"แม็กซ์ เจนมานะ" เมื่อความสำเร็จของ “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” ลบนามสกุล The Voice
ความโด่งดังของผลงานเพลงจาก EP Let There Be Light และผลงานเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” ที่มียอดวิวสูงกว่า 100 ล้าน ทำให้ แม็กซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ กลายเป็นศิลปินอิสระที่มีคิวงานแน่น โดยหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มชุดดังกล่าว เขาก็ได้รวมทำเพลง “เราจะไม่แพ้” ร่วมกับ โรงพยาบาลวัฒโนสถ สำหรับวัน มะเร็งโลก (World Cancer Day 2018) ที่ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี และเพลงพิเศษ "แค่เธอเป็นเธอ” ที่ปล่อยให้ฟัง JOOX Music Application ได้ฟังก่อนใครเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดทาง Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ แม็กซ์ ถึงความรู้สึกที่มีต่อความสำเร็จที่ผ่านมา รวมถึงอนาคตที่เขาวางไว้ในวงการในฐานะศิลปินเดี่ยว และสมาชิกวง วง Henri Dunant (อีกหนึ่งโปรเจกต์เพลงสากลที่เขาทำร่วมกับเพื่อนศิลปินอย่าง ไบรท์-ชัชชล ศรีสมบูรณานนท์) หลังจากการปล่อยอัลบั้มที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
ความสำเร็จของเพลง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ในมุมมองของแม็กซ์ เจนมานะ
“ผมรู้สึกขอบคุณมากกับความสำเร็จของ เพลง และ EP ครับ มันเกินคาด คือถ้าผมพูดอะไรผ่านเพลงแล้วเขาฟังผมก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนี้มันเกินคาดไปแล้วครับ EP ชุดนี้มอบความภูมิใจดีๆ ที่ผมเคยเสียมันไป ผมภูมิใจที่ผลงานชิ้นนี้เกิดจากความเป็นจริงและความพยายามของครับผม
คือถ้าให้ผมวิเคราะห์ว่าทำไมเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” โด่งดัง สำหรับผม ผมมองว่ามันมีกิมมิกชัด มันเป็นเพลงที่หลอกให้ผู้ฟัง ฟังไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเพลงสื่ออะไรตอนจบ และการเล่าเรื่องของเพลงมันก็ซื่อๆ เหมือนนิทานจนทำให้แม้แต่เด็กและผู้ใหญ่ฟังได้ แนวดนตรีเองก็มีกลิ่นอายหลายแนวผสมกัน อีกอย่างเพลงนี้มันฟังได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะคนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน คนก็ต้องการเข้าหาธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายเสมอ และที่สำคัญมีเหตุการณ์คดีที่เกี่ยวกับป่าที่ทำให้เพลงมันโด่งดังขึ้นมา”
บทเพลงจากอัลบั้ม ที่อยากแนะนำให้คนฟังเพิ่ม
“ถ้าผมเลือกตัดเพลงเป็นซิงเกิล ผมก็จะเลือกเพลง “ไวน์”, “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” และ “ปีศาจ” เพราะเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” และ “ไวน์” เป็นเพลงที่เรียกให้คนเข้ามาฟังผลงานในอัลบั้ม แต่เพลง “ปีศาจ” จะเหมือนตบๆ คนที่เข้ามา ให้เข้าใจภาพรวมของสิ่งที่ผมอยากจะสื่อใน EP ครับ”
