สิ้นสุดการรอคอย! Sam Smith : The Thrill Of It All Tour Live in Bangkok 28 ต.ค. นี้
ในที่สุดก็มาตามคำเรียกร้องของแฟนเพลงเสียที สำหรับ Sam Smith ศิลปินโซลป็อป-อาร์แอนด์บีชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของเพลงฮิต “Lay Me Down”, “Stay with Me”, “I’m Not the Only One”, "Too Good at Goodbyes" ล่าสุดกับ “Pray” และเจ้าของ 4 รางวัล Grammy Awards ก็ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก ใน Sam Smith : The Thrill Of It All Tour Live in Bangkok ในวันที่ 28 ตุลาคม 2018 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยมีราคาบัตรเริ่มต้นที่ 2,000 บาท
Sam Smith หรือชื่อเต็มว่า Samuel Frederick Smith เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากผลงานร่วม featuring กับวงดูโออิเล็กทรอนิกส์ Disclosure ในเพลง “Latch” ในขณะที่เขามีอายุได้ 20 ปี เมื่อปี 2012 โดยเพลงนี้ขึ้นไปสูงถึงอันดับที่ 11 ใน UK Chart หลังจากนั้นในปี 2013 เขาก็ร่วมเป็นเจ้าของอันดับ 1 บน UK Chart ได้สำเร็จจากผลงานร่วม featuring กับ Naughty Boy ในเพลง “La La La” จากความสำเร็จของทั้ง 2 เพลงนี้ ทำให้หนุ่ม Sam Smith ได้รับรางวัล Critics' Choice Award จาก Brit Awards และ Sound of 2014 ของ BBC ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีผลงานอัลบั้มเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ มีพลัง เข้าถึงอารมณ์ของผู้ฟัง และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ Sam Smith ก้าวขึ้นสู่การเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ผู้คนจดจำได้ในช่วงเวลาไม่นาน
Sam Smith ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกที่มีชื่อว่า In the Lonely Hour ในปี 2014 โดยมีซิงเกิลที่ผู้คนทั่วโลกในฝีมือการร้อง และการแต่งเพลงของหนุ่มคนนี้อย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศอังกฤษ รวมถึงอเมริกา และเอเชีย ทั้ง “Lay Me Down”, "Money on My Mind" เพลงที่ได้อันดับ 1 UK Chart และเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเขาเอง ต่อยอดความสำเร็จด้วย "Stay with Me", "I'm Not the Only One" และ "Like I Can" ที่แต่ละซิงเกิลที่เขาปล่อยโปรโมต ไม่มีเพลงไหนที่หลุด Top 10 ใน UK Chart เลยแม้แต่เพลงเดียว และใน Billboard Chart ของทางฝั่งอเมริกาเอง เพลง "Stay with Me", "I'm Not the Only One" และ "Lay Me Down" (ปล่อยโปรโมตอีกครั้งในปี 2015) ก็ทำอันดับได้ดีไม่เกิน Top 10 เช่นเดียวกัน
ในปี 2014 จากความสำเร็จของอัลบั้ม In the Lonely Hour ทำให้ Sam Smith ได้รับรางวัล Grammy Awards ถึง 4 สาขา ไม่ว่าจะเป็น รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม บันทึกเสียง และเพลงยอดเยี่ยมจาก “Stay with Me” และรางวัลอัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม In the Lonely Hour นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจากเวที Billboard Music Awards ไปอีก 3 รางวัล ได้แก่ ศิลปินชายยอดเยี่ยม ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และศิลปินยอดนิยมที่มีเพลงฮิตในคลื่นวิทยุมากที่สุด ส่วนที่อังกฤษบ้านเกิดก็ไม่น้อยหน้า นอกจาก Critics’ Choice Award ที่ได้เมื่อปี 2014 แล้ว ในปี 2015 ยังได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และศิลปินที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก อีกด้วย
นอกจากนี้ Sam Smith ยังเป็นเจ้าของสถิติอันยอดเยี่ยมใน Guinness World Records มากถึง 2 สถิติด้วยกัน ในฐานะที่เพลง "Writing's on the Wall" เพลงประกอบภาพยนตร์ตระกูล James Bond ที่มีชื่อว่า Spectre ของเขา เป็นเพลงแรกในรอบ 50 ปีในบรรดาเพลงประกอบ James Bond ทั้งหมด ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ใน UK Chart ได้ (และยังทำให้เขาได้รางวัล Academy Awards หรือ Oscars สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกด้วย) และอัลบั้ม In the Lonely Hour ยังสามารถรั้งอยู่ในอัลดับ Top 10 บน UK Album Charts ติดต่อกันอย่างยาวนานมากที่สุดในประวัติการณ์ โดยอยู่บนชาร์ตนานถึง 69 สัปดาห์ (ราว 1 ปีกับอีก 5 เดือนกว่าๆ)
ปี 2017 Sam Smith ปล่อยอัลบั้มชุดที่สอง The Thrill of It All ทิ้งระยะห่างจากอัลบั้มแรกไปนานถึง 3 ปี มีซิงเกิลแรก "Too Good at Goodbyes" ที่คว้าอันดับ 1 UK Chart ได้สำเร็จอีกครั้ง และยังตามมาด้วย "One Last Song" และ "Pray" ที่มีทั้งเวอร์ชั่นโซโล่ และเวอร์ชั่น featuring กับ Logic และตัวอัลบั้มเองหลังจากปล่อยออกมาได้ 6 เดือน ก็กวาดยอดขายไปได้มากกว่า 600,000 ชุด คว้ายอดขายระดับ X2 Platinum ไปครองเป็นที่เรียบร้อย
เพราะฉะนั้น ใครที่เป็นแฟนเพลงของ Sam Smith อยู่แล้ว หรืออาจจะชื่นชอบในน้ำเสียง และบทเพลงของเขามาตลอด อย่าพลาด Sam Smith : The Thrill Of It All Tour Live in Bangkok ในครั้งนี้เด็ดขาด เพราะกว่าเขาจะได้มาไทยอีกก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องรอคอยกันอีกยาวนานสักแค่ไหน
____________________
Story : Jurairat N.
