“แตกต่างอย่างลงตัว” เคล็ดลับความสำเร็จของ Fifth Harmony จากเด็กธรรมดาสู่เกิร์ลกรุ๊ประดับโลก | Sanook Music

“แตกต่างอย่างลงตัว” เคล็ดลับความสำเร็จของ Fifth Harmony จากเด็กธรรมดาสู่เกิร์ลกรุ๊ประดับโลก

“แตกต่างอย่างลงตัว” เคล็ดลับความสำเร็จของ Fifth Harmony จากเด็กธรรมดาสู่เกิร์ลกรุ๊ประดับโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เรามีนัดกับ 4 สาว Fifth Harmony ประกอบด้วย Ally Brooke, Normani, Dinah Jane และ Lauren Jauregui ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า Soundbox : Fifth Harmony PSA Tour

อ่านต่อ >> เซ็กซี่ เร่าร้อน และซาบซึ้งไปกับ 4 สาว ใน Soundbox : Fifth Harmony PSA Tour

นอกจากแฟนเพลงชาวไทยจะตื่นเต้นกับการมาเยือนเมืองไทยของสาวๆ ในครั้งนี้แล้ว (หลังจากบินโฉบผ่านไทยไปมาหลายครั้ง) ทั้ง 4 สาวก็ตื่นเต้นมากเป็นพิเศษที่ได้มาเยือนเมืองไทย เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมอันสวยงาม อาหารรสชาติลืมไม่ลงจนแต่ละคนเผลอทานจนเลิกนับจำนวนครั้งที่ทานกันไปแล้ว รวมไปถึงแฟนเพลงชาวไทยที่พวกเธอคุ้นหน้าคุ้นตากันดีทั้งที่เคยเจอตัวจริง และผ่าน social media กันมาหลายปี

 

นอกจากเรื่องของคอนเสิร์ตแล้ว มุมมองของพวกเธอที่มีต่อปัญหาสังคม และความสำเร็จของหน้าที่การงานของพวกเธอ ก็เผยให้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นกันอีกด้วย

 

____________________

 5h_pub_photo2_v2

Fifth Harmony จากซ้ายไปขวา Normani, Ally Brooke, Dinah Jane และ Lauren Jauregui

 

 

ทัวร์คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?

Ally : ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้สนุกมากค่ะ เราชอบประเทศในแถบเอเชียมากๆ อาหารอร่อยมาก และดีใจที่ได้เจอแฟนๆ เอเชียที่นี่ โดยเฉพาะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเจอแฟนๆ ชาวไทยด้วย แม้ว่าเราจะพยายามออกไปเดินเที่ยวในประเทศไทยมาบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะตั้งใจเล่นคอนเสิร์ตให้แฟนๆ ได้ชมกันอย่างเต็มที่ที่สุด

Dinah : PSA Tour ของเราในครั้งนี้ เป็นทัวร์ครั้งที่สองของเราต่อจากทัวร์รอบอเมริกา และครั้งนี้ก็มาแถบเอเชีย เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะเราได้ท่องเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ ต่อจากไทยเราก็จะไปต่อที่ฟิลิปปินส์ด้วย และสำหรับประเทศไทยก็เป็นประเทศที่พิเศษมากๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้มากัน การได้แสดงสดในเพลงจากอัลบั้มล่าสุดของพวกเราในครั้งนี้ต่อหน้าแฟนๆ เป็นสิ่งที่ดีมาก พวกเราดีใจมากที่จะได้เห็นการตอบรับจากแฟนๆ ต่อผลงานล่าสุดของพวกเรา พวกเราหวังว่าทุกคนจะได้สนุกกับการสะบัดผม เต้นท่าเซ็กซี่ๆ และได้ปลดปล่อยความเป็นตัวพวกคุณออกมากันอย่างเต็มที่ไปพร้อมๆ กับพวกเรา

 

Lauren มาเที่ยวเมืองไทยมาก่อนหน้านี้ เป็นอย่างไรบ้าง?

