7 เหตุผลฟังไม่ขึ้น เมื่อคอนเสิร์ตต้อง “ยกเลิก” กะทันหัน | Sanook Music

7 เหตุผลฟังไม่ขึ้น เมื่อคอนเสิร์ตต้อง “ยกเลิก” กะทันหัน

7 เหตุผลฟังไม่ขึ้น เมื่อคอนเสิร์ตต้อง “ยกเลิก” กะทันหัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กว่าที่แฟนเพลงอย่างเราๆ จะฝ่าฟันสมรภูมิรบคว้าบัตรคอนเสิร์ตในดวงใจมาครอบครองกันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนที่เคยฝ่าฟันอุปสรรคมากมายนานัปการคงจะเข้าใจในสิ่งที่เราพูดถึงอยู่กันเป็นอย่างดี นี่ยังไม่รวมพลังงานที่เสียไปเมื่อครั้งที่กระโดดจนตัวลอยด้วยความดีใจหลังจากทราบข่าวว่าจะได้มีโอกาสได้ชมการแสดงสดของศิลปินที่เราฟังเพลงเขาวนไปวนมาอยู่หลายร้อยครั้งอีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นการนั่งนับวันรอคอยที่จะได้ไปเกาะขอบหน้าเวที สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดสักครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นเรื่องที่ทรมาน แล้วอยากให้ทุกวันมันผ่านไปให้เร็วที่สุดจริงๆ ไหนจะเสื้อผ้าหน้าผม หรือตระเตรียมตั๋วเครื่องบิน ที่พักที่ต้องเตรียมในกรณีที่ที่จัดงานไม่ได้อยู่ใกล้บ้านอีกล่ะ เห็นไหมว่าแค่จะไปชมคอนเสิร์ตหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องสบายๆ อย่างที่ใครๆ คิด เหมือนอย่างที่เพิ่งเกิดเหตุเทศกาลดนตรีที่เชียงใหม่ถูกยกเลิกกะทันหันก่อนวันแสดงเพียง 1 วันเมื่อไม่นานมานี้

อ่านต่อ >> แฟนเพลงโวย! เทศกาลดนตรี Black Sheep Music Festival ประกาศเลื่อนงาน ก่อนแสดงจริง 1 วัน

แต่ถึงกระนั้น ฝันร้ายที่ไม่อยากให้เกิดก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่เว้นแม้แต่อีกแค่ไม่กี่นาทีการแสดงก็จะเริ่ม แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังปนความไม่พอใจ เมื่อจู่ๆ คอนเสิร์ตนั้นก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วยเหตุผลที่ฟังแล้ว ไม่รู้ว่าจะโกรธศิลปิน โกรธทีมงาน หรือโกรธตัวเองที่โชคร้ายเองกันแน่

___________________

 

Deftones Live In Bangkok 2011

iqf4769ab234b55d769fa8d1add83

น่าจะเป็นหนึ่งในการยกเลิกคอนเสิร์ตที่ชาวร็อคหลายคนต้องจำไปอีกนาน เมื่อผู้จัดงานอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่นาที ท่ามกลางแฟนเพลงที่เข้ามารออยู่เต็มฮอลล์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากทางผู้จัดการวงของ Deftones ไม่พอใจในระบบไฟ 110 โวลต์ที่พวกเขามี แม้ว่าทางผู้จัดจะยืนยันว่าใช้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่มีมาตรฐาน ใช้กับศิลปินอื่นแล้วไม่มีปัญหา และได้ทำตามความต้องการทุกอย่างตามที่ผู้จัดการวงกำหนดไว้ แต่ผู้จัดการวงยังยืนว่าจากกระแสไฟนี้มีความเสี่ยงที่อุปกรณ์ของพวกเขาจะชำรุดได้ สุดท้ายเมื่อตกลงกันหลังเวทีไม่ได้ เวลาแสดงถูกเลื่อนออกไปมากกว่า 2 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้จัดต้องตัดสินใจยกเลิกคอนเสิร์ตเนื่องจากการแสดงที่ล่าช้าเกินไปจะทำให้สมาชิกของวงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมตัวในการแสดงคืนต่อไป ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนเพลงหลายพันชีวิตที่ไม่เข้าใจถึงการจัดการ การตกลงกันของทีมผู้จัด และทีมศิลปินว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดปัญหานี้จนถึงนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นแสดงได้

