"แจจุง" ดีต่อใจ จัดหนักหรรษาปาร์ตี้ ควบมินิคอนเสิร์ต 3 ชั่วโมงเต็มอิ่ม

นิยามของ “ศิลปินระดับตำนานซึ่งยังคงประสบความสำเร็จอยู่จนถึงทุกวันนี้” คืออะไร? ความสามารถและชั่วโมงบินระดับเทพเป็นแบบไหน?? ที่มาของ “ความแจจุง” ประกอบด้วยอะไร? ทุกคำตอบล้วนหลอมรวมอยู่ในงาน 2019 KIM JAE JOONG J-PARTY & MINI CONCERT IN BANGKOK การกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งของศิลปินเกาหลีตัวพ่ออย่าง “คิมแจจุง” (KIM JAE JOONG) หนึ่งในสมาชิกวง เจวายเจ (JYJ) ผลงานลำดับที่ 4 แห่งปี 2019 จากผู้จัดท็อปฟอร์มบ้านเรา โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (Four One One Entertainment) ของบิ๊กบอส กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ซึ่งโคจรมาร่วมงานอีกครั้งกับ ซีเจส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (C-Jes Entertainment) เนรมิตธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ให้กลายเป็นงานปาร์ตี้วันเกิดสุดอบอุ่นและหรรษาฮาเฮขั้นสุดเพื่อแฟนๆ ชาวไทย ทำเอากองทัพ แจแฟนชาวไทย (ชื่อแฟนคลับแจจุง) ตกหลุมรักได้อีกกับผู้ชายชื่อ “คิมแจจุง” ผู้มาพร้อม “ความแจจุง” ซึ่งน่ารักยียวนกวนหัวใจตั้งแต่ต้นจนจบงาน ตลอด 3 ชั่วโมงเต็มอิ่มเลยทีเดียว 

 

 

งานนี้ได้พิธีกรอารมณ์ดี ยูคอนยอง เป็นผู้เปิดฉากเริ่มงานปาร์ตี้ ชวนทุกคนให้ร่วมสร้างซีนเปิดตัวพระเอกของงานแบบไม่ซ้ำประเทศไหนๆ ด้วยการส่งเสียงเรียก แจจุง ตามสำนวนภาษาเกาหลีน่ารักน่าเอ็นดูว่า “แจจุงอา นลจา” (재중아 놀자) แปลว่า “แจจุงอา มาเล่นกันเถอะ” ก่อนที่ศิลปินหนุ่มจะเดินยิ้มออร่าสว่างไสวขึ้นมาบนเวทีท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับสนั่นฮอลล์ ยิ่งทำให้เจ้าตัวยิ้มกว้างด้วยความปลื้มปริ่มมากขึ้นไปอีก ทักทายประโยคแรกด้วยภาษาไทยแบบชัดถ้อยชัดคำ “ทุกคนสวัสดีครับ ผมคิมแจจุง ยินดีที่ได้เจอทุกคนนะครับ” เมื่อแขกเหรื่อในงานพร้อม เจ้าของงานก็ยืนหล่ออยู่บนเวทีแล้ว พิธีกรไม่รอช้าตัดริบบิ้นเปิดงาน J-PARTY ฉลองวันเกิดย้อนหลังอย่างเป็นทางการโดยเชิญทีมงานนำเค้กแจจุงขี่ช้างสุดคิวท์ที่เหล่าแฟนคลับร่วมกันจัดทำขึ้นมาส่งมอบ ประกอบด้วยเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์เวอร์ชั่นภาษาเกาหลีที่แฟนๆ ตั้งใจร่วมร้องอวยพร แถมเซอร์ไพรส์ด้วยการชูป้ายโปรเจ็กต์ข้อความว่า “อยู่ด้วยกันไปจนแก่นะ” ทำเอาเจ้าตัวหัวเราะชอบใจใหญ่ และด้วยความแจจุงที่ชอบให้ชมว่าหน้าเด็ก จึงถามกลับทันทีไม่มีรีรอว่า “แก่ในที่นี้คืออายุเท่าไหร่” เมื่อได้คำตอบเป็นที่พอใจว่าจะอยู่ด้วยกันยาวๆ ไปจนถึง 80 ปี เจ้าตัวถึงได้ยอมเป่าเทียนวันเกิด พร้อมกับขอบคุณและบอกว่ารู้สึกดีที่แฟนๆ อวยพรวันเกิดให้แม้จะล่วงเลยมาหลายวันแล้วก็ตาม ว่าแล้วก็ชวนกันบันทึกภาพวันเวลาดีๆ โอกาสพิเศษแบบนี้ไว้เป็นที่ระลึกด้วย 