Lauren : ใช่ค่ะ ฉันมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง ทริปนั้นสนุกมาก ฉันดีใจมากที่ได้กลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง ฉันชอบที่นี่มาก ทั้งอาหาร สภาพอากาศ ผู้คน โดยเฉพาะอาหาร ชอบมาก (ลากเสียงยาว)

Dinah : คนไทยก็ดีมากๆ ด้วยค่ะ

Ally : อาหารอร่อยมาก ข้าวเหนียวมะม่วงคือที่สุด

Normani : ฉันทานข้าวเหนียวมะม่วงไป 5 ครั้งแล้วเนี่ย

Dinah : ของฉันนี่ไม่นับแล้ว

Ally : มันอร่อยมาก

Sanook Music : ระวังน้ำหนักกันด้วยนะสาวๆ

Dinah : (หัวเราะ) ฉันไม่สนแล้ว

Lauren : ฉันไม่สนเรื่องอาหาร (ที่ทำให้อ้วน) เลย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม

Ally : แล้วเราก็ได้ไปวัดโพธิ์มาด้วยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ

 

ได้เจอแฟนๆ ชาวไทยกันบ้างหรือยัง?

Ally : พวกเราเคยเจอแฟนๆ ชาวไทยตั้งแต่ยังอยู่ที่ L.A. และ California เลยนะ

Dinah : ฉันคิดว่าเคยเห็นผ่าน social media ด้วยแหละ หลายๆ ครั้งที่เราขอให้แฟนๆ ส่งรูปพวกเขาพร้อมธงชาติของตัวเองลงใน social media ฉันมักจะเห็นธงชาติไทยด้วย เพราะฉะนั้นครั้งนี้ที่เราได้มาหาแฟนเพลงชาวไทยถึงที่ พวกเราเลยดีใจกันมากๆ

Normani : ฉันคิดว่าที่นี่เป็นที่ที่ฉันชอบที่สุดในทัวร์ครั้งนี้เลยนะ เพราะพวกเราไม่เคยมาที่นี่มาก่อนด้วย เลยทำให้ฉันรู้สึกกับที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นๆ นิดหน่อย

Dinah : เห็นด้วยเลย ทั้งสภาพอากาศ ภูมิประเทศ วัฒนธรรมต่างๆ ความแตกต่างเหล่านี้มีเสน่ห์มาก อย่างเมื่อวานที่พวกเราได้ไปวัดกัน ฉันเห็นแล้วตะลึงไปเลย มันมีความสงบอยู่ในนั้น และอาหาร... ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ) อาหารไทยดีที่สุด ฉันอยากเอากลับบ้านมากเลย

Lauren : เราอาจหาวิธีทำ แล้วเอาไปทำกินที่บ้านกันเองก็ได้นะ

Normani : ฉันอยากรู้วิธีทำไข่เจียวแบบไทยมากเลย แล้วพวกคุณทำข้าวเหนียวมะม่วงกันยังไง (สาวๆ หัวเราะเสียงดัง) เอาข้าวไปแช่ในมะม่วง หรืออะไรทำนองนั้นไหม

Sanook Music : มันมีส่วนประกอบของมะม่วงสุก กะทิ และน้ำตาลน่ะค่ะ

Dinah : ดีเลย ของชอบทั้งนั้น

 

อัลบั้มล่าสุด Fifth Harmony แตกต่างอย่างไรจากอัลบั้มอื่นๆ บ้าง?

Lauren : อัลบั้มนี้ใช้ชื่อตามชื่อวงของเราเลย เพราะแต่ละเพลงพวกเรามีส่วนร่วมในการแต่งเพลงมากขึ้น ทุกอย่างมาจากประสบการณ์จริงของพวกเรา เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้รับโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเราเองลงในบทเพลงที่พวกเราร้อง นั่นจึงทำให้อัลบั้มนี้พิเศษสำหรับพวกเรามากๆ พวกคุณจะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ และความเข้าถึงเพลงได้มากขึ้นในขณะที่พวกเราร้องเพลงเหล่านี้

Dinah : ถ้าลองฟังเพลงของพวกเราในอัลบั้ม กับตอนนี้ คุณจะเห็นความแตกต่างว่าพวกเราเติบโตขึ้น พวกเราได้ลองอะไรใหม่ๆ มากขึ้น พวกเราได้ค้นพบตัวเองมากขึ้นระหว่างการทำอัลบั้มนี้ด้วย พวกเราได้ขุดลึกลงไปถึงช่วงเวลาที่พวกเรากำลังเศร้าเสียใจ หรือลำบาก ได้แชร์ประสบการณ์ดีร้ายร่วมกันระหว่างทำเพลง ทำให้พวกเราใกล้ชิดกันมากขึ้น และการได้แบ่งปันประสบการณ์เหล่านี้ให้คนอื่นได้ร่วมสัมผัสด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เมื่อพวกเราได้กลายเป็นนักแต่งเพลง และนักร้องควบคู่ไปด้วยแล้ว มันทำให้พวกเราได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ รู้สึกผูกพันกับเพลงเหล่านี้มากขึ้น และค้นพบความสามารถของตัวเองเพิ่มขึ้นด้วย

 

 

รู้สึกอย่างไรเมื่อตอนนี้ได้เป็นนักแต่งเพลงแล้ว?

Dinah : รู้สึกเป็นอิสระมากค่ะ เมื่อได้นั่งลงแล้วถ่ายทอดอะไรก็แล้วแต่ที่ออกมาจากใจของตัวเองจริงๆ มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก เพราะคุณจะไม่รู้สึกผิดกับตัวเองเลย ทุกถ้อยคำที่ถ่ายทอดออกมาล้วนมีคุณค่าทั้งหมด

Lauren : ฉันคิดว่าอัลบั้มนี้ทำให้เราผ่านช่วงที่พวกเราต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองที่แท้จริง แล้วยังต้องมีความกล้า และเชื่อใจผู้คนรอบข้างของคุณเพื่อแบ่งปันประสบการณ์  มุมมองความคิดที่มีต่อคนอื่นๆ รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวสุดๆ ของคุณให้ทุกคนได้รับรู้ด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่วิเศษมากที่พวกเราผ่านจุดนั้นกันมาได้ เพราะเมื่อเราเริ่มรับรู้ประสบการณ์ของเพื่อนอีกคน เราก็เริ่มรู้สึกเข้าอกเข้าใจกัน และร่วมใจกันถ่ายทอดความรู้สึกของพวกเราผ่านบทเพลงในแต่ละเพลงออกมา และสุดท้ายแล้วเราก็ค้นพบตัวเอง รู้จักตัวเองมากขึ้นว่า เราเองก็มีมุมนี้เหมือนกันนะ

Dinah : ตอนทำอัลบั้มนี้ก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีด้านมืดขนาดนี้ (หัวเราะ)

Lauren : อัลบั้มนี้เหมือนเป็นอัลบั้มที่ถ่ายทอดความเป็นเราในแบบที่เราเองก็เพิ่งค้นพบตัวเองเหมือนกัน แต่ละเพลงมันส่วนตัวมากๆ ระหว่างการทำเพลงในแต่ละเพลงเลยเหมือนเป็นการเจาะเข้าไปถึงชีวิตอีกด้านของแต่ละคน เหมือนเปิดประตูที่ปิดตายให้ออกมาอีกครั้ง ทั้งในมุมมองของทั้งวงในแง่ของการเป็นศิลปิน และมุมมองของแต่ละคนในเรื่องราวชีวิตส่วนตัวด้วย สุดท้ายเพลงเหล่านั้นก็ย้อนกลับมาสอนให้เราเข้มแข็งขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น เหมือนตอบคำถามในใจของตัวเองไปด้วย

 

พวกคุณเคยบอกว่า พวกคุณมีแนวเพลงที่ชอบไม่เหมือนกัน แล้วแต่ละคนชอบเพลงแนวไหนกันบ้าง?

