม้จะเปียกปอนไปทั้งตัวก็ตาม
มองภาพในอนาคตอีก 5 ปีของ Incubus เอาไว้อย่างไรบ้าง? เพลงใหม่? ทัวร์ใหม่?
Incubus : เพลงใหม่! ทัวร์ใหม่! และหวังว่าจะได้ขยายพื้นที่ไปเล่นในที่ที่ไม่เคยไป หรือเห็นเพลงของพวกเราในชาร์ตเพลงของประเทศที่พวกเราไม่เคยทำได้มาก่อน หรือจะภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติของวงดีล่ะ ใครจะเล่นเป็น Brandon? แล้วใครจะเล่นเป็น Mike (หัวเราะ)
____________________
อ่านจบทุกคนคงคิดเหมือนเราว่า ด้วยความรักที่เหล่าสมาชิกในวงมีให้แก่การเสมอมา ความลุ่มหลงในงานศิลปะ และการทำเพลงของพวกเขา บวกกับการทำงานในแบบที่พวกเขาอยากทำล้วนๆ โดยไม่สนใจกระแสเพลงในตลาด ทำให้ Incubus เป็นหนึ่งในไม่กี่วงที่เรียกได้ว่า “ซื่อสัตย์” กับผลงานที่ตัวเองได้ทำจริงๆ รวมถึงซื่อสัตย์กับแฟนเพลงด้วย
ไม่ว่าคุณจะเป็นยุค ‘90s ยุคมิลเลนเนียม หรือเจน X Y Z ก็ไปพิสูจน์กับผลงานของเขาด้วยตัวเองกันได้ ใน Singha Music presents Incubus Live in Bangkok 2018 วันที่ 15 ก.พ. 2018 นี้ ที่ BCC Hall เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว รายละเอียดคอนเสิร์ต คลิกที่นี่
____________________
Story : Jurairat N.