เมื่อ Zeal เหวี่ยงความมันขั้นสุดใน “Leo Presents Zeal 15yrs Concert”
เคยได้ยินสุภาษิตจีนที่ว่า “10 ปี ล้างแค้นก็ยังไม่สาย” ไหม? แล้วถ้าหากเป็น “15 ปี” ล่ะ มันนานเกินไปหรือเปล่า?
ที่เกริ่นนำข้างต้นเราไม่ได้มุ่งหวังให้คุณผู้อ่านพุ่งตัวไปแก้แค้นใคร แต่ใจความสำคัญอยู่ที่ “การรอคอย” เสียมากกว่า การเฝ้ารอใครสักคน หรือคอยให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลากว่า 15 ปีอาจฟังดูนานสำหรับใครบางคน วงดนตรีที่ชื่อ Zeal ก็อาจคิดเช่นนั้น … แฟนเพลงก็อาจรู้สึกไม่ต่างกัน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นับจากปี พ.ศ. 2545 ที่วง Zeal ปล่อยอัลบั้มแรกในชีวิตในชื่อเดียวกัน กว่า 15 ปีในวงการเพลงบ้านเรา สตูดิโออัลบั้มจำนวน 5 ชุด เพลงฮิตอีกเพียบ (อย่าปฏิเสธว่าคุณไม่รู้จักเพลงอย่าง “สองรัก”, “ล้มทั้งยืน” หรือ “พบเพื่อเพียงผ่าน”) พวกเขา “ไม่เคย” มีคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบแม้สักครั้งเดียว ซึ่งหากจะว่ากันตามตรง ไม่มีศิลปินวงไหนหรือคนไหนหรอกที่ไม่อยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตนเอง ไม่แน่ใจว่า 5 สมาชิกวง Zeal จะเคยถอดใจไปแล้วบ้างหรือไม่ แฟนเพลงบางส่วนก็อาจหมดหวังไปแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา
แต่จู่ๆ 5 สมาชิกวง Zeal ที่ประกอบไปด้วย เคน-ปรัชญา มีบำรุง (กลอง), ชุ-ณัฐบวร เศรษฐกนก (กีตาร์), ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม (เบส), ศิลา นามเทพ (กีตาร์) และนักร้องนำของวง เป๊กซ์-ปราชญ์ พงษ์ไชย ก็โพสต์ภาพโปสเตอร์คอนเสิร์ต ... คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในรอบ 15 ปีของวง คอนเสิร์ตใหญ่ที่ไม่ว่าจะเป็นตัววงเองหรือแม้แต่สาวกวง Zeal รอคอยมาอย่างเนิ่นนานกับ “Leo Presents Zeal 15yrs Concert”
บอกกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีวันพลาดคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างเด็ดขาด เสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี กาปฏิทินไว้อย่างดิบดี และหลังจากนี้ จะเป็นการเขียนถึงคอนเสิร์ตๆ หนึ่ง ในฐานะสื่อมวลชน และหนึ่งในแฟนเพลงของ Zeal ที่รอคอยคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเขา ไม่ต่างจากคนอื่นๆ
แต่ก่อนจะถึงคิวพระเอกของงาน วงเปิดอย่าง Dose ก็น่าสนใจไม่น้อย ด้วยซาวด์วินเทจร็อคเก่าๆ ที่ 4 สมาชิกอย่าง อริญ-อริญชย์ ภาณุเวศย์ (ร้องนำ), แทน-อติชาต ลี (กีตาร์), บาส-ศรัณย์ ยิ่งเจริญ (เบส) และ หลิว-สาริกข์ หลิวอุดมชัย (กลอง) ถ่ายทอดผ่านซิงเกิลต่างๆ ที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้ บอกตามตรงว่าไม่ได้ยินซาวด์แบบนี้ในวงการดนตรีเมืองไทยมานาน ช่างสะใจสะอารมณ์คอร็อคเหลือเกิน