เข้าสู่การสัมภาษณ์พูดคุยแบบสบายๆ เพื่อให้รู้จักผู้ชายชื่อ คิมแจจุง มากขึ้นไปอีกกับช่วง “เขียนประวัติตัวเองใหม่” โดยพิธีกรร่ายยาวประวัติแจจุง ตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด จนถึงอาชีพ แล้วถามว่า ณ ปี 2019 มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเขายังเป็นคิมแจจุงคนเดิมที่ชอบการเป็นนักร้องมากที่สุด ต่อด้วยเกมเช็กรสนิยมว่าแฟนคลับจะรู้จักความเป็นแจจุงมากน้อยแค่ไหน (เกมนี้ให้ทุกคนลุกขึ้นยืนร่วมสนุก โดยใครตอบผิดต้องนั่งลงแทนการตกรอบ) เจอข้อแรก “เสน่ห์ที่ยากจะต้านทานของแจจุงคืออะไร” ก็เล่นเอาแจจุงเขินเลยเพราะคำตอบคือความเซ็กซี่ ใครที่เลือกตอบความแข็งแกร่งจึงต้องตกรอบไป ไฮไลต์อีกข้อ “ในปี 2019 อยากได้ยินคำชมอะไร” เจ้าตัวเฉลยอยากได้คำชมว่ายังเด็กอยู่เลย มากกว่าชมว่าหล่อ ซึ่งถ้าใครชมว่าหน้าเด็กเขาจะมีความสุขมาก ในที่สุดก็ได้แฟนพันธุ์แท้แจจุง 5 คนสุดท้ายขึ้นเวทีไปใบ้คำให้แจจุงตอบ ซึ่งคนที่ใบ้แล้วแจจุงตอบถูกมากที่สุดก็คว้ารางวัลพิเศษได้ถ่ายภาพเซลฟีแบบแนบชิด แถมคำว่า “รักนะ” ภาษาไทยให้อีก ทำเอาแฟนคลับด้านล่างกรี๊ดด้วยความอิจฉาไปตามๆ กัน 

 

 

สนุกสนานไปกับการตามหาแฟนพันธุ์แท้แจจุงแล้ว คราวนี้หนุ่มหล่อมุกแน่นขอวางไมค์มาจับมีดทำหน้าที่ เชฟคิม ในช่วง “Made By JJ” เตรียมเสิร์ฟอาหารว่างให้แฟนคลับผู้โชคดี 3 คน โดยได้นำเอาผลไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้วย มะม่วง สตรอว์เบอร์รี ฯลฯ มาหั่นอย่างคล่องแคล่ว แล้วประกอบร่างเป็นแซนด์วิชผลไม้สูตรพิเศษ ซึ่งเชฟการันตีว่าอร่อยจนแม่ช้อยอยากมารำหน้าฮอลล์ แถมไม่หวั่นแม้พิธีกรจะแซวว่ากินได้ใช่มั้ย? ซีนเด็ดมาเต็มเช่นตอนพิธีกรถามว่าไม่เห็นมีผลไม้เสียบไม้ใส่ลงไปด้วยเลย เชฟคิมบอกว่าจัดให้ครับ เมนูนี้ทำไม่ยาก ว่าแล้วก็หยิบแท่งไม้ที่ยาวไม่เกิน 1 คืบไปเสียบแตงโมผ่าซีกขนาดครึ่งลูก! เล่นเอาทั้งฮอลล์ตะลึงขำกลิ้ง!! ตามด้วยเสียบมะม่วงไปอีกหนึ่งลูกใหญ่ ก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจที่สามารถแกล้งพิธีกรคืนได้ อีกโมเมนต์ที่ทำเอาแฟนคลับฮากระจัดกระจายก็ตอนที่ทยอยเอาแซนด์วิชจัดใส่ลงกล่อง แล้วตกแต่งด้วยผลไม้ในช่องที่ยังว่าง ชิ้นไหนที่ใส่ลงกล่องไม่ได้ เชฟคิมก็จัดการทั้งเฉือน ตัด และกัด! จนสามารถปิดกล่องลงตัว ส่งมอบให้ผู้โชคดีทั้งสาม แถมด้วยลายเซ็นบนฝากล่อง จัดไปครบเลย แตงโม, มะม่วง, สับปะรดเสียบไม้ดังกล่าว อีกหนึ่งความแจจุงที่พีกได้โล่จริงๆ 

