“JAMnight Live! with Honne & Friends” ค่ำคืนแห่งเวทมนตร์ทางดนตรี ของพ่อมดอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สองหนุ่ม Andy Clutterbuck และ James Hatcher ที่รวมตัวในนาม Honne เป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มแฟนๆ ชาวไทย จนทำให้คอนเสิร์ตที่ผ่านมาทั้งสองครั้งขายบัตรหมดเกลี้ยง และเพลง "Day 1" ของพวกเขายังติดอันดับ 5 ชาร์ต Thailand Top 100 by JOOX อีกด้วย
ผลงานที่ทำให้เรารู้จัก Honne ก็คือเพลง “Day 1” ที่มาพร้อมท่อนฮุคสุดติดหู แต่เพลงที่ทำให้เราตกหลุมรักวงนี้ก็คือเพลง “Good Together” และ “Warm on a Cold Night” ที่ทำให้สัมผัสความเป็นอิเล็กทรอนิกส์โซลในแบบฉบับของวง ที่มาพร้อมเนื้อร้องที่พรรณนาความรักได้หวานซึ้ง และการผสมซาวด์ดนตรีรวมถึงเสียงเอฟเฟกต์กับแอมเบียนต์ที่เหนือความคาดหมายเข้าไปในเพลงได้อย่างลงตัว ราวกับว่าสมาชิกทั้ง 2 เป็นพ่อมดทางดนตรี จนทำให้เราผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันเวลาได้ฟังเพลงพวกเขา และสิ่งนี้ก็ทำให้เราเองอยากสัมผัสบรรยากาศงานแสดงสดของวงสักครั้ง
หลังจากที่แสดงคอนเสิร์ตในไทยมาแล้ว 2 ครั้งใน 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดผู้จัดอย่าง HAVE YOU HEARD? ก็ได้พา Honne มาไทยอีกครั้งในงาน JAMnight Live! with Honne & Friends ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี และเราเองก็เป็นอีกคนที่ได้เข้าร่วมงานดังกล่าว
ถึงแม้ว่าจะต้องรอสักพักใหญ่หลังเข้าฮอลล์เวลา 2 ทุ่ม แต่ในที่สุด Anna of the North เพื่อนศิลปินชาวนอร์เวย์ของ 2 หนุ่มก็ขึ้นแสดงเปิดงานในเวลา 2 ทุ่มครึ่ง โดยนำเพลง “Money”, “The Dreamer”, “Fire” และอีกหลายผลงานมาถ่ายทอดด้วยเสียงที่หวาน และการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์บนเวที
การแสดงช่วงแรกของ Anna นั้นทำให้เราเกิดความกังวลเกี่ยวกับโชว์ เพราะเสียงของกลองกับเบสนั้นดังและสะท้อนจนกลบเสียงร้องและเครื่องดนตรีอื่นอย่างชัดเจน ซึ่งพี่ในทีม Sanook! Music เองก็เคยบอกเราว่าคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นใน ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี อย่าง The Killers, Incubus และ The xx ก็เคยเจอปัญหาในแง่ของซาวด์ จนเราแอบกังวลว่าปัญหานี้จะลามมาถึงโชว์ของ Honne ด้วย
เมื่อ Anna ได้อำลาเวทีไป ก็ถึงการแสดงของ Honne ที่เกิดขึ้นหลังการเตรียมเครื่องดนตรีชุดใหม่ โดยพวกเขาได้เปิดตัวด้วยเพลง “Me & You” ที่เหมือนการเรียกให้ทุกคนมาสนุก และตามด้วยเพลงที่มีจังหวะอย่าง “Coastal Love” โดยการแสดงทั้งสองเพลงแรกก็เจอปัญหาเรื่องซาวด์กลองเช่นกัน จนทำให้เราตัดสินใจย้ายจากอัฒจันทร์ทางขวา ลงมายืนตรงกลางเวทีตอนที่วงนำเพลงโปรดของเราอย่าง “Good Together” มาเล่น ซึ่งพอเราย้ายที่ก็พบว่าปัญหาเรื่องเสียงกลองกับเบสที่ดังและสะท้อนได้ลดลงไปมาก
สำหรับการแสดงเพลงที่ 4 ทางวงก็ได้เปลี่ยนมาโชว์เพลงที่มีจังหวะช้าลงอย่าง “Location Unknown” และ “I Got You” และต่อด้วยเพลง “306” ที่มีแรงบันดาลใจมาจากการท่องราตรีของ 2 หนุ่ม โดยช่วงกลางของคอนเสิร์ตจะมีทั้งเพลงเศร้าอย่าง “I Just Wanna Go Back”, “Sometimes”, “Shrink” และเพลงสนุกสนานอย่าง “Radar” ก่อนที่ทางวงจะปิดท้ายช่วงนี้ของคอนเสิร์ตด้วยเพลง “Crying Over You” ที่ได้ BEKA นักร้องเสริมคนสนิทของวงมาแจม
