BNK48 “Shonichi” Handshake Event ย้อนวินาทีความสุข ของการไปงานจับมือครั้งแรก!
นอกจากการแสดงคอนเสิร์ตในเธียเตอร์และงานต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่แฟนคลับวง BNK48 พลาดไม่ได้ ก็คือ งานจับมือ หรือ Handshake Event ที่มักจะจัดขึ้นหลังการขายซิงเกิลอัลบั้ม หรือกิจกรรมพิเศษอย่างการซื้อ Campus Card เพื่อเข้าชมการแสดงในเธียเตอร์ โดยหลังจากที่เปิด Pre-order ซีดีซิงเกิลที่ 3 Shonichi ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดทางต้นสังกัดก็จัดงานจับมือของซิงเกิลนี้ขึ้นในวันที่ 2 - 3 มิถุนายน และ 18 - 19 สิงหาคม
งานจับมือ หรือ Handshake Event เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 16 ธันวาคม 2005 หลังจากที่วงได้เปิดตัวไม่นาน ซึ่งในวันดังกล่าวการแสดงของ AKB48 วงพี่สาวของ BNK48 ต้องหยุดกลางคันเพราะปัญหาเครื่องเสียง ทางทีมงานจึงตัดสินใจทำให้งานวันนั้นเปลี่ยนจากการแสดงกลายเป็นงาน Meeting ย่อมๆ ให้แฟนๆ ได้พูดคุยถ่ายภาพกับสมาชิกที่พวกเขาชอบ และความบังเอิญนี้เองก็ทำให้เกิดกิจกรรมงานจับมือขึ้นมา และกลายเป็น Event ยอดนิยมของแฟนๆ วงไอดอลตระกูล 48
โดยหลังจากที่ได้ติดตามวง BNK48 มาระยะหนึ่ง เราก็ได้ซื้ออัลบั้มซิงเกิล 3 Shonichi มา 3 แผ่น ทำให้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เข้าร่วมงาน BNK48 3rd Single “Shonichi” Handshake Event ที่ ศูนย์การแสดงสินค้า Bitec บางนา ในฐานะแฟนเพลงคนหนึ่งที่อยากพบและให้กำลังใจสมาชิกที่เราโอชิ (ชอบ) ซึ่งการไปงานจับมือครั้งนี้ก็ทำให้เราตื่นเต้นและแอบประหม่าไปพร้อมกัน เพราะเรามักจะลนลานและกังวลใจเวลาไปสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงคนเดียว ด้วยนิสัยที่เป็นคนขี้อายพอสมควร
ในวันที่ 2 มิถุนายน เราได้เดินทางถึงงานช่วงบ่ายโมงด้วยรถไฟฟ้า BTS หลังจากที่ตื่นสายเพราะความตื่นเต้นก่อนวันงานที่ทำให้เรานอนไม่หลับ และเมื่อมาถึง เราก็เดินไปที่เต็นท์ด้านหน้าอาคารเพื่อต่อแถวเข้าฮอลล์ และต้องค่อยๆ เดินเข้ามาในอาคารตามคิว จากนั้นต้องไปนั่งรอในห้องประชุมข้างฮอลล์ระยะหนึ่งก่อนเข้างาน โดยขั้นตอนการเดินแถวทั้งหมดจะใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ ดังนั้นใครที่อยากร่วมงาน Handshake Event เราขอแนะนำให้ใส่ชุดที่คล่องตัวและไม่หนาเกินไปเพื่อความสะดวก และควรจะมาถึงงานอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนรอบการจับมือสมาชิกที่เราอยากพบ เพราะถ้าเรามาใกล้เวลารอบจับมือเกินไป เวลาอาจคลาดเคลื่อนจนเราอดเจอสมาชิกที่ชอบไปเลย
บรรยากาศหน้างาน จากกล้องมือถือของผู้เขียน