อริญ Dose
Dose อุ่นเครื่องคอนเสิร์ตในค่ำคืนที่ผ่านมาได้อย่างดุเดือดทีเดียว แม้ว่าผู้เขียนจะไม่เคยชมการแสดงสดของวงดนตรีวงนี้มาก่อน แต่เมื่ออินโทรเพลง “ปลิ้นปล้อน” ดังขึ้น ริฟฟ์กีตาร์โหมกระหน่ำโสตประสาทให้เราโยกหัวตามโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แถมการลากเสียงสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายเพลงของ อริญ ก็ทำเอาเราทึ่งในความสามารถของเขาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน ก่อนจะสานต่อความเดือดด้วยซิงเกิลพิเศษอย่าง “ลองของ” ที่ อริญ แอบใส่เสียงแตกลงไปในน้ำเสียงเล็กๆ เช่นกัน หลังจากนั้นก็ถึงคิว 2 เพลงช้าหนักแน่นอย่าง “ซ้ำซาก” และ “ชะตาขาด” ที่ในเพลงหลังได้ MVL หรือ เป้-บดินทร์ เจริญราษฎร์ นักร้องนำวง Mild โผล่มาแร็ปแบบเซอร์ไพรส์ กับท่อนโซโล่ของ แทน ในช่วงท้ายที่เท่บาดใจสุดๆ แม้ว่าพลังของวงในช่วงหลังจะดูลดลงจากตอนเปิดตัวอยู่เล็กน้อย (อาจจะเป็นเพราะเล่นเพลงช้า 2 เพลงติด) อย่างไรก็ตาม Dose ยังคงเป็นวงร็อคที่น่าจับตามอง ทั้งในเรื่องฝีมือ รวมไปถึงตัวตนและจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งดนตรีร็อคอย่างแท้จริง … เราเชื่อเช่นนั้น
พักเซ็ตเวทีกันชั่วครู่ การรอคอยมากว่า 15 ปีกำลังจะสิ้นสุดลง ไฟในฮอลล์ธันเดอร์โดมดับลง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจจากเหล่าสาวกหลายพันคนที่ทำให้บัตรคอนเสิร์ตครั้งนี้ขายหมดเกลี้ยง เสียงวอยซ์โอเวอร์อันคุ้นเคยจากช่วงต้นของอัลบั้ม Trip เมื่อปี 2547 ดังก้องขึ้น ในที่สุด ม่านสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกปลดลง 5 สมาชิกวง Zeal ประจำการอย่างพร้อมเพรียงภายใต้ฉากที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เป็นตัว Z อินโทรเพลงเปิดตัวเมื่อเกือบ 16 ปีที่แล้วอย่าง “เหวี่ยง” ก็ทำเอาใจเต้นตูมตาม ยิ่งพอเข้าท่อนฮุกอย่าง “ฉันจะเหวี่ยง เหวี่ยงเธอให้สูง … ขึ้นไป” ตอนนั้นสัมผัสได้เลยว่า พื้นฮอลล์สั่น … สั่นอย่างแท้จริง ก่อนที่พวกเขาจะสาดความมันกันต่อด้วยเพลง “ปลุก” และ “จะไปจะมา” ที่ทุกคนพร้อมใจกันกระโดดสุดตัวอีกครั้ง
วง Zeal
3 เพลงแรกทำให้เราคลายกังวลในเรื่องซาวด์ไปมากทีเดียว เราได้ยินเสียงกลองทุกเม็ดจาก เคน ซาวด์กีตาร์แตกพร่าจากทั้ง ชุ และ ศิลา ไลน์เบสแสนหนึบหนับของ ป๊อก เสียงร้องอันชัดเจนของ เป๊กซ์ ธันเดอร์โดมที่อาจเป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตปราบเซียนของศิลปินทั้งไทยและเทศมายาวนาน หรือ Zeal จะทำลายอาถรรพ์นี้ลงได้?
