“VKL” กับวิสัยทัศน์แห่งตระกูลวงษ์คำเหลา และการเทหมดหน้าตักในอัลบั้ม “Vong Vision”

“ผมเทหมดหน้าตัก”

ประโยคแรกเริ่มบทสนทนาระหว่าง Sanook! Music และ VKL ในบ่ายวันหนึ่งซึ่งทำให้เราอยากค้นหาคำตอบในทันที ว่าเหตุใดเขาจึงตัดสินใจทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตลงไปในอัลบั้มเต็มชุดล่าสุดอย่าง Vong Vision (วงษ์ วิชั่น)

เป็นเวลาเกือบ 1 ปีนับจากคราวที่แล้วที่เราและเขาได้นั่งประจันหน้ากัน พูดคุยถึงอีพีอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า Over Control ความรักที่มีต่อดนตรีฮิปฮอป และเรื่องราวที่พยายามจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่า เขาไม่ได้เป็นเพียง “ลูกหม่ำ”

VKL

>> “ถ้าไม่ปล่อยเพลง นั่นคือผมตายไปแล้ว” ความมุ่งมั่นของ VKL สู่อีพีที่อยู่เหนือการควบคุม

วันนี้ VKL หรือ มิกซ์-เพทาย วงษ์คำเหลา เติบโตขึ้นอีกขวบปี มุมมองที่มีต่อสิ่งรอบกายก็ดูจะแปรผันไปตามอายุ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนไปนั่นก็คือ ดนตรีฮิปฮอป ที่เขาหลงใหล

อัลบั้ม Vong Vision ที่เพิ่งปล่อยให้ฟังสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา จึงเปรียบเสมือนตัวแทนในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของ VKL ออกมาเป็นบีต คำร้อง และคำแร็ป ตัวเลข 23 แทร็คกับการบอกเล่าตัวตน ความคิด ความรัก ครอบครัว อย่างไม่อ้อมค้อม

การเทหมดหน้าตักสำหรับอัลบั้ม Vong Vision ในหนนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ภาพจำของการเป็นลูกชายนักแสดงตลกชื่อดังอย่าง หม่ำ จ๊กมก จะแปรเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลาไหม ลองมาสัมผัสวิสัยทัศน์ของ VKL ไปพร้อมๆ กัน

แล้วคุณอาจจะเข้าใจประโยค “คนทำก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคนฟัง” และ “ศิลปินต้องทำศิลปะ” ที่แอบซ่อนอยู่ในอัลบั้ม... มากยิ่งขึ้น

 

คุณเริ่มต้นการพูดคุยในวันนี้ด้วยคำว่า “หมดหน้าตัก” อธิบายให้เราเข้าใจสักหน่อย

เคยไปคาสิโนไหม ที่มันมีชิปวางอยู่ ผมผลักชิปเหล่านั้นออกไปหมดเลย อัลบั้ม Vong Vision ได้งบมาจากไหน... ค่าตัวตอนผมไปออกรายการคนอวดผี ตอนไปออก The Rapper นู่นนี่นั่น ผมลงทุนไปกับห้องอัด ซื้อของมาเองหมด ไมโครโฟน โปรแกรมของแท้ แต่ก็แฮปปี้ เพราะเราทำเองทุกขั้นตอน เราเห็นมันทั้งหมด คำว่าหมดหน้าตักในที่นี้ ผมวัดกับตัวเองด้วย คือถ้าอัลบั้ม Vong Vision ไม่มีเพลงที่ดังเลย หรือไม่มีวี่แววว่าเส้นทางศิลปินของ VKL จะไปต่อได้ ผมก็... ไม่ใช่ว่าผมจะเลิกหรอก แต่ผมก็ต้องหาเส้นทางอื่นที่มั่นคงกว่านี้ ที่มีเงินเข้ามา ตอนนี้ผมวัดตัวเองกับอัลบั้มนี้เลยว่า ผมอยากเป็นศิลปิน ถ้าไม่ได้จะเสียใจไหม ผมไม่เสียใจนะ เพราะผมสามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ ผมจับต้องมันได้ ขอให้คนเข้าใจในสิ่งที่ผมนำเสนอไปก็พอ

VKL

VKL

 

หมายถึง... คุณมองว่าอาจไม่สามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้แล้วในฐานะศิลปินเพลงหรือเปล่า?

