ต้องมนต์สะกดแบบถอนตัวไม่ขึ้นกับคอนเสิร์ต “The DEVI of DARKNESS” โดย “ริค วชิรปิลันธิ์” | Sanook Music

ต้องมนต์สะกดแบบถอนตัวไม่ขึ้นกับคอนเสิร์ต “The DEVI of DARKNESS” โดย “ริค วชิรปิลันธิ์”

ต้องมนต์สะกดแบบถอนตัวไม่ขึ้นกับคอนเสิร์ต “The DEVI of DARKNESS” โดย “ริค วชิรปิลันธิ์”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่จัดเต็มและจัดหนักด้วยโปรดักชั่นและพลังการแสดงอย่างล้นเหลือ และล้นหลามออกมาสู่คนดูจนทะลักทะลุเข้าสู่ความทรงจำและจิตใจอย่างผนึกแน่นเลยทีเดียว คอนเสิร์ต The DEVI of DARKNESS ของ ริค วชิรปิลันธิ์ หรือ วชิรปิลันธิ์ โชคเจริญรัตน์ ซึ่งมีชื่อภาษาไทยที่ครอบรวมความหมายของมิตรภาพทางดนตรีในชื่อว่า “เทวีรัตติกาล กับเหล่าบุรุษอหังการของสุกี้” และว่ากันว่านี่เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเธอ คนที่มาชมคอนเสิร์ตของ ริค ในคราครั้งนี้ ย่อมเป็นแฟนพันธุ์แท้และแฟนพันธุ์ทางที่ชื่นชมและนิยมชมชอบผลงานของเธอเป็นหลักใหญ่  ซึ่งเห็นได้ถึงความตั้งใจมุ่งหน้าฝ่าการจราจรในวันสารทจีนที่ติดหนึบหนับทุกสายทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงสายฝนที่โหมกระหน่ำอย่างมิลืมหูลืมตา

บทเพลงแรกที่โหมลำนำเห่กล่อมขึ้นมาและสะกดคนดูในโรงละคร ULTRA ARENA หรือ องค์บากฮอลล์ SHOW DC นั่นคือ กุหลาบฟาร์ซี” และก็ร่ายยาวด้วยพลังของฮาร์ดร็อค เวิลด์บีตภารตะของเธออย่างเต็มเปี่ยมด้วยพลังและความรู้สึก นำไปสู่แขกรับเชิญคนแรกผู้เป็นแรงบันดาลใจและพลังขับเคลื่อนทางดนตรีและชีวิตในโสตหนึ่งของเธอ ปฐมพร ปฐมพร หรือ พี่พราย ของ ริค วชิรปิลันธิ์ ที่มาพร้อมกับมือกีตาร์ของวง Moderndog อย่าง เมธี น้อยจินดา ในส่วนนี้จะเห็นวิธีการขับร้องและตีความในบทเพลง ปีศาจ” ของพราย ในสไตล์ของริค ที่สร้างความน่าสะพรึงในบรรยากาศของตัวเพลงได้อย่างคมเข้ม โดยไม่สูญเสียพลังของเพลงในต้นฉบับดั้งเดิม และมีเสน่ห์ไปในอีกแนวทางหนึ่งอย่างน่าชื่นชม

พราย-ปฐมพร ปฐมพร

พราย-ปฐมพร ปฐมพร

 

อย่างที่ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการแสดงตัวตนผ่านเสียงเพื่อเชื่อมต่อกับดนตรีอันเป็นพาหะนำไปสู่ผู้ชม รวมถึงการเชื่อมมิตรภาพทางดนตรีกับเพื่อนฝูงที่ผูกพันกันมาในค่ายเพลงเบเกอรี่ มิวสิค ซึ่งจะเห็นถึงสายใยและความสัมพันธ์ที่มิอาจกลั่นออกมาเป็นถ้อยคำ แต่การแสดงบนเวทีสามารถเชื่อมโยงเอาอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นมาพบบรรจบกัน ได้ส่งสารสื่อไปถึงผู้ชมอย่างเปี่ยมหัวใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึง โจ้ วง Pause หรือ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้วางวาย ในช่วงที่ เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ มือกีตาร์วง Pause มาเป็นแขกรับเชิญ ริคกล่าวถึงโจ้อย่างลึกซึ้งว่า "ความตายคือการเกิดที่ไม่แตกต่างกัน" หลังหลั่งไหลความรู้สึกในการขับร้องบทเพลง รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” ซึ่งเป็นเพลงฮิตของวง Pause บทเพลงในสไตล์ริคที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวในการขับร้องผ่านดนตรีฮาร์ดร็อค เวิลด์บีตภารตะ จะได้เห็นถึงการดีไซน์เสียงที่ข้ามพ้นพรมแดนของภาษาเน้นถึงผัสสะของใจสู่ใจ เพียงแค่มีเสียงเป็นพาหะในการเชื่อมโยงต่อกัน ไม่ว่าตัวของริคเอง กับทีมดนตรี แขกรับเชิญ และนำพลังที่ผนึกแน่นเหล่านั้นลงไปสู่คนดู รวมถึงการใช้ฉากหลังที่แสดงถึงความเป็นนีโอ-ไซคีเดลิก หรือการเลือกเหตุการณ์ต่างๆ รูปเคารพที่เกี่ยวข้องส่งสารจากตัวเพลงของเธอให้ฟุ้งกำจายพุ่งดิ่งออกมา

เอ้ วง Pause (ซ้าย)

(ซ้าย) เอ้ วง Pause

 

บทเพลงอย่าง ติชิลา”, เดวี”, คุรุ ปางอุ้มบาตร”คืนร้อยมาร” ฯลฯ บ่งชี้และบอกถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่ลึกล้ำดำดิ่งตรงนั้นได้เป็นอย่างดี การให้ความสำคัญกับเสียงที่ข้ามพ้นสิ่งที่เรียกว่า ภาษา เห็นได้ชัดในช่วงที่ น้อย วงพรู หรือ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ มาเป็นแขกเชิญ และต่อเนื่องถึง ป๊อด Moderndog หรือ ธนชัย อุชชิน ที่พยายามให้ด้นสดเอาพลังและอารมณ์ความรู้สึกของเสียงจากหัวใจโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนคิดของสมองออกมา และพยายามเล่นกับคนดูให้รับถึงผัสสะตรงนี้

(ขวา) น้อย วงพรู

(ขวา) น้อย วงพรู

 

ป๊อด Moderndog

ป๊อด Moderndog

 

แขกรับเชิญอีกสองรายคือ คิว วง Flure หรือ สุวีระ บุญรอด ที่มาขับขานและเปล่งพลังทางเสียงประชันกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และ สุกี้-กมล สุโกศล แคลปป์ ในฐานะมือกีตาร์ที่ถูกรับเชิญมาเล่น ได้แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อทางดนตรีที่มีความผูกพันในความเคารพนับถือระหว่างศิลปินต่อศิลปินในการรังสรรค์งานออกมา รวมถึงสายใยสายใจระหว่างแม่กับลูกสาว ริค กับ ฬาเม การแสดงที่น่าสนใจอีกสองอย่างที่อยู่ในจักษุของผู้ชมคือ การเต้นภารตานาฏยัม โดย MASA กับการแสดงชุดดาบรัสเซีย DARK UTOPIA นับเป็นรสชาติที่หาได้ยากในคอนเสิร์ตอย่างแน่นอน และแสดงถึงความงามของสุนทรียะที่เรียกว่าการเต้นรำบนโลกใบนี้

ในช่วงท้ายกับการร่ำลาผ่านบทเพลงของ Moderndog ที่มีการดูเอ็ตระหว่าง ป๊อด กับ ริค โดยมี สุกี้ และ เมธี เล่นกีตาร์ในแบบอะคูสติก เป็นความน่าประทับใจที่ส่งท้ายอย่างธรรมดา ทว่ามีอะไรให้รู้สึกมากกว่าที่เห็นของสายสัมพันธ์กว่าสองทศวรรษของคนดนตรีเหล่านี้ กับบัตรชมคอนเสิร์ตที่วางขายเพียง 1,000 ใบ จะเห็นได้ถึงความเป็นคนดนตรีอิสระที่เดินตามความเชื่อมั่นและความบริสุทธิ์ของดนตรีและเสียงที่สื่อสารต่อกัน รวมถึงการนำตัวตนห้วงลึกภายในของตัวเองมาแบ่งปันให้สัมผัสรู้สึกกันระหว่างตัวเธอและผู้ชม

(จากซ้าย) เมธี น้อยจินดา, สุกี้ และ ป๊อด Moderndog

(จากซ้าย) เมธี น้อยจินดา, สุกี้ และ ป๊อด Moderndog

 

นี่คือพลังทางดนตรี นี่คือพลังของเสียง และนี่คือ ริค วิชิรปิลันธิ์ ที่เป็นหนึ่งเดียวแบบเธอเอง

ฟังเพลงของ ริค วชิรปิลันธิ์ ต่อได้ที่นี่

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ ต้องมนต์สะกดแบบถอนตัวไม่ขึ้นกับคอนเสิร์ต “The DEVI of DARKNESS” โดย “ริค วชิรปิลันธิ์”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook