รำลึก Avicii ดีเจผู้ฉีกกรอบซาวด์ดนตรี กับผลงานเพลงที่สร้างพลังให้คนทั่วโลก
ถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งของวงการเพลงโลก เมื่อ Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจและโปรดิวเซอร์ระดับโลก ได้เสียชีวิตลงในวัย 28 ปีขณะพักอยู่ที่เมือง มัสคัต ประเทศ โอมาน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจอย่างมากให้กับครอบครัว เพื่อน รวมถึงแฟนเพลงทั่วโลกของเขา (อ่านข่าวการเสียชีวิตของ Avicii ได้ที่นี่)
Avicii เริ่มต้นเส้นทางการเป็นโปรดิวเซอร์และดีเจตั้งแต่วัย 18 ปี เมื่อเขาได้เริ่มทำผลงานในฐานะดีเจและปล่อยผลงานการ Remix ตัวเองในเว็บบอร์ดของดีเจ Laidback Luke ส่วนชื่อของ Avicii มาจากคำว่า อเวจี ที่เป็นนรกขุมต่ำสุดตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ โดยศิลปินที่มีอิทธิพลในการทำเพลงของเขา ก็คือคู่หูดีเจ Daft Punk และดีเจจากกลุ่ม Swedish House Mafia
หลังจากที่ได้ปล่อยเพลง "Seek Bromance", "Street Dancer", "Blessed", "Fade into Darkness" ชื่อของ Avicii ก็กลายเป็นที่จับตามองจากคนทั่วโลกในฐานะดีเจแนว House จากผลงานเพลง "Levels" ที่ติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard Dance Club Songs ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลงานเพลงนี้ Avicii ได้เนื้อร้องของเพลงโซลในยุค 60s "Something's Got a Hold on Me" ของ Etta James มาทำใช้เป็น Sample อ้างอิงในการทำเพลงนี้ขึ้นมา
ความสำเร็จของเพลง "Levels" กลายเป็นประตูที่เปิด Avicii สู่โอกาสใหม่มากมายในปี 2012 อย่างเช่นการร่วมงานกับ David Guetta ในเพลง "Sunshine" ที่ได้เข้าชิงรางวัล Grammy Awards ประจำปี 2012 ในสาขา เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม (Best Dance Recording) และในปีเดียวกัน เขาก็เปิดตัวเพลง "Silhouettes" อีกหนึ่งเพลงฮิตที่มียอดดาวน์โหลดสองแสนก็อปปี้ในประเทศอังกฤษ โดยเพลงนี้ก็พร้อมเอ็มวีที่สื่อเรื่องราวการผ่าตัดเเปลงเพศของตัวละครหลัก ที่ทำให้หลายคนพูดถึงเพลงนี้เป็นจำนวนมาก และในปี 2012 ของเองก็ติดอันดับ 3 ในฐานะดีเจที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกในโพลของนิตยสาร DJ Mag ด้วย
คลิกชมเอ็มวี Silhouettes - Avicii
ในปี 2013 Avicii ได้มาพร้อมผลงานอัลบั้มเต็มชุดแรก True ซึ่งผลงานชุดนี้ เขาได้ทดลองซาวด์ดนตรีใหม่ๆ อย่างเช่นในผลงานเพลง "Wake Me Up" ที่เป็นการผสมผสานดนตรีโฟล์คท้องถิ่นเข้ากับซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ จนทำให้หลังจากที่ปล่อยออกมาซิงเกิลนี้ก็ได้ขึ้นอันดับ 4 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและมียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 10 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก
นอกจากเพลง "Wake Me Up" แล้วผลงานเพลงในอัลบั้ม True อย่าง "You Make Me", "Hey Brother", "Addicted to You", "Lay Me Down" ก็ทำให้ยอดขายอัลบั้มสูงถึงหนึ่งล้านก็อปปี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา และทำให้ Avicii ได้จัดทัวร์โปรโมตอัลบั้มที่มีชื่อว่า True Tour ขึ้นมาในปี 2014
ช่วงที่ทัวร์โปรโมตอัลบั้ม Avicii ก็ได้เริ่มทำผลงานอัลบั้มชุดที่สอง Stories ที่เปิดตัวในปี 2015 พร้อมเพลงดังอย่าง "Waiting for Love" ที่เขาร่วมงานกับ Martin Garrix อีกหนึ่งดีเจและโปรดิวเซอร์แถวหน้าของโลก จนทำให้เพลงนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเพลงฮิตที่มียอดขายสูงกว่าล้านก็อปปี้
แม้ว่าจะเป็นดีเจที่ทำเงินจากการแสดงสดสูงที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่ในปี 2016 Avicii ก็ได้ออกมาประกาศข่าวน่าตกใจว่าตัวเขาได้ตัดสินใจยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ที่เกิดจากอาการตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน แต่ทว่าตัวเขาเองก็ยังไม่หยุดทำผลงานเพลงที่เขารัก และสิ่งนี้ทำให้ในปี 2017 เขาได้มาพร้อมมินิอัลบั้ม Avīci (01) ซึ่งมาพร้อมเพลง "Lonely Together" ที่เขาได้ร่วมงานกับ Rita Ora ก่อนจะเปิดตัวสารคดีชุด Avicii: True Stories ที่เล่าถึงชีวิตเขาหลังยุติการทัวร์คอนเสิร์ต โดยก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตเพียงแค่วันเดียว เขาเองก็ยังอยู่ในช่วงเตรียมผลงานใหม่ในสตูดิโอ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผลงานเพลงของ Avicii เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ก็คือการที่เขาได้ทำผลงานตัวเองออกมาเพื่อให้ความบันเทิงและแง่คิดชีวิตกับผู้ฟัง เพราะในเผลงานพลงดังของเขาอย่าง "Wake Me Up", "Silhouettes", "Waiting For Love", "The Nights" ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาที่ให้กำลังใจ รวมถึงแง่คิดในการสู้ชีวิต และนอกจากการทำเพลงเพื่อสร้างพลังแล้ว เขาก็ได้ร่วมสร้างองค์การการกุศล House for Hunger และได้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับมูลนิธิอย่าง Feeding America ตามเจตนารมณ์ที่เขาต้องการให้อะไรคืนกับสังคม หลังจากที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขารัก
การสูญเสีย Avicii เป็นสิ่งที่สร้างความเสียใจอย่างมากให้กับแฟนเพลงทั่วโลก รวมถึงครอบครัวและเพื่อนจำนวนมาก ซึ่งทาง Sanook Music เองขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเขาเช่นกันครับ
Story : Sidhipong W.
ขอบคุณภาพจาก Getty Images
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