"Maroon 5" กับโชว์พักครึ่ง Super Bowl LIII ที่อาจจะ “สนุก” แต่ไม่ “สุด”

จบไปเรียบร้อยแล้วสำหรับโชว์พักครึ่งของการแข่งขัน Super Bowl LIII ครั้งที่ 53 ที่จัดขึ้นที่สนามเมอร์ซิเดส เบนซ์ ในนครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ในวันที่ 3 ก.พ.นี้ (เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเป็นการแสดงในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา (>> แพทริออตส์ อัด แรมส์ 13-3 ผงาดแชมป์ซูเปอร์โบวล์ สมัย 6) ที่นอกจากการแข่งขันจะมีผู้ชมอเมริการอชมกันทั่วประเทศแล้ว การแสดงช่วงพักครึ่งยังเป็นที่สนใจของแฟนเพลงทั่วโลก เพราะมักจะเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ด้วยฝีมือการแสดงของศิลปินระดับโลกมาตลอด ซึ่งในปี 2019 นี้ได้ Maroon 5 มาระเบิดความมันร่วมกับ Travis Scott และ Big Boi

 

คลิกเพื่อชม Maroon 5 FULL Super Bowl LIII Halftime Show ft. Travis Scott & Big Boi

 

Maroon 5 นำโดย Adam Levine เปิดการแสดงด้วยเพลงป็อปร็อคจังหวะเท่ๆ แน่นๆ อย่าง “Harder to Breathe” ก่อนที่หนุ่ม Adam จะถอดแจ๊กเก็ตตัวนอกแล้วร้องเพลงที่แฟนๆ หลายคนคิดถึงอย่าง “This Love”

ระหว่างที่เครื่องกำลังอุ่นๆ พร้อมจะมันในเพลงต่อไป ภาพกลับตัดจากการแสงในสเตเดี้ยมมาที่ภาพการ์ตูน SpongeBob SquarePants เล่นเพลง “Sweet Victory” แล้วจึงตัดกลับไปที่ Travis Scott แร็ปเพลง “Sicko Mode” โดยมี Adam Levine เล่นกีตาร์อยู่ข้างๆ จากนั้นวงดุริยางค์ก็เริ่มบรรเลงกลองก่อนที่หนุ่ม Adam จะหยิบเพลงฮิต “Girls Like You” ที่เพิ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Awards ในปีนี้ขึ้นมาร้องไปพร้อมๆ กับวงคอรัสประสานเสียง (ที่แผดเสียงเต็มที่) จาก Voice of Atlanta

 

เพิ่มความรักความซึ้งกันต่อกับ “She Will Be Loved” ที่แฟนๆ รอบๆ เวทีพร้อมใจกันจุดโคมกระดาษสีแดงที่เรียงเป็นคำว่า ‘One Love’ ก่อนจะมาเร่งจังหวะกันอีกครั้งกับ Big Boi ที่มาพร้อมเพลงดังของ Outcast อย่าง “The Way You Move” ก่อนที่จะค่อยๆ เข้าสู่ช่วงท้ายของโชว์กับ Maroon 5 กันอีกครั้งด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ หวานๆ อย่าง “Sugar” (พร้อมกับการถอดเสื้อจนเหลือแต่เสื้อกล้าม) และเพิ่มความร็อคปิดจบของโชว์ด้วย “Move Like Jagger” ที่ส่งริฟฟ์กีตาร์เท่ๆ ส่งท้าย พร้อมกับที่หนุ่ม Adam ถอดเสื้อกล้ามชิ้นสุดท้ายออก โชว์กล้ามแน่นๆ ที่ทำเอาสาวๆ ทั่วโลกกรี๊ดลั่นอยู่หน้าจอ

 

 

การแสดงเพียง 13 นาทีกว่าๆ นี้จะเป็นที่จดจำกันไปทั่วโลกไปอีกนานหรือไม่ ก็ต้องมาดูกันที่ผลตอบรับจากแฟนเพลงทั่วโลกว่าพอใจกับโชว์ในครั้งนี้มากแค่ไหน จะบอกว่าเป็นจุดอ่อนของศิลปินที่เป็น “วงดนตรี” ก็อาจจะได้ เพราะแฟนเพลงหลายคนที่ชื่นชอบ Popstar อย่าง Katy Perry หรือ Lady Gaga แม้กระทั่ง Beyonce อาจจะรู้สึกว่าโชว์ของ Maroon 5 น่าเบื่อ ไม่มีจุดไหนให้น่าจดจำ คอมเมนต์คล้ายๆ กับตอนที่ Coldplay เป็นศิลปินแสดงโชว์ในปี 2016 แต่ในโชว์นั้นยังมี Beyonce และ Bruno Mars ที่มาร่วมสร้างครึกครื้นให้กับการแสดงในบางช่วงได้

อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ดูจะผิดหวังกับโชว์ของ Maroon 5 ในครั้งนี้ นอกจากการแสดงที่ดูเหมือนจะไม่มีไฮไลต์อะไรที่โดดเด่น รวมถึงโปรดักชั่นก็ไม่ได้เป็นที่น่าจดจำมากแล้ว การมีคลิปวิดีโอการ์ตูน SpongeBob SquarePants มาคั่นกลางการแสดงก็ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้อารมณ์ความสนุกหยุดชะงักไม่ต่อเนื่อง การเข้าสู่เพลงต่อเพลง หรือ Transition ก็ทำได้ไม่ค่อยลื่นไหลนัก (จะมีก็แต่ช่วงเพลง “The Way You Move” กับ “Sugar” ที่พอจะทำได้ดี) ช่วงอารมณ์ของเพลงที่เปลี่ยนไปจากร็อคเป็นป็อปเป็นฮิปฮอป แล้วก็กลับไปป็อปและร็อคอีกครั้ง ก็ดูจะทำให้คนดูสับสนในอารมณ์ไปบ้าง (เพราะการเปลี่ยนแนวดนตรีแต่ละช่วงค่อนข้างสั้น) ช่วงคอรัสประสานเสียงในเพลง “Girls Like You” ก็ดูจะไปกันคนละทิศละทาง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการแต่งกายของฟร้อนท์แมนอย่าง Adam Levine ที่ช่วงเหลือแต่เสื้อกล้ามอาจจะไม่ได้ดูเท่ดูแพงอย่างที่ควรจะเป็น

แม้ว่ากระแสของแฟนเพลง และสื่อเมืองนอกหลายๆ สื่อดูจะไม่ค่อยปลื้มกับโชว์ในครั้งนี้มากนัก แต่เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่ยังคงสนุก และเพลิดเพลินไปกับโชว์ในครั้งนี้ได้ไม่ยาก เพียงแต่อาจจะยังไม่ใช่โชว์ “ในตำนาน” ที่แฟนเพลงทั่วโลกต้องกล่าวถึงไปอีกหลายปีเท่านั้นเอง ด้วยข้อจำกัดของเวลา และอีกหลายๆ อย่าง อาจทำให้วงดนตรีคุณภาพอย่าง Maroon 5 ไม่สามารถแสดงโชว์เต็มๆ อย่างที่ใจคิดได้ หากอยากพิสูจน์ความสามารถที่แท้จริงของเขากันอีกครั้ง อย่าลืมตีตั๋วมาดูซิกส์แพ็คพี่ Adam ใกล้ๆ กันได้ใน Maroon 5: Red Pill Blues Tour 2019 วันที่ 9 มีนาคม 2562 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1

 

_____________________

Story : Jurairat N.

Photos : GettyImages