“getsunova” กับ “บทพิสูจน์ในตัวเอง” ที่ยังต้องก้าวต่อไปให้ถึงจุดหมาย

จากเด็กหนุ่ม 4 คนที่สร้างสรรค์ดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อคในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วอาจเรียกพวกเขาว่าเป็นวงอินดี้วงหนึ่งที่มีพื้นที่และเวทีอยู่เพียงแค่วงการดนตรีนอกกระแส กับเพลงอย่าง “กล่อม” หรือ “เศษส่วน” ที่มีกลิ่นอายดนตรีในฟากฝั่งอังกฤษอยู่ไม่น้อย

ชื่อของพวกเขาคือ … getsunova

แต่มาจนถึงทุกวันนี้ 4 สมาชิกอย่าง เนม-ปราการ ไรวา (ร้องนำ), นาฑี โอสถานุเคราะห์ (กีตาร์), นต-ปณต คุณประเสริฐ (กีตาร์, ซินธิไซเซอร์) และ ไปร์ท-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ (กลอง) ได้กลายมาเป็นเจ้าของบทเพลงที่มียอดวิวเกินหลักร้อยล้านไม่รู้กี่เพลงต่อกี่เพลง แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเพลง “ไกลแค่ไหน คือ ใกล้”, “คำถามซึ่งไร้คนตอบ”, “อยู่ตรงนี้ นานกว่านี้” หรือ “คนไม่จำเป็น” กับการเปลี่ยนแนวทางมายึดมั่นในความเป็นป็อป ที่เพิ่มเติมสีสันอื่นๆ ลงไปอย่างนุ่มนวล และลงตัว จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว getsunova ก็มีอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตเสียที รวมถึงปีนี้ที่ต่อยอดความสำเร็จกลายมาเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในชื่อ getsunova Concert Atmosphere ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม หรือในวันพรุ่งนี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่เกิดขึ้นยังคงไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์อะไรบางอย่างในฐานะศิลปิน ใช่แล้ว getsunova คิดเช่นนั้น…

 Getsunova

getsunova

 

getsunova อยู่ในวงการเพลงเมืองไทยมาร่วม 10 ปี แต่เพิ่งจะมีอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตอย่าง The First Album เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในปีนี้ คิดว่ามันเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปไหมสำหรับวงดนตรีสักวง?

นต : สำหรับอัลบั้มผมว่านานไปนะ (หัวเราะ) แต่สำหรับการที่วงดนตรีสักวงจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ ผมว่า 10 ปีไม่นานไปนะ เผลอๆ อาจจะเรียกว่ากำลังพอดีด้วยซ้ำ สำหรับพวกเรา คำว่าคอนเสิร์ตใหญ่ มันต้องเป็นคอนเสิร์ตที่ศักยภาพพร้อมแล้วจริงๆ ไม่ได้จะจัดเพราะว่า เฮ้ย เขามีเพลงดังแล้ว 3 เพลง 5 เพลง ดังแล้ว พร้อมสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่แล้ว สำหรับ getsunova ผมว่าไม่ใช่แค่นั้น มันน่าจะเป็นเรื่องของการที่พวกเราไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตั้งแต่เวทีเล็ก กลาง ใหญ่ ต่างประเทศ เฟสติวัลตามที่ต่างๆ มาหลายรอบแล้ว จนมันรู้แล้วว่า ถ้าเรามีคอนเสิร์ตใหญ่จริงๆ เราจะโชว์อะไร หรืออะไรคือการโชว์ในแบบของวงเราจริงๆ หรือมีความเป็นตัวตนที่แท้จริง ตอนนี้เราสามารถพูดได้เต็มปากว่า เวทีเราเจอมาหมดแล้ว วิธีการโชว์เราก็ลองและปรับมาหลายรูปแบบ พร้อมจะทำคอนเสิร์ตใหญ่ที่เป็นไอเดียของเราจริงๆ

เนม : อีกอย่างคือ ตอนนี้เรามีเพลงของเราเองพอที่จะมีโชว์ใหญ่ได้โดยที่ไม่ต้องเล่นเพลงของคนอื่น มีไอเดียที่อยากจะทำให้มันเกิดขึ้น แล้วก็มีแรงซัพพอร์ตที่จะทำให้ไอเดียพวกนั้นมันเกิดขึ้นได้จริง

ชื่อคอนเสิร์ตในครั้งนี้คือ getsunova Concert Atmosphere อยากรู้ว่าคนดูจะได้สัมผัสกับ “บรรยากาศ” แบบไหนบ้าง?

นต : วิธีการของเราเป็นการเล่าเรื่องครับ getsunova คือดวงจันทร์ใช่ไหมครับ เราอยากจะพาคนดูลอยขึ้นไปจากพื้นโลก ผ่านชั้นบรรยากาศไปเรื่อยๆ ซึ่งชั้นบรรยากาศจะเปลี่ยนไปตามบทเพลงของเรา อาจจะตื่นเต้นก่อนที่กระโดดขึ้นไปจากโลกได้ พอถึงชั้นหนึ่งอาจจะเต็มไปด้วยความเวิ้งว้าง เหงาๆ ลอยๆ นิ่งๆ เศร้าๆ หรือจู่ๆ อาจจะเจอกับพายุดวงดาว หลุมดำวูบวาบ หรืออาจผุดเข้าไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง แล้วพอไปถึงดวงจันทร์ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด ว่าดวงจันทร์ในรูปแบบของ getsunova ที่เราวาดไว้ ดีไซน์ไว้มันเป็นอย่างไร

โปสเตอร์คอนเสิร์ต Getsunova Concert Atmosphere

โปสเตอร์คอนเสิร์ต getsunova Concert Atmosphere

 

จำได้ไหมว่า “ไกลแค่ไหน คือ ใกล้” ในรูปแบบ Audio ปล่อยในวันที่ 23 สิงหาคม 2555 และในวันที่ 25 สิงหาคม 2561 พวกคุณกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ การเดินทางตลอด 6 ปีที่ผ่านมา getsunova ได้เรียนรู้อะไรบ้าง?

นาฑี : เรียนรู้ว่า ไม่ต้องเปิดหน้าก็เล่นดนตรีได้

นต : แหม คิดซะนานเลย (หัวเราะ) เราเรียนรู้อะไรกันเหรอ … ผมว่าเราเรียนรู้ในแง่ของเทคโนโลยีนะ เหมือนเมื่อก่อนจะปล่อยเพลงก็คือปล่อย แต่หลังจาก “ไกลแค่ไหน คือ ใกล้” เราเริ่มรู้จักเรื่องยอดวิวในยูทูป ต่อมาเราก็รู้ว่า จำนวนที่เราเคยได้เมื่อก่อนนั้นไม่ได้ถือว่าดีในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาแล้วนะ เราก็ต้องพยายามทำให้มันดีขึ้น หลังๆ ก็เริ่มมีแพลตฟอร์มอื่นๆ สตรีมมิ่ง ทีนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องของการทำเอ็มวีเพื่อลงบนยูทูปอย่างเดียว เราต้องหาว่าเราจะอยู่กับกลุ่มคนฟังกลุ่มไหนบ้าง หรือคนไหนเป็นทาร์เก็ตของเรา เราก็ต้องพยายามเกาะให้ถูก เรื่องความดังของเพลงในสตรีมมิ่ง คีย์ไหนเขาใช้ต่อกัน มันเป็นเรื่องของรายละเอียดที่เราไม่ได้เรียนรู้ในตอนแรก แล้วมันเป็นเรื่องราวที่เปลี่ยนวงการดนตรีค่อนข้างเยอะ

ไปร์ท : ผมได้เรียนรู้ว่า คำว่าร็อคสตาร์ไม่มีจริง คือจากเด็กคนหนึ่งที่เมื่อก่อนเรารู้สึกว่า นักดนตรีหรือศิลปินเขาคงสบายเนอะ คงมีทุกอย่าง แล้วพอมาเจอจริงๆ ผมว่าชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราเคยเห็น มันมีอะไรที่ต้องข้ามไป ต้องเผชิญหน้ากับอะไรอีกเยอะที่ต้องฝ่าฟันมา อีกอย่างหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือ เราหยุดนิ่งไม่ได้ ยิ่งยุคสมัยนี้ที่โซเชียลมันเร็ว ทุกอย่างมันฉาบฉวย มาเร็วไปเร็วมาก อย่างที่เห็นกัน หลายๆ เพลงดังมา แต่ผ่านไปปีหนึ่งก็เงียบหายไปเลย มันก็สามารถร่วงลงมาได้เหมือนกัน

เนม : ผมรู้สึกว่ามันต้องใช้ความอดทนสูงมากๆ กับสถานการณ์หรือโจทย์ต่างๆ ที่เราต้องเจอในการทำงานในวงการนี้ ความกดดันเยอะ แต่ว่าไอ้ความกดดันมันเป็นอะไรที่เราต้องชินกับมัน การวางตัวให้อยู่ได้นานๆ คือเราต้องเป็นคนที่มีวินัยระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ทุกครั้งที่เราแสดงสด เราต้องลืมความเหนื่อยแล้วขึ้นไปแสดงให้เต็มที่ทุกครั้ง ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อคนที่เขาตั้งใจมาดูเรา ในแต่ละวันฟอร์มเราต้องไม่ดร็อป ในทุกๆ โชว์ที่เราเล่นต้องทำอะไรใหม่ๆ เสมอ คือ getsunova มีเพลงเยอะแล้วก็จริง แต่เราจะหยุดนิ่งกับสไตล์ที่เราเป็นอยู่ตั้งแต่แรกไม่ได้ เราต้องมีวิวัฒนาการ ต้องหาอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นความสนใจให้กับวงเราให้ได้ คล้ายๆ กับการรีแบรนด์ตัวเองไปเรื่อยๆ

นต-ปณต คุณประเสริฐ

นต-ปณต คุณประเสริฐ

 

ซึ่งเราก็สัมผัสได้จากซิงเกิลก่อนหน้านี้อย่าง “รู้ดีว่าไม่ดี” และ “ความเงียบดังที่สุด” ที่เพลงป็อปของ getsunova มีสีสันจากเสียงสังเคราะห์เข้ามาผสมค่อนข้างมาก?

นต : ก็มีส่วนครับ ผมว่ามันคือความโมเดิร์นของยุคสมัย พวกเราเป็นนักดนตรีที่ฟังเพลงใหม่อยู่ตลอดเวลา เรารู้สึกว่าการได้ใส่อะไรใหม่ๆ เข้าไปคือความสนุกของเราด้วย ถ้ามีอะไรใหม่ออกมาอีกเราก็คงพยายามหาวิธีใส่เข้าไปในรากฐานที่มีความเป็นตัวตนของเรานี่แหละ ซึ่งมันก็ไม่ได้ยาก เพราะรากฐานของ getsunova นั้นเป็นวงที่มีการผสมผสานอะไรต่างๆ มาแต่ไหนแต่ไรอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว กลับกลายเป็นว่าเวลาพวกเราทำอะไรเดิมๆ แล้วมันน่าเบื่อ (หัวเราะ) อย่างเวลาเราทำเทคนิคกีตาร์ขึ้นมาแบบหนึ่ง เฮ้ย ตื่นเต้นจังเลย ดีใจจังเลย มันคือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรายังอยากทำต่อไปเรื่อยๆ มากกว่าที่เราจะรู้สึกว่า เราทำแบบเดิมได้อีกแล้ว

getsunova เป็นวงดนตรีเจ้าของยอดวิวหลักร้อยล้าน หรือมากกว่านั้นหลายต่อหลายเพลง พวกคุณคิดว่ายอดวิวคือมาตรวัดความสำเร็จของศิลปินไหม?

นต : คือทุกวันนี้วัดจากยูทูปอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังยูทูป ตอนนี้มี JOOX หรือสตรีมมิ่งอื่นๆ อีกมากมายหลายแพลตฟอร์ม ผมว่าต้องดูโดยรวมมากกว่า ถ้ามีคนเดินมาบอกว่า getsunova มีเพลงร้อยล้านวิวแล้วเราประสบความสำเร็จ ก็อาจจะใช่ แต่ผมว่าอาจจะไม่ใช่ทุกอย่าง ผมคงเลือกที่จะมีเพลงที่ทุกคนร้องตามได้ มากกว่าเพลงร้อยล้านวิวที่มีแค่คนบางกลุ่มร้องได้

ไปร์ท : มาตรวัดมันคงเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ถ้าสัก 3-4 ปีที่แล้ว ยอดวิวอาจจะนำมาวัดความสำเร็จได้ เพราะ ณ เวลานั้นยังไม่มีช่องทางอื่นมาแบ่งหรือแย่งเรื่องการตลาด ก็เหมือนย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว ถ้าเพลงขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตวิทยุนั่นคือดัง แต่พอเวลาผ่านไปคนก็มาดูยูทูปมากกว่าฟังวิทยุ ในอนาคตผมเชื่อว่าเดี๋ยวมันก็เปลี่ยนอีก ต้องมารอดูว่าอะไรจะกลายมาเป็นมาตรวัดความสำเร็จต่อไป แต่ผมว่าสิ่งหนึ่งที่สามารถวัดได้เลยก็คือ การได้ออกไปเล่นดนตรีทั้งประเทศนี่แหละ จะได้รู้กันจริงๆ ไปเลยว่าคนฟังจริงหรือเปล่า รู้จักเราจริงไหม บางพื้นที่อาจจะชอบเรา แต่อีกภาคอาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ เคยเจอมาแล้ว (หัวเราะ)

นต : การที่เราทำเพลงออกไปแล้วคนมาดูเรา แล้วก็มาร้องเพลงนั้นกับเรา มันแค่นั้นเลย สิ่งที่ดีที่สุดคือการได้เห็นเขากลับมาร้องให้เราฟัง มาร้องด้วยกันมากกว่า

ไปร์ท-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์

ไปร์ท-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ 

 

คิดว่า getsunova ประสบความสำเร็จหรือยัง?

เนม : จะมองว่าประสบความสำเร็จก็ได้ แต่มันก็มีวันที่รู้สึกว่า เอ๊ะทำไมมันไม่เป้นอย่างที่เราคิด คือบางสถานที่เรารู้สึกว่าเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจมาดูเรา หรือทำไมเขาไม่ร้องตาม ก็รู้สึกนะว่าเพลงเราก็มีคนฟังเยอะ แต่ทำไมคนไม่ร้องตาม ไม่ชอบเพลงเราเหรอ คือถ้าความคิดของคนภายนอกที่มองเข้ามา ก็คงคิดว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว สบายแล้ว ส่วนตัวก็รู้สึกแหละว่าเรามาไกลเกินความคาดหมายของเราไปเยอะมากๆ แล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีอะไรที่เราประสบผลสำเร็จได้อีก มันก็ยังมีอะไรให้เราต้องก้าวข้ามไปเรื่อยๆ อยู่ตลอดแหละครับ

ในมุมมองส่วนตัวของแต่ละคน คิดว่าสามารถพิสูจน์ตัวเองในการเป็นศิลปิน นักดนตรี หรือนักร้องได้ในระดับที่ตนเองพอใจแล้วหรือยัง?

นต : ก็ยังไม่พอใจนะ ทั้งของตัวเองและในส่วนของวงผมว่าก็ยังมีบทพิสูจน์ให้ต้องทำอีกหลายอย่าง คือเพลงของ getsunova มันค่อนข้างพิสูจน์ได้แล้วว่ามันดังจริง แต่โดยส่วนตัวมันยังรู้สึกไม่สุด ยังไม่มีคนเดินมาบอกว่าพี่ไปร์ทเป็นที่สุดของมือกลองของเมืองไทย แต่ถ้าสุดท้ายมีคนเดินมาแล้วเห็นเราเป็นเทพทางด้านดนตรี ผมว่าอย่างนั้นมันคือที่สุดในแง่ของวง ตอนนี้ขอเป็นวงรุ่นใหม่กำลังมา กำลังน่าจับตามองแล้วกัน แต่ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักดนตรีในแต่ละตำแหน่ง ก็ต้องเป็นส่วนที่เราต้องฝึกฝนกันต่อไป

เนม-ปราการ ไรวา

เนม-ปราการ ไรวา

 

ไปร์ท : ยังเลยครับ ถามว่ามันมีวันที่พอใจไหม มันก็มีบ้าง แต่การที่ทำอย่างไรให้ทุกๆ วันที่ขึ้นไปเล่นตรงนั้น มันได้ตามมาตรฐานเหมือนกันทุกวัน นั่นแหละยาก แล้วผมรู้สึกว่ามันต้องใช้เวลาฝึกฝน เก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกเยอะมาก มันคือสิ่งที่ผมพยายามถามพี่ๆ ในวงการหลายคนว่าทำอย่างไร เพราะว่าเราคือมนุษย์ มีวันขึ้น มีวันลง แต่คำว่ามืออาชีพมันต้องทำให้มาตรฐานคงเดิมได้ทุกวัน มันยากมากนะ

นาฑี : อย่างในมุมของตัวเอง นาฑีไม่ได้สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร สำหรับตัวเองก็รู้สึกว่าโอเคนะ เพราะเราไม่ได้คิดว่าจะเล่นดนตรีมานานขนาดนี้ แล้วเราก็แฮปปี้กับตัวเอง เพราะเราไม่เคยสนใจว่าเราจะต้องเก่งอะไรอย่างนั้น

นาฑี โอสถานุเคราะห์

นาฑี โอสถานุเคราะห์

 

เนม : ผมก็ยังไม่เคยคิดว่าอยากจะเป็นนักร้องที่เก่งที่สุดในประเทศไทย ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าอยากเป็นนักร้องที่ร้องเพลงเพราะด้วยซ้ำ ผมแค่คิดว่า อยากจะเป็นของผมแบบนี้ ใครจะรับอะไรจากสิ่งที่ผมเป็นก็เชิญรับไป ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเก่งที่สุด เพราะผมไม่ได้อยากจะเก่งที่สุด แต่ผมอยากเป็นนักร้องหรือศิลปินในแบบที่ผมเป็นแล้วเป็นที่จดจำ  เป็นนักร้องในประเทศไทยที่ไม่มีใครเหมือน และก็จะไม่มีใครเหมือนอีก ถ้าถามว่าแค่นั้นผมสำเร็จหรือยังในชีวิตนี้ ผมก็รู้สึกว่าสำเร็จแล้วนะ ผมรู้สึกว่า getsunova และเพื่อนๆ ในวงจะไม่มีใครเหมือนไปตลอดชีวิตของทุกชีวิตที่จะเกิดขึ้น เพราะเราได้สร้าง brand identity ที่ชัดเจนมากๆ แล้ว แล้วมันจะไม่มีการเปรียบเทียบเกิดขึ้น หมายถึงมันจะไม่มีวงอะไรที่ใกล้เคียงวงเรา และผมก็เชื่อว่าต่อให้อีกกี่ปี ก็จะไม่มีวงดนตรีวงไหนที่องค์ประกอบเป็นแบบนี้ มือกลอง มือกีตาร์ 2 คน คนหนึ่งใส่หน้ากาก มันไม่มีแล้ว แต่ถามว่าอยากเก่งไหม อยากเป็นมืออาชีพขึ้นไหม มันอยากอยู่แล้ว อยากจะเก่งขึ้นในทุกครั้งที่ขึ้นเวทีไป ทั้งในด้านการแสดงและการเอนเตอร์เทน แต่มันก็แล้วแต่สถานการณ์หรือเป้าหมายในแต่ละโชว์ สมมติวันหนึ่งวงเราต้องไปโชว์มิวสิคัล เราก็ต้องทำมันให้ได้ งานนี้ให้เราเล่นลูกทุ่ง เราก็ต้องทำให้ได้

ไปร์ท : จะทำเหรอ?

เนม : ไม่ทำ

ทุกคน : (หัวเราะ)

 

โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับ Chang Music Connection presents getsunova Concert Atmosphere คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง getsunova ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2561 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ยังคงหาจับจองบัตรกันได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา แล้วไปร่วมกระโดดออกจากพื้นโลกสู่ดวงจันทร์ไปพร้อมๆ กับพวกเขาทั้ง 4 คนกัน และสามารถฝึกร้องเพลงทุกเพลงฮิตของ getsunova ได้จากเพลย์ลิสต์ด้านล่างนี้ได้เลย

 

Story by : Chanon B.
Photos by : Thanapol W.