พักหายใจกันสักหน่อย Zeal จัดเซ็ตเพลงช้าอย่าง “โง่เขลา”, “ฉันกำลังจะตาย” และ “บุคคลตัวอย่าง” มาให้แฟนๆ ร้องตามกันกระหึ่ม หลังจากนั้นพวกเขาก็พาทุกคนในฮอลล์ไปสู่ห้วงอวกาศด้วยเพลง “ดาว” และ “เหยียบดาว” ซึ่งมีดวงไฟหย่อนลงมาจากด้านบน ภาพที่เห็นเบื้องหน้าราวกับว่าเราลอยเคว้งคว้างอยู่นอกโลกอย่างแท้จริง และแล้วเซอร์ไพรส์แรกก็เดินทางมาเยือนในที่สุด
Zeal บรรเลงเพลง “แค่ฝันก็เอาแล้ว” ซึ่งในท่อนแร็ปก็ได้ชายหนุ่มที่ชื่อ อานนท์ สายแสงจันทร์ หรือ ปู Blackhead ที่วง Zeal ยกย่องให้เป็นผู้ที่ทำคลอดพวกเขาออกมาโลดแล่นในวงการมาร่วมสร้างความเดือด ก่อนที่จะมีการเชื้อเชิญอีกหนึ่งสมาชิกร็อคหัวดำอย่าง เอก-อภิสิทธิ์ พงศ์ชัยสิริกุล ที่รับหน้าที่โปรดิวเซอร์อัลบั้มแรกของ Zeal ออกมาวาดลวดลายกีตาร์ในเพลง “ยิ่งโตยิ่งสวย” และ “ยังไม่ตาย” ที่ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่วงท้ายเพลงหลังที่ 2 มือกีตาร์อย่าง ชุ และ เอก ฟาดฟันลูกโซโล่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เป๊กซ์ Zeal vs ปู Blackhead
การแจมกีตาร์ระหว่าง ชุ Zeal และ เอก Blackhead
เสียงกรี๊ดดังสนั่นอีกครั้งเมื่อ เป๊กซ์ ปรากฏตัวในชุดขาวล้วน นั่งอยู่บนเปียโนหลังใหญ่ ก่อนที่เพื่อนสมาชิกอีก 4 คนก็ออกมาเสริมทัพในคอสตูมสีเดียวกัน วงร็อคแปรสภาพเป็นบอยแบนด์ในบัดดล และไม่ผิดจากที่คิดไว้นัก นี่คือเมดเล่ย์เพลงประกอบละครที่ Zeal เตรียมมาฝาก 4 บทเพลงที่ประกอบไปด้วย “รักเธอทั้งชีวิต”, “ยิ่งห้ามยิ่งหวั่นไหว”, “หยุดรักยังไง” และ “แบบไหนที่เธอรัก” ไม่มีเพลงไหนเลยที่ไม่มีคนร้องตาม ก่อนที่จะจบเซ็ตเพลงช้าเซ็ตนี้ด้วย “คนบ้า” แทร็คลำดับที่ 9 จากอัลบั้มชุดแรก อีกหนึ่งเพลงโปรดของใครหลายคนที่อยากได้ยินพวกเขาเล่นสดเหลือเกิน แม้ว่าจะมีช่วงที่กีตาร์ของ ชุ ดับ ทว่าก็ยังเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ ที่ได้ฟังในคอนเสิร์ตครั้งนี้
เมดเล่ย์เพลงละครที่วง Zeal มาพร้อมคอสตูมสีขาว
เอาล่ะ ได้เวลาเซอร์ไพรส์หนที่ 2 กันแล้ว เมื่ออินโทรเพลง “เสี้ยม” ดังขึ้น ในใจคิดไว้แล้วว่าต้องมีแร็ปเปอร์สักคนหรือสักวงโผล่มาแน่ๆ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ กับ UrboyTJ ที่แต่งเนื้อแร็ปสุดเดือดมาเองอีกต่างหาก รวมไปถึงการแจมกับวง Zeal ในเพลง “ไม่เข้าใจ” และ “วายร้าย” ที่ดูเป็นอีกฟีลหนึ่งที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน เบรกความสนุกด้วยเพลงซึ้งๆ “วินาที” ที่ เป๊กซ์ สะพายกีตาร์โปร่งออกมาโชว์เพียงคนเดียว ต่อด้วย “ไม่รู้ทำไม” และเซสชั่นอะคูสติกกับเพลง “โชคดี” และซิงเกิลล่าสุดที่เพิ่งจะปล่อยออกมาอย่าง “Promise (ฉันสัญญา)” ที่ทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
UrboyTJ มาร่วมแร็ปสุดเดือดในเพลง "เสี้ยม"
Zeal กับโชว์อะคูสติกฟังเพลินๆ
