สนทนาว่าด้วยเรื่อง “Bee Gees” กับ ป้อม ออโต้บาห์น, มัม ลาโคนิค และ ป๊อก Classy Records
ในช่วงยุค 60s แวดวงดนตรีโลกมีโอกาสได้ต้อนรับ 3 พี่น้องตระกูล Gibb อย่าง Barry, Robin และ Maurice ที่ปลุกปั้นวงดนตรีที่ชื่อ Bee Gees ให้ดังกระหึ่มโลก และกลายเป็นวงดนตรีที่ทรงอิทธิพลมาสู่ศิลปินยุคต่อมาอีกมากมาย ด้วยแนวเพลงป็อปหลากหลายสีสันจากความเป็นดิสโก้ โซล และฟังก์ กับผลงานอัลบั้มกว่า 20 ชุดภายในระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษ ได้สร้างบทเพลงขึ้นหิ้งมากมาย อาทิ “How Deep Is Your Love”, “Staying’ Alive”, “Tragedy”, “I Started A Joke”, “Alone” เป็นต้น รวมถึงเป็นเจ้าของ 5 รางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ ก่อนที่ในปี 2003 วงการเพลงจะต้องสูญเสีย Maurice Gibb ไปอย่างไม่มีวันกลับ และอีก 9 ปีถัดมา Robin Gibb ก็คือสมาชิกวง Bee Gees คนที่ 2 ที่เสียชีวิตลง … Bee Gees กลายเป็นเพียงตำนานนับแต่บัดนั้น
“คิดถึง Bee Gees เนอะ” คอดนตรีหลายคนคงคิดเช่นนี้ ไม่ต่างจาก ป๊อก-ทวิษย์ชญะ ตั้งสหะรังษี หัวเรือใหญ่แห่งค่ายเพลง Classy Records รวมถึงเป็นโต้โผในการจัดคอนเสิร์ต Care For Each Other: The Night To Remember Bee Gees การทริบิวต์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับตำนานวงดนตรีจากประเทศอังกฤษวงนี้ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กับรายชื่อของศิลปินไทยกว่า 20 ชีวิตที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองของ Bee Gees ในทุกห้วงวินาที
โปสเตอร์คอนเสิร์ต Care For Each Other: The Night to Remember Bee Gees
บ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง ป๊อก จึงชักชวน 2 ศิลปินที่จะร่วมขึ้นคอนเสิร์ตในหนนี้อย่าง ป้อม ออโต้บาห์น (โชติชู พึ่งอุดม) และ มัม ลาโคนิค มาสนทนากับ Sanook! Music ว่าด้วยความผูกพันที่มีต่อวงดนตรีที่พวกเขาหลงรัก และจุดมุ่งหมายสำคัญที่แฝงเร้นไว้ภายใต้ความสุข ความสนุก และความอิ่มเอมที่ผู้ชมทุกคนจะได้รับไป
ทำไมต้องเป็น Bee Gees?
ป๊อก : Bee Gees ไม่ใช่แค่นักร้อง พวกเขาเป็นนักแต่งเพลงด้วย Maurice และ Robin Gibb เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง คุณพ่อของผมเองก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเหมือนกัน ในฐานะที่ผมเป็นนักแต่งเพลงมา 23 ปี ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในวงการเพลงมาตลอด ไม่เคยเห็นกองทุนหรือองค์กรที่มีไว้เพื่อช่วยเหลือนักแต่งเพลงเวลาป่วยไข้เลย ครูเพลงหลายต่อหลายคนในหลายยุคหลายสมัย เวลาป่วยไข้ก็ต้องกลายเป็นผู้ป่วยอนาถา จนกระทั่งเสียชีวิต เลยเกิดความคิดว่าอยากจะทำคอนเสิร์ตขึ้นมาสักคอนเสิร์ตหนึ่ง ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วจะตั้งเป็นกองทุนที่ชื่อว่า Classy for Friends เพื่อช่วยเหลือเพื่อนในวงการเพลงที่เป็นมะเร็ง ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเมื่อคอนเสิร์ตนี้จบ กองทุนนี้จะเกิดขึ้นทันที ผมจะทำการประกาศยอดกองทุนหลังโชว์ทันที พร้อมกับอยากจะทำให้มีกองทุนนี้สืบต่อไป
Bee Gees: (จากซ้าย) Barry Gibb, Robin Gibb และ Maurice Gibb
ความทรงจำ และความผูกพันที่มีต่อ Bee Gees?
