กอดคอร้องเพลง R&B เนิบๆ สไตล์วัยรุ่นอเมริกันกับ Khalid American Teen Tour 2018 Bangkok

 ใครจะมาเข้าใจวัยรุ่นได้เท่าวัยรุ่นกันเอง ถ้าอยากรู้ว่าเป็นวัยรุ่นมันไม่ได้มีแต่เรื่องความรักแบบ puppy love สวยหวานในทุ่งลาเวนเดอร์ ก็ต้องมาฟังเพลง R&B หม่นๆ พร้อมเนื้อเพลงกระแทกใจวัยเรียนของ Khalid เจ้าของเพลง “Location”, “Young Dumb & Broke”, “OTW” และ “Eastside” ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความรักแบบวัยรุ่นที่มีทั้งด้านซึ้ง ด้านเศร้า มุมสมหวัง มุมผิดหวัง แต่สุดท้ายเราก็ยังไม่ตาย เรายังอยู่ดี และต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป

ดังนั้นในค่ำคืนของวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ซึ่งตรงกับวันฮาโลวันพอดี เราจึงได้เห็นวัยรุ่นทั้งไทย และเทศแต่งตัวสีดำๆ ส้มๆ พร้อมธีมผีกันบ้างบางกลุ่ม อาจจะเป็นเพราะ BEC-Tero Entertainment ผู้จัดไม่ได้โปรโมตธีมฮาโลวีนกันตั้งแต่แรกๆ หรืออาจจะเพราะฮาโลวีนไม่ได้เป็นเรื่องที่คนไทยอินกันสักเท่าไร จึงไม่ได้มีผีมาเดินในงานกันมากมายเท่าไร แต่ถึงกระนั้นทุกคนก็ตบเท้าเข้าร่วมงาน Singha Music presents Khalid American Teen Tour 2018 Bangkok ที่ GMM Live House ชั้น 8 Central World กันอย่างคึกคัก เราแอบได้ยินว่า official merchandise หน้างานขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่เหมือนกัน แสดงว่าแฟนตัวจริงของ Khalid คงมางานนี้กันไม่น้อย

 

20.20 น. Khalid ปรากฏตัวพร้อมนักดนตรีแบ็กอัพที่มาพร้อมกลอง กีตาร์ เบส และคีย์บอร์ด ส่งดนตรีแน่นๆ มาในเพลง “8TEEN” พร้อมกราฟิกด้านหลังเป็นธีมเกม Dance Dance Revolution สีสันสดใส หนุ่ม Khalid ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก เดินไปซ้ายทีขวาทีบนเวทีอย่างคล่องแคล่วพร้อมรอยยิ้มที่เห็นได้ชัดเจนแม้คนดูจะอยู่ทางด้านหลังของฮอลล์ ร้องไปเอนเตอร์เทนไปตลอดทั้งเพลง เรียกให้คนดูร้องท่อนฮุกอย่าง “Cause I was eighteen and I still lived with my parents” กันอย่างเสียงดังฟังชัด พลังวัยรุ่นเริ่มร้อนแรงกันตั้งแต่เปิดตัวเพลงแรกเลยทีเดียว

แม้ว่าเพลงของ Khalid ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจังหวะกลางไปถึงช้า แต่ก็ใช่ว่าจะฟังแล้วโยกไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Khalid ชวนแดนเซอร์สาว 4 คนมาวาดลวดลายการเต้นในหลายๆ เพลง ทั้ง “Winter”, “American Teen” และ “Another Sad Love Song” ก็ทำให้แฟนเพลงในฮอลล์พร้อมจะหลั่งอะดรีนาลีนออกมาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะแฟนเพลงแถวหน้าที่คอยส่งเสียงร้องตาม ถือหน้าการูปหน้า Khalid และโบไม้โบกมืออยู่ตลอดเวลา ทำให้หนุ่ม Khalid อารมณ์ดี ส่งยิ้มส่งหัวใจให้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่เมื่อถึงเพลงช้าอย่าง “Therapy”, “Saved”, “Angels” และ “Motion” ผลงานจาก EP ชุดล่าสุด Suncity ก็สะกดคนดูได้ดี ด้วยน้ำเสียงต่ำทุ่มนุ่มลึก การเลือกร้องเพลงสไตล์ R&B เนิบๆ แบบนี้ก็ดูจะเข้ากับเสียงของเขาได้ดีที่สุด แถมยังใส่ลูกเล่นไว้ในช่วงท้ายของเพลงที่นักดนตรีเร่งเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นทุ่มเข้าใส่กันพร้อมไฟบนเวทีสลับแสงไปมาอย่างบ้าคลั่งในช่วงท้ายของเพลง “Coaster” ก็ทำให้เพลงเนิบๆ ของ Khalid กลายเป็นแดนซ์ฟลอร์ได้ภายในพริบตา

