"Dua Lipa Live in Bangkok" การแสดงที่แฝงข้อความทรงพลัง ของดาวดวงใหม่ในโลกดนตรี
ณ เวลานี้ Dua Lipa ถือเป็นศิลปินหญิงที่ได้รับการพูดถึงอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีลุคที่สวยเก๋แล้ว เธอยังมีความสามารถในการร้องและเต้นที่ทรงพลัง รวมถึงการเขียนเพลงที่มาพร้อมเรื่องราวที่เล่ามุมมองในแบบคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังแบบเธอ
ผลงานอัลบั้มแรกของ Dua Lipa ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2017 มาพร้อมความสำเร็จน่าทึ่งมากมาย อย่างเช่นผลงานเพลง “New Rules” ที่ขึ้นอันดับ 1 UK Chart และมาติดอันดับ TOP 10 ชาร์ต Billboard Hot 100 ทางฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ส่วนตัวอัลบั้มเองก็มียอดขายทะลุหลักล้านหลังวางขายไม่นาน จนทำให้เธอมีโอกาสได้เดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก และล่าสุดทางผู้จัดอย่าง BEC Tero เองก็ได้ร่วมมือกับ Live Nation ในการจัดคอนเสิร์ต Dua Lipa Live in Bangkok ขึ้นมา ซึ่งในเมืองไทยนั้น ผลงานเพลงของเธอก็ได้รับความนิยมมากจนเพลง “New Rules” เคยติดอันดับ 1 ชาร์ต Top 50 International ของ JOOX Music Application มาแล้ว >> Dua Lipa Live in Bangkok 2018 เจอกัน 17 ก.ย. นี้
ในวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เราได้มาถึงบริเวณที่จัดคอนเสิร์ตช่วงทุ่มตรงที่ GMM Live House ที่ตั้งอยู่ในห้าง Central World ซึ่งแฟนเพลงของ Dua Lipa จำนวนมากได้มารอเพื่อจะเข้าพื้นที่แสดงคอนเสิร์ต โดยสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือ แฟนๆ ของเธอนั้นมีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กมัธยมที่บางคนก็มาชมคอนเสิร์ตในเครื่องแบบนักเรียนไปจนถึงผู้ใหญ่วัยทำงานที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Dua Lipa เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ หลายช่วงอายุและไม่ได้จำกัดแค่วัยรุ่นอย่างเดียว
เมื่อถึงเวลา 2 ทุ่ม 10 นาที เสียงของ Dua ก็ดังขึ้นมาและตามด้วยภาพเงาของเธอ ซึ่งเสียงดังกล่าวได้บอกให้แฟนเพลงของเธอปลดปล่อยความเป็นตัวเองและสนุกกับการแสดงครั้งนี้แบบเต็มที่ ก่อนที่ฉากดังกล่าวจะหายไปและ Dua ตัวจริงรวมถึงทีมนักดนตรีแบ็คอัพก็ปรากฏตัว และโชว์เพลง “Blow Your Mind (Mwah)" เพื่อทักทายแฟนๆ ก่อนจะตามด้วยเพลงสนุกๆ อย่าง “Dreams / No Lie”, “My Love” ของ Wale “Lost in Your Light”, “High” ก่อนจะค่อยๆ ปรับลดความแซ่บลงด้วยการโชว์เพลงรักอย่าง “Garden”, “Last Dance” และ “Be the One”
ถึงแม้ว่าซาวด์เบสในการแสดงช่วงแรกจะดังไปบ้าง แต่เราก็ประทับใจการแสดงสดของ Dua มาก เพราะเธอถือเป็นนักร้องที่ร้องสดได้ดีมากคนหนึ่ง และยังสามารถเต้นและถ่ายทอดอารมณ์เพลงผ่านท่วงท่าต่างๆ ได้ดีถึงแม้จะมีรูปร่างที่ผอมสูงตามสไตล์นางแบบ จนทำให้เรารู้สึกทึ่งกับความสามารถเธอ
ช่วงกลางของคอนเสิร์ต Dua ได้ชักชวนมือกีตาร์ให้มาโชว์เพลงอะคูสติก “Thinking 'Bout You” และ “New Love” ซึ่งมาพร้อมการเปิดไฟแฟลชของแฟนเพลง ก่อนที่จะพาความสนุกกลับมาสู่เวทีด้วยเพลง “One Kiss” ที่เธอร่วมงานกับดีเจอย่าง Calvin Harris และเรียกเสียงกรี๊ดด้วยการโชว์เพลง “Scared To Be Lonely” ของดีเจ Martin Garrix ที่เธอร่วมฟีทเจอริ่ง โดยเพลงนี้ถือเป็นซิงเกิลที่ทำให้หลายคนรู้จักเธอเป็นครั้งแรก
เมื่อความสนุกได้ผ่านไป Dua ก็ได้กลับมาพร้อมโชว์เพลง “Homesick” ที่พูดถึงความคิดถึง ก่อนตามด้วยเพลง “No Goodbye” เพื่อเตรียมเข้าสู่พาร์ทความสนุกจากเพลง “Hotter Than Hell” และ “Begging” ก่อนที่เธอและวงจะลงจากเวทีเพื่อเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของช่วงอังกอร์
ในพาร์ท อังกอร์ ได้เริ่มต้นด้วยคำเตือนของ Dua และทีมงานว่าเพลงที่กำลังเล่นมีเนื้อหาที่ค่อนข้างแรง แต่เธอก็อยากให้ทุกคนที่เจอประสบการณ์ความรักแย่ๆ ให้ชูนิ้วกลางขึ้นมาเพื่อแทนความรู้สึกช่างมัน ก่อนที่เพลง "IDGAF" จะเล่นขึ้นมาและตามด้วยเพลง “New Rules” เพื่อส่งแฟนๆ กลับบ้าน ก่อนที่เธอจะขอบคุณแฟนๆ ที่สร้างความทรงจำกับเธอในวันนี้ โดยตลอดเวลา 2 ชั่วโมงนั้น Dua และทีมงานได้มาพร้อมการแสดงที่สนุกจนทำให้เราลืมเวลา จนเราต้องอุทานว่า "ทำไมเวลาผ่านไปไวจัง" เมื่อมองดูนาฬิกาตอนเดินออกจาก GMM Live House
การปรากฏตัวของ Dua Lipa ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า นอกจากความสวยและความสามารถในการทำเพลงแล้ว เธอยังมีอินเนอร์ในการแสดงและถ่ายทอดเพลงที่ดีมาก และจัดเต็มในทุกการแสดงแบบไม่ห่วงสวยเลยแม้แต่น้อย จนทำให้เรารู้สึกสนุกกับการโชว์และไม่ละสายตาจากเวทีเลย ถึงแม้คอนเสิร์ตนี้จะไม่ได้มีโปรดัคชั่นหรือเวทีการแสดงที่อลังการก็ตาม
อีกสิ่งที่เราประทับใจเกี่ยวกับการแสดงครั้งนี้ ก็คือข้อความที่สอดแทรกอยู่ในการแสดง เพราะนอกจากเพลงของ Dua Lipa จะมาพร้อมเนื้อหาที่ให้กำลังใจ รวมถึงบอกให้คนฟังเป็นตัวของตัวเองแล้ว ในพาร์ทการแสดง เธอก็ได้นำคำพูดที่มีข้อความแง่บวกมาใส่ไว้อย่างเช่นตอนอินโทร รวมไปถึงก่อนเข้าเพลง “IDGAF” ที่เธอชักชวนให้แฟนๆ แสดงออกถึงความรู้สึกถึงอดีตที่ผ่านมา และในการพูดคุยกับแฟนๆ Dua เองก็ได้ยิ้มแย้มและปล่อยพลังบวกออกมาตลอดในช่วงที่พูดคุยสั้นๆ และทำให้เรารู้สึกอิ่มใจหลังจบงาน
ท้ายสุด นอกจากตัวศิลปินอย่าง Dua แล้ว บุคคลที่เราขอชื่นชมเป็นพิเศษก็คือแบ็คอัพของเธอ เพราะนักดนตรีทั้ง 3 คน รวมถึงนักร้องคอรัสอีก 2 คนและทีมแดนเซอร์นั้นนอกจากจะเติมเต็มโชว์ให้สมบูรณ์แล้ว เรายังรู้สึกได้ว่า พวกเขาทุกคนมาพร้อมความตั้งใจในการเอนเตอร์เทนคนดูด้วย โดยทีมคอรัส และ แดนเซอร์ ของ Dua ก็ได้ร้องและเต้นอย่างเต็มที่ รวมถึงแสดงอินเนอร์ที่เข้ากับเพลง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในจุดที่แฟนๆ มองเห็นได้ไม่ชัด ในขณะที่นักดนตรีแบ็คอัพที่รับตำแหน่งมือกีตาร์และคีย์บอร์ดเองก็ได้ขึ้นมาโบกไม้โบกมือในช่วงที่ Dua แสดงเพลงเร็ว เพื่อสร้างบรรยากาศความสนุกระหว่างโชว์
ด้วยความที่ตอนนี้ Dua Lipa มีอายุเพียงแค่ 23 ปี และเพิ่งเริ่มต้นเดินทาง ทำให้เส้นทางข้างหน้าของเธอในวงการเพลงเป็นที่น่าจับตามาก เพราะถึงแม้จะมีประสบการณ์ไม่มาก แต่เธอก็สามารถสร้างความประทับใจแรกพบได้อย่างดีกับแฟนเพลง และสามารถพัฒนาได้อีกในอนาคต และสิ่งนี้เองก็ทำให้เราอยากบอกกับคนที่มีโอกาสได้ชมคอนเสิร์ตของเธอแต่ยังลังเลว่า "ไปชมเถอะ ถ้าพลาดแล้วจะเสียดายแน่นอน"
ขอบคุณภาพจาก BEC Tero และ Live Nation
Story : Sidhipong W.
>> เมื่อ WonderFrame บุกสัมภาษณ์ Dua Lipa แบบตัวต่อตัว
>> “Dua Lipa” กับ 10 ข้อมูลเด็ดที่จะทำให้คุณรู้จักเธอมากขึ้น
>> Stormzy, Dua Lipa นำทีมศิลปินอังกฤษคว้ารางวัล Brit Awards 2018
>> Dua Lipa คอนเฟิร์มร่วมงานกับ BLACKPINK ในเพลงใหม่ “Kiss and Make Up”
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