เซ็กซี่ เร่าร้อน และซาบซึ้งไปกับ 4 สาว ใน Soundbox : Fifth Harmony PSA Tour
ต้องยอมรับจริงๆ ว่า ใน พ.ศ. นี้ หากจะนึกถึงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากฝั่งของตะวันตก คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 4 สาว Fifth Harmony ที่นอกจากจะมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความสามารถ เสียงร้องอันทรงพลัง หน้าตารูปร่างสวยโดนใจแฟนๆ ที่นิยมสาวตะวันตกกันแล้ว ยังมีเพลงฮิตที่ไม่ว่าจะเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน ขึ้นมาแค่อินโทรคนก็ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์อีกด้วย
BEC-Tero Entertainment พา 4 สาวมาแสดงสดที่เมืองไทยในนามของ Soundbox : Fifth Harmony PSA Tour เมื่อคืนวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ณ จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮาส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากแฟนคลับ หรือ harmonizers มากันเต็มฮอลล์แล้ว เรายังแอบเห็นแฟนคลับของ OZMO และ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่เป็นศิลปินเปิดให้กับ Fifth Harmony เข้ามาให้กำลังใจศิลปินของตัวเองกันมากมาย 2 ดีเจหนุ่มจาก OZMO ก็อุ่นเครื่องเบาๆ ด้วยรีมิกซ์เพลงสากลสุดฮิต ที่แอบตะลึงเบาๆ คือมีเพลง “Havana” ของสาว Camilla Cabello ด้วยเนี่ยแหละ ต่อด้วยการแสดงของโต๋ ที่ทำได้ดีตามมาตรฐานของเขา ขนทั้งเพลงเก่า และเพลงใหม่มาฝากแฟนๆ ตั้งแต่ “รักเธอ”, “มั้ง?”, “คนไม่พิเศษ”, “รักจริงจริง” และ “สักวันคงได้เจอ” ก่อนจะพูดติดตลกว่า แอบดูท่าเต้นของ Fifth Harmony มานานแล้ว ดีใจที่ในที่สุดจะได้เห็นกับตาตัวเองในวันนี้ แต่ถ้าให้เต้นคงไม่เอา ขอเล่นเปียโนดีกว่า
ราวๆ สามทุ่ม 4 สาว Fifth Harmony ทั้ง Ally Brooke, Normani, Dinah Jane และ Lauren Jauregui ก็ปรากฏกายด้วยชุดสีดำรัดรูปขาเว้าสูง พร้อมแบ็คอัพหญิงล้วน มือกลอง คีย์บอร์ด และกีตาร์ สื่อให้เห็นถึง Girl Power ที่แท้จริง ไม่ต้องรอเพลงฮิตกันในช่วงท้าย เพราะเริ่มต้นก็ส่ง “Worth It” ผลงานจากอัลบั้มแรก Reflection เรียกพลังสาวในตัวทุกคนในฮอลล์ออกมาเต้นกันตั้งแต่เพลงแรก ด้วยเครื่องดนตรีที่มีอย่างจำกัด จึงอาจทำให้ขาดเสียงเครื่องเป่าที่เป็นบีทชูโรงของเพลงนี้ไป แต่แฟนเพลงก็ยังเต้นไปสะบัดผมไปกันอย่างเต็มอรรถรส ต่อกันด้วย “Boss” และ “Sauced Up” ผลงานจากอัลบั้มล่าสุดที่เป็นชื่อเดียวกับชื่อวง หนึ่งในเพลงที่สาวๆ มีโอกาสได้ร่วมแต่งเพลงด้วยตัวเอง
