Super Junior ยกระดับมาตรฐาน Super Show ไปอีกขั้นกับโชว์ Encore ที่สนุกและอบอุ่นกว่าเดิม

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของแฟนคลับวง Super Junior หรือ ELF ชาวไทย ที่ทำให้หนุ่มๆ แสดงคอนเสิร์ต encore ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยจัดงาน SUPER JUNIOR WORLD TOUR “SUPER SHOW 7” in BANGKOK ครั้งแรกไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา และอาจจะเพราะคราวนี้จัดแค่วันเดียว ต่อให้เป็นอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีก็ตาม แต่ถ้าเป็นคอนเสิร์ตของ Super Junior วันเดียวไม่เคยพออยู่แล้ว หลังจากที่บัตร sold out ภายใน 5 นาทีไปเมื่อคราวที่แล้ว คราวนี้ SM True เลยจัดให้หนักๆ กับคอนเสิร์ต Encore ครั้งแรก โดยเลือกจัดเป็นวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 และแน่นอนว่าคนแน่นขนัดเช่นเคย

ที่น่าตื่นเต้น 2 เรื่องหลักๆ ของคอนเสิร์ต Super Show ในครั้งนี้ คือการกลับมาของ Ryeowook สมาชิกคนน้อง (ไม่สุดท้อง) ที่เพิ่งกลับมาจากการรับใช้ชาติ เข้ามาร่วมแสดงในโชว์ครั้งนี้ด้วย และการได้เห็นแท่งไฟ official lightstick เปลี่ยนสีได้ในคอนเสิร์ตบ้านเรา (สักที) แน่นอนว่าทุกคนตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะเมื่อวินาทีที่ไฟในฮอลล์ดับลง แท่งไฟเริ่มเปลี่ยนสีไปตามจังหวะของเพลง “Superman” ทุกคนส่งเสียงเชียร์ลั่น และอุ่นเครื่องรอพร้อมใจกันโบกแท่งไฟกันเต็มที่ แต่อารมณ์สะดุดเล็กน้อยที่เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีต่อทันที สงสัยเมื่อกี้เปิดเพลง เปิดไฟทดสอบแท่งไฟเฉยๆ

 

 

ไม่เป็นไรๆ เปิดเพลงนี้ปุ๊บ เป็นสัญญาณว่าการแสดงจะเริ่มแล้ว ส่วนใหญ่วีทีอาร์จะเป็นตัวเดิมกับที่เคยฉายเมื่อตอนที่มาแสดง Super Show 7 ครั้งที่แล้ว จะมีเพิ่มแค่บางส่วนในช่วงหลังๆ ที่มีทำเพิ่มใหม่เข้ามา เผยให้เห็นสมาชิกทุกคนในโชว์นี้กันอย่างชัดเจนทีละคน ทั้ง อีทึก (LEETEUK), ฮีชอล (HEECHUL), เยซอง (YESUNG), ชินดง (SHINDONG), อึนฮยอก (EUNHYUK), ทงเฮ (DONGHAE), ชีวอน (SIWON) และ เรียวอุค (RYEOWOOK) ตั้งใจกลับมาพบกับแฟนคลับชาวไทย พร้อมกับการแสดงที่อัพเกรดขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเพลงใหม่ล่าสุด และเวทีพิเศษต่าง ๆ แถมหนุ่ม ๆ ยังฝึกภาษาไทยมาสื่อสารกับแฟน ๆ ตลอดทั้งคอนเสิร์ต

เพลงเซตเดิมอย่าง “Black Suit”, “Scene Stealer”, “Mamacita” และ “Shirt” ยังคงร้อนแรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี Ryeowook เพิ่มเข้ามาในช่วงหลัง หนุ่มๆ ยังคงทำการแสดงสลับกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเช่นเคย (หลายคนบอกว่า Super Show คือโชว์ที่แท้จริง ที่เหมือนกับเป็นกึ่งๆ ทีวีโชว์ไปด้วย เพราะเป็นมากกว่าคอนเสิร์ตมาตั้งนานแล้ว ซึ่งเราก็เห็นด้วย) เมื่อผ่านช่วง “Animals” กับ “It’s You” ที่ยังเซ็กซี่ด้วยการผูกผ้าปิดตาเต้นแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเพลงใหม่อย่าง “One More Time” และ “Lo Siento” เพลงสไตล์ละตินอเมริกาที่ Super Junior เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่นาน ชวนแฟนๆ ลุกขึ้นเต้นกันอย่างออกรส ไทยน่าจะเป็นที่แรกๆ ที่ได้ชมการแสดงสดของเพลงนี้ในคอนเสิร์ต

 

เต้นกันจนไฟลุกไปแล้ว มาซึ้งต่อกันที่พาร์ทเพลงช้าที่เริ่มด้วยเพลงเดี่ยวของ Yesung ใน “Your Echo” ที่มาแทรกเป็นเพลงแรกก่อน “One More Chance” ที่ปกติเป็นเพลงแรกของพาร์ทนี้ และมาฟังเสียงของ Ryeowook ให้หายคิดถึงกับ “The Little Prince” ที่หนุ่ม Ryeowook ที่ไม่ได้ขึ้นเวทีนาน 2 ปี ถึงกับน้ำตาซึมจนต้องหันหลังเมื่อซึ้งใจกับการตอบรับของแฟนๆ (หากมี Kyuhyun ช่วงนี้คงเป็นพาร์ทของสามหนุ่ม K.R.Y. แน่ๆ) แต่เมื่อน้องเล็กไม่อยู่ เลยมีพี่สองคนในยูนิตย่อย D&E มาชวนเต้นกันต่อใน “’Bout You”, “Oppa Oppa” และ “Can You Feel It” ที่ดึงบรรยากาศให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ สมกับเป็น Donghae และ Eunhyuk จริงๆ

 

 

หลังจากนั้นก็เป็นพาร์ทเรียกพลังเต็มที่ ขนเพลงฮิตทั้งหมดมารวมกันไว้รวดเดียวจบ ทั้ง “Rokuko”, “Super Duper”, “Sorry Sorry”, “Mr. Simple” และ “Bonamana” ที่ฟังกี่ครั้งก็สนุกด้วยดนตรีร็อคที่ผสมเข้ามาอย่างลงตัว สิ่งที่ดีขึ้นจากคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว คือบางส่วนของเซตแดนซ์ที่ปกติจะให้แดนเซอร์ครองเวทีไปมากกว่าครึ่ง แต่มาครั้งนี้เหล่าสมาชิก Super Junior ทุกคนเต้นไปพร้อมกับแดนเซอร์ตลอดเวลา ดังนั้นอารมณ์ความสนุกจึงต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ช่วงท้ายของโชว์นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับวีทีอาร์ชุดใหม่ และเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ อย่าง “I Do”, “Shining Stars” สนุกกับ “Devil” และ “Miracle” พร้อมโปรเจกต์ที่ทำเอา Ryeowook และ Heechul น้ำตาซึมกันอีกรอบ หนุ่มๆ พูดปิดท้ายว่าพวกเขามีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเมืองไทย (แค่ Shindong ก็มาไทยเพื่อทำงานเป็นครั้งที่ 5 แล้วในปีนี้) หนุ่ม Siwon บอกแฟนเพลงให้ติดตามงาน Unicef ของเขาในวันพรุ่งนี้ด้วย ส่วน Donghae แอบมีเซอร์ไพรส์ว่าเขากำลังจะมีงานที่ไทยเร็วๆ นี้ ขอให้ติดตามกัน และแน่นอน Ryeowook ขอบคุณแฟนเพลงที่ต้อนรับการกลับมาของเขาเป็นอย่างดี และอยากให้รอ Kyuhyun ออกจากกรมมาแสดงด้วยกันเร็วๆ

 

 

การแสดงโดยรวมยังคงไว้ซึ่งความสนุกสนาน การร้อง การเต้น การเอนเตอร์เทนเต็มที่ตามสไตล์ Super Show ที่กลายเป็น signature ของโชว์ซีรีส์นี้ไปแล้ว ทุกคนคุมเวทีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีอาการประหม่าให้เห็น แสดงเป็นธรรมชาติ ช่วงเต้นให้เป๊ะก็เป๊ะ ช่วงเล่นก็เล่นกันอย่างออกรส ประสบการณ์มากกว่า 10 ปีของทุกคน ทำให้ไม่ว่าจะแสดงสดกันกี่ครั้งก็ยังคงดูสนุกและไม่น่าเบื่อเหมือนเดิม (ขำจนปวดท้องตั้งแต่ช่วง talk แรก) แม้ว่าสถานที่จะเปลี่ยนจากอิมแพ็ค อารีน่า มาเป็น Challenger 2 ที่พื้นที่นั่งไม่ค่อยสโลปนัก ตอนเปิดแท่งไฟจึงอาจจะเห็นได้เต็มที่จริงๆ แค่มุมของศิลปิน ไม่ใช่มุมแฟนเพลง รวมถึงจังหวะไฟที่เปลี่ยนสีแอบช้าไปนิด แต่โดยรวมแล้วแสงสีเสียงบนเวทียังคงทำได้ดีตามสไตล์คอนเสิร์ตเกาหลีของ SM Entertainment เห็นแบบนี้รู้สึกดีที่ได้มาชม Super Show 7 อีกครั้งแม้ว่าจะดูครั้งแรกไปแล้วก็ตาม เพราะสำหรับหนุ่ม Super Junior แล้ว จะเล่นคอนเสิร์ตเซ็ตเดิมกี่ครั้ง เสน่ห์ของ Super Show แต่ละรอบก็มีความแตกต่างกันไปเล็กน้อยทุกครั้ง ทำให้แฟนๆ ที่มาชมครั้งแรก หรือชมครั้งไหนๆ ก็ได้รับความสนุกสนาน และรสชาติใหม่ๆ กลับไปด้วยทุกที

แล้วเจอกันใหม่กับ Super Show 8 นะ อย่าลืมเอา Kyuhyun มาด้วยล่ะ

 

 

__________________

Story : Jurairat N.

Photos : SM True