“ยุนจีซอง” หนุ่มไอดอลสายวาไรตี้ ขนความฮามาสร้างรอยยิ้มในแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกในไทย

อย่างที่ได้บอกไว้ว่าเดือนมีนาคม 2019 นี้ จะเป็นการเรียงคิวเยือนเมืองไทยของสมาชิกวง Wanna One (วอนนาวัน) ที่แม้ว่าจะจบกิจกรรมไปตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ประเทศไทยของเรานี้ก็หัวกระไดไม่แห้งเลยเจ้าค่า ตั้งแต่หนุ่มวิงค์บอย พัคจีฮุน , หนุ่มหล่อสามีแห่งชาติ องซองอู ล่าสุดพี่ใหญ่แห่งวอนนาวัน ยุนจีซอง ลีดเดอร์คนเก่ง ก็มาเยือนเมืองไทยในงานแฟนมีตติ้งแรก 2019 YOON JISUNG 1st FAN MEETING : Aside IN BANGKOK เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5 ที่ทางผู้จัด 411 บิ๊กบอส กึ้ง-เฉลิมชัย พามาเจอกับแฟนๆ ชาวไทย และเป็นแฟนมีตติ้งส่งท้ายก่อนที่ยุนจีซองจะต้องเข้ากรมรับใช้ชาติกลางปีนี้

ตอนทำกิจกรรมวง ยุนจีซอง เป็นลีดเดอร์ที่ทำงานหนักมาตลอด ตั้งแต่อยู่ในวงวอนนาวัน วงไอดอลชายที่ถือว่ามีตารางงานแน่นขนัดเสมอ การได้เห็นภาพยุนจีซองที่ดูและสมาชิกทุกคนอย่างดี แม้จะเหน็ดเหนื่อยก็ยังคงมีรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้าเสมอจนกลายเป็นภาพชินตา ผู้ชายยิ้มเก่งที่พร้อมยิ้มรับให้กับทุกสิ่งที่เข้ามา และยังเป็นยิ้มเพิ่มวิตามินสำหรับแฟนๆ ด้วยเช่นกัน สิ่งนี้เด่นชัดสุดๆ เมื่อได้เห็นเขาปรากฏตัวบนจอ VTR แนะนำกติกาการรับชมมีตติ้งก่อนเริ่มงาน ที่เรียกเสียงกรี๊ดทุกฉากเพราะเจ้าตัวเอาความสดใสของตัวเองมาเป็นตัวละครแสดงบทบาทต่างๆ ให้แฟนๆ ได้มีอารมณ์ร่วมและสนใจกติกาอย่างมีอรรถรส สมกับเป็นเด็กการแสดงที่ดึงอารมณ์คนดูให้คล้อยตามได้ตลอด ไม่ว่าประโยคใน VTR จะพูดว่าอะไร ก็ได้เสียงตอบรับจากคนดูในฮอลล์เฮตามกันไปทุกประโยค ปลุกเร้าอารมณ์เป็นการอุ่นเครื่องคนดูก่อนที่จะเจอกัน ยุนจีซอง บนเวที ยังคิดอยู่เลยว่ายังไม่เริ่มงานก็ชักเจ็บคอแล้วสิ

 

 

“Who Are You?” เพลงเปิดตัว ยุนจีซอง บนเวทีพร้อมเหล่าแดนเซอร์ชายงานดีทั้งหลายที่เกือบดึงสายตาเราไป(ฮ่าๆ) แต่เสียงหวานกับเพลงบัลลาดเพราะๆ ของพี่จีซองก็ดึงสติเรากลับมาให้จดจ่อกับน้ำเสียงของเขา เปลี่ยนบรรยากาศในฮอลล์เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนที่จะมายืนส่งยิ้มทักทายกันอย่างน่ารักพอหอมปากหอมคอ ก่อนที่จะเข้าช่วงแฟนมีตติ้งอย่างเต็มรูปแบบ