เหตุผลจริงๆ คือ ผมเอาเงินทั้งหมดที่ผมต้องกินข้าวถึงสิ้นปีนี้ไปลงกับอัลบั้มนี้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นมันต้องทำเงินกลับมาเพื่อที่จะได้กินข้าวต่อ ถ้ามันไม่สามารถทำได้ ก็เท่ากับว่าผมต้องหาเส้นทางใหม่เพื่อที่จะเอาเงินมาทบกับที่ผมลงเงินไป ผมก็ไม่อยากเดินเส้นทางอื่นหรอก แต่มันต้องยอมรับความจริง ผมวัดกับตัวเองมาหลายรอบ แต่ผมไม่ได้วัดเหมือนรอบนี้ที่... มาดิ เข้ามาดิ ผมหมดแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว

อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่า จะยังวัดกับตัวเองอยู่ จนมาถึงทุกวันนี้?

แฟนคลับ คนที่มาคอมเมนต์ งานที่เข้ามา บางคนอายุ 23-24 เอาเงินเดือนตัวเองไปให้พ่อกับแม่ พาพ่อแม่ไปกินข้าว พี่สาวผมพาพ่อแม่ไปกินข้าว จ่ายเงินให้ บางครั้งพ่อกับแม่ก็พูดแบบว่า... เมื่อไหร่จะเลี้ยงพ่อ ผมก็รู้สึกนะ ผมอยากรู้ว่าเส้นทางนี้มันสามารถทำเงินได้ไหม สามารถเอาไปจ่ายค่าโทรศัพท์ส่วนตัวได้ไหม เลี้ยงข้าวพ่อแม่ได้ไหม ซื้อคอนโดได้ไหม มันคือทุกสิ่งทุกอย่างของอัลบั้มนี้

VKL

เรียกได้ว่า ทุ่มทั้งแรงใจ แรงกาย แรงเงิน ที่หามาได้ด้วยตัวเอง?

ตอนทำหนัง ขุนบันลือ กับพ่อ (หม่ำ จ๊กมก) ผมแทบไม่เข้าประชุมเลย มาสนแต่กับ Vong Vision แล้วอันที่จริงผมต้องเป็นผู้ช่วยสามให้หนังเรื่องใหม่ของพี่ก้อง (ก้องเกียรติ โขมศิริ) ผมก็ขอออกมาทำตรงนี้ เงินที่ผมเอามาลงกับอัลบั้ม มันก็อยู่ได้จนถึงสิ้นปีนี้แหละ (ยิ้ม) ก็มาลำบากเอาตั้งแต่ตอนนี้ซะเลย (หัวเราะ) ไหนๆ ช่วงสิ้นปีไม่มีกิน ก็ไม่มีกินตอนนี้เลยดีกว่า เพราะถ้าเรากินได้ แต่เราไม่มีผลงาน ผมว่าอันนั้นมันหนักกว่า เพราะผมอยากมีผลงานออกมา

คำว่า Vong Vision เป็นทั้งชื่ออัลบั้มเต็มชุดล่าสุด รวมไปถึงซิงเกิลเปิดตัว คำๆ นี้มีความหมายกับคุณอย่างไร?

ผมอยากสื่อกับทุกคนว่า ผมเป็นตัวแทนของตระกูลวงษ์คำเหลามากกว่าคำว่า “ลูกหม่ำ” คือถ้าคนมองแค่ว่าเป็น “มิกซ์ ลูกหม่ำ” มันก็จะยังคงเป็นแบบนั้นอยู่ ยังเป็นทายาทของนักแสดงตลก Vong Vision (วงษ์ วิชั่น) คือวิสัยทัศน์ของวงษ์คำเหลา ของ VKL ผมว่ามันตรงกับสิ่งที่ผมจะสื่อ แล้วผมก็เลือกมาเป็นซิงเกิลเปิดหัวด้วย ถ้าคนมองขาดนะ จะรู้สึกว่า มันเหมือนเป็นเพลงให้กำลังใจ ให้ความหวังกับคนทำเพลง เหมือนที่ผมบอกในท่อนฮุกว่า “บ่ฮู้อิหยัง ข่อยล้มลุกมาหลายที” ล้มลุกมาหลายทีแต่ก็ยังเดินต่อไปได้ แค่ตั้งสติให้ดี แล้วก็จัดหนักไปกับสิ่งที่เราชอบและรัก แค่นั้นเลย

อัลบั้ม Vong Vision

อัลบั้ม Vong Vision

 

มาจนถึงวันนี้ คนอื่นยังมองคุณว่าเป็นแค่... “ลูกหม่ำ” อยู่อีกไหม?