ป้อม : ยุคที่ผมเล่นดนตรีใหม่ๆ น่าจะเป็นช่วงยุค 70s ยุคนั้นศิลปินไม่เยอะเหมือนยุคนี้ เวลาไปเล่นตามผับหรือที่ต่างๆ เกือบทุกวงจะต้องเล่นเพลงของ Bee Gees ผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในยุคนั้นจะต้องรู้จักเพลง “I Started A Joke” หรือ “Massachusetts” ผมโตมากับเพลงเหล่านี้ นั่นคือความผูกพันเลยล่ะ หรืออย่างเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว Bee Gees จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ชื่อ One Night Only มันคือความยิ่งใหญ่ที่ผมคิดว่าคงไม่ได้ดูอะไรแบบนี้อีกแล้ว และก็ไม่ได้ดูจริงๆ เพราะ Robin กับ Maurice เสียชีวิตไปแล้ว ป๊อกเขาก็เลยคิดว่า ถ้าเราไม่ได้ดูออริจินัลแน่ๆ แล้ว เรามาลองทำของเราเองดูไหม เสน่ห์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ใช่การก็อปปี้ เราจะไม่ร้องเหมือนที่ Bee Gees ร้อง แต่เราจะร้องเพลงของ Bee Gees ตามแบบฉบับหรือสไตล์ของตัวเอง
มัม : เราร้องเพลงของ Bee Gees มาตั้งแต่เริ่มร้องเพลง เป็นนักร้องอาชีพใหม่ๆ ตอนนั้นเป็นยุค Folk Song ต้องย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีเลย ทำให้เรามีความผูกพันกับพวกเขามาก ไม่ใช่แค่ร้องนะ แต่เรายังฟังเพลงของพวกเขามาตลอดด้วย ชอบซื้อหนังสือเพลง Song Hits มาร้องตามตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน ซึ่งตอนนั้นหนึ่งในเพลงที่เราฝึกร้องบ่อยที่สุดก็คือเพลงของ Bee Gees จนกลายมาเป็นนักร้องอาชีพ แทบทุกร้านกาแฟที่เราวิ่งรอกทั่วกรุงเทพฯ พอไปถึงจะต้องร้องเพลงของ Bee Gees ด้วยความที่เขาดังมากในยุคนั้น ไม่ว่าใครก็รู้จักและชื่นชอบ
ป๊อก : ศิลปินที่เราเชิญมา ทุกคนจะมีความผูกพันกับ Bee Gees แทบทั้งหมด นี่แหละคือเสน่ห์ แล้วคอนเสิร์ตครั้งนี้เราเรียบเรียงดนตรีใหม่หมดทุกเพลง ใส่ความครีเอทีฟลงไปในทุกตัวโน้ต เพราะพวกเราเชื่อว่าไม่มีใครสามารถเหมือน Bee Gees ได้ กราฟิกด้านหลังก็ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมฯ เคยจัดคอนเสิร์ตมา สูง 6 เมตร กว้าง 14 เมตร มันไม่ใช่งานการกุศลที่เข้ามาแล้วจะต้องเจอผ้าดำหรือไฟดาวแบบทั่วไป แต่มันจะเป็นการแสดงที่คุณจะต้องประทับใจ และได้ทำบุญไปด้วย
ป้อม ออโต้บาห์น
เพลง Bee Gees ในดวงใจ?
