ปลุกความอัลเตอร์ในตัวคุณไปกับ “JAMnight Live! with Ash”
แม้จะประกาศแบบสายฟ้าแลบ และไม่มีเวลาให้เตรียมตัวมากนัก แต่การเดินทางมาเยือนเมืองไทยครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของ Ash วงอัลเทอร์เนทีฟร็อค/ป็อปพังก์จากไอร์แลนด์เหนือ ก็ทำให้เราตัดสินใจไม่ยากว่าจะตอบรับคำเชิญจากผู้จัด HAVE YOU HEARD? หรือไม่ … แน่นอน เราเลือกที่จะไปอย่างไม่มีลังเล
ก็เพราะว่า Ash คือหนึ่งในหัวหอกสำคัญของวงการดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อคในยุค 90s ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเสียงกีตาร์แตกๆ ความดุเดือดทางท่วงนำนอง เกรี้ยวกราด พลุ่งพล่าน และที่สำคัญ … พวกเขาคืออีกหนึ่งตำนานที่ผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้รับชมการแสดงสดของพวกเขาแม้สักครั้ง!
JAMnight Live! with Ash
ไม่ต้องเกริ่นให้มากความ มุ่งหน้าสู่สถานที่จัดแสดงอย่าง Live Arena ย่านอาร์ซีเอกันเลยดีกว่า หลายคน (รวมถึงเรา) ต่างไต่ถามกันยกใหญ่ว่า Live Arena มันอยู่ตรงไหนด้วยความไม่คุ้นชื่อ แต่สำหรับคอคอนเสิร์ตแล้วล่ะก็ นี่คือสถานที่เดียวกับ Live RCA นั่นเอง เพียงแต่มีการรีโนเวตใหม่ให้กว้างขึ้น และเมื่อเข้าไปด้านใน ก็ให้อารมณ์ราวกับว่าอยู่ในไลฟ์เฮ้าส์ที่จัดแสดงดนตรีโดยเฉพาะอยู่ไม่น้อย
อุ่นเครื่องด้วยเด็กเก้าศูนย์ตัวจริงเสียงจริงอย่าง เจ-เจตมนต์ มละโยธา ที่นำพาชื่อของ Penguin Villa มาเป็นวงเปิดสำหรับงานดังกล่าว บอกได้เลยว่าชายคนนี้ยังเก๋าเกมและเจนจัด ลูกโซโล่กีตาร์ยังคงบาดใจเช่นเคย เพลงจากอัลบั้มเต็มชุดล่าสุดของเขาอย่าง J ไม่ว่าจะเป็น “พร”, “ลำพัง” ได้รับการหยิบยกมาเรียงร้อยเป็นเซตลิสต์สลับกับซิงเกิลที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ทั้ง “Good Morning” และ “เธอคือความจริง”
Penguin Villa
แต่ที่ฟินมากไปกว่านั้นคือเพลงพิเศษอย่าง “ส่วนที่หายไป” ที่ เจ เคยนำเอาเพลงของ อารักษ์ อาภากาศ มาคัฟเวอร์ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ฝนตกขึ้นฟ้า รวมไปถึงบรรดาเพลงเก่าทั้งหลายอย่าง “Acrophobia”, “ท่าอากาศยาน”, “กลับไปที่โลก” หรือแม้แต่ “เธอเป็นใคร” ที่ไม่ได้ฟังสดๆ นานมาก แม้ซาวด์ในย่านแหลมสูงจะมีบทบาทเด่นไปสักหน่อย อีกทั้งปริมาณเพลงช้าค่อนข้างมีสัดส่วนที่มากกว่าอย่างชัดเจน การอุ่นเครื่องจาก Penguin Villa จึงเปรียบเสมือนการทำให้ร่างกายเริ่มๆ อบอุ่นเพียงเท่านั้น … แต่เหงื่อยังไม่เริ่มออกสักเท่าไหร่
มองไปรอบๆ เชื่อเหลือเกินว่ากว่า 90% ของผู้ชมในค่ำคืนดังกล่าว วัยได้ล่วงเลยสู่เลข 3 หรือมากกว่านั้นแล้ว เดาไม่ยากว่า พวกเขาเหล่านี้เติบโตมากับ Ash อย่างแน่นอน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะสาดใส่ความมันแบบเต็มขั้นใน JAMnight Live! with Ash กันแล้ว 3 สมาชิกกับ 3 เครื่องดนตรีคู่ใจ Tim Wheeler (กีตาร์, ร้องนำ), Mark Hamilton (เบส) และ Rick McMurray (กลอง) ก้าวขึ้นประจำตำแหน่งบนเวทีท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของแฟนเพลงชาวไทยและเทศ
Ash
เพียงแค่ “เสียงกีตาร์แรก” ก็ทำเอาเราขนลุก “True Story” ต่อเนื่องด้วย “Kung Fu” ทำเอา Live Arena เดือดดาลไม่น้อย และพวกเขายังคงใส่ไม่ยั้งต่อไปกับ “Cocoon” และ “Annabel” กีตาร์ เบส และกลอง เพียง 3 ชิ้นมันหนักแน่น ดุดัน และงดงามได้เพียงนี้เชียวหรือ ใจยังคงเต้นโครมคราม ตื่นเต้นกับสุ้มเสียงที่อยู่เบื้องหน้าเสียเหลือเกิน
ความเดือดยังไม่หยุดยั้ง เสียงผู้ชมร้องคำว่า “Oh Yeah” ดังกระหึ่มฮอลล์จากเพลงชื่อเดียวกัน มาถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่า Ash จัดเซตลิสต์ได้อย่างชาญฉลาด พวกเขาวางตำแหน่งของเพลงฮิตแทรกไว้ทุกระยะ สลับกับเพลงใหม่ที่แฟนๆ อาจยังไม่ค่อยคุ้นหูมากเท่าใดนัก รวมถึงเพลงที่อาจจะดังในระดับปานกลาง ทำให้มูฟเมนต์ของโชว์มีความน่าสนใจ ดังตัวอย่างที่เราจะยกให้เห็นภาพต่อไปนี้กับอีก 3 เพลงรวด “Confessions in the Pool” เพลงใหม่จังหวะโยกๆ ที่ใช้ได้ทีเดียว, “A Life Less Ordinary” ที่เห็นหลายคนร้องตามกันสุดเสียง ก่อนจะถึงคิวของอีกหนึ่งเพลงดัง “Goldfinger” ที่ตอนนั้นไม่สามารถอธิบายบรรยากาศในฮอลล์ออกมาเป็นตัวอักษรได้นอกจากคำว่า ยอดเยี่ยมสุดๆ อย่างแท้จริง
มันกันแบบไม่ต้องยั้ง
แม้ว่าอายุของ Tim Wheeler และผองเพื่อนสมาชิกจะปาเข้าไปสี่สิบกว่า ทว่าเอเนอร์จี้ของพวกเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลง “Walking Barefoot”, “All That I Have Left”, “Incoming Waves” รวมไปถึงอีกหนึ่งเพลงฮิตอย่าง “Shining Light” ยังสร้างความสนุกสุดมันอย่างต่อเนื่อง ต่อด้วย “Orpheus” บทเพลงที่น่าจะเดือดที่สุดประจำโชว์ ก่อนที่ Tim Wheeler จะโชว์ลีลาลีดกีตาร์คัฟเวอร์เพลง “Cantina Band” จาก John Williams และลากยาวเข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตที่แทบไม่มีช่วงไหนให้หยุดพัก ทั้ง “Jesus Says”, “Numbskull”, “Buzzkill” รวมถึง 2 เพลงท้ายที่โดดกันยับอย่าง “Girl From Mars” และ “Burn Baby Burn” ที่ได้แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์อย่าง ปณต คุณประเสริฐ มือกีตาร์ประจำวงดนตรีสัญชาติไทย getsunova ที่สะพายกีตาร์เรืองแสงมาบรรเลงโซโล่เคียงข้าง 3 สมาชิกวง Ash อีกด้วย
ปณต getsunova กับกีตาร์เรืองแสงของเขา
ในบางครั้งบางคราว มันก็มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นอยู่เสมอ เซตลิสต์จากทัวร์ก่อนหน้านี้ของ Ash แถมเพลงในช่วงอังกอร์แค่ 2-3 เพลง แต่ไม่ใช่กับประเทศไทย เพราะพวกเขาจัดให้ 5 เพลง! แน่นอนว่าต้องมี “Did Your Love Burn Out?” พิเศษสุดกับ “Twilight of the Innocents” และ “Angel Interceptor” ท้ายที่สุด Ash รูดม่านปิดฉากทัวร์ในเมืองไทยหนนี้ด้วย “Wildsurf” กับ “Lose Control” ที่ทวีความเดือดดาลขึ้นไปอีก
คำถามที่ว่า เครื่องดนตรีเพียง 3 ชิ้นสามารถสร้างความหนักแน่น ดุดัน และงดงามได้เพียงนี้เชียวหรือที่เกิดขึ้นกลางโชว์ ยอมรับและขอคารวะวง Ash แต่โดยดีว่า พวกเขาทำได้จริง! แม้อาจจะไม่ใช่เบอร์ 1 ของแวดวงอัลเทอร์เนทีฟร็อค แต่บทเพลงของเขาก็ทำให้เหล่าสาวกคลั่งได้ไม่หยุดหย่อน อายุอานามไม่ใช่อุปสรรคกับวงร็อค
Tim Wheelan
Tim Wheelan ที่ในตอนนี้ตัดผมสั้น หวีผมเรียบแปล้ยังคงมีน้ำเสียงและวิธีการร้องที่ไม่ต่างจากตอนที่เขาและวงปล่อยอัลบั้มแรกอย่าง Trailer ในปี 1994 ซึ่งในตอนนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้นเท่าใดนัก แถมฝีมือการเล่นกีตาร์ก็ยังคงฉกาจฉกรรจ์ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายแน่นอนกับวง 3 ชิ้นที่มีกีตาร์เพียงตัวเดียว แต่เขากลับสามารถคุมซาวด์ได้อย่างอยู่หมัด และริฟฟ์โซโล่ภายใต้เสียงกีตาร์แตกพร่าอันแสนดุดัน แต่ทำไมมันช่างเพราะเช่นนี้นะ
Rick McMurray
ในขณะที่ Mark Hamilton บุรุษผู้สะพายเบสต่ำได้ใจ และ Rick McMurray มือกลองมาดนิ่ง ก็ยังเป็นกระดูกสันหลังของวงที่คอยขับเคลื่อน Ash ได้อย่างหนักแน่นเช่นเคย ซาวด์ดิบๆ สากๆ ของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อคที่ไม่ต้องประดิษฐ์ประดอยอะไรให้มากความ แต่กลับฟังอิ่มและสมบูรณ์แบบทีเดียว และยิ่งเพลงเร่งเร้ามากเท่าไหร่ ไลท์ติ้งหลากสีก็ฉวัดเฉวียนเร้าเร่งตามมากเท่านั้น ยิ่งทำให้ประสบการณ์ในการชมแสดงสดของวงดนตรีที่ชื่อ Ash ของผู้เขียนนั้นเพิ่มความพิเศษมากยิ่งขึ้นไปอีก
Mark Hamilton
แม้จะเป็นงานสเกลเล็กของ HAVE YOU HEARD? แต่ก็ยังประทับใจกับความเรียบง่าย สื่อสารกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อม นี่คือพื้นที่ของคนรักเสียงดนตรี ไม่ว่าจะแนวไหน ท่วงทำนองแบบใด และคอนเสิร์ต JAMnight Live! with Ash ก็เปรียบเสมือนสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความมัน การปลดปล่อย กระโดดโลดเต้น แหกปาก แบบไม่ต้องสนใจใครหน้าไหน ก็อาจจะมีเพียงสาวคนหนึ่งที่ยืนด้านหน้าผู้เขียน และชูกล้องขึ้นมาถ่ายภาพถ่ายวิดีโอแทบทุกเพลงเท่านั้น แต่ขออนุญาตไม่สนใจ และเดินเลี่ยงไปยังจุดอื่น และเดือดไปกับ Ash ต่อกันแบบยาวๆ
ท้ายที่สุด Ash ได้กลับมาทำให้ไฟแห่งดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อคกลิ่นอายป็อปพังก์ฟื้นคืนชีพในบ้านเราอีกครั้ง หลังจากดูเหมือนว่าท่วงทำนองเหล่านี้จะซบเซาและเงียบเหงากันไปพอสมควร ซึ่งก็หวังว่า Ash จะมาปลุกไฟให้คอดนตรีร็อคชาวไทยบ่อยๆ … ไม่เบื่อหรอก มาเถอะ!
ฟังเพลงของ Ash ต่อได้ที่นี่
Story by: Chanon B.
Photos by: HAVE YOU HEARD?
อัลบั้มภาพ 140 ภาพ