Ally : ฉันแย่มากๆ เลยกับการอธิบายแนวเพลงที่ชอบ เพราะฉันชอบเยอะแยะไปหมด เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกำลังชอบฟังเพลงใหม่ของ Justin Timberlake อยู่ค่ะ เพลงของ Bruno Mars ตอนนี้ก็กำลังฮิตไปทั่วทุกคลื่นวิทยุ ฉันก็ชอบที่เขาทำเพลงป็อปจากดนตรีจริงๆ ออกมาเช่นเดียวกัน Dua Lipa ก็ชอบมาก ทั้งสวยทั้งเก่ง มีพรสวรรค์ และมีความคิดสร้างสรรค์มากๆ นอกจากนี้ฉันยังชอบเพลงเก่าๆ ยุค ‘80s อย่าง Madonna และ Michael Jackson ด้วย แนวดนตรีที่ชอบก็ค่อนข้างกว้างนิดนึง ทั้งป็อป ร็อก อาร์แอนด์บี เรโทร คลาสสิก แต่ส่วนใหญ่ก็จะยืนพื้นที่ป็อปเป็นหลักค่ะ

Normani : ฉันเติบโตมากับเพลงอาร์แอนด์บียุค ‘90s อย่าง Brandy, Monica, Toni Braxton, Destiny’s Child ช่วงนี้ฉันชอบฟังเพลงของ Sabrina Claudio, H.E.R., Daniel Caesar เพลงของพวกเขาเจ๋งมากๆ รวมๆ แล้วก็เป็นแนวเพลงป็อป ผสมกับอาร์แอนด์บีค่ะ

Dinah : ฉันเติบโตในเมือง California แม่ของฉันมาจาก Orange County แถวๆ Disneyland และพ่อของฉันมาจาก L.A. รสนิยมทางดนตรีของฉันเลยออกแนวฮิปฮอปแถบชายฝั่งตะวันตก มีทั้ง 2Pac, Mack 10, Ice Cube, N.W.A. และอีกหลายๆ คน แม่ของฉันเป็นนักร้องด้วย  เธอชอบ Mariah Carey, Whitney Houston และนักร้องสายนี้ทั้งหมดที่คุณรู้จัก การได้เติบโตมาในครอบครัวที่ฟังเพลงหลากหลายแบบนี้ เลยทำให้ฉันเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในโลกทั้งสองใบในคราวเดียวกัน ทำให้ฉันมีคาแร็กเตอร์แบบนี้ และรู้ตัวว่าจะมุ่งหน้าไปทางไหน ดังนั้นรวมๆ แล้วฉันก็จะชอบเพลงแนวฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ผสมกับแนวอื่นๆ ศิลปินที่ฉันฟังในช่วงนี้คือ Kamaiyah และ Kehlani ทั้งคู่มาจากชายฝั่งตะวันตกเหมือนกัน ฉันเลยชอบพวกเธอได้ไม่ยาก

Sanook Music : ฮิปฮอปจากชายฝั่งตะวันออก กับตะวันตก ต่างกันอย่างไร?

Dinah : ฉันว่าซาวด์ต่างกัน ฮิปฮอปจากชายฝั่งตะวันออก หรือทางตอนใต้จะมีซาวด์ของ Trap ชวนเต้น ส่วนทางชายฝั่งตะวันตกจะมีจังหวะเนิบๆ ทั้งวิธีการแต่งเพลง จังหวะเพลง ออกแนวร้องไปด้วยแร็ปไปด้วยมากกว่า และฉันรู้สึกว่าฮิปฮอปจากชายฝั่งตะวันตกจะมีเนื้อเพลงที่ราวกับบทกวีมากกว่า (สาวๆ ร้องเสียงดังว่าเห็นด้วย)

