“The Internet” กับมนต์สะกดทางเสียงดนตรีที่ทำให้ทุกคนโยกย้ายร่างกายอย่างเป็นสุข
“มันเหมือนเป็นมนต์สะกดบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ที่ทำให้เราติดอยู่ในภวังค์ของเสียงดนตรี และทุกท่วงท่าที่เยื้องย่างบนเวที ... มันคือความรู้สึกพิเศษ”
ใช่ว่าเราจะสรรหาคำอันสวยหรูมาเปิดหัวบทความรีวิวคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของวงดนตรี The Internet แต่เพียงอย่างเดียว แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ความรู้สึกจริง ไม่ใช้สแตนด์อิน ไม่ใช้ตัวช่วย กับ 1 ชั่วโมงเศษของความสุขที่ได้ยินมากับหู ได้เห็นมากับตา ในคอนเสิร์ต HAVE YOU HEARD? : The Internet - Live! by MY BEER เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ณ Voice Space โดยผู้จัดที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีอย่าง HAVE YOU HEARD?
HAVE YOU HEARD? : The Internet - Live! by MY BEER
ใครที่เป็นคอดนตรีตัวจริงเสียงจริงคงจะทราบดีว่า The Internet นั้นเป็นวงดนตรีที่น่าสนใจมากขนาดไหน พวกเขาได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์กรุ๊ปที่ขับกล่อมท่วงทำนองอาร์แอนด์บีร่วมสมัย ผสมกลิ่นอายนีโอโซลเล็กๆ เป็นเอกลักษณ์ บวกกับเสน่ห์บนเวทีของฟรอนต์แมนสาวสุดเท่ Syd tha Kyd หรือ Sydney Loren Bennett ซึ่งหาใครจะมาเลียนแบบได้ยากแสนยาก และสมาชิกฝีมือขั้นเทพอีก 4 คนที่ทำให้การแสดงสดของ The Internet แข็งแกร่งและน่าดูสุดๆ
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่อะไร เพราะมันคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่พลาดคอนเสิร์ตครั้งนี้...
แต่ก่อนจะไปพบกับ The Internet ทีมงาน Sanook! Music ก็เซอร์ไพรส์ตั้งแต่วงเปิดสัญชาติไทยอย่าง Game of Sounds บอกตามตรงว่าผู้เขียนแทบไม่เคยได้ยินชื่อและติดตามผลงานของพวกเขามาก่อนแม้แต่น้อย แต่พอเสร็จสิ้นโชว์ของพวกเขา เราก็ขอสถาปนาเป็นแฟนเพลงของวงดนตรีวงนี้ในทันที
Game of Sounds
Game of Sounds คือโปรเจกต์ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจของ เต๊นท์-ศิวนัส บุญศรีพรชัย นักร้องนำและมือกีตาร์ของวง Summer Dress ทั้งยังรวบรวมเพื่อนผองคนใกล้ตัวมาสร้างสรรค์ดนตรีแนวทดลองที่ผสมผสานทั้งอิเล็กทรอนิกส์, อาร์แอนด์บี, โซล, ฮิปฮอป และอื่นๆ ได้อย่างสนุกสนาน ราวกับว่าเป็นเกมแห่งสุ้มเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอดเวลาดั่งชื่อวง
พวกเขาจัดเต็มเพลงจากอัลบั้ม Sloppy มาโชว์อย่างต่อเนื่อง อาทิ “History”, “Durian”, “Secret from You”, “What to Feel”, “Need Lyric”, “Mr.Hot” รวมไปถึง “Give Me Your Arm” นอกจากน้ำเสียงของนักร้องนำสาว ธิดารัตน์ สิงห์สุวรรณ จะดึงดูดมากๆ แล้ว ซาวด์สังเคราะห์หวุบๆ หวับๆ วนเวียนๆ จากคีย์บอร์ดยังเนรมิตทุกสุ้มเสียงได้ตามใจชอบอีกต่างหาก ถือว่าเป็นวงดนตรีที่น่าจับตามองไม่น้อยในแนวทางที่ต่างออกไปจากวงอื่นๆ ในแวดวงอินดี้บ้านเรา
นักร้องนำวง Game of Sounds