BEKA
หลังจากที่ Anna of the North ได้หายไปจากเวทีช่วงแรก เธอก็ได้กลับมาแจมในเพลง “Feel So Good” ที่เธอเป็นศิลปินรับเชิญ และตามด้วยเพลง “All in the Value” กับ “Someone That Love You” ก่อนที่พวกเขาจะลงจากเวทีไปเพื่อเตรียมตัวสำหรับช่วงอังกอร์
การกลับมาในช่วงอังกอร์นั้น ทางวงเองก็ได้นำเพลง “Warm on a Cold Night” ที่เรียกเสียงกรี๊ดตั้งแต่อินโทรเริ่ม และช่วงกลางเพลงทางวงก็พาแขกรับเชิญชาวไทยอย่าง Phum Viphurit (ภูมิ วิภูริศ) มาร่วมแจม โดยการแสดงช่วงนี้ทางวงได้ยืดเพลงให้ยาวขึ้นและให้แฟนๆ มีส่วนร่วมในการร้องเพลง และหลังจากนั้นพวกเขาก็โชว์เพลง “Woman” ก่อนที่ Andy จะพูดกับแฟนๆ ว่า "ขอบคุณที่ให้พวกเราเป็น Day 1" เพื่อนำเข้าสู่เพลงสุดท้ายอย่าง “Day 1” ที่มาพร้อมการพ่นเอฟเฟกต์พลุกระดาษที่ทำให้บรรยากาศในงานเหมือนมีหิมะตกลงมา
Phum Viphurit
สิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากเกี่ยวกับการแสดงครั้งนี้ ก็คือการแสดงของ 2 หนุ่มที่เรียบง่าย แต่ก็สมบูรณ์แบบในแง่ของดนตรีและเสียงร้องของแอนดี้ที่ค่อนข้างดี รวมไปถึงวิชวลไลท์ติ้งที่เป็นฉากซึ่งเสริมอารมณ์เพลง จนทำให้เรารู้สึกเคลิ้มไปกับโชว์ แต่สิ่งที่น่าเสียดายของการแสดงครั้งนี้ก็คือซาวด์เบสและกลองที่ไม่สมบูรณ์ จนทำให้เราต้องย้ายที่นั่ง เพื่อลดผลกระทบจากเสียงที่เป็นปัญหา
ทางด้านของ Setlist ครั้งนี้ทางวงเองก็ได้ขนเพลงฮิตมาแสดงเป็นจำนวนมาก รวมถึงเพลง “Woman” ที่ไม่ได้เล่นในคอนเสิร์ตรอบที่แล้ว โดยถึงแม้ว่างานนี้จะไม่มีเพลงที่หลายคนชอบอย่าง “Didn’t I”, “Treat You Right” หรือ “Baby You’re Bad” และ “3AM” อยู่ในโชว์ แต่เราก็ยังคงมองว่าการเตรียมเพลงมาสำหรับการแสดงครั้งนี้นั้นเหมาะสมแล้ว
อีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบของการแสดงครั้งนี้ ก็คือความบันเทิงจากสมาชิกและการเปิดโอกาสให้คนดูมีส่วนร่วมกับโชว์ โดยขณะที่แสดงแอนดี้ก็ได้ยิงมุกและพูดคุยกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง จนแทบไม่มีช่วงเดดแอร์ขณะพักการแสดง และเพลงที่โชว์ในช่วงอังกอร์เองก็มีการปรับให้เพลงยาวขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ร้องในท่อนที่พวกเขาชอบหลายครั้ง รวมถึงในช่วงท้ายของคอนเสิร์ตก็มีการสอดแทรกเซอร์ไพรส์อย่างแขกรับเชิญกับเอฟเฟกต์พลุ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้แฟนๆ เพลิดเพลินเมื่อรับชมการแสดงของ Honne ในรอบนี้
เมื่อเราได้ก้าวออกจากธันเดอร์โดม หลังคอนเสิร์ต JAMnight Live! with Honne & Friends ความประทับใจที่เรามีต่อ Honne นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน เพราะนอกจากความชอบในงานเพลงแล้ว เรายังได้เห็นความสามารถในการแสดงสดที่มาพร้อมความละมุนละไม และการเอนเตอร์เทนผู้ชมด้วยการพูดคุยและเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมกับการแสดง ซึ่งประสบการณ์จากงานนี้ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมแฟนๆ ชาวไทยถึงให้การตอบรับคอนเสิร์ตของพวกเขาดีทุกครั้ง
ขอบคุณภาพจาก HAVE YOU HEARD?
Story : Sidhipong W.
>> เสียงบรรเลงจากนักฆ่าแห่งวงการดนตรีใน “The Killers Live in Bangkok”
>> The xx กับก้าวใหม่ที่เอนเตอร์เทนคนดูได้อยู่หมัดใน “The xx Live in Bangkok”
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