Lauren : ฉันเติบโตมากับการฟังเพลงมาตลอดเหมือนกัน เพราะพ่อของฉันเป็นนักดนตรี เป็นมือกลอง ฉันเลยได้ฟังเพลงร็อก รวมถึงเพลงป็อป และอาร์แอนด์บีด้วย และจากการใช้ชีวิตอยู่ใน Miami เลยทำให้ศิลปินละแวกนั้นได้รับอิทธิพลของดนตรีแนว EDM เข้ามาด้วย ช่วงวัยรุ่นของฉันฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์เยอะมาก แต่ก็ยังชอบฟังแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อกอยู่ด้วย ฉันชอบฟังเพลงของศิลปินที่แต่งเพลงเอง ตอนเด็กๆ ฉันจะฟังแนวร็อกมากกว่า ตอนนี้ฉันสนใจฟังศิลปินที่ใส่ใจในการแต่งเนื้อเพลง เช่น Kendrick Lamar ฉันชอบศิลปินที่เผยความเป็นตัวของตัวเองออกมาผ่านบทเพลง ผ่านเนื้อเพลง หรือจุดประเด็นความคิดในสังคมผ่านเนื้อเพลง เลยทำให้ฉันมองข้ามเรื่องของแนวดนตรีไปบ้าง อย่าง John Mayer นอกจากนี้ฉันยังชอบแนวแจ๊ส นีโอโซล และแคริบเบียนลาติน ด้วยค่ะ  

 

 dsc_4399_approved

 

 

ถ้าชอบเนื้อเพลงที่ช่วยจุดประเด็นในสังคม พวกคุณสนใจปัญหาสังคมด้านไหนบ้าง และอยากเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างไร?

Lauren : ฉันอยากร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับสังคม โดยการเป็นส่วนร่วมในงานการกุศลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเพื่อช่วยเหลือผู้หญิง เด็ก การศึกษา

Dinah : เรื่องอาหารก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจเหมือนกัน ฉันเคยเรียนฟิสิกส์แล้วทราบถึงสารบางอย่างที่ถูกแนะนำให้มีในอาหารสมัยนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะช่วยโปรโมตเรื่องของอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารดีๆ ให้กับเด็กๆ วัยรุ่น และผู้ใหญ่ผ่าน social media เพราะฉันคิดว่าไม่ว่าจะวัยไหนๆ เรื่องอาหารการกินเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี

Lauren : ฉันมักจะสนใจเรื่องการศึกษาให้กับเด็กๆ แม้ว่าฉันมีอะไรที่อยากจะช่วยเหลือสังคมมากมายในอนาคต แต่ในตอนนี้ฉันได้ทำงานร่วมกับศูนย์การศึกษาที่ช่วยสร้างโรงเรียน วางแผนการเรียนการสอน ให้กับเหล่าผู้อพยพนานาประเทศ แม้กระทั่งในอเมริกาเอง ก็มีเด็กจำนวนมากที่ชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการไร้ที่อยู่จากสงคราม และการก่อจลาจล เหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ในบ้านเมือง ทั้งสูญเสียพ่อแม่ รวมถึงต้องเป็นพ่อแม่เสียเองเพื่อดูแลพี่น้องของตัวเอง และเด็กๆ เหล่านี้ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดีมากพอ ดังนั้นฉันอยากจะสนับสนุนให้เด็กๆ เหล่านี้ได้มีการศึกษาที่ดี เพื่อที่จะสร้างเครื่องมือต่างๆ ในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต

 

สำหรับเด็กๆ ที่มองว่าพวกคุณเป็นไอดอล อยากจะให้คำแนะนำกับเด็กๆ เหล่านั้นอย่างไรบ้าง?

Ally : ฉันอยากแนะนำให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเอง และทำงานให้หนักขึ้น อย่ายอมแพ้ มันอาจจะมีบางวันที่รู้สึกท้อ รู้สึกทำไม่ไหวแล้ว ไม่รอดแน่ๆ แต่ถ้าคุณยังเชื่อมั่นในตัวเอง ยังคงไล่ล่าตามความฝันต่อไป และออกไปไขว่คว้าหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา นั่นจะทำให้คุณประสบความสำเร็จเข้าสักวันอย่างแน่นอน เหมือนพวกเราทั้งหมดที่นั่งอยู่ตรงนี้ อย่าลืมความหลงใหลต่อสิ่งที่คุณต้องการ อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น ฉันรู้ว่ามันน่ากลัวในช่วงแรกๆ บางครั้งถึงตอนนี้ฉันก็ยังกลัวๆ อยู่เลย (หัวเราะ) แต่ขอให้ลองทำมันออกมาให้ดี เพราะคุณไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้

