TAEYONG x TEN จาก NCT U แฟนมีตติ้งครั้งแรกในไทยของพี่ขี้อายกับน้องขี้เล่น

แม้ว่าจะเดบิวต์กันมาราว 2 ปีแล้ว แต่วงบอยแบนด์คลื่นลูกใหม่จาก SM Entertainment อย่าง NCT ยังถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการที่ใครที่ไม่ได้ฟัง K-POP อาจจะยังไม่คุ้นหูนัก และใครที่พยายามทำความเข้าใจกับระบบเมมเบอร์ของแต่ละยูนิตย่อยอาจจะยิ่งงงหนักไปกันใหญ่ เราเองที่ติดตาม K-POP มานานยังต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจอยู่นานพอสมควร เพราะ NCT ที่ย่อมาจาก Neo Culture Technology มาด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ นั่นคือการที่ในวงจะมีเมมเบอร์ หรือสมาชิกที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด มีการแบ่งเป็นยูนิตย่อยเพื่อทำการโปรโมตในเพลงที่แตกต่างสไตล์กันออกไปสำหรับในแต่ละที่แต่ละเมือง และมีการรับสมาชิกใหม่เข้ามาได้เรื่อยๆ จากทั่วทุกมุมโลกอย่างไร้ขีดจำกัด

ฟังแค่นี้ก็งงแล้วใช่ไหมล่ะว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าตอนนี้ NCT มียูนิตย่อยทั้ง NCT U ที่ปล่อยออกมาเป็นยูนิตแรก ตามด้วย NCT 127 ที่เน้นโปรโมตที่เกาหลีบ้านเกิด ก่อนจะออกไปโปรโมตทั่วโลก และ NCT Dream ที่เป็นยูนิตรวมสมาชิกอายุน้อย และสไตล์เพลงป็อปใสๆ ฟังง่าย และแต่ละยูนิตก็อาจจะมีการเปลี่ยนสมาชิกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะ NCT U จะไม่มีลีดเดอร์ หรือหัวหน้าวง และสมาชิกจะสลับสับเปลี่ยนกันตลอดเวลา (ล่าสุดสมาชิก NCT ทั้งหมดรวมตัวออกอัลบั้มเต็มชื่อ NCT 2018 EMPATHY ที่เป็นเหมือนการรวมรุ่นกันทั้งหมดเป็นครั้งแรก บวกเพิ่มด้วยสมาชิกใหม่รวมเป็น 18 คน ในอัลบั้มมีทั้งเพลงที่ร้องทั้งหมด และแยกร้องตามแต่ละยูนิตย่อยเหมือนเดิม)

ที่ต้องอธิบายยืดยาวขนาดนี้ เพราะเราเชื่อว่าหลายคนน่าจะงงๆ เหมือนเรานั่นแหละ ว่าทำไมเป็น NCT แล้วบางทีเจอคนนู้น ไม่เจอคนนี้ สำหรับ 2 หนุ่มที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ คือ แทยง ที่เป็นลีดเดอร์ของ NCT 127 (และเหมือนเป็นลีดเดอร์ของทั้ง NCT ในขณะนี้กลายๆ) และเป็นสมาชิกใน NCT U ด้วย กับ เตนล์ สมาชิก NCT U คนไทยคนแรกที่เป็นศิลปินภายใต้สังกัด SM Entertainment ทั้งคู่ได้ปล่อยซิงเกิลที่ได้แสดงด้วยกันชื่อเพลงว่า “Baby Don’t Stop” ภายใต้ยูนิต NCT U หนึ่งในเพลงใหม่ที่อยู่ในอัลบั้ม NCT 2018 EMPATHY ถือว่าเป็นซิงเกิลที่สำคัญของทั้งคู่ เพราะเป็นงานคู่สองคนของสมาชิก NCT ครั้งแรก และโดยเฉพาะ เตนล์ ที่แฟนเพลงน่าจะรอคอยการคัมแบ็คของเขามานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่เดบิวต์ด้วยซิงเกิล “The 7th Sense” ในนามของ NCT U เมื่อปี 2016 (แต่เตนล์มีซิงเกิลเดี่ยวในโปรเจ็กต์ S.M. Station Season 2 อยู่ 2 เพลงด้วย ได้แก่ “Dream in a Dream” ในปี 2017 และ “New Heroes” ในปี 2018 แต่เป็นเพียงดิจิตอลซิงเกิลเท่านั้น)

 

จากซ้ายไปขวา : TEN (เตนล์) และ TAEYONG (แทยง) NCT U

 

 

 