เมื่อผ่านจุดเช็คกระเป๋า เราก็ได้ก้าวเข้ามาในบริเวณห้องประชุม โดยในงานจะมีส่วนที่เป็นแถวงานจับมือ พื้นที่ขายสินค้าหรือแลกของ รวมไปถึงบริเวณขายอาหารอย่าง BNK CAFE, ห้องน้ำ และ Shihainin Room พื้นที่พิเศษที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้เข้าพบและพูดคุยกับ จ๊อบซัง - ณัฐพล บวรวัฒนะ ผู้จัดการของวง เรื่องการทำงานของค่ายและแผนการในอนาคต ซึ่งความครบเครื่องของบริเวณงาน ก็ทำให้เรารู้สึกดีใจที่สามารถอยู่ในงานได้ยาวๆ และไม่ต้องกลับไปต่อแถวหน้างานอีกครั้ง เพราะช่วงเวลาที่รอก็ทำให้คนที่ตัวใหญ่และไม่ชอบอากาศร้อนอย่างเราแอบล้าเหมือนกัน ซึ่งถ้าเลือกได้เราก็ไม่อยากกลับไปเหนื่อยแบบนั้นอีก
บรรยากาศโซน BNK CAFE
เนื่องจากเวลาและบัตรที่มีแค่ 3 ใบ ทำให้เราตัดสินใจเลือกจับมือกับสมาชิกของวงที่ชื่นชอบ 3 คน ได้แก่ เปี่ยม - รินรดา อินทร์ไธสง, มิวสิค - แพรวา สุธรรมพงษ์ และ ไข่มุก - วรัทยา ดีสมเลิศ โดยเมื่อเดินเข้าไปในฮอลล์ เราก็ได้เดินไปที่เลนของ เปี่ยม สมาชิกที่เราชื่นชอบที่สุด หรือ คามิโอชิ ของเรา พร้อมความตื่นเต้น และหลังจากที่ยืนอยู่หน้าแถวสักพักใหญ่ เราก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในเลนจับมือ พร้อมความกลัวเล็กๆ เพราะไม่อยากเผลอทำอะไรตลกๆ หรือผิดขั้นตอนต่อหน้าสตาฟและน้องเปี่ยม รวมถึงแฟนๆ ที่ต่อแถวหลังเรา โดยช่วงที่เดินเข้าไปในเลนเราก็พยายามเตือนตัวเองว่า "อย่าทำอะไรพลาด" หลายๆ รอบ
ด้วยความที่จังหวะเวลาการเข้าฮอลล์นั้นตรงกับช่วงท้ายของการจับมือรอบที่ 4 ทำให้เราใช้เวลาไม่นานในการรอจับมือ โดยหลังจากวางกระเป๋าและทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ เราก็ได้เข้าไปเจอน้องเปี่ยม ที่กุมมือเราสองข้างและชวนคุยเรื่องสีผมของเราที่เป็นสีเขียวสะท้อนแสงโดยทันที และสิ่งนี้ก็ทำให้เราดีใจเพราะเราเป็นคนที่ภูมิใจในสีผมตัวเองมาก (หัวเราะ) และถึงแม้ว่าจะมีเวลาพูดคุยกับน้องแค่ 8 วินาที แต่เราก็สามารถกล่าวคำอวยพรวันเกิดน้องล่วงหน้า ก่อนวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเกิดของน้อง และน้องเองก็ให้กำลังใจเรากลับมาเช่นกัน เพราะเราบอกน้องไปว่าเรามีภารกิจส่วนตัวหลายอย่างที่กำลังทำอยู่ ซึ่งพลังงานความสุขที่น้องส่งกลับมาก็ทำให้เรารู้สึกใจพองโต จนความเหนื่อยจากการเดินทางและการรอเข้างานหายไปเลย และทำให้เราเดินกลับมาตรงโซนหน้าเลนจับมือด้วยรอยยิ้ม
เปี่ยม BNK48
หลังจากเดินออกมาสำรวจรอบงานสักพักหนึ่ง เราก็ได้เดินไปที่แถวจับมือของ มิวสิค อีกหนึ่งสมาชิกที่เราโอชิพร้อมความมั่นใจที่มากขึ้น ซึ่งเลนการจับมือของมิวสิคนั้นยาวมาก จนทีมงานต้องขดแถวถึง 4 ทบ เพื่อให้ไม่ล้นเข้าไปในโซนอื่นของฮอลล์ แต่ถึงแม้จะต้องรอเกือบสองชั่วโมงเพื่อเจอน้อง แฟนๆ ของมิวสิคในแถวก็ชักชวนพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเอง จนทำให้เรารู้สึกสบายๆ และไม่อึดอัดที่จะรอ ซึ่งการพูดคุยช่วงนั้นก็ทำให้ความกังวลที่เกิดขึ้นตอนเราเดินเข้าไปในฮอลล์นั้นหายไปเกือบหมด