Lauren : ฉันคิดว่าตอนนี้เราต้องการศิลปินที่เป็นศิลปินจริงๆ คนที่มีของ มีเรื่องเล่า และเชื่อมโยงกับคนอื่นๆ ได้ นั่นจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างคนหนึ่งถึงอีกคนหนึ่งผ่านบทเพลงได้ หลายๆ คนอาจจะเลือกหยิบเพลงขึ้นมาร้องด้วยความรู้สึก หรือวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นฉันจึงคิดว่าศิลปินสำคัญต่อการสร้างผลงานเหล่านี้  ถ้าอยากเป็นศิลปินจริงๆ ก็อยากให้เดินไปตามทางที่หัวใจเรียกร้อง ทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคตให้ดี ถ้าพร้อมเมื่อไรก็ลุยเลย

Dinah : ระหว่างที่ไล่ล่าตามความฝันของตัวเองอยู่ อยากให้คำนึงว่าทุกสิ่งที่ทำ ต้องทำด้วยใจ ด้วยหัวใจที่ยึดมั่นต่อความถูกต้อง ด้วยหัวใจที่มีพลังงานบวก และถ้าคุณทำทุกสิ่งด้วยใจรัก ด้วยความตั้งใจดี สิ่งดีๆ ก็จะตามมาหาคุณเอง

 

ในความเป็นศิลปินของ Fifth Harmony คิดว่า Fifth Harmony มีลักษณะพิเศษอย่างไรบ้าง?

Ally : พวกเราเป็นกลุ่มศิลปินที่มีความหลากหลายกันอย่างมาก แต่มารวมตัวกันเพื่อทำดนตรีที่เรารักผ่านการออดิชั่นเฟ้นหาศิลปินที่มีคุณภาพ แต่พวกเราเองจริงๆ แล้วนอกจากเรื่องความหลากหลายของคาแร็กเตอร์ในแต่ละคนแล้ว พวกเรามีความตั้งใจเดียวกันที่จะมอบผลงานดีๆ ให้กับทุกคนได้รับฟังรับชมกัน พร้อมทั้งใช้ชีวิตในการเป็นศิลปินให้มีความสุข ทั้งจากการสร้างความสนุกให้กับตัวพวกเราเองแล้ว ยังได้รับความสุขจากการได้เห็นผู้คนมีความสุขกับเพลงของพวกเราด้วย

Dinah : ฉันชอบที่เพลงของ Fifth Harmony ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งความสุขไปถึงแฟนเพลงที่เป็นผู้ชาย และระหว่างผู้ชายและผู้หญิงด้วย (ยิ้ม) ในคอนเสิร์ตแต่ละที่ พวกเราดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นกลุ่มแฟนเพลงของเรามีความหลากหลายทั้งเรื่องของเพศ อายุ เชื้อชาติ และอื่นๆ พวกเราดีใจที่เพลงของเราสร้างความสุขให้กับทุกคน ทำให้หลายๆ คนลืมความเศร้าความเสียใจไปได้ในขณะที่ชมการแสดงของพวกเรา เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมพวกเราถึงตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในที่ต่างๆ รวมถึงที่นี่ เพราะพวกเรารู้สึกเหมือนได้มอบของขวัญดีๆ สักชิ้นให้กับผู้คนมากมายกลับไปด้วย

Lauren : ฉันว่านี่เป็นส่วนที่ดีที่สุดของการเป็นศิลปิน เพราะคุณได้ส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับผู้คนมากมาย ช่วยเหลือพวกเขาในยามที่พวกเขาต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วยให้พวกเขาค้นพบตัวเอง รู้จักตัวเองมากขึ้น ช่วยให้พวกเขาคิดได้ว่าพวกเขาควรรักตัวเองให้มากขึ้น การได้มองเข้าไปในดวงตาของคนเหล่านั้น เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาสำคัญต่อชีวิตของคุณมากเพียงใด ความรู้สึกเหล่านั้นเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากๆ เพราะพวกเราได้รู้ว่าพวกเราช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ผ่านผลงานของพวกเราเอง

Dinah : นอกจากนี้เราก็ได้เรียนรู้กันและกันผ่านสมาชิกแต่ละคนในวงด้วยนะ พวกเรามาจากต่างที่ต่างครอบครัวกัน แต่เมื่อเรามาเจอกัน ทำให้พวกเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในแต่ละวัน ทุกครั้งที่ฉันมองหาใครสักคนเพื่อที่จะพูดคุยด้วย ฉันรู้ว่าฉันสามารถหันหน้าเข้ามาสาวๆ ทั้งสามคนนี้ได้ ฉันสามารถคุยกับพวกเขาได้ทุกเรื่อง และมั่นใจว่าฉันจะต้องปลอดภัยแน่นอน นี่ก็เป็นอีกเรื่องดีๆ ที่ตามมาจากการเป็น Fifth Harmony

 

 fifth-harmony-red

 

นอกจากการเป็นศิลปินแล้ว ใน 2-3 ปีข้างหน้าอยากทำอะไรอื่นๆ บ้างไหม?

Lauren : ฉันชอบเขียนค่ะ ดังนั้นฉันเลยอยากตีพิมพ์ผลงานการเขียนของฉัน คล้ายๆ กับหนังสือรวมบทกวีอะไรทำนองนั้น เอาสิ่งที่ฉันเคยเขียนเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆ มารวมกัน นอกจากนี้ฉันก็อยากลองงานแสดงค่ะ ฉันชอบการแสดงออกทางศิลปะในรูปแบบต่างๆ กัน ไม่ว่าจะร้อง จะเขียน หรือแสดง

Dinah : แล้วเธอก็ถ่ายรูปสวยด้วย เธอถ่ายรูปฉันตลอด

Ally : ใช่ๆ เธอถ่ายรูปฉันด้วย

Lauren : ขอบใจนะ เธอสองคนก็เป็นนางแบบที่ดีด้วย รู้มุมตลอด (หัวเราะ)

Dinah : ถ้าคุณอยากได้ช่างภาพบอกฉันนะ (หัวเราะ) สำหรับฉัน ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะฉันไม่คิดว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดคิดมาก่อน (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นฉันขอตอบว่า ปล่อยให้ชีวิตพาไปดีกว่า ไปตามทางที่จักรวาลจะนำคุณไป

Normani : ฉันอยากลองงานแสดงเหมือนกันนะ และอยากโฟกัสที่งานเกี่ยวกับแฟชั่นด้วย ฉันรู้สึกว่าแฟชั่นมีอิทธิพลจากความคิดสร้างสรรค์ในผลงานของฉันด้วย ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถบอกความรู้สึกของตัวเองผ่านเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ฉันสวมใส่ได้ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมีไลน์แฟชั่นเป็นของตัวเอง ที่ร่วมทำกับแบรนด์สักแบรนด์ อะไรทำนองนี้

Ally : ฉันว่า Normani น่าจะไปได้ดีทางด้านแฟชั่นนะ ฉันเองก็ชอบอะไรหลายอย่างมากค่ะ ทั้งแฟชั่น งานเขียน งานแสดง งานเพลง ทำขนม ทั้งพาย คุกกี้ เค้ก ฉันว่าฉันทำไอศกรีมได้ ฉันเติบโตมากับครอบครัวที่ทำอาหารร่วมกัน ทั้งกับพ่อ กับแม่ ฉันเลยมีความทรงจำในช่วงทำอาหารด้วยกันในครอบครัวค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตามฉันตื่นเต้นเสมอกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แล้วพร้อมที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ได้เสมอเช่นกัน

 

ในยุค ‘90s โลกได้รู้จักเกิร์ลกรุ๊ปจากฝั่งตะวันตกชื่อดังระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Spice Girls, Destiny’s Child หรือ The Pussycat Dolls แต่ในยุคหลังๆ มานี้ ไม่มีชื่อเกิร์ลกรุ๊ปวงไหนที่จะยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากเท่า Fifth Harmony เรียกได้ว่าเป็นชื่อเดียวที่นึกถึง พวกคุณคิดว่าอะไรที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Fifth Harmony ประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้?