 

อีกสิ่งหนึ่งที่อยากพูดถึง นอกจากวิชวลด้านหลังที่ภาพสวย และการจัดวางแสงในแต่ละเพลงที่ทำเอามาได้สวยงามในระดับกลางค่อนไปสูงตามมาตรฐานคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศทั่วไปแล้ว การเรียงร้อยบทเพลงต่อเพลงก็ทำได้อย่างลื่นไหล อย่างที่ได้ฟังในช่วง “Eastside” ที่ร่วมทำกับ benny blanco และ Halsey แล้วไหลต่อเข้าเพลง “Hopeless” ก็เรียบเรียงดนตรีได้อย่างไม่มีสะดุด จนบางครั้งก็เนียนเสียจนฟังเพลินๆ แล้วไม่รู้ตัวว่าเปลี่ยนไปเพลงใหม่แล้วเรียบร้อย อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้อย่างนั้นเพราะ Khalid เป็นศิลปินที่พูดน้อยต่อยหนัก ทักทายแฟนเพลงแค่ Hello Bangkok และ I love you Bangkok เป็นพักๆ เท่านั้น ช่วงเปลี่ยนเพลงบางเพลงก็เพียงแนะนำชื่อเพลงที่จะร้องต่อไปสั้นๆ อาจจะเป็นด้วยอุปนิสัยของเขาเองที่ไม่ได้เป็น superstar ที่มาสายเอนเตอร์เทนหนักๆ แต่เป็นศิลปินที่มาในมาดวัยรุ่นที่รักสนุก แต่ก็มีความเขินอายและถ่อมตนอยู่ในตัว อย่างที่เขาถ่ายทอดออกมาผ่ายบทเพลงของเขานั่นแหละ

หลังจากผ่านบทเพลงดังๆ ของเขาอย่าง “Young Dumb & Broke”, “Love Lies”, “Silence” ที่ทำกับ Marshmello ที่เปลี่ยนเวที R&B เป็น EDM ในชั่วคราวได้แล้ว เขาก็เลือกที่ปิดการแสดงในค่ำคืนนี้ด้วย “Location” ที่ทุกคนร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ ต่อด้วย “Keep Me” เพลงจังหวะกลางๆ จากอัลบั้ม American Teen  ก่อนจะออกมาอังกอร์อย่างสั้นๆ และเรียบง่ายด้วย “OTW” จบไปด้วยการโบกมือลาพร้อมรอยยิ้มที่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ทักษะการร้องของเขายังถูกดึงมาใช้ได้ไม่เต็มที่ เพลงเร็วยังใช้วิธีร้องไป หยุดไปเป็นพักๆ พึ่งพาแบ็กกิ้งแทร็คเสียเป็นส่วนใหญ่ โชว์ของเต็มๆ เฉพาะช่วงเพลงช้าเท่านั้น และประสบการณ์ในการคุมเวทีของเขาจะยังมีไม่มาก เพราะอายุก็เพิ่งจะขึ้นเลข 2 และเพิ่งจะมีผลงานอัลบั้มเต็มเพียงชุดเดียว (บวกอีพีที่เพิ่งปล่อยออกมาในปี 2018 นี้ และผลงาน featuring ที่จำนวนหนึ่ง) แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้คือความจริงใจ และความสนุกของเด็กวัยรุ่นอเมริกันคนหนึ่งที่ได้ร้องเพลงที่ตัวเองแต่งต่อหน้าแฟนเพลงมากมายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา และเข้าใจเขาได้ดีผ่านบทเพลงต่างๆ ที่เขาแต่งเองได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คืนนี้จะเป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่วัยรุ่นไทยกอดคอเพื่อนซี้ และแฟนสาวที่เพิ่งอินเลิฟกันไม่นานมาปลดปล่อยอารมณ์วัยรุ่นที่มีทั้งช่วงดี และช่วงร้ายด้วยกัน

 

 

บทเพลงของ Khalid ทำให้เราคิดได้ว่า เรื่องราวที่คิดว่าโลกกำลังจะแตกขึ้นมาในอีกไม่ช้า จริงๆ แล้วพอเราผ่านมันไปได้ เราจะมองเห็นว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องที่เล็กนิดเดียว เพียงแต่เราต้องให้เวลากับมันเท่านั้น และอย่าลืมชีวิตวัยรุ่นให้คุ้ม อย่าใช้เวลาให้สูญเปล่าไปวันๆ เพราะชีวิตเรามีช่วงวัยรุ่นได้แค่ช่วงเดียวเท่านั้น เหมือนอย่างที่ Khalid ร้องเอาไว้ในเพลง “American Teen” ว่า “My youth is the foundation of me” เพราะฉะนั้นอยากทำอะไรก็รีบทำ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

 

___________________

Story : Jurairat N.

Photos : BEC-Tero Entertainment