วอร์มร่างกันไปพอสมควร ก็ถึงโมงยามของ The Internet แล้ว เสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์เมื่อ Syd และผองเพื่อนก้าวขึ้นสู่เวที ค่อยๆ บรรเลงท่วงทำนองอาร์แอนด์บีร่วมสมัยไปทีละเพลง... ทีละเพลง เพียงแค่ 2 เพลงแรกอย่าง “Come Together” และ “Roll (Burbank Funk)” ก็สามารถยืนยันตัวตนอันแสนจะพิเศษของพวกเขาทั้ง 5 คนบนเวทีได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะทุกการย่างกรายบนเวทีของ Syd ทำให้เราไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย จนมาถึงบัดนี้ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน แค่รู้ว่าเสน่ห์แพรวพราวและล้นเหลือสุดๆ
Syd tha Kyd
The Internet ยังคงขนเพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง Hive Mind มาเล่นแบบครบครัน สลับสับเปลี่ยนกับอัลบั้มก่อนหน้านี้อย่าง Ego Death แถมด้วยเพลงจากอัลบั้ม Feel Good เมื่อปี 2013 ที่ทำเอาหลายคนเซอร์ไพรส์และหายคิดถึง ยิ่งในพาร์ตหลังซึ่งต่อเนื่องเพลงฮิตแบบรัวๆ อย่าง “Stay the Night”, “Special Affair”, “Just Sayin”, “It Gets Better (With Time)”, “Wanna Be” และเมื่ออินโทรเพลง “Girl” ขึ้นก็ยิ่งทำเอาผู้ชมในฮอลล์ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีปรีดาขั้นสุด ร้องตามกันสนั่น และพวกเขาก็ปิดโชว์ด้วย “Curse” และ “Get Away” ที่แม้จะจบแล้ว แต่... เรายังอยากโยกต่ออยู่เลย
มาถึงจุดนี้คงไม่มีใครปฏิเสธความสามารถทางดนตรีของ The Internet ได้ลงคอ นอกจากนักร้องนำที่น่าจดจำมากๆ อย่าง Syd แล้ว อีกหนึ่งพระเอกของงานนี้ต้องยกให้มือเบสอย่าง Patrick Paige II ที่เดินไลน์เบสธรรมดาไม่เป็น จัดลูกเล่นทางด้านตัวโน้ตสุดเพอร์เฟกต์ให้ทุกคนชมเป็นบุญตา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขับเคลื่อนเพลงของวงดนตรีวงนี้ก็ว่าได้ ทึ่งกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว ในขณะที่ Steve Lacy มือกีตาร์ที่หลายคนจับตามองอาจไม่โดดเด่นเท่า แต่เขาก็สามารถสอดแทรกลูกกีตาร์แจ๋วๆ ลงไปในท่อนที่พอเหมาะพอเจาะ ยิ่งเมื่อผสมกับซาวด์คีย์บอร์ดที่คุมทุกอย่างได้อยู่หมัด แถมยังมีกลองชุดที่สาดใส่แบบไม่กลัวหลุด ก็ยิ่งทำให้พาร์ตดนตรีของ The Internet แน่นปึ้ก สมคำร่ำลือของแท้
แต่หากจะให้เอ่ยว่าโชว์ดังกล่าวสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็อาจพูดได้ไม่เต็มปากนัก การดีไซน์ซาวด์สำหรับการแสดงสดของ The Internet อาจมีความเฉพาะตัวที่ไม่ค่อยถูกจริตกับผู้เขียนในบางครั้งคราว การเซตกลองที่ค่อนข้างเน้นย่านเสียงสูงอาจทำให้กรู๊ฟของเพลงอาจไม่หนักแน่นไว้ดังที่คาดหวังไว้แต่แรก รวมถึงไมค์กลองที่(เราเข้าใจว่า)วางไว้ในตำแหน่งที่ทำให้ได้ยินเสียงผู้ชมที่ตะโกนประโยคต่างๆ นานาขึ้นไปบนเวทีได้ชัดเจนเสียเหลือเกิน (จนบางครั้งมันชัดเจนมากจนเกินไปในความเห็น) รวมถึงซาวด์จาก MD ทั้งในส่วนของเสียงสังเคราะห์หรือแม้แต่คอรัสที่ในบางเพลงค่อนข้างดังจนกลบเสียงร้อง และมีบางเพลงที่มีการขัดข้องทางเทคนิคอีกต่างหาก แต่หากมองในอีกแง่มุม การออกแบบสุ้มเสียงในลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้ก็ทำให้ The Internet มีโชว์ที่แตกต่างไปจากวงดนตรีในแนวทางเดียวกันอย่างชัดเจน ซึ่งเอาเข้าจริงเราก็มองว่านั่นคือข้อดีนะ
The Internet
และอย่างน้อย คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่า The Internet น่าจะมีงานเพลงและการแสดงสดที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เราเชื่อเช่นนั้น
Story by: Chanon B.
Photos by: HAVE YOU HEARD?
อัลบั้มภาพ 35 ภาพ