จากที่เคยไปงานมีตติ้งทั้งหลายมา ปกติบนเวทีนอกจากตัวของศิลปินแล้ว จะมีล่ามแปลภาษาขนาบข้างศิลปินคอยแปลข้อความพูดคุยร่วมกับพิธีกรและคนดู ถึงแม้มีการหลบมุม ซ้อนหลังแล้วก็ตาม คนดูก็ยังมองเห็นล่ามเกาะติดศิลปินบนเวทีอยู่ดี แต่ในงานมีตติ้งยุนจีซองใช้วิธีการที่ไม่ต้องมีล่ามบนเวที แต่ใช้เสียงแปลตรงถึงศิลปินในหูฟัง และแปลออกฮอลล์ใหญ่ถึงคนดู มาแค่เสียงไม่เห็นตัว ซึ่งบนเวทีเราจะได้เห็นแค่ยุนจีซองและดีเจ ดาด้า ที่มาเป็นพิธีกรในงานนี้ พูดคุยกันเท่านั้น ถือเป็นการลดจุดโฟกัสสายตาและลดเวลาการแปลภาษาไปในตัว เหมือนเราได้เห็นพิธีกรถามคำถามภาษาไทยไป ศิลปินก็ตอบกลับมา พร้อมเสียงแปลไทยต่อเนื่องทันที ลดขั้นตอนการรับส่งสารไปในตัว จุดนี้เลิฟมากๆ เป็นเรื่องที่ดีมากจุดหนึ่งในงานมีตติ้งนี้ แต่เชื่อว่าคุณล่าม (ดีเจยู) คงเหนื่อยไม่เบา ที่จะต้องสลับไมค์แปลทั้งศิลปินและคนดู ซึ่งสุดท้ายทำออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ลดเดดแอร์บนเวทีได้ค่อนข้างมาก

 

 

เกมมิชชั่นตอบคำถามล้วงลึกถึงตัวตนศิลปินเป็นสิ่งคู่กันบนเวทีแฟนมีตติ้ง มิชชั่นที่ให้จีซองตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเอง 38 ข้อ ภายใน 3 นาที ก็ทำให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของ ยุนจีซอง เมมไว้ในฐานข้อมูลอีกเพียบ ทั้งเรื่องที่เขาชอบไปกินผัดไทยแถวอิแทวอน(เกาหลี)มากๆ หรือน้ำแตงโมปั่นสุดโปรดที่เคยมาทานแล้วลืมไม่ลงก็ด้วย ประเทศไทยที่เขานึกถึงนอกจากเรื่องอาหารแล้วก็ทำให้นึกถึงสมาชิกวง Wanna One ที่เคยมาเที่ยวที่ประเทศไทยด้วยกันเมื่อครั้งก่อน ก็เรียกว่าประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ของยุนจีซองไม่น้อย

เจ้าพ่อรีแอ็คชั่นก็เป็นอีกหนึ่งภาพจำของยุนจีซองที่ไม่ว่าจะหยิบจับ หรือทำอะไรก็รีแอ็คชั่นแรงจนคนที่เห็นต้องยิ้มตามเสมอ อย่างการลงมือเข้าครัวทำอาหารโชว์แฟนๆ บนเวที ก็ทำเอาฮาท้องแข็งไปหลายยก ทั้งการปาดวัตถุดิบทุกอย่างลงไปแบบหนักมือจนแฟนๆ ทั้งฮอลล์ร้องห้ามแทบไม่ทัน ก็ไม่อาจยั้งมือเทพด้านการทำอาหารของยุนจีซองได้ สุดท้ายจึงได้เมนูข้าวเหนียวมะม่วง (ที่มองผ่านๆ นึกว่าข้าวมันไก่ประตูน้ำ), แซนวิชช็อคโกแลต (เพิ่มค่าเบาหวาน) และน้ำแตงโมปั่น(เนื้อล้วนหนึ่งลูกถ้วน) ที่เผลอเทน้ำผึ้งหนักไปหน่อยจนแทบไม่เจอรสแตงโม กว่าจะผ่านการทำอาหารแบบพังครัว เน้นสวยไม่เน้นกินได้ตามสไตล์ยุนจีซอง ก็ทำเอาขำจนเหนื่อยไปเลย ช่างเป็นหนุ่มอารมณ์ดีที่สกิลทางวาไรตี้เป็นเลิศจริงๆ

 

 

แฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยนี้ถือเป็นประเทศสุดท้ายในการทัวร์ของเขา ก่อนที่จะต้องไปทำกิจกรรมตามตารางงานต่างๆ ก่อนเข้ากรมรับใช้ชาติ การส่งข้อความดีๆ ให้กันก็เป็นสิ่งที่ยุนจีซองไม่ลืมฝากไว้ให้กับแฟนชาวไทย “ผมอยากจะบอกว่าขอบคุณจริงๆ ที่มาหาผมในวันนี้ ผมมีวันนี้ได้เพราะทุกคน ขอบคุณที่มอบความรักมากมายให้ผมเสมอมาเพราะทุกคนผมถึงมีความสุข อยากให้รักผมไปอีกนานๆ ผมสัญญาจะเป็นยุนจีซองที่พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นไปอีกครับ ขอบคุณที่มาใช้เวลาร่วมกันกับผม ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ ขอให้ผับอัล (ชื่อแฟนคลับ) ทุกคนมีความสุขมากๆ นะครับ” ความในใจจากศิลปินส่งถึงแฟนคลับก็ว่าซึ้งแล้ว แต่เมื่อแฟนคลับเซอร์ไพรส์กลับด้วย VTR ข้อความสุดอบอุ่นให้ยุนจีซองบ้าง ประโยคดีๆอย่าง "สิ่งที่ชอบที่สุดคือรอยยิ้มของเขา แต่ถ้าวันไหนเหนื่อย และยิ้มไม่ไหวก็ไม่เป็นไรเลยนะ จะร้องไห้บ้างก็ได้นะ" มันช่างอบอุ่นจนกระชากน้ำตาคนดูไปได้ทั้งฮอลล์ เพราะเราได้ยินเสียงคนสูดน้ำมูกระงมไปหมด บรรยากาศแบบนี้ เป็นหนึ่งในโมเมนท์แฟนมีตติ้งที่หากคนที่ไม่อินกับศิลปินนั้นๆ อาจไม่เข้าใจถึงความรู้สึกที่พวกเขาส่งผ่านถึงกัน แต่เชื่อว่าต้องสัมผัสได้ว่ามันบรรยากาศเหล่านี้จะกลายเป็นความทรงจำดีๆ อยู่ในความรู้สึกแสนบริสุทธิ์ระหว่างศิลปิน และแฟนคลับแน่นอน

การขนเพลงทั้งมินิอัลบั้มของตัวเองมาโชว์เสียงเพราะๆ ให้แฟนๆ ได้ฟังก็เป็นของขวัญพิเศษเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น “WHY NOT ME?”, “COMMA”, “LIKE THE WIND” หรือ “In the Rain” เพลงไตเติ้ลที่แฟนไทยก็ทำเซอร์ไพรส์เปิดไฟแฟลชสีขาวฟ้าเหมือนเม็ดฝนที่ตกทั่วทั้งฮอลล์เข้ากับบทเพลงมากๆ ก็เป็นสิ่งที่ยุนจีซองประทับใจสุดๆ ไปเลย เชื่อว่าการปิดท้ายแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยก็คงเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ให้กับศิลปินและแฟนๆ แน่นอน

 

 

จบงานก็ถือเป็นกำไรของเราที่ได้ไฮทัชยุนจีซองกับเขาด้วย แม้การจัดแถวเรียงคิวเตรียมรอไฮทัชจะตะกุกตะกักไปบ้างเพราะต้องจัดแถวกันทั้งฮอลล์ แต่ก็ถือว่าสุดท้ายแฟนๆ แต่ละคนเคารพกติกาจากทีมงาน เก็บมือถือ สร้อยข้อมือ แหวน หรือสิ่งที่อาจจะทำให้ศิลปินบาดเจ็บลงกระเป๋ากันอย่างพร้อมเพรียง เรียงแถวเดินแตะมือนิ่มๆ มองหน้าใสๆ ของยุนจีซองที่ยิ้มหวานส่งท้ายประตูทางออกก่อนกลับบ้านไปอย่างแฮปปี้ ซึ่งเราก็แฮปปี้ มือนิ่มจังเลย รู้สึกตัวเองมือหยาบทันทีที่สัมผัส (ฮ่าๆ) ถือเป็นงานแฟนมีตติ้งที่เราค่อนข้างสนุก และบันเทิงไปทางสายฮาอีกงานหนึ่งเลยทีเดียว รอพี่จีซองกลับมาทำให้หัวเราะอีกครั้งนะจ๊ะ

ติดตามแฟนมีตติ้งพี่ก้อนเมฆ “ฮาซองอุน” สมาชิกวอนนาวันปิดท้ายเดือนมีนาคม เร็วๆ นี้จ้า

 

 

______________________

Story: Khanittha J.