อาจจะเรียกได้ว่าไม่มีช่วงไหนเลยที่คนดูยืนชมกันแบบเงียบๆ “จูบลา” ที่มาพร้อม 4 สาวที่มีอาวุธประจำกายเป็นเครื่องสาย “เตลิด” เพลงช้าสุดฮิตในยุคหลังๆ ของวง รวมถึง “หมดชีวิต (ฉันให้เธอ)” ที่ได้ หมิว-วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย นักร้องนำสาวจากวง Boom Boom Cash มาให้เสียงร้องท่อนผู้หญิงได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งไม่แพ้ต้นฉบับ หลังจากนั้นก็ได้เวลาของดินแดนอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มตัว เมื่อ Botcash (เอ้-สัณหภาส บุนนาค) ขอนำเพลง “Zero” มาเรียบเรียงใหม่ และเมื่ออีก 2 สมาชิกอย่าง แขก-ชาลาลีคาน อาลีฟ ซันคาน และ โอเล่-จิโรจน์ เอี่ยวจินดา ขึ้นมาบนเวที Boom Boom Cash ก็แผ่ซ่านพลังแห่งความตื๊ดในเพลง “One Life” และ “Blur Blur” แบบไม่มีกั๊ก
Boom Boom Cash
ไม่รู้เวลาผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว แต่ความมันยังไม่หมด วีทีอาร์ที่บ่งบอกข้อความว่า “สงครามกำลังจะอุบัติขึ้น” ทำเอาเราใจเต้นตึกตักอีกครั้ง ซึ่งสงครามที่ว่านั้นก็หนีไม่พ้นสงครามแห่งดนตรี ที่มีมือกลองอย่าง เคน เล่นเป็นพระเอกในคอสตูมสีส้มจี๊ดจ๊าด และนี่คือเซสชั่นโซโล่กลองที่ไม่ใช่แค่การนั่งตีกลองตีฉาบเหยียบกระเดื่องเพียงอย่างเดียว เพราะโชว์นี้หนุ่มเคนขอลุกขึ้นมาวาดลวดลายตีนู่นเคาะนี่พร้อมกับเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วย! บอกด้วยความสัตย์จริงว่าไม่ได้ดูโชว์โซโล่กลองที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้มานานแล้ว และทั้งหมดนี้ก็เพื่อนำเข้าสู่เพลง “สมรภูมิไฟ” ที่สร้างความร้อนระอุไปทั่วทุกพื้นที่ ต่อด้วย “คำสาป” กับบีตร็อคอันเร่งเร้า และก็ถึงคราวของ ป๊อก ที่ลีลาการสแลปเบสช่างยียวนทว่าน่าฟังยิ่งนัก ส่งต่อไปสู่ “หลังชนฝา” ที่ดีกรีความเดือดพุ่งแตะจุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
โชว์ตีกลองสุดตื่นตาจาก เคน Zeal
ลีลาสแลปเบสของ ป๊อก Zeal ถือว่าไม่ธรรมดา
“อย่าอยู่คนเดียว” และ “พบเพื่อเพียงผ่าน” คืออีก 2 เพลงที่มีเสียงร้องตามกระหึ่ม ยิ่งเมื่อ เป๊กซ์ ลงจากเวทีเดินลงมาแตะไม้แตะมือกับแฟนเพลงอย่างใกล้ชิดทั้งด้านข้างและด้านหลังก็ยิ่งทำให้ฮอลล์เต็มไปด้วยเสียงกรี๊ด ก่อนที่จะกลับสู่โหมดความมันอีกครั้งกับ “ไม่ต้องการเห็นบางคน (ที่ไม่รักกัน)” และ “ล้มทั้งยืน” ที่เท้าทุกคนไม่อยู่ติดพื้นกันแล้ว
เป๊กซ์ Zeal เดินลงมาหาแฟนเพลงแบบใกล้ชิดสุดๆ