Lauren : ฉันไม่รู้ว่าพวกเรามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้พวกเรามาถึงจุดนี้ได้ ระหว่างทางที่พวกเราผ่านมา พวกเราเจอแต่สิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ ชีวิตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ สิ่งที่ทำให้พวกเราก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาเป็นอย่างที่พวกเราเป็นในตอนนี้ได้ คือพวกเรามีความแตกต่างกันก็จริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเรามีให้เหมือนกัน เป็นสิ่งที่รวมพวกเราเข้าไว้ด้วยกัน คือความรักในเสียงดนตรี พวกเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะทำให้ทุกๆ คนที่ได้รู้จักเพลงของพวกเรามีความสุข พวกเรามีความจริงใจให้แก่กัน ไม่ว่าพวกเราจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายอะไรกันมา ทุกคนได้เห็นเราในแบบที่เป็นเราจริงๆ ได้เห็นความแตกต่างของพวกเรา รู้สึกเชื่อมโยงกันกับพวกเรา เข้าใจในสิ่งที่พวกเราต้องเผชิญ นั่นทำให้ฉันรู้สึกว่าพวกเราพิเศษมากกว่าใคร และนอกจากพวกเราจะทำงานเพื่อตัวของพวกเราเองแล้ว พวกเรายังรู้สึกว่าพวกเราทำงานเพื่อโลกใบนี้ด้วย โดยเฉพาะกับคนที่เข้ามาชื่นชมพวกเรา มาชมคอนเสิร์ตพวกเรา เดินทางมาพบปะพูดคุยกับพวกเรา สิ่งเหล่านี้มีพลังมากที่ช่วยให้พวกเรา และพวกเขาใช้ชีวิตต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ในชีวิตกันต่อไปได้ (น้ำตาซึม)

Dinah : ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะมาถึงจุดที่มีตุ๊กตาบาร์บี้เป็นหน้าของตัวเอง (หัวเราะ) ฉันไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ไปได้ ถ้าพวกเราเป็นตัวแทนของผู้หญิงหลายๆ คนได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ในการเป็น Fifth Harmony

 

แม้ว่าสาวๆ Fifth Harmony เพิ่งประกาศพักวงไปเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อลองมองหาทิศทางของชีวิตตัวเองในมุมมองใหม่ๆ อย่างงานเดี่ยวของแต่ละคน (อ่านต่อ >> Fifth Harmony ประกาศพักวงแบบไม่มีกำหนด หลังจบทัวร์คอนเสิร์ตปีนี้) แต่เราเชื่อว่าด้วยระยะเวลา 6 ปีที่พวกเธอสั่งสมประสบการณ์ในการเป็นศิลปินกันมา รวมไปถึงความผูกพันที่พวกเขามีให้แก่กันทั้งในเรื่องของดนตรี และความเป็นเพื่อน เราเชื่อว่าเราจะยังได้เห็น Fifth Harmony กลับมามีผลงานร่วมกันอีกครั้งในอนาคต และการทำผลงานเดี่ยวอาจช่วยต่อยอดความเป็นศิลปินให้กับพวกเธอได้เติบโตขึ้นอีกรูปแบบหนึ่ง

นอกจากนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าอนาคตที่พวกเธอตอบเราเอาไว้ในบทสัมภาษณ์นี้ จะมีใครทำตามความฝันของตัวเองกันได้หรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะเป็นความฝันแบบไหน เหล่า Harmonizers ก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว จริงไหม?

 

 

____________________

Story : Jurairat N.

Photos : Sony BEC-Tero Entertainment

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook