“ที่สุด” แห่งวงการเพลงประจำปี 2018 โดยทีมงาน Sanook! Music
เป็นธรรมเนียมทุกปีที่ทีมบรรณาธิการ Sanook! Music จะเลือก “ที่สุด” ของวงการเพลงประจำปี 2018 ในแต่ละหัวข้อให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยศิลปิน และผลงานที่เราเลือกกันมานั้น ไม่จำกัดสัญชาติ แนวดนตรี หรือว่าค่ายเพลงเล็กใหญ่แค่ไหน ขอแค่เป็นผลงานที่เป็น “ที่สุด” ในใจของทีมงานเป็นพอ จะมีศิลปิน หรือผลงานของใครเป็น “ที่สุด” ของทุกๆ คนเหมือนกันบ้าง มาเช็กกันได้เลย
Music Video of the Year
ภาพเก่า - Slur และ Alarms (สวัสดีวันจันทร์) - ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ft. พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
Chanon B.
แค่ตัวเพลงก็เพราะสุดขีดแล้ว กับการกลับมาของวงดนตรี Slur และอัลบั้มใหม่ของพวกเขาอย่าง BIN ซึ่งซิงเกิลที่มีชื่อว่า “ภาพเก่า” บอกได้คำเดียวว่าเรียบเรียงได้ฟังแบบไม่มีเบื่อ และยิ่งเมื่อได้มาชมมิวสิควิดีโอกับเรื่องราวของงานเลี้ยงรุ่น การพบเจอกันระหว่างคนสองคนที่น่าจะเคยมีความผูกพัน ความรู้สึกดีๆ กันมาก่อนหน้านี้ แม้ว่าการเล่าเรื่องจะไม่มีอะไรหวือหวา ทว่าการแสดงอันเป็นธรรมชาติของสองนักแสดงนำอย่าง อ๊อฟ-ปริญญา งามวงศ์วาน และ จอยซ์-กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์ สมาชิกวง Triumphs Kingdom ก็ยิ่งขับเน้นความรู้สึกของบทเพลงนี้ออกมาอย่างล้นทะลัก ไม่ว่าจะเป็น ความเศร้า ความเหงา หรือแม้กระทั่งความคิดถึงอันล้นเอ่อ ซึ่งไม่มีวันจางหาย >> Slur ร่วมงานสองนักแสดงจากวันวาน พร้อมกลั่นความเศร้าเป็นเอ็มวีใหม่ "ภาพเก่า"
ขออนุญาตเลือกอีกหนึ่งเพลง เพราะตัดใจทิ้งเพลงนี้ไม่ลงจริงๆ สำหรับ “Alarms (สวัสดีวันจันทร์)” ผลงานประเดิมอัลบั้มเต็มชุดแรกของ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ (กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก) ที่ได้ตำนานเพลงเพื่อชีวิต ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ที่มาร่วมถ่ายทอดความเป็นจริงของคนสู้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนในสังคมเมืองเพื่อคนที่เรารัก โดยในมิวสิควิดีโอเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพ่อและลูกสาว ซึ่งพ่อ “ทำทุกวิถีทาง” เพื่อความสุขของลูก แม้ว่าในบางครั้ง คำว่า “ทุกวิถีทาง” จะทำให้เขาร้าวรานทั้งจิตใจและร่างกายก็ตาม ยิ่งเมื่อบวกกับพลังในท่อนแร็ปอันคมคายของ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ และท่อนร้องจาก ปู พงษ์สิทธิ์ ก็ยิ่งทำให้ในทุกวันอยากลุกขึ้นมาสู้ให้ถึงที่สุด >> “ฟักกลิ้ง ฮีโร่” กับ “เสียงนาฬิกาปลุก” ที่สั่งหัวใจให้กล้าเดินออกมาจากจุดเดิม
20 ตุลา - Silly Fools
Sidhipong W.
ในมุมมองของเรานั้น เอ็มวี “20 ตุลา” ของวง Silly Fools มีวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร โดยตัวเพลงจะเป็นการเล่าความรู้สึกนึกคิดของผู้ชายที่ผิดหวัง ในขณะที่มิวสิควิดีโอจะเล่าเรื่องราวของฝ่ายหญิงที่มาหาฝ่ายชายและพบข่าวร้ายที่สุดในชีวิต ซึ่งเรามองว่าการดำเนินเรื่องแบบนี้มันไม่เหมือนใคร
นอกจากเรื่องราวแล้ว เบื้องหลังเอ็มวีที่กำกับโดยผู้กำกับ ชาติฉกาจ ไวกวี ที่ใช้กล้องเพียงตัวเดียว และเน้นการเล่าเรื่องราวที่เรียบง่ายไร้บทพูด แต่ก็มีการใช้พร็อพที่ช่วยคนดูปะติดปะต่อเรื่องราว รวมถึงให้นักแสดงอย่าง พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ถ่ายทอดความรู้สึกโดยไม่มีบท ทำให้มิวสิควิดีโอออกมาเรียบง่ายแต่ลงตัวและเปิดโอกาสให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดำดิ่งจากเพลงและมิวสิควิดีโอได้อย่างเต็มที่ >> "Silly Fools" ร่วมงาน "พลอย เฌอมาลย์" ถ่ายทอดความเจ็บปวดแสนสาหัสในเอ็มวี "20 ตุลา"
God is a woman – Ariana Grande
Jurairat N.
เลือกยากเหมือนกันว่าจะเป็นเพลงนี้ หรือ “thank you, next” ที่นำเอาฉากคลาสสิกของภาพยนตร์ต่างๆ มาทำใหม่ได้อย่างน่ารักน่าชัง แต่สุดท้ายเราเลือก “God is a woman” เพราะเราเชื่อว่าการเป็น “ต้นแบบ” ดีกว่าการย้อนรอยความสำเร็จของใคร ในอนาคตอาจจะเจอศิลปินรุ่นใหม่ๆ หยิบเอาฉากในฉากหนึ่งในเอ็มวีนี้ไปใส่เป็น inspiration ของพวกเขาก็เป็นได้ นอกจากตัวเพลงจะอลังการในแง่ของการเลือกคำว่า “พระเจ้า” มาใส่ในเพลงแล้ว ภาพกราฟิกสวยๆ การสื่อความหมายตามเพลงให้ดูยิ่งใหญ่อลังการ แดนเซอร์ และโปรดักชั่นต่างๆ ก็ทำได้ดี และถือว่าเป็นงานละเอียดที่ควรค่าแก่การดูเป็นต้นแบบของมิวสิควิดีโอที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว >> Ariana Grande แปลงกายเป็น “พระเจ้า” ในเอ็มวี “God is a woman”
Concert of the Year
Maho Rasop Festival
Chanon B.
มองตาปริบๆ ดูประเทศเพื่อนบ้านเขาจัดมิวสิคเฟสติวัลที่รวบรวมไลน์อัพศิลปินเด็ดๆ จากทั้งในประเทศและระดับโลกมานาน ในที่สุดประเทศไทยก็มีเทศกาลดนตรีนานาชาติกับเขาเสียที Maho Rasop Festival คือการผนึกกำลังกันของ 3 โปรโมเตอร์อย่าง HAVE YOU HEARD?, Seen Scene Space และ ฟังใจ ศิลปินสากล, เอเชียน และไทย กระจายกันอยู่ใน 3 เวที ที่คอเพลงทุกคนรอคอยคงหนีไม่พ้น Slowdive, The Vaccinces, DEAN, PREP และอีกเพียบ แม้จะมีปัญหาติดขัดอยู่บ้างประปราย แต่บรรยากาศโดยรวมภายในงานนั้นบอกเลยว่ายอดเยี่ยมสุดๆ เพราะมันอบอวลไปด้วยความสุขในสไตล์ “เทศกาลดนตรี” ที่เราอาจจะอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้ แต่อยากให้คอดนตรีทุกคนได้ไปสัมผัสอย่างแท้จริง >> บทบันทึก “Maho Rasop Festival” มหรสพทางเสียงดนตรีที่แสนประทับใจ ดีใจ และภูมิใจ
TVXQ! CONCERT - CIRCLE - #welcome in Bangkok
Sidhipong W.
ความโด่งด้งของ TVXQ! หรือ ดงบังชินกิ ในญี่ปุ่นทำให้เรามองว่า การจะได้ชมคอนเสิร์ตของ U-Know (ชอง ยุนโฮ) และ Max (ชิม ชางมิน) เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ในปี 2018 ผู้จัดอย่าง 4Nologue ก็ทำให้เราเซอร์ไพรส์ด้วยการจัดคอนเสิร์ต TVXQ! CONCERT - CIRCLE - #welcome in Bangkok ขึ้นมา พร้อมโปรดักชั่นแบบจัดเต็ม เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้มีธีมเหมือนคฤหาสน์ที่สมาชิกเปิดเพื่อต้อนรับแฟนเพลง
การแสดงของทั้ง 2 สมาชิกในคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือว่าครบรสชาติมาก เพราะพวกเขาขนมาทั้งเพลงใหม่และผลงานในอดีตที่ทำให้เราย้อนอดีตสู่วันวานที่เราเพิ่งก้าวเข้ามาติดตามเคป็อป ส่วนการร้องและเต้นของทั้ง 2 สมาชิกก็ออกมาสุดยอด สมฉายาเทพเจ้าโลกตะวันออกและทำให้เราขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจมาชมการแสดงครั้งนี้ >> "TVXQ! Circle in Bangkok" เมื่อ "ดงบังชินกิ" แผดเผาความคิดถึงด้วยโชว์อันร้อนแรง
SAM SMITH : The Thrill Of It All Tour in Bangkok 2018
Jurairat N.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนเสิร์ตสมัยนี้จะต้องมาพร้อมทั้งแสง สี เสียง โดยเฉพาะเรื่องแสงสีเริ่มเป็นสิ่งสำคัญถึงขั้นว่า หนึ่งในปัจจัยของการทำคอนเสิร์ตที่ดี คือต้องถ่ายรูปออกมาแล้วสวย แต่สำหรับคอนเสิร์ตที่มาพร้อมเวทีขนาดเล็กแบบเดินสิบก้าวก็ทั่วแล้วของหนุ่ม Sam Smith มากับกราฟิกเรียบง่ายไม่หวือหวา มีน้อยอย่างพอดี และมาถูกจังหวะ เข้ากับน้ำเสียงอันนุ่มลึกที่สะกดแฟนเพลงทั้งฮอลล์เอาไว้ได้ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้ายโดยไม่ต้องพึ่งพากราฟิกใดๆ ช่วย บวกกับดนตรีเครื่องสายบรรเลงสดๆ ที่คลอเคล้าด้วยเสียงคอรัสที่ทำให้ทุกคำร้องในเพลงกลมกล่อมน่าฟังไปหมด จึงทำให้คอนเสิร์ตครั้งแรกของดีโว่หนุ่มคนนี้เพอร์เฟกต์ทุกกระเบียดนิ้วในแบบที่จะหาทัดเทียมยากจริงๆ >> Sam Smith กับคอนเสิร์ตขาย “เสียง” ของนักร้องคุณภาพระดับโลก
New Face of the Year
Parcels
Chanon B.
เป็นปีที่เลือกไม่ง่ายสำหรับศิลปินหน้าใหม่ วงการเพลงไทยสำหรับเราไม่มีใครที่โดดเด้งเทียบเท่าปีหรือสองปีก่อนหน้า ชื่อของ Parcels วงอิเล็กโทรป็อปที่ผสมผสานจังหวะดิสโก้และโซลอันแสนจะคึกคักจึงลอยขึ้นมาในทันที วงดนตรีจากออสเตรเลียวงนี้มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน เคยปล่อยอีพีอัลบั้มออกมาแล้ว 2 ชุด ก่อนที่อัลบั้มเต็มที่ใช้ชื่อเดียวกับวงจะปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการในปีนี้ รวมถึงเคยไปโลดแล่นอยู่บนเวทีเทศกาลดนตรี Glastonbury มาแล้วด้วย เพลงเด่นของพวกเขาที่เราอยากจะแนะนำให้ฟังก็มี “Overnight”, “Tieduprightnow” และ “Lightenup” อ้อ! ความเด็ดดวงอีกประการหนึ่งของ Parcels ก็คือ สุดยอดดูโออิเล็กทรอนิกส์อย่าง Daft Punk เคยมองเห็นความสามารถจนเสนอตัวโปรดิวซ์เพลงให้กับพวกเขามาแล้ว
Tilly Birds
Sidhipong W.
ถึงแม้จะมีสมาชิกแค่ 3 คน แต่วง Tilly Birds จากค่าย Gene Lab ที่มาพร้อมสมาชิกอย่าง เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา (ร้องนำ), บิลลี่-ณัฐดนัย ชูชาติ (กีตาร์), และ ไมโล-ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล (กลอง) ก็สามารถทำผลงานออกมาได้โดดเด่น ตั้งแต่ตอนเป็นศิลปินอิสระ จนถึงตอนปล่อยเพลง "จากกันด้วยดี (Ordinary)" ซิงเกิลแรกภายใต้สังกัดค่าย Gene Lab ที่แสดงให้แฟนๆ ได้เห็นว่า นอกจากจะมีมุมมองความรักต่างจากศิลปินไทยหลายๆ คนแล้ว พวกเขายังผสมผสานแนวดนตรีที่ชื่นชอบหลายแนวได้อย่างลงตัวในเพลงตัวเอง
นอกจากการทำเพลงแล้ว การแสดงสดของพวกเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดา โดยล่าสุดพวกเขาได้เป็นวงเปิดคอนเสิร์ต Cocktail Live #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา ซึ่งการแสดงในอิมเเพ็คอารีน่าในวันนั้นพวกเขาก็ทำออกได้ทรงพลังทั้งในแง่ของซาวด์ดนตรีของ บิลลี่ และ ไมโล รวมถึงเสียงของเติร์ดซึ่งสูงและมีเทคนิคการร้องที่ค่อนข้างแพรวพราว จนทำให้เราอยากเห็นผลงานของเขาในปีต่อๆ ไป ว่าจะไปในทิศทางไหน >> Tilly Birds วงร็อคไทยสไตล์อินเตอร์ กับ 4 เรื่องราวความพิเศษของพวกเขา
Jurairat N.
ไม่ใช่เรื่องง่ายของศิลปินที่เคยอยู่ในวงที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างมาก่อน จะออกผลงานเดี่ยวแล้วมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะศิลปินเดี่ยวได้อย่างเต็มภาคภูมิโดยไม่จำเป็นต้องมีนามสกุลเป็นชื่อวงต่อท้ายอีกต่อไป สำหรับสาวน้อยร่างเล็กแต่เสียงดีมีพลังเกินตัวไปมากอย่าง Camila Cabello เจ้าของเพลงฮิตข้ามปีอย่าง “Havana” คนนี้ ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า การเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง ทำตามอย่างที่ใจโหยหา และเชื่อมั่นว่าตัวเราเองทำได้โดยไม่มีขีดจำกัด หรือความกลัวใดๆ ย่อมนำเราไปสู่จุดมุ่งหมายเสมอ และเราเชื่อว่าเธอกำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองไปอีกหลายปีแน่นอน
Song of the Year
ประเทศกูมี – Rap Against Dictatorship
Chanon B.
อันที่จริงมีอยู่หลากหลายเพลงที่ติดอยู่ในลิสต์สุดท้ายก่อนจะตัดสินใจเลือก ไม่ว่าจะเป็น “ชีพจร” ของวงภูมิจิต, “Know Your Enemy” จาก Slot Machine หรือแม้แต่ “Break It To Me” จากฟากฝั่งวงการดนตรีสากลอย่าง Muse ทว่าท้ายที่สุดเพลง “ประเทศกูมี” จากกลุ่มฮิปฮอป Rap Against Dictatorship ก็เข้าวินอย่างไร้คู่แข่ง เหตุผลไม่ใช่เพราะความโด่งดังหรือกระแสพูดถึงในวงกว้างแต่อย่างใด ทว่าที่ยกให้เพลงนี้คือที่สุดแห่งปีเพราะ “ความกล้า” ของพวกเขาล้วนๆ กับการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา (และพวกเรา) ผ่านการแร็ปและบีตฮิปฮอปที่พวกเขาหลงใหล >> “Rap Against Dictatorship” แก๊งฮิปฮอปกลุ่มใหม่ สาดใส่ความรู้สึกต่อสังคมกับ “ประเทศกูมี”
แม่เกี่ยว - ปาล์มมี่
Sidhipong W.