Zeal 15yrs Concert เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็แทบไม่เชื่อว่าเวลาผ่านไปแล้วเกือบ 3 ชั่วโมง เป๊กซ์ เดินไปสวมกอดกับเพื่อนอย่าง ศิลา และรุ่นพี่อย่าง ป๊อก, ชุ และ เคน ดูเหมือนว่าน้ำตาของเขาจะไหลรินลงมา พร้อมกับซาวด์เปียโนเมโลดี้ของเพลง “สองรัก” ที่ทุกคนรอคอย และสมาชิกวง Zeal ทั้ง 5 คนก็ออกมากล่าวความในใจ บางคนน้ำเสียงสั่นเครือ บางคนก็ถึงกับเสียน้ำตาลูกผู้ชาย แต่ทุกคนในที่นั้นเข้าใจเป็นอย่างดีว่า นั่นคือน้ำตาแห่งความสุข น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ที่พูดออกมาเป็นคำหรือประโยคได้ยากแท้ ก็แค่มันรู้สึกอยู่ข้างในลึกๆ วง Zeal ปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลง “จากตรงนี้” และที่ขาดไม่ได้ “สองรัก” เพลงแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการของวง Zeal ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เราเคยได้ยินมา
แสงสีสุดอลังการ
Zeal เป็นวงดนตรีที่แทบไม่ต้องใช้ตัวช่วยอื่นในการสื่อสารทุกๆ อย่างที่พวกเขาต้องการถ่ายทอดไปสู่คนฟัง และคนดู พวกเขาใช้ “ดนตรี” ส่งต่อความรู้สึกนึกคิด ทุกเมโลดี้และทุกตัวโน้ตทำหน้าที่เป็นอย่างดี ทว่าหากทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ขาดซึ่งทีมเวิร์กของสมาชิกในวง ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนัก แต่ Zeal ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มิตรภาพและความเป็นเพื่อนที่มากกว่า 15 ปีนั้น มันสำคัญต่อการสร้างสรรค์ผลงาน และสำคัญต่อวิถีแห่งการแสดงสดมากเพียงใด ไม่แปลกที่ไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตหรือเพลงหน้า B ที่ไม่ได้ถูกตัดเป็นซิงเกิลโปรโมต เหล่าแฟนเพลงก็ร้องตามสุดเสียงร่วม 40 เพลงเลยทีเดียว
เมื่อบัตรขายหมดเกลี้ยง ภาพก็จะอลังการแบบนี้แหละ
ทุกสุ้มเสียงที่ได้ยิน เต็มไปด้วยพลังแห่งความสุขที่พวกเขาได้เล่นดนตรีด้วยกัน ความตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดทำให้ผู้เขียนยกให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นที่ธันเดอร์โดมแล้วมีระบบเสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา แม้ว่าจะแอบเสียดายในช่วงที่ Boom Boom Cash ขึ้นมาแจมแล้วซาวด์ค่อนข้างนัวเนีย ฟังไม่รู้เรื่องอยู่พอสมควร รวมถึงหลังจากนั้นที่ซาวด์ดร็อปลงไปจากช่วงแรกและช่วงกลางของคอนเสิร์ตอยู่บ้าง อีกทั้งในความคิดเห็นส่วนตัว เพลง “Zero” อาจดูไม่ค่อยลงตัวนักสำหรับการเรียบเรียงดนตรี ทว่านี่คือความยอดเยี่ยมสำหรับการแสดงสดจากวงดนตรีสักวงที่จะมอบให้แฟนเพลงของพวกเขา ในขณะที่เรื่องของโปรดักชั่นและระบบแสงถือว่ายอดเยี่ยม มีมูฟเม้นต์ตลอดเวลา สร้างความตื่นตาตื่นใจและไม่น่าเบื่อได้ตลอดโชว์
รูดม่านปิดฉากลงอย่างน่าประทับใจ
และเมื่อย้อนกลับไปที่คำถามในย่อหน้าแรก คอนเสิร์ต Leo Presents Zeal 15yrs Concert ก็ได้มอบคำตอบให้ทุกคนแล้วว่า 15 ปี … ก็ยังไม่สาย ที่จะได้ฟังเพลงที่เราคุ้นเคยกันมาโดยตลอดแบบสดๆ กระโดดโลดเต้น โยกหัวโยกตัวไปตามท่วงทำนอง … จากวงดนตรีที่เรารัก
Story by: Chanon B.
Photos by: Muzik Move
อัลบั้มภาพ 47 ภาพ