ทุกคน (ตอบพร้อมกัน) : โอ้โห… มันเยอะมาก (หัวเราะ)
ป้อม : สมัยผมเล่นผับยุคแรกๆ เพลง “Saturday Night Fever” ใครไม่เล่นไม่ได้เลยนะ มีอะไรอีกล่ะ “Staying’ Alive” หรือ “Grease” นี่เป็นเพลงที่โคตรเท่เลย
ป๊อก : พูดถึงเรื่องเพลง เรามีการซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องทั้ง 35 เพลง ซึ่งความสนุกของเรื่องนี้ก็คือ สมมติเราส่งเพลงไปให้พี่มัมเลือก 5 เพลง พี่มัมก็จะเลือกมา แล้วก็มีแถมมาอีกเพลงว่าขอเพลงนี้ได้ไหม ซึ่งมันไม่อยู่ใน 35 เพลงที่เราขอลิขสิทธิ์ไว้ ก็ต้องส่งไปขอใหม่ (หัวเราะ) คือเราอยากให้ทุกคนได้ฟังเพลงที่อยากฟัง ร้องเพลงที่อยากจะร้อง และมีความสุขที่สุด
ป้อม : แต่ถ้าพูดถึงเพลงที่ผมเลือกมาร้องในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ผมเลือก “I’ve Gotta Get a Message to You” ส่วนอีกเพลงผมเลือก “Our Love” ของ Andy Gibb ผมชอบเพลงนี้มาก จนกระทั่งน้องชายเขาเสียชีวิต ผมรู้สึกว่าเขาแต่งให้น้องของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็จะยังอยู่ในใจเสมออะไรประมาณนั้น ผมเลยฝังใจมาก และก็ไม่ได้ร้องมานานเกือบ 20 ปีได้แล้ว
มัม : ร้องเพราะมาก (ลากเสียงยาว) ร้องเพราะกว่า Andy Gibb อีก (หัวเราะ) ส่วนเราเลือกเพลง “My World” และอีกเพลงเป็นเพลงที่ Bee Gees แต่งให้ Celine Dion ชื่อเพลง “Immortality”
มัม ลาโคนิค
ในเมื่อทุกคนมีความผูกพันกับ Bee Gees ความท้าทายในการหยิบเพลงของพวกเขามาร้องอาจจะลดน้อยลงหรือเปล่า?
มัม : ไม่นะ เพลงของ Bee Gees ในยุคแรกอาจจะค่อนข้างร้องง่าย แต่พอผ่านมาเรื่อยๆ Bee Gees ค่อยๆ พัฒนาขึ้นทั้งในเรื่องของดนตรีและเทคนิค นั่นทำให้ร้องยากขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าความยากไม่ใช่อุปสรรคของเรา เพราะเราก็อยู่มาพอๆ กับ Bee Gees (หัวเราะ) เราสู้ตาย เจองานยากยิ่งสนุก
ป้อม : แต่อย่างผมอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก เพราะผมร้องเพลงของ Bee Gees มาตลอด ร้องตั้งแต่เด็ก ไม่มีอะไรก็เปิด Bee Gees ฟัง อัลบั้มที่ผมชอบที่สุดคือ Spirits Having Flown แต่พอจะได้มาร้องบนเวทีใหญ่ๆ แล้วเป็นเพลงของศิลปินระดับโลกด้วย คือผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น แต่อยากทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งที่ผ่านมาผมพยายามจะร้องให้เหมือนเขา แต่โจทย์ครั้งนี้ ป๊อกบอกว่าอยากให้ร้องให้เป็นตัวเอง ความยากที่สุดก็เลยน่าจะเป็นเรื่องนี้ เพราะเพลงของพวกเขามันลงตัวอยู่แล้ว
ป๊อก : หรืออย่างศิลปินท่านอื่นๆ ก็เป็นการทำงานร่วมกันที่สนุก บางคนเราคิดแบบนี้ไปให้ แต่เขาเสนอหรือเสริมมาอีกแบบเพื่อทำให้เพลงสมบูรณ์ขึ้น บางคนขอไม่เอาเลย แต่เปลี่ยนแนวไปเป็นแบบอื่นแทน ซึ่งกลายเป็นว่าดี และสนุกกว่าที่คิดไว้ ที่น่าสนใจมากๆ อีกคนก็น่าจะเป็น คุณเอ็ดเวิร์ด แวนโซ คนนี้ร็อคมาตลอดชีวิต ให้เขามาร้อง Bee Gees เขาร้องไม่ได้ ทำให้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะมาร้องเพลง Bee Gees ในแบบร็อค หรือแม้กระทั่งเด็กๆ ที่ในทุกคอนเสิร์ตของ Classy จะมีพื้นที่ไว้ให้สำหรับพวกเขา ครั้งนี้มีเด็กพิเศษ 9 คนจาก Music Box จากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งร้องเพลงเก่งมากมาร่วมร้องเพลงของ Bee Gees ซึ่งมันไม่ง่ายสำหรับพวกเขาเลย บางคนถอดใจร้องห่มร้องไห้ แต่ท้ายที่สุดก็สู้กันต่อ
ป๊อก-ทวิษย์ชญะ ตั้งสหะรังษี
เหตุผลคนละข้อที่ห้ามพลาดคอนเสิร์ต Care For Each Other: The Night To Remember Bee Gees?