พอเราได้เจอ มิวสิค เธอก็ยื่นมือออกมาจับมือสองข้างไว้ พร้อมบอกว่าเธอเองจำเราได้จากที่เคยเจอกันในงานของวงก่อนหน้านี้ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสีผมของเรา และพอน้องพูดจบก็ได้มีโอกาสให้กำลังใจเธอกับการเลือกตั้ง World Senbatsu ที่จะประกาศผลในวันที่ 16 มิถุนายน โดยถึงแม้มิวสิคจะยืนจับมือต่อเนื่องมากกว่า 2 ชั่วโมง แต่เธอก็ยังเต็มไปด้วยพลังและรอยยิ้มสำหรับทุกคนที่เข้ามาในเลนของเธอ และพลังความสุขที่น้องส่งมา ก็ทำให้เราใจพองโตและรู้สึกว่าเวลาชั่วโมงกว่าของการรอคอยมันคุ้มค่ามาก
มิวสิค BNK48
เมื่อเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 6 โมงเย็น เราได้เดินมายังกลุ่มแฟนคลับที่กำลังรอคิวการจับมือรอบพิเศษเวลา 18.30 น. ซึ่งการจับมือรอบพิเศษนั้นจะต่างจากการจับมือรอบปกติ ตรงที่แฟนๆ สามารถจับมือได้นานกว่า 8 วินาที ด้วยการนำบัตรสองใบมารวมเวลากัน อย่างเช่น เราสามารถจับมือได้ 32 วินาที ด้วยการใช้บัตรจับมือ 4 ใบ แต่การจับมือรอบนี้จะมีกฎว่า ใครที่ต้องการใช้บัตรจับมือมากกว่า 30 ใบขึ้นไป เพื่อจับมือและพูดคุยนานกว่า 4 นาที จะต้องย้ายไปอยู่ท้ายแถวเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีบัตรน้อยได้จับมือก่อน โดยเราเองก็ได้นั่งคุยกับแฟนๆ คนอื่นที่มารอจับมือรอบพิเศษ เพื่อหาเพื่อนใหม่ๆ ที่จะได้มางาน Event ของ BNK48 ด้วยกันในอนาคต
สิ่งที่ทำให้การจับมือรอบนี้พิเศษกว่ารอบอื่นๆ ก็คือการที่ทีมงานได้เปิดการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทยและจีน และให้สมาชิกสวมชุดทีมชาติไทยออกมาร่วมงานจับมือด้วยและในการจับมือรอบนี้ เราได้ใช้บัตรใบสุดท้ายเพื่อไปพูดคุยและให้กำลังใจ ไข่มุก สมาชิกที่เราโอชิและอยากให้กำลังใจ เพราะนอกจากจะทำงานเป็นไอดอลแล้ว เธอก็มี ครัวคุณไข่ รายการทำอาหารที่เธอตั้งใจทำทุกอาทิตย์เพื่อแสดงความสามารถในเรื่องการทำอาหารที่เธอรัก โดยเธอได้ขอบคุณที่เราชื่นชอบรายการและบีบมือเราแน่นมากก่อนที่เวลาจะหมดลง พร้อมทั้งทักว่าเธอจำสีผมเราได้ จากที่เคยเจอกันใน Event ก่อนหน้านี้ และเราก็ได้เดินทางกลับบ้านในเวลา 1 ทุ่มตรง พร้อมความสุขที่ได้รับอย่างเต็มเปี่ยมจากกิจกรรมครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายมากว่า ทำไมเราไม่ซื้อซีดีมากกว่า 3 แผ่น เพื่อจะได้พูดคุยกับเมมเบอร์ที่เราโอชินานกว่า 8 วินาที
ไข่มุก BNK48
กิจกรรมงานจับมือ หรือ Handshake Event นั้น ถือเป็นงานที่พิเศษมากงานหนึ่ง เพราะนอกจากเราจะได้พบกับไอดอลที่ชอบแล้ว ในเวลาสั้นๆ ที่พูดคุยและจับมือ ตัวเราเองก็จะได้กำลังใจและเติมพลังให้ตัวเองก่อนกลับไปทำงาน ในขณะที่น้องๆ เองก็ได้รับกำลังใจจากคนที่ติดตามอย่างเราเช่นกัน ทำให้ถึงแม้วัฒนธรรมการจับมือทักทายให้กำลังใจจะไม่ใช่วัฒนธรรมที่คนไทยคุ้นเคย แต่แฟนคลับก็ยังคงหลั่งไหลมาที่งานจับมืออย่างไม่ขาดสายทุกครั้ง และในการจับมือนั้น สมาชิกในวงหลายๆ คนก็จะเป็นฝ่ายทักและชวนเราคุยก่อน ดังนั้นแฟนคลับที่ขี้อายไม่ต้องกลัวว่าเราจะเขินจนพูดไม่ออก
อีกความประทับใจในงานจับมือครั้งนี้ ก็คือการได้พบกับแฟนคลับวง BNK48 คนอื่นๆ โดยแฟนคลับที่มางานนั้นมีทั้งเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทั้งชายหญิง หรือ แม้แต่ครอบครัวที่พาสมาชิกตัวน้อยมาร่วมงาน และในงานนี้หลายๆ บ้านแฟนคลับของน้องๆ ในวงก็ได้เตรียมของที่ระลึกสำหรับแฟนๆ ที่มาร่วมงานด้วย จนทำให้ผมได้รับความสุขจากผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆ รวมถึงรู้สึกสบายใจตอนอยู่ในงาน ถึงแม้จะเป็นการมางานครั้งแรกแบบไม่รู้จักใครเลยก็ตาม
ถึงแม้ว่างาน BNK48 3rd Single “Shonichi” Handshake Event จะมีสตาฟที่ดูแลอย่างทั่วถึงและคอยให้คำแนะนำผู้เข้าร่วมงานอย่างดี แต่เราก็ยังมีจุดที่มองว่าสามารถปรับให้ดีขึ้นได้ อย่างเช่นการนำป้ายนำทางมาวางไว้ตามจุดต่างๆ ให้แฟนๆ สามารถไปเข้าแถวหรือรอในที่ที่เหมาะสม เพราะ BITEC บางนาเป็นสถานที่ที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง ซึ่งเราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เดินเข้ามาจากทางเชื่อมต่อและรู้สึกสับสนเส้นทางและวิธีเข้าฮอลล์งาน จนกระทั่งมีสตาฟมาประกาศโทรโข่งบอกจุดรอคอย สำหรับคนที่เดินเข้าจากทาง BTS และด้านหลังศูนย์แสดงสินค้า
ภาพบรรยากาศงานจับมือในวันที่ 3 มิถุนายน
ใครที่อยากติดตามและรู้จักวง BNK48 มากขึ้น งาน Handshake Event ถือเป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้จริงๆ เพราะนอกจากแฟนๆ จะได้พบกับสมาชิกของวงที่เราชอบแล้ว ยังจะได้เติมพลังและชาร์จแบตชีวิตพร้อมกับคนรอบข้างที่มีความรักในสิ่งเดียวกันด้วย ซึ่งแฟนๆ ที่ซื้อซิงเกิลอัลบั้ม Shonichi สามารถเข้าร่วมงานจับมืออีกรอบได้ในวันที่ 18 - 19 สิงหาคม นี้ครับ และเราเองก็จะไม่พลาดงาน Handshake Event ของซิงเกิลต่อไปแน่นอน
ขอขอบคุณภาพจาก : Facebook BNK48
Story : Sidhipong W.
อ่านเพิ่มเติม
>>BNK48 เปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดแรก River พร้อมกิจกรรมพิเศษที่แฟนๆรอคอย
>> 4 สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหากสมาชิก BNK48 ติดอันดับการเลือกตั้ง AKB48
>> “จุดสตาร์ท” ที่งดงามของ 26 สาวไอดอลที่มาแรงที่สุดใน BNK48 1st Concert “STARTO”
>> ย้อนวันวาน "BNK48" กับบทสัมภาษณ์แรกก่อนแจ้งเกิดเป็นศิลปินฮอตของยุค!
>> 10 คำศัพท์ที่เหล่าโอตะต้องรู้ ก่อนติดตาม BNK48 และวงพี่น้อง!