การอคอยอันยาวนาน ทำให้แฟนเพลงในไทยกดบัตรงานแฟนมิตติ้งครั้งแรกในไทยของทั้งคู่จนหมดเกลี้ยงภายใน 1 นาที รวมไปถึงงานแถลงข่าวแฟนมีตติ้ง และเปิดตัวซิงเกิล “Baby Don’t Stop” (Special Thai version) เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มิ.ย. 2018 ที่ผ่านมา ที่มีแฟนเพลงไปรวมตัวกันที่ Helix Garden, Emquartier กันอย่างแน่นหนา น้องๆ แฟนเพลง 100 คนได้ร่วม fan sign รับโปสเตอร์ และลายเซ็นจากทั้งสองหนุ่มอย่างใกล้ชิด จนทำให้ NCTzen หรือแฟนเพลงของ NCT ที่เกาหลี และต่างประเทศอื่นๆ อิจฉาแฟนเพลงชาวไทยกันยกใหญ่ (แฟนเพลงชาวไทยนิยมเรียกตัวเองว่า “แม่” เพราะเอ็นดูหนุ่มๆ NCT เหมือนลูกๆ)

 

 

ชมบันทึกงานแถลงข่าวแฟนมีตติ้ง  NCT U (TAEYONG x TEN) FAN MEETING in BANGKOK และเปิดตัวซิงเกิล "Baby Don't Stop" (Special Thai version) ได้ที่นี่

 

 

3 มิ.ย. 2018 เราย้ายกันมาที่ GMM Live House Central World เพื่อร่วมงาน NCT U (TAEYONG x TEN) FAN MEETING in BANGKOK โดยการร่วมมือของ SM Entertainment ที่เกาหลี และ SM True ที่ไทย เปิดเวทีด้วยการพูดคุยกันอย่างสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตกแต่งเหมือนเป็นห้องรับแขกภายในบ้าน พี่แทยง และน้องเตนล์ได้ตอบคำถามจากแฟนๆ ที่หลายคนน่าจะไม่เคยทราบมาก่อน อย่าง “หากย้อนอดีตไปเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ อยากทำอะไร?” เตนล์เลือกที่จะดื่มนมให้มากขึ้น เพื่อให้ตัวเองสูงกว่านี้ และอยากตั้งใจเรียนให้มากขึ้นอีกนิด ส่วนแทยงเองก็อยากเริ่มฝึกเต้นให้เร็วกว่านี้ เพื่อที่จะได้เดบิวต์มาเจอแฟนๆ ได้เร็วกว่านี้เช่นกัน แต่ก็มีหลายคำถามที่แฟนพันธุ์แม้ชาวไทยแทบจะตอบแทบสองหนุ่มได้ นั่นคือ เวลาว่างของเตนล์ชอบเดินห้างพารากอน ชอบทานขนมไทยๆ อย่าง ขนมน้ำดอกไม้ รวมไปถึงของชอบของแทยง คือ มะละกอ และชาเย็น (แถมดื่มเท่าไรก็ไม่ง่วงด้วย) นอกจากนี้พี่แทยงยังเสิร์ฟ fan service ด้วยภาษาไทยที่เตรียมไว้อย่างดีว่า "แฟนไทยสุดยอด" และ "น้องเตนล์น่ารัก" อีกด้วย

 

 

หลังจากพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาที่สองหนุ่มจะเพ้นท์กระถางต้นไม้สดๆ บนเวทีเพื่อมอบให้แฟนเพลงในงาน และเล่นเกมอย่าง ใบ้คำ และเปิดจิ๊กซอว์เดาภาพ ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด มีทั้งสนามบินสุวรรณภูมิที่หนุ่มๆ น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และวัดพระธาตุดอยสุเทพที่หนุ่มๆ เคยมาเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว และแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตัวแทยงเองทราบว่ามีความสำคัญเหมือนกับเป็นแม่น้ำฮันของเกาหลี ทำการบ้านมาดีแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าแฟนๆ ปลื้มกันไปตามๆ กัน

ตามธรรมเนียมของงานแฟนมีตติ้ง บรรดาแฟนเพลงชาวไทยมักทำโปรเจ็กต์เซอร์ไพรส์ศิลปินด้วยคลิปรวมภาพ และข้อความซึ้งๆ ถึงศิลปิน ซึ่งถึงแม้ว่าหลายคนน่าจะคุ้นชินกับบรรยากาศแบบนี้จนเรียกได้ว่าน่าจะไม่เซอร์ไพรส์กันแล้ว แต่ทั้งภาพ และข้อความในวิดีโอทำให้สองหนุ่มน้ำตาคลอเบ้ากันได้ง่ายๆ ถึงขนาดที่หนุ่มแทยงต้องขอพูดคุยกับแฟนเพลงเพื่อปรับอารมณ์กันเล็กน้อย ก่อนจะไปเตรียมตัวทำการแสดงที่เต็ทไปด้วยคาริสม่าสุดเท่ให้แฟนๆ ได้ชมกันทั้งเพลงโซโล่ของเตนล์อย่าง “New Heroes” ที่หนุ่มเตนล์เต้นได้ชัด และคมในทุกจังหวะ และเพลงโซโล่ของแทยงร่วมกับ Hitchhiker อย่างเพลง “Around” ที่เซอร์ไพรส์คนดูด้วยการเดินผ่านฝูงชนก่อนขึ้นเวที และเปลี่ยนเวทีให้เป็นแดนซ์ฟลอร์ในทันที