มัม : Bee Gees คือวงดนตรีในตำนาน เพลงส่วนใหญ่ของพวกเขาติดหูและดังทุกเพลง อยากให้มาลองฟังผ่านการถ่ายทอดของศิลปินไทยหลายๆ คน เราเชื่อว่าทุกคนจะไม่ผิดหวัง ที่สำคัญได้บุญกันด้วย ก็ขอให้ผลบุญนั้นตอบแทนทุกคนในชาตินี้ด้วย เพี้ยง! (หัวเราะ)
ป้อม : ถ้าจะให้ผมเปรียบงานเพลงของ Bee Gees เหมือนรถสักคน ผมจะเทียบเขาเป็น Rolls-Royce ทุกคนอยากดู อยากจับสักครั้งในชีวิต ถึงจะไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของก็ตาม Bee Gees ก็เช่นเดียวกัน นี่คือโอกาสที่คุณจะได้ใกล้ชิดที่สุด ได้ความบันเทิง ได้ความรู้ รวมถึงได้เห็นพัฒนาการของดนตรีในแต่ละยุคด้วย
ป๊อก : สุดท้ายเรามองว่า นักฟังเพลงทุกคนล้วนเป็นหนี้นักแต่งเพลง เราเกิดมา ตื่นมา ฟังเพลง เอาไปร้อง เอาไปให้ผู้หญิงฟัง แต่เราไม่ได้ทดแทนบุญคุณเขา นี่คืออีกหนึ่งทางที่เราจะช่วยเขาได้ มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กองทุน Classy for Friends พร้อมกับช่วยเหลือนักแต่งเพลงที่ยากไร้ หรือป่วยเป็นโรคร้าย เน้นหนักที่โรคมะเร็งเลยครับ ประเทศอื่นเขามีกันหมดแล้วครับ แต่ประเทศไทยไม่มี ซึ่งพอกองทุนดังกล่าวเกิดแล้ว การจะทำให้มันอยู่ต่อก็เป็นหน้าที่ของทุกคนต่อไปครับ
คอนเสิร์ต Care For Each Other: The Night To Remember Bee Gees จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา 17.00 น. (ประตูเปิด 16.00 น.) ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พบกับศิลปินมากความสามารถกว่า 20 ชีวิต อาทิ ป้อม ออโต้บาห์น, มัม ลาโคนิค, สุรสีห์ อิทธิกุล, สุชาติ ชวางกูร, ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว, เอ็ดเวิร์ด แวนโซ, ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน, โอ๊ต Street Funk Rollers, 2 is better than 1 และอีกมากมาย บัตรราคา 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 / 1,000 บาท พิเศษ เฉพาะบัตรที่นั่งราคา 3,000 บาท แถมซีดีอัลบั้ม A Cordial Tribute to Bee Gees (รับที่หน้างาน) ซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB : Classy Records
Story by: Chanon B.
Photos by: Classy Records / Getty Images
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