ความสำเร็จของอัลบั้ม ที่ช่วยลบนามสกุล The Voice ออกจากชื่อเขา
ช่วงที่พูดคุยกับ แม็กซ์เรื่องการทำงาน ทางเรามีโอกาสถามว่า ผลงานอัลบั้มที่ผ่านมาเปลี่ยนชีวิตเขาอย่างไร ซึ่งเขาก็ได้ตอบว่า ผลงานชิ้นนี้ช่วยทำให้หลายคนรู้จักเขาในฐานะแม็กซ์ เจนมานะ จริงๆ และลบภาพนักร้องประกวดที่หลายคนคุ้นเคย
“ตอนออกจากรายการ The Voice Thailand โจทย์แรกที่ผมอยากทำคือลบนามสกุลรายการตัวเอง ซึ่งตอนแรกผมทำไม่ได้ จนมีช่วงที่ผมหยุดทำงานไปเลยเพื่อปรับภาพลักษณ์ เสร็จแล้วเมื่อผมกลับมาทำเพลงใน EP Let There Be Light ผมก็ให้เพลงนำ และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงตัวเอง คือบางคนฟังเพลง เพิ่งมารู้ว่าผมร้องเพลงทีหลังก็มี ผมเคยเจอว่ามีคนเข้าใจผิดด้วยว่า ชื่อ เเม็กซ์ เจนมานะ เป็นชื่อวงทรีโอ้มีสมาชิก 3 คน คืออัลบั้มนี้ปลดล็อคอะไรหลายอย่างให้ผม หลังจากที่ทำงานหนักมานาน”
บทเรียนที่มาพร้อมความสนุก และ เหนื่อยล้าในฐานะนักดนตรีคิวทอง
"ผมเองไม่ใช่นักดนตรีกลางคืน บางทีรู้สึกว่างานเราเยอะมาก จนตอนนี้งานโชว์ยาวถึงปลายปี ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ชอบที่มีงานเยอะ เพราะถ้าทำงานเยอะไปผลลัพธ์มันอาจไม่ดีพอ คือถ้าศิลปินมีวินัย การทัวร์คอนเสิร์ตยาวๆ และแบบนั้นมันทำได้ เพราะการทัวร์คอนเสิร์ตยาวๆ ต้องมีการออกกำลังกาย ไม่ดื่ม และดูแลร่างกายแบบนักกีฬาเลย คือภาพที่หลายคนเห็นนักดนตรีปาร์ตี้ ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง จริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ผมไม่เคยเห็นศิลปินที่ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแล้วทัวร์ได้ต่อเนื่อง นอกจากพี่ เสก Loso (เสกสรรค์ ศุขพิมาย) (หัวเราะ)
แต่ถ้ามองอีกมุมการทัวร์เป็นอะไรที่สนุกมาก มันเหมือนออกไปต้อนรับพบเจอผู้คน และยิ่งเรามีการเตรียมโชว์และตำแหน่งนักดนตรีลงตัวแล้วการทำงานมันก็ง่ายขึ้น พอมีเวลาว่างตอนนี้ผมก็เอาเวลาว่างมาทำผลงานเพลงของวง Henri Dunant ด้วย และอีกอย่างช่วงที่ทำงานหนักๆ ประสบการณ์ตอนนั้นก็สอนผมเรื่องการดูแลสุขภาพด้วย"
การแข่งขันครั้งต่อไปบนเส้นทางดนตรี ของผู้ชายที่ชื่อ เเม็กซ์ เจนมานะ
"ถ้าผมไม่ป่วยตายก่อน (หัวเราะ) ก็อยากทำเพลงต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ผมถนัด อยากทำไปเรื่อย ตอนนี้มีเเพลนทำอัลบั้มเต็มแต่คิดไม่ออก คือผลงานแต่ละชิ้นของผมเหมือนลีกการแข่งกีฬา คือเริ่มงานใหม่ก็ต้องหาทีม เตรียมงาน หาสปอนเซอร์ ก็มันจะยากหน่อย แต่ตอนนี้ก็เริ่มทำแล้ว ก็หาข้อมูลอยู่ครับ เพราะผมอยากให้อัลบั้มชุดต่อไป มีอะไรมากกว่าเดิม อย่างเช่นการเอากลิ่นอายดนตรีที่ทำในฐานะวง Henri Dunant มาผสม
