"Twiceland Zone 2 in Bangkok" 9 สาวคนเดิม เพิ่มเติมคือพัฒนาการที่น่าอัศจรรย์!

หลังจากที่เเจ้งเกิดจากรายการ Survival อย่าง Sixteen เมื่อปี 2015 ทั้ง 9 สาวจากวง Twice ที่นำทีมโดยสมาชิกอย่าง นายอน (Nayeon), จองยอน (Jungyeon), จีฮโย (Jihyo), ดาฮยอน (Dahyun), แชยอง (Chaeyoung), โมโมะ (Momo), ซานะ (Sana), มินะ (Mina) และ จื่อวี (Tzuyu) ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปแถวหน้าของเอเชีย ด้วยผลงานเพลงฮิตอย่าง “Like Ooh-Ahh”, “Cheer Up”, “TT”, “Signal”, “Likey” และอีกหลายบทเพลง ที่ส่งให้พวกเธอโด่งดังทั่วเอเชีย และมียอดขาย 3 มินิอัลบั้มแรก และ อัลบั้มพิเศษรวมกันมากกว่า 1 ล้านก๊อปปี้ ก่อนที่วงจะครบรอบ 2 ปี

 

Twice

 

โดยชาวไทยเองได้มีโอกาสพบกับสมาชิกวง Twice ครั้งแรกในปี 2017 กับ Twice 1st Tour: Twiceland – The Opening in Bangkok ที่ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ไม่เป็นใจอย่างการบาดเจ็บของหัวหน้าวงอย่าง จีฮโย ที่ทำให้เธอต้องนั่งร้องเพลงตลอดการแสดง แต่การแสดงวันนั้นก็สร้างความสุขให้กับผู้ชมและสมาชิกในวงที่ได้เห็นรอยยิ้มของแฟนคลับชาวไทย >> ชมบรรยากาศงาน Twice 1st Tour: Twiceland – The Opening in Bangkok

 

Twice

ภาพจากคอนเสิร์ต Twice 1st Tour: Twiceland – The Opening in Bangkok 

 

ในปี 2018 นี้ Twice ได้กลับมาพร้อมทัวร์คอนเสิร์ต Twice 2nd Tour : Twiceland Zone 2 – Fantasy Park in Bangkok ที่สมาชิกทุกคนได้เดินทางมาสร้างความสุขให้กับแฟนๆ ในวันที่ 18 สิงหาคม ด้วยการดูแลของผู้จัดอย่าง บริษัท 411 เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และเราเองก็ได้เดินทางมาชมการแสดงของพวกเธออีกครั้ง เพื่อที่จะสัมผัสความสนุกจากพวกเธอร่วมกับวันซ์ (แฟนคลับวง Twice) โดยการประกาศจัดคอนเสิร์ตรอบนี้ก็ทำให้เราตกใจพอสมควร เพราะยังรู้สึกเหมือนว่าคอนเสิร์ตครั้งก่อนหน้านี้เหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเอง 

 

Twice

 

การแสดงของวงได้เริ่มขึ้นเมื่อ VTR ได้เผยภาพสมาชิกทั้ง 9 ในลุคที่เหมือนหลุดมาจากเทพนิยายก่อนจะปิดท้ายด้วยฉากที่คนดูได้รับสูจิบัตรการเข้าสวนสนุก Fantasy Park ก่อนที่สาวๆ จะปรากฏตัวบนชิงช้าท่ามกลางฉากหลังที่เป็นภาพท้องฟ้าและก้อนเมฆสีชมพู และร้องเพลง “You in My Heart” เพื่อบอกรักแฟนๆ และต้อนรับทุกคน ซึ่งเมื่อเพลงจบลง เหล่าแดนเซอร์ก็ขึ้นมาเดินพาเหรดและโชว์ลีลาการเต้นแบบเชียร์ลีดเดอร์เพื่อเร้าอารมณ์ผู้ชม และหลังจากนั้นสาวๆ ก็ได้โชว์เพลงฮิตอย่าง “Like OOH-AHH”, “Cheer Up”, “Likey” เพื่อเริ่มต้นความสนุกก่อนที่จะพูดคุยและทักทายกับทุกคน

 

Twice 

 

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตตอนปรากฏตัวก็คือการกลับมาครั้งนี้ สาวๆ ดูโตขึ้นในด้านการแต่งตัว และสมาชิกอย่าง จองยอน และ แชยอง ก็เปลี่ยนเป็นสาวผมยาว จนไม่คุ้นตา โดยทุกคนได้เล่นกับแฟนเพลงอย่างสนุกสนานโดยเฉพาะ ดาฮยอน ที่นำคำชมภาษาไทยมาใช้กับแฟนคลับอย่างวันซ์ และหลังจากที่พูดคุยเสร็จ พวกเธอก็นำเพลงช้าอย่าง “Turtle” และ “Someone Like Me”  มาร้อง ก่อนที่จะตามด้วยเพลง “Stuck” ที่สมาชิกนำไม้เซลฟี่และสมาร์ทโฟนมาถือพร้อมร้องเพลง โดยภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ได้ขึ้นไปอยู่บนมอนิเตอร์ด้วย ซึ่งถือเป็นความพิเศษของวงเวลาแสดง เพราะ Twice เป็นศิลปินกลุ่มที่มักจะเล่นกับคนดู ไม่ว่าจะเป็นการร้องและเต้นที่มาพร้อมการส่งท่าน่ารักๆ หรือการโยนลูกบอลพร้อมลายเซ็นเป็นของขวัญให้แฟนคลับ จนทำให้คนดูรู้สึกสนุก แม้จะไม่รู้จักเพลงที่พวกเธอโชว์อยู่

 

แชยอง

 

จองยอน

จองยอน

 

ความพิเศษของการแสดงของวง Twice ก็คือการที่สมาชิกจะมี Special Stage เพื่อโชว์เพลงของศิลปินอื่น โดยหลังจากที่สมาชิกแสดงเพลง “Signal” ของพวกเธอและ “Valenti” ของศิลปินเคป็อปอย่าง โบอา ไป ดาฮยอน ก็ขึ้นมาโชว์เพลง “Rainism” ของ เรน พร้อมเเปลงเนื้อเป็น Dahyunism ตามชื่อตัวเอง ก่อนที่ โมโมะ, จื่อวี่ และ จีฮโย จะโชว์เพลงสากล “End of Time” ของ Beyonce และถึงคิวที่คู่จิ้นอย่าง จองยอน และ นายอน มาโชว์เพลง “Candy In My Ears” ของ แทคยอน 2PM พร้อมปิดโชว์ด้วยฉากจุ๊บที่เรียกเสียงกรี๊ดถล่มทลาย และปิดท้ายด้วยเพลง “Oppa” ของวง Wax ที่ แชยอง และสองสาวญี่ปุ่นอย่าง มินะ และ ซานะ มาสร้างสีสัน ก่อนที่พวกเธอจะโชว์เพลงฮิตอย่าง “Knock Knock” และมาพูดคุยถึงเบื้องหลังโชว์พิเศษทั้งหมด อย่างเช่น พาร์ทการแสดงของดาฮยอนที่เวทีไม่เป็นใจ หรือความเขินของ นายอน และ จองยอน ที่แสดงด้วยกัน

 

 จองยอน และ นายอน 

 

หลังจากที่โชว์เพลงใหม่ “Sweet Talker” และเพลงฮิต “What is love?” VTR ตัวใหม่ก็ฉายขึ้นมา ซึ่งแฟนๆ ได้เห็นสาวๆ ทั้ง 9 เล่นเกมเพื่อจะได้กลับไปแสดงต่อเหมือนในรายการวาไรตี้ดังของเกาหลีใต้อย่าง Weekly Idol ซึ่งเกมสุดท้าย สาวๆ ได้เปิดโอกาสให้เล่นเกมส่งเสียงเชียร์อีกครั้งผ่าน VTR ให้พวกเธอได้ออกมาแสดงต่อในเพลง “Missing You”, “Only You” และเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยเพลง “Really Really” ของวง Winner ที่เป็นบอยแบนด์จากค่าย YG 

 

 Twice

 

ถึงแม้จะแสดงมาแล้ว 20 เพลง สาวๆ ก็ยังไม่หมดพลัง โชว์เพลง “TT” อีกหนึ่งซิงเกิลที่เป็นเหมือนท่าไม้ตายของวง และเพลงใหม่อย่าง “Heart Shaker” กับ “Dance The Night Away” ที่ปูทางสู่ช่วงอังกอร์ ที่สาวๆ ชวนแฟนเพลงให้เล่นเกมส่งเสียงเชียร์อีกครั้งผ่าน VTR และเมื่อภารกิจสำเร็จ สมาชิกก็ได้มาโชว์เพลง "One in a Million" และ "What is Love?" แบบอะคูสติกที่เกิดขึ้นพร้อมโปรเจกต์จากเหล่าวันซ์ที่มาให้กำลังใจ

 Twice

 

เมื่อสมาชิกทุกคนได้บอกความในใจและบอกรักแฟนๆ เป็นภาษาไทยอีกครั้ง ช่วงท้ายของการอังกอร์ก็เริ่มขึ้น เมื่อสาวๆ ได้ร้องเพลงฮิตและเดินไปขอบคุณแฟนๆ พร้อมรับของฝากจากวันซ์ อย่างพัดที่มาพร้อมรูปตลกๆ ของสมาชิก และทุกคนก็ได้โบกมือลาและส่งแฟนคลับกลับบ้านด้วยความสุข

 

Twice

 

ความประทับใจแรกของคอนเสิร์ตนี้สำหรับผมก็คือ การที่สาวๆ มีพัฒนาการชัดเจนหลายๆ ด้าน นอกจากลุคที่ดูโตขึ้นแล้ว ทุกคนก็มีพัฒนาการด้านการร้องที่แข็งแรงขึ้น จนสามารถโชว์พลังเสียงสูงได้ในเพลงเร็ว รวมไปถึงการเล่นกับคนดู ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้แฟนๆ มีส่วนร่วม หรือการเล่นกับแฟนๆ ช่วงอังกอร์ ไปจนถึงการทำท่าน่ารักๆ ขณะกำลังแสดงบนเวที ก่อนที่จะกลับไปร้องเพลงต่อแบบไม่สะดุด ซึ่งคอนเสิร์ตที่แล้วพวกเธอไม่ค่อยทำตอนแสดง

 

Twice

 

อีกหนึ่งสิ่งที่เราค่อนข้างชอบก็คือการที่ Setlist เรียงออกมาได้ดี มีการสอดเเทรกเพลงฮิตและเพลงในอัลบั้ม จนไม่มีความรู้สึกเดดแอร์ช่วงที่ชมคอนเสิร์ต พร้อมทั้งการเลือกเพลงพิเศษของศิลปินคนอื่นมาร้อง จนทำให้เราอยากเห็นสมาชิก Twice ลองนำเพลงไทยมาร้องเซอร์ไพรส์คนดูบ้างเหมือนกันในคอนเสิร์ตครั้งต่อไป ส่วนทีมงานเบื้องหลังก็สามารถทำฉากออกมาได้เข้ากับธีมเพลง และ ทีมแดนเซอร์ที่โชว์ลีลาการเต้นแบบเชียร์ลีดเดอร์กึ่งกายกรรมก็สามารถทำให้การเริ่มต้นโชว์ดูตื่นตา และ สามารถเสริมการแสดงในพาร์ทอื่นได้ดีเช่นกัน

 

Twice 

 

การเติบโตของวง Twice ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามองมาก เพราะตอนนี้พวกเธอก็ได้ทำลายสถิติใหม่ๆ ในวงการเพลง และ กวาดรายได้จากงานด้านอื่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราเองก็หวังว่าวันหนึ่งพวกเธอจะได้มีเวิลด์ทัวร์ที่เปิดโอกาสให้ 9 สาวได้ออกไปสร้างความสุขนอกเอเชียและกลับมาหาชาวไทยอีกครั้ง

ขอบคุณภาพจาก บริษัท 411 เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

Story : Sidhipong W.

>> Twice กลับมาส่ง “Signal” ให้แฟนๆ พร้อมท่าเต้นสุดฮิต

>> Twice คัมแบ็คพร้อมลุคน่ารักสดใสริมทะเลใน "Dance The Night Away"