การแสดงบนเวทีสลับสับเปลี่ยนกันระหว่างอารมณ์เซ็กซี่เร้าร้อนชวนเต้นไม่หยุด เพลงจังหวะกลางๆ พอให้ได้โยกเบาๆ อย่าง “Reflection”, “Make You Mad”, “Scared of Happy” และ “Messy” กับซึ้งกินใจไปกับเพลงช้าที่สามารถโชว์พลังเสียงของสาวๆ ได้อย่างเต็มที่ อย่าง “Angel” และ “No Way” ที่สามารถแสดงทักษะการร้องเพลงของทั้ง 4 สาวได้ดี โดยเฉพาะท่อนประสานเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเกิร์ลกรุ๊ปแนวอาร์แอนด์บีฝั่งตะวันตก
คิวการเรียงเพลงค่อนข้างกระชับ แทบจะจบเพลงหนึ่ง ต่อด้วยอีกเพลงหนึ่งกันอยู่หลายครั้ง เห็นแล้วก็แอบเหนื่อยแทนสาวๆ อยู่เหมือนกัน แต่พวกเธอก็เต็มที่ และไม่แสดงอาการเหนื่อยให้เห็น ผุดลุกผุดนั่งเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้ตลอดโชว์ ระหว่างเพลงมีช่วงที่ปล่อยให้สมาชิกในวงกลับเข้าหลังเวที และปล่อยให้สมาชิกทีละคนเป็นคนครองเวที เริ่มต้นโซโล่เดี่ยวท่อนแรกของเพลง หรือจะพูดทักทายแฟนเพลงก่อนเข้าเพลงสั้นๆ ทำให้แฟนๆ ได้ตั้งใจมองสมาชิกทีละคนได้ชัดเจนขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันยาวมาก เป็นเพียงการทักทายสั้นๆ และขอบคุณแฟนเพลงที่รอคอยการมาของพวกเธอ แต่เราก็เชื่อว่าแฟนเพลงในวันนั้นก็คงจะสัมผัสได้ถึงความดีใจที่ได้มาเยือนเมืองไทยของพวกเธอ เพราะตลอดการแสดงสมาชิกแต่ละคนไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มให้แฟนๆ พร้อมโบกมือทักทายตลอดเวลา
ช่วงแสดง “Deliver” เป็นอีกช่วงที่เป็นการแสดงต่อเนื่องจากเพลงที่แล้ว มีการตั้งขาไมค์เอาไว้ให้สาวๆ ใช้ประกอบการแสดง แต่ในช่วงที่เริ่มร้องเพลงกันไปแล้ว ปรากฏว่าสาว Ally หายเข้าหลังเวทีไป ก่อนจะออกมาอีกทีก็ผ่านไปหลายท่อน แถมยังเจออุปสรรคกับขาไมค์ที่สูงจนเธอต้องเงยคอร้องไปแอบหัวเราะเบาๆ ไป แต่ก็ขำๆ กันอยู่ได้แปบเดียว สาว Normani สังเกตเห็นก็รีบเปลี่ยนขาไมค์กันด่วนๆ ทำเอาแฟนเพลงแอบหัวเราะไปด้วย ยังมีอีกหลายจุดที่ทำให้เราเอ็นดูสาวๆ ทั้งในส่วนของเวทียกสูงด้านหลัง ที่ขั้นบันไดค่อนข้างสูง ทำเอาสาวตัวเล็กอย่าง Ally ต้องค่อยๆ ก้าวขึ้นก้าวลงอย่างระมัดระวัง รวมไปถึงการทำไมโครโฟนตกพื้นของสาว Lauren ที่ส่งเสียงดังจนแอบเห็น Ally ตกใจด้วย
แม้ว่าจะไม่ใช่สาวๆ ที่พูดเก่งอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ความสดใสร่าเริง เป็นกันเองกับแฟนๆ และพลังการแสดงยังมีอยู่เต็มเปี่ยม จะมีก็แต่สาว Dinah ที่เป็นคนพูดเข้าเพลง “Lonely Night” ให้แฟนๆ ได้ฟังว่า เป็นเพลงที่เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชายที่กำลังคุยๆ กันอยู่ กับแอบไปคุยกับเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วย ใครที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันก็โบกมือลาผู้ชายคนนั้นไปด้วยกันได้เลย จากนั้นก็พาแฟนเพลงผู้โชคดีขึ้นมากลางเวที พร้อมทั้งร้องและเต้นไปรอบๆ ทำเอาบรรดาแฟนเพลงกรี๊ดอิจฉากันยกใหญ่ ใครที่อินกับเพลงนี้อยู่แล้วยิ่งโบกมือบ๊ายบายกับอดีตคนรักของตัวเองกันไปอย่างสนุกสนาน
ทางด้านโปรดักชั่นแสง และสีจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ธรรมดา ไม่หวือหวาหรือมีอะไรเป็นพิเศษ ในช่วงพักยาวที่ส่งแบ็คอัพหญิงเล่นดนตรีคั่นโชว์รอ ถ้ามีวิชวลอยู่ด้านหลังของเวทีด้วยก็คงจะช่วยเพิ่มสีสันของการแสดงได้มาก รวมไปถึงเสียงดนตรีที่อาจจะขาดมิติ ขาดความแน่นไปบ้าง ด้วยเครื่องดนตรีที่มีจำกัด และเสียงร้องของศิลปินผ่านเครื่องเสียงที่ยังคงขาดความชัด ความใสของเสียงไปบ้าง ทำให้เราที่ยืนอยู่ตรงโซนด้านเกือบหน้าตรงกลางได้ยินไม่ค่อยชัด จับคำพูดของสาวๆ ไม่ค่อยได้ว่าพูดอะไรบ้าง รวมไปถึงช่วงการแสดงที่ยากต่อการฟังให้ชัดเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่จนฟังไม่ได้ ยังคงสัมผัสได้ถึงพลังเสียงของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
หลังจากปิดท้ายโชว์ไปด้วยเพลงชวนโยกอย่าง “Down”, “Flex”, “He Like That”, “Don’t Say You Love Me” และเพลงชาติประจำวงอีกเพลงอย่าง “Work From Home” แล้ว สาวๆ โบกมือลาไปแปบเดียว ก็กลับมาจบแบบซึ้งๆ ด้วยเพลงความหมายดีอย่าง “Bridges” ที่มีท่อนเพลงว่า ‘We build bridges, not walls’ ที่หลายๆ คนเข้าใจว่าเป็นการสื่อถึงารต่อต้านนโยบายการสร้างกำแพงคั่นระหว่างประเทศอเมริกา และเม็กซิโกของ Donald Trump เป็นอีกเพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการร่วมแต่งเพลงของพวกเธอ ที่เลือกที่จะแสดงความเห็นของตัวเองผ่านเพลงได้อย่างตรงไปตรงมา และก็ได้ภาพอันน่าประทับใจจากแฟนเพลงชาวไทยที่ส่งธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ของชาว LGBT ไปให้สาวๆ บนเวทีด้วย หนึ่งในนั้นเขียนเอาไว้บนธงว่า “Bridges Not Walls” สาวๆ ประทับใจมาก และชูธงขึ้นเป็นสัญลักษณ์ว่า พวกเธอสนับสนุนชาว LGBT อย่างเต็มที่ จบการแสดงไปด้วยรอยยิ้มกันก่อนกลับบ้านทุกคน
เมื่อดูอายุแล้ว ทั้ง 4 สาวอายุเพียง 20 กว่าๆ กันทั้งนั้น แต่สามารถมีทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก และเป็นเพียงเกิร์ลกรุ๊ปหนึ่งเดียวจากฝั่งตะวันตกที่มีชื่อเสียงระดับโลกในขณะนี้ ท่ามกลางกระแสเกิร์ลกรุ๊ปจากฝั่งเอเชียที่แทบจะครองโลก แต่ Fifth Harmony ที่ตอนนี้แม้ว่าจะเหลือเพียง 4 คน แต่ก็ยังพร้อมที่จะยืนหยัดในเส้นทางสายดนตรีด้วยความรักในการเป็นศิลปิน และด้วยการสนับสนุนจากแฟนเพลงที่ทำให้พวกเธอมาไกลได้ถึงขนาดนี้ สาวๆ ยังคงต้องการกำลังใจในการทำงานอยู่ แฟนๆ ก็อย่าลืมสนับสนุนพวกเธอกันต่อไปด้วยนะ จะได้ให้มารวมตัวกันสะบัดผม บอดี้เวฟกันแรงๆ ในไทยกันอีกไง
____________________
Story : Jurairat N.
Photos : BEC-Tero Entertainment