หลายคนมักจะเข้าใจว่าผมขยันทำงานมาก แบบปล่อยเพลงรัวๆ แต่จริงๆ ผมทำเพลงมานานแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้ปล่อย คือทำงานหนักจริง แต่อาจจะไม่เยอะมากอย่างที่หลายคนคิด ช่วงที่ผ่านมาผมทำงานเพลงจนรู้ว่าคำว่าศิลปินโดนดองมันไม่มีจริง เพราะถ้าเราขวนขวายและทำผลงาน มันก็จะมีอะไรออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังแน่นอน"
วิธีการรับมือความกดดันจากความสำเร็จของเพลง “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า”
"ผมเคยกดดันกับความสำเร็จที่ผ่านมา แต่โปรดิวเซอร์บอกว่ามันเป็นเรื่องของ One Hit Wonder หรือเหมือนการถูกหวยที่ทำอะไรไม่ได้ คือเราทำอะไรไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้งานเราดีขึ้นเรื่อยๆ อย่าง Foster the People ที่ทำเพลงดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หลายคนก็ไม่รู้จักเพลงอื่น นอกจาก “Pumped up Kicks” คือหลายคนไปคอนเสิร์ตแล้วบ่นว่าไม่รู้จักเพลงของวง
หลังจากนี้ผมเองก็อยากจะทำผลงานที่เพื่อเป็นสื่อในการพูดคุยกับแฟนเพลง และเชื้อเชิญแฟนเพลงใหม่ๆ เข้ามาด้วยผลงานเพลง และจะทำงานที่มีมาตรฐานต่อไป เพราะผมก็ตั้งใจว่าจะไม่หากินกับผลงานที่ผ่านมาครับเพียงอย่างเดียวครับ"
ศิลปินอิสระ และ ศิลปินในค่าย
ในช่วงท้ายของการพูดคุย เราได้พูดคุย ถึงความเป็นไปได้ในการที่แม็กซ์จะทำงานกับค่ายเพลง โดยเขาได้ตอบกลับมาว่า "การทำงานกับค่าย เป็นโปรเจกต์ที่ดี มันแสดงให้เห็นว่าเราเป็นพันธมิตร กับทุกค่ายได้ คือผมเองได้ทำงานกับค่ายอย่าง Muzik Move มันก็เป็นโปรเจกต์ที่สบายๆ ค่ายให้ใจกับเรา เหมือนคุยกันถูกคอก็ทำงานด้วยกัน ซึ่งมันเป็นข้อดีของการเป็นศิลปินอิสระ ในอนาคตผมเองก็ไม่ปิดโอกาสถ้าจะได้เข้าไปทำงานกับค่ายแบบเต็มตัวอีกครั้ง แต่อยากเห็นโรดแม็ปการวางแผน เหมือนกับถ้าจะไปต่อยมวยรุ่นใหญ่ ก็ต้องมีทีมที่แข็งแรง ถ้าผมอยากจะไปจุดนั้น ก็ต้องหาค่ายที่สามารถสนับสนุนเราได้ครับ แต่ตอนนี้ผมยังสบายใจกับการร่วมงานสบายๆ เป็นโปรเจกต์ไปครับ"
ถึงแม้จะยังไม่มีผลงานเพลงใหม่ที่ทำออกมาในนามตัวเอง แต่ล่าสุดแม็กซ์ก็ได้ปล่อยเพลง “52Hz” ในฐานะสมาชิก Henri Dunant ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากคลื่นเสียงของวาฬผู้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แปลกใหม่มากสำหรับนักฟังเพลงชาวไทย โดยแฟนๆ สามารถติดตามผลงานของเขาต่อไปได้ที่ Sanook! Music >> Henri Dunant ส่งเพลง “52Hz” กับแรงบันดาลใจจากวาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Facebook Max Jenmana
Story : Sidhipong W.
>> 5 เหตุผล ทำไม “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า” ถึงฮอตขนาดนี้!
>> เปิดโพสต์แรกสุดฮา! หลัง "แม็กซ์ เจนมานะ" ถอดหน้ากากนายพรานใน The Mask Singer