 

 

ไฮไลต์ของงานอยู่ที่ “Baby Don’t Stop” (Special Thai version) ที่เราได้ฟังหนุ่มเตนล์ร้องเพลงเป็นภาษาไทยกันเป็นครั้งแรก เนื้อเพลงภาษาไทยเป็นฝีมือการแต่งของ ขัน ไทยเทเนียม และ Twopee Southside สองแร็ปเปอร์ชั้นนำของเมืองไทย บวกกับท่อนแร็ปของแทยงที่เขาเป็นคนแต่งเอง จึงทำให้เพลงนี้แปลกใหม่ทั้งในแง่ของภาษาในเนื้อเพลง (ที่มีถึง 4 ภาษา เกาหลี ไทย อังกฤษ และสเปน) และท่อนภาษาไทยของเตนล์ที่หลายคนบอกว่าเป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวล และเขาทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด (แม้ว่าก่อนหน้านี้เตนล์จะแอบกังวลกับสำเนียงภาษาไทยของเขาที่ไม่แข็งแรงจากการเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ และย้ายไปฝึกที่เกาหลีตั้งแต่เด็กก็ตาม แต่ฟังออกทุกคำและสำเนียงชัดขนาดนี้ ถือว่าสอบผ่านฉลุย) และจบงานกันด้วยการถ่ายภาพร่วมกัน และคำมั่นสัญญาว่าจะมาหาแฟนเพลงชาวไทยให้บ่อยขึ้น พร้อมสมาชิกอื่นๆ ใน NCT อีกแน่นอน

อ่านต่อ >> Twopee Southside เผยแต่งเพลงให้ “แทยง x เตนล์ NCT U” ยากกว่าที่คิด

โดยรวมบรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น กับคำตอบของสองหนุ่มที่ค่อนข้างจริงใจ และเป็นกันเอง ความเป็นธรรมชาติของทั้งคู่ทำให้แฟนๆ สัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของทั้งคู่ ที่ถึงแม้ว่าฝั่งเตนล์จะดูขี้เล่นเล็กน้อย แต่ก็แอบเขินในบางครั้ง หรือจะเป็นแทยงที่ถึงเวลาตอบคำถามอาจจะดูเขินๆ และยามที่ต้องทำตัวเป็นลีดเดอร์ เขาก็เป็นพี่ๆ ที่เป็นที่พึ่งของน้องๆ ได้เสมอ สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน คือเสน่ห์บนเวทีที่ไม่มีใครยอมใคร ลีลาการเต้นที่เป๊ะ และแข็งแรงทุกท่วงท่า แสดงถึงความตั้งใจของทั้งคู่ที่เตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อแฟนเพลงชาวไทยโดยเฉพาะ แม้ว่าช่วงเล่นเกม และแจกของรางวัลจะแอบอยากให้แฟนเพลงได้ขึ้นเวทีไปร่วมกิจกรรม และรับของรางวัลกับศิลปินเองกับมือเหมือนงานอื่นๆ แต่เข้าใจในเรื่องของข้อจำกัดจากค่ายเพลงฝั่งเกาหลีแต่ละค่ายที่แตกต่างกัน และอาจจะเพื่อความปลอดภัยของตัวศิลปินเองด้วย

 

 

ครั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกคนไหน หรือยูนิตใดของ NCT มาเมืองไทย ก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงชาวไทยอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม เพราะอย่างที่พิธีกรในงานกล่าวไว้ และเราเห็นด้วยอย่างสุดใจว่า “แฟนๆ บอกว่า รอยยิ้มของพวกเขาทั้งสองคนเป็นพลังในการใช้ชีวิตของพวกคุณ แต่ในทางกลับกัน แรงสนับสนุน และรอยยิ้มของพวกคุณ ก็เป็นเหมือนแบตเตอรี่ที่เติมพลังให้กับพวกเขาเช่นเดียวกัน”

 

 

____________________

Story & Video : Jurairat N.

Photos : Jurairat N., SM True