ผมว่าดีขึ้นนะ ผมแฮปปี้มากเลย ใช่ ยังไงเราก็คือลูกหม่ำจนวันตายนั่นแหละ แต่พักหลังมาคำว่าลูกหม่ำมันไม่ได้มาเป็นลำดับแรก บางครั้งก็เป็น มิกซ์ เพทาย เป็น มิกซ์ VKL บางครั้งก็มีคนวัยพ่อแม่ผมมาทัก ผมตกใจที่ว่า เขารู้ในสิ่งที่เราทำ เข้าใจในวิสัยทัศน์ผมด้วย ซึ่งนั่นมันก็ต่อยอดมาเป็น Vong Vision นี่แหละ

คุณบอกเล่าวิสัยทัศน์ในเรื่องอะไรบ้างลงไปในอัลบั้มนี้?

ต้องบอกก่อนว่า อัลบั้มนี้มีทั้งหมด 5 พาร์ต พาร์ตแรกคือ Introduction นำเสนอว่าผมจะพูดถึงอะไร ส่วนพาร์ตสุดท้ายก็คือ Conclusion เป็นบทสรุปอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจมากๆ คือพาร์ตที่ 2-4 อย่างพาร์ตที่ 2 จะเป็นมุมมองของ VKL ว่า ศิลปินควรทำอย่างไรกับตนเอง กับสไตล์ของตัวเอง กับแฟนเพลง กับเพลงที่จะปล่อยออกมา พาร์ตที่ 3 เป็นฟีลเพลงรัก เพลงสนุกๆ มันๆ คือเมานั่นแหละ (หัวเราะ) ไปพักผ่อน เมา แล้วก็คิดถึงเรื่องความรัก นึกถึงสิ่งที่เราไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนพาร์ต 4 จะหนักนิดหนึ่ง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว พูดแบบตรงๆ ทั้งเรื่องครอบครัว ความรักที่เจอมา เล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่ผมเรียนนานาชาติซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นจนมาถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกอย่างไรกับทุกอย่างที่ผมทำมาทั้งหมด ผมพูดออกไปหมดเลย

VKL

ซึ่งคุณจัดหนักไปถึง 23 แทร็ค?

(หัวเราะ) ต้องบอกก่อนว่าในอัลบั้มจะมีทั้งหมด 18 เพลง ส่วนที่เหลืออีก 5 แทร็คจะเป็น skit ซึ่งเป็นวอยซ์โอเวอร์ของผมเอง เลข 23 คืออายุผม 18 คือวันเกิดผม แต่สิ่งที่อยากบอกก็คือ ตกใจกันทำไมวะ เราเป็นศิลปิน เราคิดเพลงทุกวินาที ฉะนั้นเพลงมันมีออกมาตลอด แล้วแร็ปเปอร์พวกรุ่นใหญ่ๆ สมัยก่อนเขาทำ 30-40 แทร็คนะ เขาจะขายกันยังไงวะ แต่ผมไม่ได้มองมุมนั้นไง ผมเอาศิลปะมาก่อน เงินรองลงมา แต่แร็ปเปอร์ส่วนมากที่ผมเห็น เงินมักมาก่อนศิลปะ ผมเป็นแค่ศิลปินที่ทำศิลปะครับ ผมอยากให้กำลังใจศิลปินด้วยกันเอง ไม่ใช่แค่ฮิปฮอปนะ ทุกๆ แนวเลย เฮ้ยพวกคุณทำอัลบั้ม อย่าไปทำแค่ 10 เพลง คุณอยากทำกี่เพลงคุณทำไปเลย เพราะยุคนี้ไม่เหมือนกับยุคก่อนที่จะทำเพลงทีหนึ่งต้องเข้าห้องอัดใหญ่ๆ ผมอยากให้ทุกคนมีความหวังกับอุตสาหกรรมดนตรี

แล้วคุณก็ยึดมั่นในการทำอัลบั้มเต็มหรืออีพีมาโดยตลอด?

ผมว่ามันเป็นพื้นฐานและมาตรฐานของศิลปินนะ โอเคไม่เป็นไร คุณไม่ทำอัลบั้มเต็มก็ได้ แต่ในความรู้สึกผมมันก็ควรมีอีพี ผมว่าซิงเกิลมันเป็นระบบของบ้านเรามากกว่า ผมอยากให้เมืองไทยมีความเป็นสากลมากกว่านี้ ไม่อยากให้มันอยู่แค่นี้

ดูจากชื่อเพลงทั้ง “เสียงอีสาน”, “เสียหลาย”, “คือเก่า” เดาว่าก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นภาคอีสานบ้านเกิดของคุณ?

ผมว่ามันเป็นจุดเซอร์ไพรส์มากกว่า คราวก่อนเราคุยกันว่า มันคือท่าไม้ตายผม ซึ่งผมไม่อยากเอามันมาเป็นหลักขนาดนั้น ไม่อยากให้คนฟังเลี่ยน เปรียบกับอาหารก็ยังเป็นจานที่กินแล้วก็ยังกินได้ต่อๆ ไป เพราะผมก็ยังมีแพลนสำหรับยโสธรซาวด์อยู่ Vong Vision คืออยากให้คนเห็นสไตล์ที่ผมอยากทำมาตั้งนานแล้ว แต่ผมดันมาทางอีสานแล้วคนดันไปเพ่งเล็งก่อน

VKL

ส่วนผสมทางดนตรีที่คุณนำมาคลุกเคล้าในอัลบั้มชุดนี้?

อย่างเพลงหนึ่งอาจจะเป็น Trap แต่อาจจะมีเมโลดี้หรือเสียงแถบอีสาน แต่ก็ไม่มีคำศัพท์อีสานอยู่เลย คือมันก็เป็นซิกเนเจอร์ของผมนั่นแหละ แต่เราพยายามให้มันมีความเป็นลูกผสมอยู่ตลอด หรือถ้าจะทำเป็นอีดีเอ็ม ผมก็อาจจะมีท่อนที่ใส่เสียงแคนลงไป บางเพลงก็จะไปหนักที่เรื่องราว อัลบั้มนี้ผมร้องเมโลดี้เยอะมาก รวมถึงเรื่องเสียงประสานด้วย แร็ปเปอร์ใส่เสียงประสานมีกูใส่คนเดียวแค่ตอนนี้นะ (หัวเราะ) จะล็อคคีย์กันด้วยออโต้จูน ผมก็ไม่ล็อคหรอก

อย่างในพาร์ตที่ 4 คุณบอกว่าเป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัวแทบทั้งหมดซึ่งต้องยอมรับว่ามันก็ไม่ได้สวยงามไปทั้งหมด การย้อนกลับไปสู่เรื่องราวเหล่านั้นมันยากไหมสำหรับคุณ?

ตอนที่ทำผมว่ามันก็ไม่ยาก แค่ต้องหาบีตที่มันจี้จุดเรา อย่างก่อนหน้านี้เพลง “Can I” เชื่อไหมตอนที่ผมแต่ง ผมคุยกับแฟนเก่าเพื่อที่จะเอาฟีลมา แล้วก็หลงไปอยู่พักหนึ่ง (หัวเราะ) พอกลับมาได้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นอย่างไร แต่มันก็จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แบบ... โอ้โห กูไม่น่าพลาดเลย ไม่น่าทำอย่างนั้นเลย หรืออย่างเพลง “Pattaya Love” ในอัลบั้มนี้ ผมเริ่มแต่งแร็ปที่พัทยา มีรักแรกที่นั่น มันมีหลายอย่างที่เราทิ้งความทรงจำไว้ที่พัทยาแล้วไม่ได้เคลียร์กับมัน วันเกิดทุกปีผมจะไปพัทยา ไปฉลองที่นั่น ส่วนเพลง “เคยตัว” เป็นเรื่องความรักที่ผ่านมา ความเลวที่ผมเคยทำไว้ “เอาแฟนเก่าตอนมีแฟนอยู่ ไม่ได้ฟีลใหม่ ตอนนั้นฝักใฝ่ เ-ดทั้งวันเสื้อผ้าไม่ต้องใส่ พอเจอคนใหม่ก็หมาหยอกไก่” คือพูดตรงๆ ไปเลย เวิร์สแรกพูดเรื่องความรัก เวิร์สสองพูดเรื่องครอบครัว ถ้าให้พูดตรงๆ เพลงนี้ผมจะพูดแต่เรื่องแย่ๆ ของผม ผมแค่คิดว่า ทุกคนก็มีมุมแย่กันทั้งนั้น ผมอยากพูดออกไปว่าผมเป็นอย่างไร แต่ “เคยตัว” สำหรับผมก็ยังเบากว่าเรื่องราวใน “Can I” ซึ่งเป็นเรื่องความรักที่ผมรับไม่ได้ที่สุด

VKL

แถมคุณยังได้แร็ปเปอร์มากความสามารถหลายคนมาร่วมงาน มีเกณฑ์ในการเชิญแต่ละคนมาฟีทเจอริ่งไหม?

สำหรับผมจะใช้วิธีการฟังบีต ถ้าคิดท่อนฮุกออกปุ๊บ เฮ้ย เพลงนี้มันต้องมีคนฟีทฯ ไม่ใช่ว่าแต่งให้เสร็จทั้งหมด แล้วเวิร์สสองตัดออกเพื่อหาคนมาฟีทฯ อย่างพี่ FIIXD หรือพี่กวิน Gavin .D นี่รู้เลยว่าต้องเป็นเขา รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย

และก็เป็นอีกครั้งที่ได้ร่วมงานกับ ฟักกลิ้ง ฮีโร่?

ใช่ ชื่อเพลง “ยาดอง” ตอนแต่งรู้เลยว่าต้องเป็นพี่กอล์ฟ (ณัฐวุฒิ ศรีหมอก) แต่ก็แอบเผื่อใจไว้ตอนแรกเพราะเห็นแกทำอัลบั้มอยู่ด้วย ไม่อยากรบกวนพี่เขา แต่พอส่งไปให้พี่กอล์ฟบอกว่าชอบ ก็โอเค ได้ทำงานด้วยกัน ซึ่งจริงๆ แล้วในอัลบั้มนี้จะมี YOUNGOHM กับพี่โจ้ Joey Boy ด้วย แต่ด้วยเรื่องเวลามันไม่ได้

ซึ่ง “ยาดอง” เป็นอีกหนึ่งเพลงที่น่าสนใจตั้งแต่เห็นชื่อ?

มันไม่ใช่เพลงที่เชิญชวนให้คนมาดื่มยาดองนะ ถ้าให้เปรียบยาดอง ผมว่ามันฟีลเหมือนวอดก้าที่เมืองนอกนั่นแหละ ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นยาดอง แล้วทำไม Jay Park ต้องเป็นเพลง “SOJU” ล่ะ (หัวเราะ) ผมได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงนี้ด้วย อ๋อ เกาหลีมีโซจู มาเจอยาดองบ้านกู ผมคิดแค่นี้ (หัวเราะ) จริงๆ มีอีกหลายเพลงที่อยากจะแนะนำ อย่าง “เสียหลาย” ที่ฟีทเจอริ่งกับ CallmeYOUNG ซึ่งเขาเป็นคนใต้ ก็จะมีความเป็นอีสานมาเจอกับภาคใต้

VKL

ชื่อของ VKL ในวงการฮิปฮอปไทย ณ ปัจจุบัน?

ถ้าให้เปรียบเทียบ แร็ปเปอร์แต่ละคนก็ขึ้นไปชั้น 1, 2, 3 ซึ่ง VKL ก็มีชั้นของเขา แต่ผมก็ไม่รู้ว่านั่นคือชั้นไหน แต่คนรู้จักผมในฐานะ VKL มากขึ้นไหม ก็ใช่ ล่าสุดไปโปรโมตหนังขุนบันลือที่ลาว ที่เวียงจันทน์ คนกรี๊ดให้ผมด้วยชื่อของ VKL ไม่ใช่ มิกซ์ ลูกหม่ำ หรือ มิกซ์ เพทาย กรี๊ดลั่นแบบหูสั่นน่ะ แล้วพูดคำว่า “ฟังกันแหน่” ซึ่งเป็นชื่อเพลงผมด้วย ผมมีความสุขมาก มีกำลังใจทำเพลงต่อมาก ผมไม่ได้ต้องการให้คนมากรี๊ดนะ แค่ไม่นึกว่าคนจะเห็นวิสัยทัศน์ผมชัดขนาดนี้ คือมันมีอยู่คำหนึ่งที่พ่อพูดกับผมตอนที่ทำมิวสิควิดีโอเพลง “คืนนั้น” นานแล้วล่ะ ก็ถ่ายที่บ้าน พ่อก็ขึ้นมาดูเพราะว่าถ่ายจนถึงดึกดื่น เขาก็เมา แล้วก็มาพูดมาเล่นกับผม บอกว่า ดูซิ มึงจะทำได้ถึงขนาดไหน แล้ววันที่คนลาวกรี๊ดให้ผม ในใจผมพูดกับตัวเองว่า ผมทำได้ถึงตอนนี้พ่อ ผมกดดันมาตลอด ผมรู้สึกว่ามันโล่งไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกหลายขั้นที่ต้องขึ้นไปอีก

ในช่วงแรกคุณบอกว่า ถ้าอัลบั้มนี้ไม่ประสบความสำเร็จ คุณอาจจะหาเส้นทางอื่นลองเดินดู แล้วถ้ามันประสบความสำเร็จล่ะ?

เจอกูแน่ (หัวเราะ) จริงๆ ผมมีอีก 2 โปรเจกต์ที่รออยู่ ผมพูดกับตัวเองไว้แล้วว่าต้องมี 3 อัลบั้ม อัลบั้มต่อไปต้อง Epic อัลบั้มที่ 3 ต้อง History อัลบั้มนี้แค่เปิดตัวให้คนรู้จัก ถ้าคนจะบอกว่าดี ขอบคุณครับ แย่หมาไม่แดก ขอบคุณครับ ก็โอเค ยอมรับ แต่ผมก็โอเคในจุดหนึ่งแล้ว เพราะผมเริ่มกระบวนการทั้งหมดจากศูนย์ แล้วผมก็ทำเองคนเดียวมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการอัดร้อง

VKL

อยากให้คนฟังได้รับอะไรกลับไปหลังจากฟังอัลบั้ม Vong Vision จบครบทั้ง 23 แทร็ค?

ความบันเทิงมันมีอยู่แล้ว ความรู้มีไหม อาจมีบางช่วง แต่ในช่วงพาร์ต 4 ที่ผมเล่าถึงเรื่องผิดๆ ในชีวิตตัวเอง ผมว่าเด็กรุ่นใหม่หรือคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการ มันอาจจะช่วยสอนพวกเขาได้ว่า บางสิ่งก็ไม่ควรทำ เรื่องความรัก ครอบครัว อะไรประมาณนี้ ส่วนเรื่องที่คนจะมาซื้ออัลบั้มเยอะแบบทะลุเป้า ผมไม่ได้หวัง ผมไม่อยากคิดอย่างนั้น มันไม่ควรคิด ถ้ามันจะได้ มันก็ได้เอง แต่สิ่งที่ผมอยากให้คนรับไปก็คือ เข้าใจในวิสัยทัศน์ของผมก็พอ ขอให้เข้าใจว่าผมกำลังนำเสนออะไรอยู่ แล้วผมก็ไม่อยากให้... อันนี้มันอาจจะแรงไป แต่ผมแค่รู้สึกว่า ถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้ว ผมไม่อยากให้อัลบั้มหรือเพลงผมยอดวิวมันขึ้นเยอะกว่าตอนที่ผมอยู่ เพราะผมจะเสียใจ ตอนที่ผมยังอยู่ ผมก็ไม่ได้บอกว่าต้องให้วิวมันขึ้นเยอะ แค่คุณให้โอกาสและเข้าใจผมก็พอ วันที่ผมอยู่มันยังทำอะไรได้หลายอย่าง วงการฮิปฮอปเปิดกว้างแล้ว ผมเปิดให้คุณเข้ามาแล้ว ก็เปิดต้อนรับผมบ้าง

จริงๆ มันก็น่าเศร้าที่บางคนซึ่งจากไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าโด่งดังหรือมีคนพูดถึงมากกว่าตอนที่เขามีชีวิต?

อย่าทำแบบนั้นกับผม ผมจะไปหลอกแฟนคลับทุกคนถ้าทำแบบนั้น ผมพูดจริงนะ...

 

ฟังอัลบั้ม Vong Vision จาก VKL กันต่อเลย

 

Story by: Chanon B.
Photos by: Ditsapong K.

>> มิกซ์ VKL น้ำตาซึมกลางเวที หลังแร็ปเพลง Like Father Like Son ต่อหน้าคุณพ่อ