 

Pitbull Climate Change Tour Live in Bangkok 2017

key-ver

สำหรับหนุ่มคนนี้เรียกได้ว่าทำแฮตทริกในการยกเลิกคอนเสิร์ตในประเทศไทยไปได้อย่างสวยงาม (เหรอ?) เมื่อเขายกเลิกคอนเสิร์ตในเมืองไทยไปถึง 3 ครั้ง จากครั้งแรก Pitbull Live in Bangkok 2011 ที่ติดปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง แต่สำหรับครั้งที่ 2 กับ NE-YO & PITBULL LIVE IN BANGKOK 2015 และครั้งที่ 3 กับ Pitbull Climate Change Tour Live in Bangkok 2017 กลับไม่มีเหตุผลใดๆ นอกจากการ “ขอเลื่อนการจำหน่ายบัตรออกไปอย่างไม่มีกำหนด” และ “เหตุจำเป็นที่อยู่นอกเหนือการควบคุม” ทำเอาแฟนเพลงที่เตรียมสเต็ปแดนซ์ ชุดขาเว้าสูง ขนนกทั้งหลายแหล่ต้องพับชุดเก็บเข้าตู้ไปอย่างน่าเสียดาย

 

สำหรับประเทศไทยแล้ว ผู้จัดส่วนใหญ่มักให้เหตุผลในการยกเลิกคอนเสิร์ตค่อนข้างคลุมเครือ อาจจะด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถเปิดเผยตรงๆ ได้ ทำให้แฟนเพลงหลายคนต้องคาดเดาเอาเองต่างๆ นานา ทั้งปัญหาการตกลงเจรจาเรื่องเงิน ยอดขายบัตรที่ทำได้ไม่ถึงเป้า หรือปัญหาด้านสถานที่จัดงานอื่นๆ ที่ทำให้ต้องย้ายไปย้ายมา จนถึงขั้นยกเลิกการแสดงไปดื้อๆ ทั้งคอนเสิร์ต Robbie Williams เมื่อปี 2015 หรือแฟนมีตติ้งจากฝั่งศิลปินเกาหลีอย่าง ASTRO ในปี 2017 และ K.A.R.D ในเดือนมกราคมปี 2018 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อย่าคิดว่าเป็นเฉพาะประเทศไทยหรือเปล่าที่เจอแต่เรื่องแบบนี้ แฟนเพลงต่างประเทศอย่างอเมริกา และยุโรปก็ต้องพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ต่างกัน

 

Oasis

oasis

วงบริทป็อปในตำนานวงนี้มีวีรกรรมมากมายจนเล่าทั้งวันก็ยังไม่หมด หนึ่งในนั้นคือคอนเสิร์ตเริ่มทัวร์ในอเมริกาของพวกเขาในปี 1996 ที่สมาชิกวงต้องเซอร์ไพรส์สุดๆ เมื่อภรรยาของ Liam Gallagher โทรมาตามให้เขาไป “ซื้อบ้าน” และหนุ่มเลียมก็ว่านอนสอนง่าย ลากกระเป๋าจากสนามบินกลับบ้านไป ท่ามกลางความงุนงงของสมาชิกที่เหลือที่กำลังจะขึ้นเครื่องอยู่รอมร่อ ตัดภาพกลับมาจึงเป็นโชว์ต่อหน้าแฟนเพลงอเมริกันกว่า 16,000 คน พร้อมวง Oasis ที่ขาดนักร้องนำ

 

Neil Young

neil-young-15042721511

นักร้อง นักแต่งเพลงระดับตำนานจากแคนาดา ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรปทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการร่วมแสดงในงานเทศกาลยักษ์ใหญ่ในอังกฤษอย่าง Glastonbury ในปี 1997 เพราะเขาเผลอทำมีดบาดนิ้วขณะหั่นแซนด์วิชแฮม ทำให้เขาเล่นดนตรีไม่ได้ไปอีกระยะใหญ่ๆ เหตุการณ์นี้ไม่รู้จะโกรธ หรือสงสารดี สุดท้ายเขาก็ต้องออกมาขอโทษแฟนเพลง และยังกล่าวอย่างน่าเห็นใจว่า “ถ้ารู้ว่าใช้มีดหั่นแล้วจะโดนบาดแบบนี้นะ รู้งี้เขมือบเข้าไปทั้งชิ้นเลยดีกว่า” และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ต่อไปนี้จะกินแค่แมคแอนด์ชีสแล้วล่ะ” โถ... ลุง