ความสนุกถัดมา แจจุง จะต้องทำภารกิจตรวจวัดสมรรถภาพว่าแข็งแรงแค่ไหน ซึ่งถ้าทำมิชชั่นผ่าน 2 ใน 3 จึงจะมีสิทธิ์มอบของรางวัลพิเศษให้แฟนคลับ เริ่มจากมิชชั่นแรกทดสอบความจำด้วยการนับธนบัตรและร้องเพลงเบบี้ชาร์คไปพร้อมๆ กัน จากนั้นต้องตอบให้ถูกว่านับไปกี่ใบ ต่อด้วยมิชชั่นเชคกิ้งติดเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแล้วเขย่าตัวตามเพลงให้ได้ตามเป้าที่กำหนดภายในหนึ่งนาที ปิดท้ายด้วยการปั่นจิ้งหรีดแล้วปาลูกโป่ง งานนี้แจจุงออกตัวว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่แต่จะพยายามทำให้สำเร็จ ซึ่งผลปรากฏว่าเขาชนะภารกิจไปแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น เจ้าตัวเลยลงทุนทำท่าแบ๊วอ้อนพิธีกรและแฟนคลับจนใจอ่อนยอมให้ผ่านไปอีกมิชชั่นในที่สุด โดยของรางวัลที่แจจุงเตรียมมามอบในเกมนี้คือหมวกลิมิเต็ดอิดิชั่นซึ่งเขาออกแบบเอง พร้อมแจกลายเซ็นแถมสดๆ บนเวที จบเกมเจ้าตัวบอกว่าขอลงไปเปลี่ยนชุดสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาพร้อมกับเพลงมันๆ ในช่วงมินิคอนเสิร์ต 

ระหว่างรอ แจจุง ก็ไม่ปล่อยให้ทุกคนเหงา เพราะมีวีทีอาร์สุดพิเศษเฉพาะงาน J-PARTY ที่ประเทศไทย เป็นคลิปซึ่งเจ้าตัวถ่ายเองตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ขณะอยู่บนเครื่องบิน โมเมนต์แลนด์ดิ้ง ณ ไทยแลนด์ ช่วงเดินทางไปยังโรงแรมและในห้องพักส่วนตัว จบภาพบนจอเขากลับขึ้นเวทีอีกครั้งเพื่อมอบความมันตามสัญญาในเพลง 9+1# ตามด้วย Rotten Love ได้อารมณ์ร็อกเหมาะเจาะกับแสงสีเสียงจัดเต็มที่ส่งให้บรรยากาศในฮอลล์ร้อนแรงสุดขีด จบเพลงแจจุงบอกว่า ได้เห็นแฟนๆ มาเจอและอวยพรวันเกิดในวันนี้ก็ทำให้ตัวเขามีความสุขมาก 

 

 

จากนั้นชวนทุกคนให้ลุกขึ้นโยกกันต่อในเพลง "Kiss B" ร็อกเวอร์ชั่น ต่อด้วย "Welcome to My Wild World" แล้วจึงพักเบรกเช็กฟีดแบคแฟนๆ นิดนึงว่าสนุกหรือเปล่า แจจุงแอบเม้าท์ตัวเองด้วยว่าตอนนี้ร้องเพลงลำบากนิดนึงเพราะเมล็ดของแอปเปิลที่กัดไปตอนทำของว่างติดฟัน! ก่อนจะบอกว่าเหลืออีกไม่กี่เพลงแล้วอยากให้สนุกกันให้เต็มที่ นอกจากนี้มีการแอบกระซิบด้วยว่าถ้าจบเพลงไหนแล้วหายไปหลังเวทีให้เรียกอังกอร์กลับขึ้นมาดังๆ นะ!! ว่าแล้วก็ไปต่อกันด้วยอีกสองเพลงฮิตทั้ง "Just Another Girl" และ "Mine" ที่แฟนๆ ร้องและเต้นตามกันได้ทั้งฮอลล์ จบเพลง แจจุง โบกมือลากลับเข้าหลังเวทีไป แจแฟนจึงพร้อมใจตะโกนเรียกแจจุงให้กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งตามที่เตี๊ยมกันไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็กลับออกมาตามเสียงเรียกร้องในเพลงร็อกสุดมัน "Good Morning Night" โดยแฟนๆ จัดอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ให้ด้วยการเปิดแฟลชโทรศัพท์ เกิดเป็นภาพที่งดงามจนศิลปินบนเวทีประทับใจและเอ่ยปากชม ในเพลงนี้เองมีไฮไลต์ที่แจจุงร้องแบทเทิลกับแฟนๆ สารพัดเวอร์ชั่น ทั้งเปลี่ยนเนื้อร้องให้ช่วยตะโกนเรียกเจ หรือกระทั่งเวอร์ชั่นลงไปนอนร้องกับพื้น บอกเลยว่าถ้าไม่รักและคุ้นเคยกันจริงๆ ไม่มีให้เห็นแบบนี้ และด้วยความแจจุงอีกเช่นกัน เพลงนี้จึงแบทเทิลเลยเถิดไปยาวนานถึง 9 รอบ สุดมากอะไรมาก! 

ปิดท้าย 2019 KIM JAE JOONG J-PARTY & MINI CONCERT IN BANGKOK ด้วย "I'll Protect You" เพลงความหมายดีๆ ที่ แจจุง บอกว่าจะร้องในตอนท้ายคอนเสิร์ตทุกครั้ง เพราะสื่อความหมายและความผูกพันที่มีต่อแฟนๆ ได้ดีที่สุด พร้อมกับย้ำว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตัวเขาเองก็รู้ว่าทุกคนคอยให้กำลังใจอยู่เสมอจากที่ๆ ห่างไกลต้องนั่งเครื่องบินมา 6 ชั่วโมง ขณะที่แจแฟนชาวไทยเองก็ส่งพลังรักและผูกพันกลับไปด้วยการชูป้ายโปรเจ็กต์ข้อความว่า “ฉันจะยังคงตกหลุมรักคุณทุกวัน” พร้อมกับร้องเพลงนี้คลอตามได้อย่างเป๊ะทุกท่อนตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อยืนยันว่าแฟนๆ จะปกป้อง คิมแจจุง เช่นกัน นาทีนี้แจจุงพูดเลยว่า ทั้งที่มันเป็นเรื่องยาก แต่ทุกคนกลับร้องเพลงนี้ได้เพื่อเขา เขารู้สึกปลื้มใจสุดๆ เลย ก่อนจะโบกมือลากันไปแจจุงยังส่งมินิฮาร์ทแบบ 180 องศาให้แฟนๆ ทุกโซนทั่วถึงทั้งฮอลล์ พร้อมกับสัญญาสั้นๆ แต่ทำเอาแฟนคลับตื้นตันน้ำตาคลอว่า “แล้วเจอกันใหม่ครับ”

 

 

ทั้งหมดนี้คือ “ความแจจุง” ที่ฟินจริงจังและดีต่อใจแฟนๆ ชาวไทย งานเดียวได้เห็นหนุ่มหล่อคนนี้ทุกมุมทุกมิติ แจจุงร้องเพลงเพราะ แจจุงเพอร์ฟอร์แมนซ์ดี แจจุงเอ็นเตอร์เทนเก่ง แจจุงรักแฟนคลับ และแจจุงเป็นคนตลกมาก! สนุกสุดหรรษาและมันเต็มอารมณ์ตลอด 3 ชั่วโมงจริงๆ