นอกจากเพลง “ซ่อนกลิ่น” ที่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดวิวและคำชมจากแฟนๆ แล้ว เพลง “เเม่เกี่ยว” ที่ ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ ทำออกมาถือเป็นงานที่สุดยอดมากในปีนี้ เพราะ ปาล์มมี่ ได้เลือกหยิบเรื่องราวชีวิตของชาวบ้านที่ทำงานเกี่ยวกับการเกษตรที่กำลังเจอวิกฤติเรื่องการเงินและการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนสามารถเห็นได้จากหน้าข่าวในโลกออนไลน์ มาทำผลงานแนวให้กำลังใจ และทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพรส์ที่เห็นศิลปินจากค่ายใหญ่อย่างเธอทำผลงานที่เล่าถึงชีวิตมุมนี้
ดนตรีเพลง “แม่เกี่ยว” มาพร้อมซาวด์ป็อปที่ผสมผสานดนตรีพื้นบ้านอีสาน ซึ่งทำให้ผลงานชิ้นนี้โดดเด่นออกมาจากซิงเกิลที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าปาล์มมี่เป็นศิลปินที่พร้อมจะฉีกกรอบดนตรีเดิมๆ และทำผลงานที่มาพร้อมกลิ่นอายใหม่ๆ >> ปาล์มมี่ โพสต์เปิดใจ เหตุผลที่นำชีวิตชาวนาอีสานมาทำเพลง "แม่เกี่ยว"
Strawberries & Cigarettes - Troye Sivan
Jurairat N.
เป็นสาขาที่เลือกยากมาก เพราะมีเพลงในใจเยอะมาก finalists ของเรามีทั้ง “Pink Lemonade” ของ James Bay ที่เป็นก้าวกระโดดเปลี่ยนแนวดนตรีที่ทำให้แฟนเพลงเก่าช็อก แต่แฟนเพลงใหม่อย่างเราชอบสุดๆ หรือจะเป็น “Lost In Japan” และอีกหลายๆ เพลงของ Shawn Mendes ที่แสดงให้เห็นว่าหนุ่มคนนี้โตจากคำว่า “ไอดอล” ไปมากแล้ว แต่สุดท้ายที่เลือกเพลงนี้ของ Troye Sivan เพราะอยากจะ shout out เพลงนี้ให้หลายคนได้ฟัง และได้รู้จักกันสักหน่อย เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเพลงดีๆ ที่ไม่ได้รับการพูดถึงสักเท่าไร และเราอยากให้วัยรุ่นสมัยใหม่ทำเพลงที่เรียบง่าย แต่ละเมียดละมัยแบบนี้ออกมาอีกเยอะๆ
(ไปหาเพลงนี้ฟังกันเองนะ หาหนังเรื่อง Love, Simon มาดูด้วยก็ดี)
Album of the Year
White – Bomb at Track
Chanon B.
เคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า อัลบั้มชุดนี้ไม่ใช่อัลบั้มที่ดีที่สุด ไม่ใช่อัลบั้มที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่เป็นอัลบั้มที่ “ถูกจริต” มากที่สุดในรอบปีนี้ White คืออัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของ Bomb at Track ที่ต่อยอดมาจากอัลบั้มอีพีเมื่อปีที่แล้ว วงแร็ปเมทัลวงนี้มุ่งถ่ายทอดความเป็นจริงในสังคมอย่างตรงไปตรงมา แถมในอัลบั้มก็ยังเห็นพัฒนาการทั้งในเรื่องพาร์ตดนตรีที่เพิ่มเติมความแปลกใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งลายเซ็นของวง รวมไปถึงท่อนแร็ปที่คมคายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อส่วนตัวผู้เขียนเติบโตมากับ Limp Bizkit, Rage Against the Machine หรือแม้กระทั่ง Korn อีกทั้งวงการเพลงไทยก็ห่างหายจากเพลงสไตล์นี้มานานพอสมควร การที่เด็กรุ่นใหม่อายุเพียง 20 กว่าๆ ลุกฮือขึ้นมาปลดปล่อยความรู้สึกเช่นนี้ ก็ต้องขอ #RESPECT พวกเขาสักหน่อยล่ะ
โลกที่สาม - Chanudom
Sidhipong W.
ในมุมมองของคนส่วนใหญ่ คำว่าโลกที่สาม "มือที่สาม" หรือ "เพศที่สาม" อาจจะเป็นคำที่ถูกมองในแง่ลบ แต่วง Chanudom กลับเลือกนำคำว่า โลกที่สาม มาเป็นชื่อของอัลบั้มเต็มชุดแรก ที่มาพร้อมเพลงที่ตีแผ่สังคมในมุมที่หลายคนไม่ค่อยพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นเพลง “นางสาวปรารถนา” ที่สื่อถึงผู้หญิงที่ต่อสู้ชีวิตถึงแม้สังคมจะมองเธอในมุมที่ไม่ได้ เพลง “18+” ที่สื่อเรื่องการแสดงออกทางความสัมพันธ์ทางเพศ
นอกจากดนตรีที่แตกต่าง และ เพลงทั้งอัลบั้มที่แสดงออกถึงมุมมองโลกแบบไม่เหมือนใคร สิ่งที่เราประทับใจก็คือการเรียงเพลงอัลบั้ม ซึ่งเริ่มจากเพลง “ขาวและดำ” ที่เหมือนข้อความที่บอกคนดูให้วางอคติและมุมมองโลกแบบเดิมๆ แล้วฟังเรื่องราวจากพวกเขา ก่อนจะจบด้วยเพลง “ชนุดม” ที่เล่าถึงความเจ็บปวดแต่แฝงคำขอบคุณ ซึ่งเรามองว่าเป็นเหมือนเป็นบทส่งท้ายก่อนที่วงจะนำเรื่องราวใหม่ๆ มาบอกเล่าในคราวต่อไป >> “โลกที่สาม” ของ “Chanudom” กับแรงปรารถนาในตัวตนและเสียงดนตรีที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
Shawn Mendes – Shawn Mendes
Jurairat N.
ปกติแล้วศิลปินที่เลือกที่จะชื่อวง หรือชื่อตัวเองเป็นชื่ออัลบั้ม มักให้เหตุผลประมาณว่า เพราะอัลบั้มนี้สื่อถึงความเป็น “ตัวเอง” ได้ดีที่สุด เราเชื่ออย่างหมดใจว่าอัลบั้มนี้บอกเล่าความเป็นตัวของ Shawn Mendes หนุ่มอนาคตไกลที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา หรือเพราะโชคโซเชียลช่วยให้เขาดัง แต่เขามีฝีมือในการเล่นดนตรี และหลงใหลการแต่งเพลงอย่างเต็มที่จริงๆ หากฟังเพลงอย่าง “Lost In Japan” ที่เรากล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่นี้ หรือเพลงอย่าง “In My Blood” และ “Youth” คุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของหนุ่มน้อยวัยรุ่นใสๆ กับชีวิตความเป็นไอดอลของวัยรุ่นทั่วโลกที่เขาได้รับในวัยยังไม่ถึง 20 ปีดีอย่างเต็มที่ ไม่สงสัยเลยที่ผลงานของเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ทั้งสาขา Album of the Year และ Song of the Year จากเพลง “In My Blood” อีกด้วย
Artist of the Year
Rap Against Dictatorship
Chanon B.
เหตุผลคงไม่หนีไปจากการให้ “ประเทศกูมี” คือที่สุดของเพลงแห่งปีมากเท่าใดนัก เรานับถือความกล้าที่ Rap Against Dictatorship ออกมาพูดถึงสิ่งที่บ้างก็ไม่กล้าพูด บ้างก็เพิกเฉย ซึ่งโปรเจกต์ดังกล่าวกลับส่งแรงกระเพื่อมบางอย่างสู่สังคมไทยอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของมนุษย์ ข้อเท็จจริงที่หลายคนมองข้าม ปัญหาที่ถูกทิ้งร้าง และอื่นๆ อีกมากมาย และในวันที่พวกเขามองว่าประเทศบ้านเกิดนั้นช่างสิ้นหวัง แต่ในฐานะ “ศิลปิน” พวกเขาก็พร้อมจะลุกขึ้นมาพูดอะไรบางอย่างผ่าน “บทเพลง” >> จาก “ประเทศกูมี” สู่บทวิพากษ์ “อิสรภาพแห่งศิลปะในเมืองไทย” โดย “Rap Against Dictatorship”
The Yers
Sidhipong W.
ปี 2018 คือปีที่วง The Yers ก้าวออกจากโซนสบายออกมาเพื่อทำผลงานอัลบั้มชุดอะคูสติกอย่าง Cry ที่พวกเขาได้สละเครื่องดนตรีไฟฟ้า และบันทึกเสียงเพลงใหม่ในแบบอะคูสติก แต่ถึงแม้จะเป็นผลงานที่เปลี่ยนแนวทางการถ่ายทอด ผลงานเพลงในอัลบั้มชุดนี้ก็ยังคงความเป็น The Yers ไว้ชัดเจน และเพลง “เกลียด” จากอัลบั้มนี้ก็ประสบความสำเร็จจนติด Top 5 ชาร์ต Thailand Top 100 by JOOX ในขณะเดียวกันอัลบั้มนี้ก็มีเพลง “เสียง” ซิงเกิลใหม่ที่ทางวงทำออกมาเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งกลายเป็นเพลงของวงที่เราชอบที่สุดของวงไปแล้ว
นอกจากงานวงแล้วปีนี้ อู๋-ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ นักร้องนำวง The Yers ก็ได้ทำผลงานเบื้องหลังโดดเด่นหลายชิ้น อย่างเช่นการเป็นโปรดิวเซอร์ให้หลายๆ เพลงในโปรเจกต์ Play 2 ของ genie records และเพลง “อีกแค่ครั้งเดียว” ของวงอินดี้ร็อค De Flamingo รวมไปถึงการเป็นผู้ช่วยศิลปินรุ่นน้องในรายการ Band Lab ของค่าย Gene Lab ด้วย ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้เราได้เห็นความไม่ธรรมดาของอู๋ในฐานะคนเบื้องหลัง >> “The Yers” กับบทเพลงร้าวราน ท่ามกลางเม็ดฝนโปรยปรายใน “Cry Secret Session”
Jurairat N.
ต่อให้คุณไม่ใช่อาร์มี่ (Army = ชื่อเรียกแฟนคลับของ BTS) คุณต้องลุกขึ้นปรบมือยอมรับแต่โดยดีว่าปีนี้เป็นปีของเขาจริงๆ หากจะมองว่า BLACKPINK เป็น 4 สาวคลื่นลูกใหม่ที่น่าจะเป็น Artist of the Year ได้แล้ว เรากลับมองว่า BTS มีความเป็นมาที่น่าสนใจมากกว่าแค่คลื่นลูกใหม่ เพราะพวกเขาเดบิวต์มาหลายปีแล้ว มาจากค่ายเพลงเล็กๆ เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ล้มลุกคลุกคลานกับเส้นทางในการเป็นศิลปินของตัวเองมาหลายปี แต่ในที่สุดเมื่อพวกเขาพิสูจน์ตัวเองให้ได้เห็นแล้วว่า พวกเขาทำได้ ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากค่ายเพลงอะไร ร้องเพลงภาษาอะไร ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการประสบความสำเร็จในการเป็นศิลปินที่พวกเขารักได้เลยแม้แต่น้อย นอกจากชาร์ตเพลงในเกาหลี ในอเมริกา และทั่วโลกที่พวกเขาทำลายสถิติแล้วสถิติเล่า ยังรวมถึงโลกโซเชียลที่พวกเขาครองพื้นที่ไปตลอดทั้งปี ขึ้นปก TIME Magazine ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวที UN และล่าสุดกับคอนเสิร์ตในประเทศไทยทั้ง 2 วันที่บัตรกว่า 80,000 ใบขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง จากเวที 7 สีคอนเสิร์ต จนปัจจุบันไม่ได้จบแค่ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี แต่เป็นราชมังคลากีฬาสถาน แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ปีนี้ต่อให้เป็นศิลปินตะวันตกชื่อดังระดับโลกคนไหน ก็มาแรงและไม่น่าพูดถึงมากเท่ากับวงบอยแบนด์เกาหลีวงนี้จริงๆ >> BTS กับความสำเร็จในวงการเพลงอเมริกา ที่เริ่มด้วยคำว่า "แตกต่าง"
ขอบคุณภาพจาก 4Nologue, Maho Rasop Festival, IG: @parcelsmusic, Me Records, genie records, What The Duck, Gene Lab, Smallroom, BEC-Tero Entertainment, BigHit Entertainment