 

Kings of Leon

primg_887

สำหรับหนุ่มๆ Kings of Leon ต้องถือว่าเป็นความโชคร้ายทั้งขึ้นทั้งล่อง เมื่อพวกเขาจำใจต้องหยุดการแสดงสดที่ St. Louis เมื่อปี 2010 ลงกลางคัน เพราะ Jared Followill มือเบสของวงถูกนก... เอ่อ... อุจจาระใส่ปาก เดือดร้อนถึงมือกลองอย่าง Nathan Followill ที่ต้องออกมาตอบทวิตเตอร์ของเหล่าแฟนเพลงที่ไม่พอใจกับเซ็ตลิสต์ที่ถูกตัดฉับจนสั้นกุดว่า “ไม่ใช่ความผิดของ Jared เสียหน่อย เป็นความผิดของสถานที่จัดงานต่างหาก พวกคุณอาจโอเคที่มีขี้นกอยู่ในปาก แต่พวกเราไม่โอเค”

 

David Guetta

david-guetta

ก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นทัวร์ Guetta Life เวิร์ลทัวร์ครั้งแรกของเขาในปี 2014 ดีเจหนุ่มก็ต้องลนลานหา Flash drive ที่เต็มไปด้วยไฟล์เพลงมิกซ์ทั้งโชว์ของเขาอยู่หลังเวที และสุดท้ายเขาก็หาไม่เจอ จนทำให้ต้องประกาศยกเลิกโชว์ก่อนจะขึ้นแสดงจริงในอีกไม่กี่นาที ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนเพลงที่หลายคนบ่นว่าพวกเขาทั้งเดินทางมาไกล หรือต้องลาหยุดลางานมาชมการแสดงที่สุดท้ายก็ไม่ได้เกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์นั้นเดาว่า David Guetta และเหล่าดีเจทั่วโลกคงเตรียม Flash drive เอาไว้หลายๆ อันแน่นอน

 

Justin Bieber

gettyimages-517245786

แฟนเพลงชาวไทยหลายคนนับวันรอว่าเมื่อไรจะได้ชมคอนเสิร์ต Purpose Tour อันเลื่องชื่อของหนุ่มคนนี้ แต่สุดท้ายยังไม่ทันจะได้ลุ้นกับคอนเสิร์ตในไทย เวิร์ลทัวร์ของเขาก็สิ้นสุดลงโดยที่แฟนเพลงในแถบอเมริกาเหนือ (รวมถึงแคนาดา) และแถวเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ในปลายปีนี้ถูกยกเลิกไปด้วยตามระเบียบ โดยเหตุผลที่ให้คือ “เหตุสุดวิสัย” แต่สาเหตุที่แท้จริงที่หลายคนฟันธงว่าต้องใช่แน่ๆ ก็คือ หนุ่มจัสเหนื่อยสะสมจากการตะลอนทัวร์ตลอดเกือบ 2 ปี โดยแทบไม่ได้หยุดพัก แถมยังเคยแสดงคอนเสิร์ตติดต่อกันโดยไม่ได้หยุดเลยมากถึง 77 วันเลยด้วย ไม่ว่าจะยังหนุ่มยังแน่นแค่ไหน แต่ทำงานติดต่อกันนานขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

อ่านต่อ >> รู้หรือไม่? Justin Bieber มีวันหยุดตั้งแต่เริ่ม Purpose Tour ทั้งหมดกี่วัน?

 

แม้ว่าเหตุผลของแต่ละคนจะฟังขึ้นบ้าง ฟังไม่ขึ้นบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อใจเย็นๆ แล้วมาคิดให้ดีๆ จะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก หรืองานใหญ่ขนาดไหน ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายศิลปิน ฝ่ายผู้จัด ฝ่ายโปรดักชั่น ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด และอีกหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แต่หวังว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นแล้ว จะมีแพลนบีที่เตรียมเอาไว้รับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้ด้วย และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีกครั้งอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากทุกคนทุกฝ่ายจะต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพจิตด้วยแล้ว ศิลปินและผู้จัดอาจจะต้องเสียความน่าเชื่อถือที่กว่าจะได้มาก็ค่อนข้างยากไปด้วย

 

___________________

Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook