แสง สี เสียงมาเต็ม พลัสความมันคูณสองใน 2018 FTISLAND LIVE [+] IN BANGKOK

ประทับกันถ้วนหน้า และเสียงกรี๊ดของชาวพรีมาดอนน่าไทย(ชื่อแฟนคลับ) ดังลั่นสนั่นฮอลล์ไม่แพ้เสียงกลอง เบส กีตาร์ ของ 5 หนุ่มร็อคแบนด์สายเลือดเกาหลี FTISLAND (เอฟทีไอส์แลนด์) กับคอนเสิร์ตที่มันส์ที่สุดแห่งปี “2018 FTISLAND LIVE [+] IN BANGKOK” ที่จัดขึ้น ณ ธันเดอรโดม เมืองทองธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยผู้จัดหน้าใหม่ใจดี “อิลิเมนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” (ELEMENT ENTERTAINMENT INTERNATIONAL CO.,LTD) ที่ขนแสง สี เสียง ความอลังการเต็มรูปแบบ มาให้แฟนๆ ชาวไทยได้มันส์กันเต็มที่

เริ่มต้นความมันแบบพลัส+ ให้สมกับการรอคอย FTISLAND เปิดเวทีด้วยการขนเพลงร็อคจังหวะหนักแน่น "FADE OUT", "BLACK CHOCOLATE", "TIME TO" และ "TAKE ME NOW" เป็นการอุ่นเครื่องให้ชาวพรีมาดอนน่าได้หัวโยกหัวคลอนไปกับความมันส์ของดนตรี ก่อนจะกล่าวทักทายด้วยภาษาไทยรัวๆ ทั้ง “สวัสดีครับ” “สบายดีไหมครับ” “คิดถึงมากนะครับ” “ขอบคุณครัช” เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้ลั่นฮอลล์ โดยเฉพาะคำทักทายของคุณพ่อมือใหม่ “มินฮวาน” ที่ทำให้ต้องยิ้มเอ็นดู กับประโยค “ตอนนี้ผมเป็นคุณพ่อแล้วนะครับ” รวมถึงความรู้สึกของลีดเดอร์ จงฮุน ที่แม้จะพลาดคอนเสิร์ตครั้งที่แล้วไป ครั้งนี้เขากลับมาด้วยความรู้สึกคิดถึงแฟนชาวไทยยิ่งกว่าเดิม

 

ทักทายพอหอมปากหอมคอ ฮงกี ก็ขอเทสต์ความเป็นแฟนพันธุ์แท้ของชาวพรีมาดอนน่าไทย ซึ่งแฟนๆ ก็จัดให้ไม่ขัดศรัทธา แค่ฮงกีร้องท่อนฮุคเพลง "SUMMER NIGHT’S DREAM" ขึ้นมา ชาวพรีมาดอนน่าก็ดำน้ำร้องเพลงได้จนจบท่อน ทำเอาหนุ่มทั้ง 5 ยิ้มแก้มปริ พร้อมสำหรับโชว์ต่อไปทันที กับเพลง "NOWHERE" ซึ่งฮงกีเล่าว่าเพลงนี้แต่งมาจากเลิฟสตอรี่ของแจจิน และเพลง "SUMMER NIGHT DREAM" แบบเต็มเพลง ซึ่งก็ตามคาดเมื่อดนตรีกระหึ่มขึ้นแฟนๆ ก็พร้อมเพรียงส่งเสียงร้องคลอไปตามฮงกีได้จนจบเพลง จนฮงกีอดใจไม่ไหวเอ่ยปากชม “ดีมากเลยครับ ผมได้รู้แล้วว่าทุกคนฟังเพลงของผมมาอย่างดีนะครับ แน่นอนเลยครับ (ยกนิ้วให้)”

 พาร์ทร็อกสุดผ่านไปแล้ว เพลงเศร้าก็ผ่านไปแล้ว หนุ่มๆ FTISLAND ก็ไม่พลาดที่จะจัดพาร์ทสนุกๆ ให้แฟนๆ ได้กระโดดไปกับเพลงของพวกเขา กับเพลงจังหวะสนุกๆ อย่าง "CHAMPAGNE" , "PUPPY", "PAPARAZZI" และ "FREEDOM" โชว์แบบ 4 เพลงรวด แฟนๆ ทั้งฮอลลุกขึ้นแดนซ์ยับ ทั้งบัตรนั่ง บัตรยืน โดยเฉพาะบัตรนั่งที่ใส่ไม่ยั้ง จนจบโชว์ฮงกีก็ขอแซวถึงท่าเต้นพรีมาดอนน่าไทยว่าไม่รู้เต้นท่าอะไร แต่ดูสนุกมากจริงๆ นะครับ ใช้ร่างกายกันไปเยอะก็ถึงคราวเบรกอารมณ์ด้วยเพลงซึ้งๆ จาก 5 หนุ่มอีกครั้งกับเพลง "WE ARE" ซึ่งเพลงนี้แฟนๆ ได้ฟังเสียงของทั้ง 5 หนุ่มครบทุกคน เริ่มด้วยเสียงนุ่มๆ ของซึงฮยอน มินฮวาน แจจิน ฮงกิ และจงฮุน ที่บอกได้คำเดียวว่าเคลิ้ม และต่อด้วยเพลง "HEY GIRL" และที่พลาดไม่ได้กับการเซอร์ไพร์สโปรเจ็กต์ในเพลง "PARADISE" ที่พรีมาดอนน่าพร้อมใจกันยกป้ายแบรนด์เนอร์ ที่มีข้อความ WHEREVER YOU GO มีความหมายสุดลึกซึ้งว่า “ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน เราก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” โดยที่หนุ่มจงฮุนก็ตอบแฟนๆด้วยประโยคภาษาไทยที่ซึ้งไม่แพ้กันว่า “ทุกคนคือพาราไดซ์ของพวกเรานะครับ”

 

 

 

ความประทับใจเต็ม 10! พวกเขาก็เตรียมเพลง "STAND BY ME" มาเป็นคำสัญญาว่าถึงพวกเขาจะหายไปก็สัญญาว่าจะกลับมา และขอให้แฟนๆ อยู่เคียงข้างพวกเขา และยังจัดเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง "I HOPE" และ "I  WISH" มาให้แฟนคลับได้ฟังกันสดๆ ในเวอร์ชั่นพิเศษหาฟังไม่ได้จากที่ไหนนอกจากในคอนเสิร์ตนี้เท่านั้น!

ยังมีอีกหลายบทเพลงที่อยากมอบให้ชาวพรีมาดอนน่าได้ฟัง แต่เวลาของความสนุกใกล้จะจบลง เพลง "THE NIGHT" และ "WANT" ถูกส่งขึ้นมาเรียกอารมณ์ความสนุกอีกครั้ง แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา คอนเสิร์ต เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย เพลง "TO THE LIGHT" ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงตะโกนขอบคุณจากฮงกี ก่อนที่แฟนๆ จะจัดโปเจ็กต์ส่งท้าย ด้วยการเปิดไฟฉายบนโทรศัพท์ ส่องไปที่เวทีจนกลายเป็นทะเลดาวสีขาว ที่เคลื่อนไหวสวยงาม ทำเอาหนุ่มๆ ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจนี้ไว้

 

 

คอนเสิร์ตจบลง แต่เสียงร้องเรียก FTISLAND! FTISLAND! ของแฟนๆ ยังดังต่อเนื่อง พวกเขากลับขึ้นมาปรากฏตัวบนเวที มอบช่วงเวลาแห่งความสุขให้แฟนๆ อีกครั้ง โดยหนุ่มจงฮุนเปลี่ยนจากเล่นกีตาร์มาเล่นคีย์บอร์ดแทนในเพลง "TRAVEL" จบเพลงฮงกี เป็นตัวแทนสมาชิกของวง พูดถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเอเชียทัวร์ในประเทศไทยอีกครั้ง ฮงกี “ไม่ว่าพวกเราจะทำเพลงอะไรก็แล้วแต่ ขอบคุณทุกคนมากนะครับ ที่คอยให้กำลังใจพวกเรา พวกเราก็จะพยายามทำเพลงเพื่อเป็นของขวัญสุดพิเศษให้แฟนๆ คอนเสิร์ตนี้อาจจะเป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายที่พวกเราจะต้องห่างกันซักพัก ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เพราะว่าคราวที่แล้วกับครั้งนี้เวลาห่างกัน 2 ปีใช่มั้ยครับ ดังนั้น 2 ปีข้างหน้าเราจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง พวกเราก็จะกลับมาด้วยสุขภาพจิต สุขภาพกายที่แข็งแรงนะครับ”

พร้อมกับปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลงความหมายดีๆ "WHO I AM" เป็นการบอกลาที่ครบทุกอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งก่อนจากกันจริงๆ อีกครั้ง หนุ่มแจจินก็ยังขอเก็บโมเม้นต์สุดซึ้งอีกครั้ง ด้วยการตะโกนเป็นภาษาไทยดังๆ ว่า “ขอบคุณครับ” โดยมีเสียงตอบกลับของแฟนว่า “ขอบคุณค่ะ” ที่ดังไม่แพ้กัน เป็นการจบ! คอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความประทับใจ สนุกและอิ่มเอมไปกับทุกบทเพลง คำพูด สมกับเป็นวันของชาวเกาะและพรีมาดอนน่าที่แท้จริง